คือตอนแรกไม่มีอะไรมากหรอกแค่รู้สึกว่าวันๆที่เจอมาเนี่ยมันยิ่งอัดอั้น เลยอยากจะขอพื้นที่มาระบายซักนิดหน่อยอ่ะค่ะ มันต้องเล่าละเอียดไว้ก่อนต้องขออภัยนะคะ อาจจะงงๆนิดหน่อยแต่จะพยายามมาอธิบายทีหลังเพราะความโกรธทำให้เขียนระบายงงๆไปหน่อย
คือเรื่องมันมีอยู่ว่า หนูชื่อ(นามสมมุติ)เอ เป็นลูกชาวนาคนเกษตรมาตั้งแต่เกิด ตอนนี้ อายุ 18 คือแต่ก่อนชีวิตหนูเป็นคนที่น่าจะมีพร้อมทุกอย่างมั้งคะอะไรๆพ่อแม่ประเคนให้หมด พอโตขึ้นมาก็ไม่ติดอะไรหรอกแค่โตมาก็ทำงานสินะใช่มั้ย ซึ่งคนแถวบ้านหนูอ่ะเขานิยมแต่แบบ เรียนจบแค่ม.6ก็ต้องออกมาทำงานมีครอบครัวหาเงินให้พ่อแม่ใช้บ้างบางคนอายุไม่ถึงเกณฑ์ก็ออกไปมีครอบครัวนะ ส่วนหนูอ่ะ เป็นหนึ่งในคนที่จบม.6แล้วต้องทำงานอย่างเขาแต่ว่า จบมาแล้วพ่อแม่กลับไม่ปล่อยให้ไปไหนจนกระทั่งเขาทั้งสองแยกทางกัน ตอนนี้หนูก็อยู่กับแม่สองคนซึ่งอะไรๆก็น่าจะลงที่หนูหมดอ่ะ ทั้งการงานทั้งเรื่องชีวิตคืออะไรก็น่าจะอยู่ในกำมือแม่หมดนั่นแหละ
หนูบอกก่อนเลยว่า ถึงหนูเกิดมาในครอบครัวอาชีพแบบนี้ แต่หนูก็มีความฝันของหนูซึ่งมันไม่น่าจะเป็นสิ่งเดียวที่ครอบครัวรับได้หรอก
เพราะโดนพูดกรอกหูทุกวัน เหตุผลที่ไม่ปล่อยให้ไปไหน กลัวลำบาก กลัวนั่นกลัวนี่ที่ไหนได้อยากให้สืบธุรกิจต่อซะงั้น
ตลอดเวลาที่หนูเรียนจบมาใช้ชีวิตกับแม่คนนี้ หนูต้องบอกง่ายๆเลยว่าใช้ชีวิตแบบฝืนที่สุด คนอื่นเขาที่เคยเรียนด้วยกันก็ไปทำงานกันหมดแล้ว เหลือแค่หนูที่ยังทำอะไรไม่เคยสำเร็จเพราะโดนคนในครอบครัวดูถูกเอาไว้ "ทำไม่เคยได้หรอก อาชีพเต้นกินรำกินจะไปสู้เลี้ยงหมูทำเหล้าขายทำนาปลูกข้าวได้ยังไง??" หนูรู้สึกตัวเองเป็นคนขี้โกหกเพราะโดนกักขังไว้แบบนี้ คิดจะแยกทางไปเริ่มชีวิตใหม่ตั้งนานแล้วแต่ว่าก็ทะเลาะกับแม่อยู่ดี
"อยู่กับแม่สองคน ไม่รักกันแล้วใครจะรัก หัดมีใจทำสิ่งนี้ช่วยแม่หน่อยสิ อยู่ทำอันนี้ด้วยกันเราไม่ตายหรอก" นั่นแหละค่ะ ไม่มีสิทธิ์คิดต่าง ต้องเดินตามรอยเท้าเขาอยู่ตลอดเวลาถ้าแยกขึ้นมาแน่นอนต้องเปรียบเทียบกับหมาบอกว่า เลี้ยงหมามันยังเดินตามเลย แต่ทำไมเลี้ยงมา ถึงต้องเดินแยกทางจากกูไม่เคยเดินตามแม้แต่ก้าวเดียว เหมือนเมื่อเช้านี้คือเหตุการณ์ล่าสุด อยากให้หนูตื่นเช้าแบบเช้ากี่โมงหนูไม่ทราบ แต่พอพลาดก็ทั้งโดนทำร้ายโดนด่า พูดก็ไม่ได้ พูดก็ด่าว่าเถียง.. ถ้าหนูอัดอั้นมันนานกว่านี้เชื่อเลยว่ารอบหน้าต้องไปนั่งคุยกับจิตแพทย์หรือไม่ก็ นั่งคุยในรายการพอดแคสต์ talk ชัวร์
...
คือที่พูดมาสงสัยกันมั้ยว่าคุณแม่ของหนูเป็นคนยังไงละทำไมถึงคาดหวังอะไรขนาดนั้น
คือคุณแม่หนู เป็นคนกำพร้าแม่ตั้งแต่เกิด ดูท่าก็น่าจะขาดความอบอุ่นเพราะพ่อไม่รักมั้ง เป็นคนที่เอะอะอะไรก็จะนำเรื่องไม่ดีของคนอื่นมาพูดนินทา แม้แต่ลูกตัวเองยังไม่เว้น (เหมือนฟีลเอาตัวเองมาประจานอ่ะ) รับความจริงลำบากมากๆไม่เคยได้สักเรื่อง ต้องคอยถามคอยเช็คเราอยู่ตลอดว่าพ่อเราลงโพสต์แชร์อะไรบ้างทั้งที่ตอนนี้ หย่ากันไปเรียบร้อย(ปีนึงได้แล้วแต่ยังไม่เลิกส่องอีก) ปากบอกว่ายืนด้วยลำแข้งตัวเองไม่เคยอดตาย แต่คอยเงินจากชู้ตัวเองที่อยู่ต่างประเทศฉ่ำๆไม่เคยตกขาดเลยสักบาทเดียว เดี๋ยวก็อ้างบุญคุณกับเราว่าทำทุกอย่างกลัวเราอดตาย แต่คือหนูโตแล้วไง 18แล้ว ก็พอจะทำงานเลี้ยงชีพตัวเองได้แล้วแต่แค่เขาไม่ปล่อยไปไหนแค่นั้นเอง
ชอบทำตัวให้ดูดีตลอดเวลา แต่งหน้าทำผมซื้อนั่นนี่มา แล้วก็บอกโพนทะนาคนอื่นว่าเงินไม่มีใช้เงินขาดกระเป๋าอยากได้นั่นนี่มา ต้องขอใครขอคนนั้นแหละ
ต้องขอโทษที่ลากพ่อลากแม่ลากคนอื่นมาเป็นเครื่องระบายในวันนี้แต่มันสมควรมากๆแล้วล่ะค่ะ หวังว่าคอมเม้นแต่ละคอมจะทำให้หนูมีแรงใจกล้าที่จะเป็นตัวเองได้ในสักวันนะคะขอบคุณค่ะ
การที่เกิดเป็นลูกคนเดียวคือต้องเสียความเป็นตัวเองเพื่อแม่แบบนี้หรอ??
คือเรื่องมันมีอยู่ว่า หนูชื่อ(นามสมมุติ)เอ เป็นลูกชาวนาคนเกษตรมาตั้งแต่เกิด ตอนนี้ อายุ 18 คือแต่ก่อนชีวิตหนูเป็นคนที่น่าจะมีพร้อมทุกอย่างมั้งคะอะไรๆพ่อแม่ประเคนให้หมด พอโตขึ้นมาก็ไม่ติดอะไรหรอกแค่โตมาก็ทำงานสินะใช่มั้ย ซึ่งคนแถวบ้านหนูอ่ะเขานิยมแต่แบบ เรียนจบแค่ม.6ก็ต้องออกมาทำงานมีครอบครัวหาเงินให้พ่อแม่ใช้บ้างบางคนอายุไม่ถึงเกณฑ์ก็ออกไปมีครอบครัวนะ ส่วนหนูอ่ะ เป็นหนึ่งในคนที่จบม.6แล้วต้องทำงานอย่างเขาแต่ว่า จบมาแล้วพ่อแม่กลับไม่ปล่อยให้ไปไหนจนกระทั่งเขาทั้งสองแยกทางกัน ตอนนี้หนูก็อยู่กับแม่สองคนซึ่งอะไรๆก็น่าจะลงที่หนูหมดอ่ะ ทั้งการงานทั้งเรื่องชีวิตคืออะไรก็น่าจะอยู่ในกำมือแม่หมดนั่นแหละ
หนูบอกก่อนเลยว่า ถึงหนูเกิดมาในครอบครัวอาชีพแบบนี้ แต่หนูก็มีความฝันของหนูซึ่งมันไม่น่าจะเป็นสิ่งเดียวที่ครอบครัวรับได้หรอก
เพราะโดนพูดกรอกหูทุกวัน เหตุผลที่ไม่ปล่อยให้ไปไหน กลัวลำบาก กลัวนั่นกลัวนี่ที่ไหนได้อยากให้สืบธุรกิจต่อซะงั้น
ตลอดเวลาที่หนูเรียนจบมาใช้ชีวิตกับแม่คนนี้ หนูต้องบอกง่ายๆเลยว่าใช้ชีวิตแบบฝืนที่สุด คนอื่นเขาที่เคยเรียนด้วยกันก็ไปทำงานกันหมดแล้ว เหลือแค่หนูที่ยังทำอะไรไม่เคยสำเร็จเพราะโดนคนในครอบครัวดูถูกเอาไว้ "ทำไม่เคยได้หรอก อาชีพเต้นกินรำกินจะไปสู้เลี้ยงหมูทำเหล้าขายทำนาปลูกข้าวได้ยังไง??" หนูรู้สึกตัวเองเป็นคนขี้โกหกเพราะโดนกักขังไว้แบบนี้ คิดจะแยกทางไปเริ่มชีวิตใหม่ตั้งนานแล้วแต่ว่าก็ทะเลาะกับแม่อยู่ดี
"อยู่กับแม่สองคน ไม่รักกันแล้วใครจะรัก หัดมีใจทำสิ่งนี้ช่วยแม่หน่อยสิ อยู่ทำอันนี้ด้วยกันเราไม่ตายหรอก" นั่นแหละค่ะ ไม่มีสิทธิ์คิดต่าง ต้องเดินตามรอยเท้าเขาอยู่ตลอดเวลาถ้าแยกขึ้นมาแน่นอนต้องเปรียบเทียบกับหมาบอกว่า เลี้ยงหมามันยังเดินตามเลย แต่ทำไมเลี้ยงมา ถึงต้องเดินแยกทางจากกูไม่เคยเดินตามแม้แต่ก้าวเดียว เหมือนเมื่อเช้านี้คือเหตุการณ์ล่าสุด อยากให้หนูตื่นเช้าแบบเช้ากี่โมงหนูไม่ทราบ แต่พอพลาดก็ทั้งโดนทำร้ายโดนด่า พูดก็ไม่ได้ พูดก็ด่าว่าเถียง.. ถ้าหนูอัดอั้นมันนานกว่านี้เชื่อเลยว่ารอบหน้าต้องไปนั่งคุยกับจิตแพทย์หรือไม่ก็ นั่งคุยในรายการพอดแคสต์ talk ชัวร์
...
คือที่พูดมาสงสัยกันมั้ยว่าคุณแม่ของหนูเป็นคนยังไงละทำไมถึงคาดหวังอะไรขนาดนั้น
คือคุณแม่หนู เป็นคนกำพร้าแม่ตั้งแต่เกิด ดูท่าก็น่าจะขาดความอบอุ่นเพราะพ่อไม่รักมั้ง เป็นคนที่เอะอะอะไรก็จะนำเรื่องไม่ดีของคนอื่นมาพูดนินทา แม้แต่ลูกตัวเองยังไม่เว้น (เหมือนฟีลเอาตัวเองมาประจานอ่ะ) รับความจริงลำบากมากๆไม่เคยได้สักเรื่อง ต้องคอยถามคอยเช็คเราอยู่ตลอดว่าพ่อเราลงโพสต์แชร์อะไรบ้างทั้งที่ตอนนี้ หย่ากันไปเรียบร้อย(ปีนึงได้แล้วแต่ยังไม่เลิกส่องอีก) ปากบอกว่ายืนด้วยลำแข้งตัวเองไม่เคยอดตาย แต่คอยเงินจากชู้ตัวเองที่อยู่ต่างประเทศฉ่ำๆไม่เคยตกขาดเลยสักบาทเดียว เดี๋ยวก็อ้างบุญคุณกับเราว่าทำทุกอย่างกลัวเราอดตาย แต่คือหนูโตแล้วไง 18แล้ว ก็พอจะทำงานเลี้ยงชีพตัวเองได้แล้วแต่แค่เขาไม่ปล่อยไปไหนแค่นั้นเอง
ชอบทำตัวให้ดูดีตลอดเวลา แต่งหน้าทำผมซื้อนั่นนี่มา แล้วก็บอกโพนทะนาคนอื่นว่าเงินไม่มีใช้เงินขาดกระเป๋าอยากได้นั่นนี่มา ต้องขอใครขอคนนั้นแหละ
ต้องขอโทษที่ลากพ่อลากแม่ลากคนอื่นมาเป็นเครื่องระบายในวันนี้แต่มันสมควรมากๆแล้วล่ะค่ะ หวังว่าคอมเม้นแต่ละคอมจะทำให้หนูมีแรงใจกล้าที่จะเป็นตัวเองได้ในสักวันนะคะขอบคุณค่ะ