รพ.กรุงเทพ ซอยศูนย์วิจัย ช่วงหลังๆมาบุคลากรไม่พอหรือบริหารจัดการกันยังไง ทำไมรอนานยังกับใช้สิทธิ์30รักษาโรงบาลรัฐ

เกริ่นก่อนเลยผมเกิดก็เกิดที่ รพ กรุงเทพ เจ็บไข้นิดหน่อยก็ รพ.กรุงเทพ เรียกได้ว่าถ้าไม่ฉุกเฉินแบบรอไม่ได้จริงๆผมบึ่งไป รพ กรุงเทพตลอด เงินไม่ใช่ปัญหา คือคุ้นเคยกับ รพ อย่างดี
แต่หลังๆมานี้ผมรู้สึกเหมือนเป็นกบโดนต้ม จากปกติที่จำได้คือชั่วโมงกว่าๆเป็นอย่างมากถ้าไม่ได้ไปทำprocedureอะไรมากมายแค่เจอหมอdiagnos กาลเวลาผ่านไปแต่ละปีมันก็เริ่มลากยาวขึ้นๆ รอเจอหมอ รอรับใบไปเค้าเตอร์ยา เค้าเรียกจ่ายตังก่อน จ่ายเสร็จรอเรียกรับยา ทุกขั้นตอนรออออออ รอนานขึ้น ไปเวลาที่แทบจะไม่มีคนก็ยังนาน

-เหตุการณ์ที่ทำให้ผมรู้สึกแย่แบบรับไม่ได้กับ รพ.กรุงเทพครั้งแรกเลย คือเมื่อกลางปีผมตื่นมาใจเต้นเร็วผิดปกติมากๆ ความดันสูง 220 กว่าๆ แถมเจ็บแปล้บบริเวณหัวใจ เห้ยเรื่องใหญ่นะเนี่ยต้องรพ กรุงเทพเท่านั้น
รีบไป รพ ไปถึงเขาให้นอนรอห้องฉุกเฉินมานอนตอนแรกคือมีคนดูเฉยๆกับtriageเบื้องต้นมีหมอฉุกเฉินมาก็วินิฉฉัยอะไรไมไ่ด้ครับเพราะมันต้องหมอเฉพาะทาง เอ้ารอหมอ......เพราะหมอเฉพาะทางเขาตรวจคนไข้อยู่ ในห้องฉุกเฉินมีผมคนเดียวครับ ที่ว่าตามปกติเขาให้ผู้ฉุกเฉินก่อนถึงแม้จะมาทีหลัง ถึงแม้ว่าผมจะไมไ่ด้ฉุกเฉินแบบเห็นชัดๆว่ามันจะตายกันใน5-10นาทีนี้เช่นโดนแทงหรือเลือดสมองแตกมาแต่อาการผมมันก็น้องๆพวกนี้แล้วหละครับเพราะตัวเลขมันวัดออกมาได้แบบชัดๆ ไม่ใช่แบบเจ็บท้องมากๆที่มันวัดกันไม่ได้ว่าเจ็บมากจนต้องฉุกเฉินใหม วันนั้นจำไม่ได้ว่ารอนานแค่ใหนแต่อย่างต่ำคือ2ชั่วโมงครับ ที่เลวร้ายคือผมนอนรอเฉยๆมีให้น้ำเกลือ เขาก็คิดเงินค่าเกี่ยวกับห้องฉุกเฉิน ครับ ถ้ารู้ว่าเข้านอนห้องฉุกเฉินแล้วมีค่าเท่ากับนั่งรอเฉยๆผมจะไปนอนทำไมครับ เงินหนะไม่เสียดายหรอกแต่มันเสียความรู้สึก เหมือนโดนหลอกมานอนเล่นเฉยๆไม่ได้ฉุกเฉินอะไร ถ้านอนรอแล้วชักจะตายตรงนั้นหมอถึงจะรีบบึ่งมา มันก็มีค่าเท่านั่งรอตามปกติแล้วชักมั้ยหละครับ

-เหตุกาณ์สองคือ มีวันนึงผมก็ไปหาหมอเพื่อติดตามรักษาหัวใจตามนัดหมาย ผมไปถึงเห็นเลยว่าคนมันเยอะผิดปกติมากๆ ไม่เคยเห็นคนนั่งรอเต็มทั้งแผนกมาก่อน อะคิดในใจละไม่น่าจะนานเพราะเรามาตามนัด
อ่ะเจาะเลือด รอผล ชั่วโมงนึงโอเค ผลมาน่าจะได้เจอหมอเลยแหละ สรุปรอไป 3 ชั่วโมงครึ่งครับ คือรอตั้งแต่คนเต็มจนเหลือผมคนสุดท้าย เพราะผมมาทีหลังพวกวอคอินตรวจสุขภาพเฉยๆครับ........ คือตอนผมเหมือนจะใกล้ตายแบบเห็นตัวเลขเลยก็ต้องรอ ตอนรพนัดหมายผมไว้อย่างดีก็ต้องรอคนไม่รีบที่ไม่ได้นัดแต่มาก่อน มันจะมีการทำนัดไว้เพื่ออะไรครับ??? เออถ้ากรณีแบบ นัด 11โมงแล้วรอคนไข้ที่เพิ่งวอคอินมาก่อนผมแค่คนนึงยังพอเข้าใจได้ครับ นี่เล่นเหมือนจัด Priority ให้เราไปต่อท้ายแถว walk-in เหมือนกันซะงั้น ที่ว่าบริการระดับอินเตอร์เนี่ย คือรอนานระดับอินเตอร์ แต่ขอโทษฮะ เมืองนอกเขารอนานเพราะเขารันคิวเยอะแต่ก็ไม่ได้มั่วคิวคนไม่ฉุกเฉินแบบนี้

-เหตุการณ์ที่สามคือเหตุการณ์ล่าสุด ผมมีนัดหมายไปรับยาเฉยๆเพราะครั้งก่อนหน้าหมอลืมจ่ายยาเพิ่มเติมมาให้ตัวนึง ผมก็ทิ้งเรื่องไว้ตอนเย็น ตอนเช้าแผนกเขาก็โทรมายืนยัน ผมไปถึงเที่ยงก็คิดว่าเอออย่างมากเราก็แค่รอจ่ายตังกับรับยา
ไม่เลยครับ ไปถึงพยาบาลบอกหมอยังไม่ได้เขียนฟอร์มสั่งยาให้แล้วหมอก็ตรวจคนไข้อยู่....สละเวลามาเขียนให้ก่อน1-2นาทีไม่ได้ครับ ไม่ใช่ว่าหมอกำลังผ่าตัดหรือคนไข้เขาฉุกเฉินอะไรนะก็คือตามอาการกันปกตินี่แหละ สรุปรอไป ชั่วโมงนึงครับ เน้นว่ารับยาเฉยๆไม่ได้เจอหมอนะครับ ชั่วโมงนึงครับ
ยังไม่จบครับ จ่ายตังรับยาหยิบใบเสร็จมาดู มีการชาร์จค่า Nurse กับ OPD..... ทั้งๆที่ไอ้สองตัวนี้ผมก็จ่ายไปเมื่อตอนมาติดตามอาการวันก่อน ที่ผมมาอีกรอบวันนี้มันเพราะความสัพเพร่าลืมจ่ายยาของทางหมอเองแท้ๆ แล้วมาถึงผมก็รอเฉยๆ ไมไ่ด้มีการวัดความดันหรือดูแลอะไรทั้งสิ้น ก็ท้วงไปเขาตัดค่าบริการส่วนนี้ออกให้ ถ้าเราไม่ดูใบเสร็จก็เสียฟรี 500 บาท

เมื่อก่อนส่วนตัวคิดว่า รพ กรุงเทพเนี่ยแหละอันดับ 1 จนมาเจอ3เหตุการณ์นี้  Brand loyalty ผมเรียกว่าหักไปสามเสาแล้วครับ เหลือแค่เสามุมเดียวมันไม่ใช่ว่าคนเป็นร้อยเป็นพันมันมีพลาดมีซวยกันบ้างอันนั้นผมจะไม่คิดอะไร เพราะ3เหตุการณ์นี้มันเกิดขึ้นภายในปีเดียวกันประกอบกับความรู้สึกที่ชัดเจนมากๆเรื่องการรอรที่นานขึ้นเทียบกับกหลายปีก่อน
---------------------------------
เทียบกับตอน ติดโควิดเมื่อไม่กี่เดือนก่อนก็กักตัวอยู่บ้านเฉยๆแล้วจู่ๆวันนึงหัวใจเต้นเร็วแล้วปอดเหมือนมันไม่ยอมตื่นตัว คือต่อให้ผมพยายามทำกิจกรรมอะไรก็ตามวิ่งกระโดนโลดเต้นมันไม่หอบฮะมันหายใจปกติเหมือนเรานั่งเฉยๆเหมือนปอดมันขี้เกียจ ผมก็เลยตัดสินใจไป รพ เอกชนแห่งหนึ่งแถวบ้านซึ่งถูกเทคโอเวอร์โดย รพ เอกชนประจำพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ก็มีชื่อเสียงประมานนึง (ซึ่งให้ว่ากันตรงๆภาษีชื่อเสียงก็ยังด้อยกว่า รพ กรุงเทพแถมเหมือนมีคนคอมเพลนเยอะ) ก่อนไปผมก็โทรแจ้งเลยว่าผมอาการงี้ๆมีประวัติโรคหัวใจความดันนะกำลังนั่งรถไป เขาก็มีการถามลักษณะรถ พอไปถึงเขามีคนรออยู่โดยเฉพาะเลยครับเห็นรถเราตรงตามที่บอกรีบกรูมารับลงรถขึ้นเตียง เข้าห้องฉุกเฉินเสร็จสรรพมีหมอมาดูเช็คสักพักคุยกันเบื้องต้นเสร็๗ก็เข็นไปเอกเรย์ไปสแกนไปทำนู่นนี่นั่น เสร็จแล้วส่งขึ้นแอดมิทห้องผู้ป่วยใน เข้าไปได้ไม่นานก็มีหมอมาคุยเรื่องผลตรวจต่างๆและแอดมินยาทันที จบเสร็จสรรพภายในชั่วโมงนิดๆแล้วนอนพักรักษาตัว ถ้าไปรพกรุงเทพยังไม่เจอหมอเลยมั้งหนะ
อีกครั้งคือปวดท้องตอนหัวค่ำ คนที่บ้านสงสัยว่าจะเป็นไส้ติ่งก็เลยไปที่ใกล้ไว้ก่อนเลยเลือก รพ เอกชนเจ้าเดิม  ไปถึงก็ยังประทับใจกับความรวดเร็วและการบริการ ถึงแม้ว่าจะไปเวลาที่ไม่ค่อยมีหมอแล้วเขาก็ส่งตัวเข้าห้องดูอาการไม่นานก็มีหมอมาเช็คDiagnosอาการแล้วส่งเข้าสแกน สแกนเสร็จรอผลไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหมอมาอธิบายว่าโอเครไส้ติ่งละหละ เดี๋ยวไปผ่าตัดกันเลยนะสุดหล่อ รอห้องผ่าตัดประมาร10-20นาทีนี่แหละ ทุกอย่างเสร็จสรรพจนถึงเขียงคือ 2ชั่วโมงกว่าหน่อยๆเท่านั้น ในเวลากลางคืนด้วย ที่สำคัญค่าใช้จ่ายต่ำกว่ากันเยอะมากเป็นเท่าตัวในเรื่องขอพวก Frills ต่างๆเช่นค่าแพทย์ค่ายาค่าอุปกรณ์นู่นนี่นั่น แต่ค่าPrcedure เช่น CT อาจจะน้อยกว่าแค่ประมาน10-25% เอาจริงๆจ่ายมากจ่ายน้อยมันไม่ใช่เรื่องใหญ๋สำหรับผม แต่ผมแค่ Expect ว่า ถ้า่จายหนักกว่าก็ควรจะดีกว่า ซึ่งมันกลับตลปัตรกันเลย

พอมีข้อเปรียบเทียบแล้วรู้สึกว่าถ้ารักษาเบื้องต้นหรือติดตามอาการต่อไปนี้น่าจะฝากผีฝากไข้ไว้กับ รพ นี้ดีกว่า ถ้าเกิดเหตุอะไรที่มันหนักหนาขนาดที่ว่าต้องการ The best of the best , creme de la creme จริงๆถึงค่อยไป รพ กรุงเทพ.
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่