รีวิว ประกันสุขภาพ + รีวิวโรงพยาบาล พร้อมการผ่าตัดเนื้องอกที่ต่อมน้ำลาย และนิ่วในถุงน้ำดี

ขอเป็น1ในกระทู้ใช้ดีบอกต่อสำหรับประกันสุขภาพ ส่วนตัวใช้ของไทยประกันชีวิต ซี่งเราจะแบ่งเป็นการรีวิวใน1+2เรื่อง จากการเคลม3รอบในรอบ2เดือนค่ะ

1. โรคที่เคลม

1.1 เนื้องอกที่ต่อมน้ำลาย
อาการคือคลำเจอก้อนแข็ง ไม่เจ็บ ไม่ปวดบริเวณใต้หลังหูซ้าย ซึ่งในเคส จขกท คือเจอมา2-3ปีก่อนทำประกัน ได้มีการไปปรึกษาคุณหมอและอัลตร้าซาวด์ เหลือแค่ผ่าตัดแต่บังเอิญติดช่วงโควิดพอดี เลยไม่ได้ไปผ่า

ตัดภาพมาที่วันผ่าตัด หมอจะนัดมาแอดมิดก่อน1วัน เพื่อทำการตรวจเลือดตรวจอะไรต่างๆ แล้วผ่าในวันถัดไป ซึ่งโดยส่วนตัว จขกท ไม่กลัวการผ่าตัดเพราะดมยาสลบอยู่แล้ว แต่กลัวความเจ็บปวดหลังผ่ามากกว่า ซึ่งเคสเราถือว่าโอเคดี เพราะขอยาแก้ปวดรัวๆ กะไม่ให้มีอาการปวดได้เลยแม้แต่นิดเดียว5555

หลังผ่าตัด จขกท อาการค่อนข้างดี นอนลำบากหน่อย แต่ไม่มีไข้ ความดันทุกอย่างปกติ ไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ ซึ่งเคสนี้ได้แอดมิดไป7วันเพราะมีท่อระบายเลือด

หลังผ่าเนื้องอกออกมา หมอจะส่งชิ้นเนื้อไปตรวจ ซึ่งเราได้รู้ผลก่อนออก รพ พอดี ผลออกมาคือเป็นเนื้อดี รู้สึกโล่งใจที่สุด หายเจ็บหายปวดไปเลย 5555

1.2 นิ่วในถุงน้ำดี
หลังผ่าเนื้องอกมาได้2เดือน อยู่ๆกลางดึกหลังเราซัดแคปหมูน้ำพริกอ่องมื้อเย็นไป1ถุง เรารู้สึกปวดจุกๆตื่นขึ้นมาตอนตี2 อาการเหมือนกรดไหลย้อน มีอาการอาเจียนร่วมด้วย จะเรอก็ไม่เรอ อาการปวดเสียดๆแบบทรมาน กินยาแก้ปวดก็ไม่หาย ปวดร้าวไปถึงหลัง ปวดหนักบริเวณชายโครงขวา ใต้ราวนม ซึ่งจริงๆอาการนี้ จขกท เคยเป็นมาก่อนเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตอนนั้นก็ได้ไปหาหมอ ที่ รพ สิทธิประกันสังคมแต่หมอไม่ตรวจไรเพิ่ม ให้ยาฉีดแก้ปวด กลับบ้าน จบ

จนถึงครั้งนี้ที่จัดหนักแคปหมูนี่แหละ ไม่รอดจ้า กินยาที่เคยได้มาจาก รพ ไม่หาย ปลุกแฟนตี2กว่าไป รพ กันเถอะ จิตายแล้ว รอบนี้ขอไป รพ เอกชนละกันเพราะมีประสบการณ์เคลมมาละ เริ่มใช้เป็น และไม่คิดว่าจะเป็นนิ่ว

พอไปถึง รพ ถึงแม้จะเกือบตี3แต่การบริการของเจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉิน พยาบาล คุณหมอคือเลิศ และตามสไตล์ คำถามแรกที่ท่านจะถูกถามก่อนเสมอคือ มีประกันมั้ยคะ หลังจากนั้น ท่านจะถูกส่งตรวจหลายอย่างตามอาการของโรคที่อาจเป็น ซึ่ง จขกท จำได้ไม่หมดนะ แต่จำได้ว่า มีตรวจเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจอัลตร้าซาวด์ตรงท้อง ซึ่งก็ถูกให้แอดมิดไปตามระเบียบ และผลอัลตร้าซาวด์ออกมาคือเจอนิ่วในถุงน้ำดีขนาดประมาณ1cm

หมอเจ้าของไข้เราจะเป็นหมอศัลยกรรม หมอก็เข้ามาคุยมาอธิบายว่าโรคเกิดขี้นจากอะไร เจอนิ่วตรงไหน ส่งผลยังไง แผนการรักษา บลาๆ ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างวิชาการมาก จำไม่ได้ แต่จำได้คือเพราะ จขกท นั้นรักในบุฟเฟต์อาหารของทอดของมัน ของคอเรสเตอรอลสูงต่างๆ ไม่ออกกำลังกาย ซึ่งของพวกนี้สะสมและส่งผลให้เกิดนิ่วในถุงน้ำดี ทางรักษามีทางเดียวคือผ่าเอานิ่วและถุงน้ำดีออก พัก รพ 2-3วัน เคสของ จขกท คือการผ่าแบบส่องกล้อง หมอบอกไม่เร่งรีบ แล้วแต่คนไข้สะดวก แต่ถ้ายังไม่ผ่ามันจะเหมือนเรามีระเบิดเวลาอยู่กะตัวตลอด ถ้าเรากินของแสลงเข้าไป อาการอาจกำเริบขึ้นได้ เราเลยตัดสินใจผ่า

แต่เนื่องจากพ่อแม่อยู่อีกจังหวัด และกำลังจะขึ้นบ้านใหม่ เลยนัดหมอเป็นอีก 10 วันถัดไปแทน โดยตอนออกจาก รพ ก็ได้ให้ รพ ทำพรีเคลมเพื่อเช็คค่ารักษากับประกันไปก่อน เวลามาแอดมิดแล้วแฟ็กซ์เคลมจะได้ไม่ช็อคเพราะต้องสำรองจ่ายเหมือนบางเคสที่เจอมาในพันทิป แต่บังเอิญอาการของเรามันกำเริบก่อนกำหนดเลยได้แอดมิดละผ่าเลย ฤกษ์ขึ้นบ้านก็ต้องหาใหม่ ดีที่พ่อกับแม่บินมาหาแล้ว เลยได้ไปเฝ้ากันที่ รพ ซึ่งเราโชคดีที่ไม่เจอความผิดปกติตอนผ่าก็เลยจบแค่ส่องกล้อง ได้แผลเล็กๆมา4แผล แต่ถ้าโชคร้ายบางเคสต้องผ่าแบบเปิดหน้าท้อง ซึ่งจะเจ็บและฟื้นตัวนานกว่า

ก้อนนิ่วของเราก็จะมีสีดำ ขนาดประมาณ1cm นั่นแหละ หมอใส่ขวดมาให้เป็นที่ระลึก เขย่าแล้วแข็งมาก นึกว่าหิน55555 หลังผ่าตัดก็เดินเยอะๆ ให้เรอให้ตดออกมา เพราะตอนผ่าหมอจะอัดแก๊สให้พุงเราป่อง จขกท คิดว่าคงเหมือนอึ่ง แต่ก็ผ่านไปด้วยดี หลังผ่ารู้สึกทรมานกว่าตอนผ่าเนื้องอก แต่อาการดี ไม่มีไข้ ทุกอย่างปกติ กลับบ้านได้หลังนอนมา3วัน2คืน

2. ประกันสุขภาพ + รีวิวโรงพยาบาล

ท้าวความกลับไปเมื่อ มกราคม 2022 เราเริ่มศึกษาหาประกันคู่บุญจริงจัง จากการเห็นเพื่อนสนิทแอดมิดแล้ว รพ เอกชนดูแลดีมาก เลยไปค้นหาข้อมูลหลายๆเจ้า ดูการคุ้มครอง ติดต่อหาตัวแทนเสนอแผนและเบี้ยประกัน ซึ่งสุดท้ายตัดสินใจเอาไทยประกันชีวิต โดยเราเลือกเป็นแผน health fit DD เหมาจ่าย 30 ล้าน ได้ค่าห้อง 12000 ต่อวัน ซื้อเพิ่มพวกอุบัติเหตุ โรคร้ายแรง และค่าชดเชยรายวัน จ่ายเป็นรายเดือน เดือนละ 2748 บาท ซึ่งอย่างที่บอกว่าเรามีการตรวจเรื่องเนื้องอกที่ต่อมน้ำลายมาก่อนทำประกันประมาณ2ปี ซึ่งตรงนี้เราแจ้งกับตัวแทนและขอให้สืบประวัติจาก รพ ที่ไปรักษามาก่อนได้เลย ซึ่งเราเลิฟในตัวแทนมาก เราแถลงไปเค้าก็ไปดำเนินการมาให้หมด ซึ่ง จขกท เองก็ทำใจแล้วล่ะว่าเออ ยกเว้นไปก็ไม่เป็นไร เราไปรักษากับ รพ สิทธิประกันสังคมเอาก็ได้ และจากที่คุยกะตัวแทนบางเจ้า พอบอกมีเนื้องอก ไล่ให้ฉันไปรักษาเลยจ้า ไม่ลองยื่นไม่ไรทั้งสิ้น 55555 แต่เพราะวาสนาของฉันจ้าาาที่เจอตัวแทนดี หลังผ่านไป2อาทิตย์มั้ง ตัวแทนแจ้งมาว่าประกันรับโดยไม่มีเงื่อนไขยกเว้นหรือเพิ่มเบี้ยใดๆ และสิ่งนี้ก็จะมีแนบสลักหลังในกรมธรรม์ของเราด้วย ซึ่งเราตกใจมาก ตัวแทนเองก็ยังอึ้งแทนเรา แต่ก็แฮปปี้นะ รีบยืนยันไปเลย

เคลมรอบที่1
หลังจากได้กรมธรรม์มาแล้ว จขกท ก็ใช้ชีวิตปกติ จนเกือบ2ปีแม่คะยั้นคะยอให้ไปผ่าเนื้องอกที่ต่อมน้ำลายออก เพราะดูโซเชียลมาก แล้วกลัวจะกลายไปเป็นเนื้อร้าย โดยแม่เสนอออกค่าใช้จ่ายให้ เราเลยกลับบ้านไปคุยกะหมอ รพ ในจังหวัดบ้านเกิดเรา แต่เนื่องจากเป็น รพ รัฐในจังหวัดที่ไม่ได้เจริญอะไร หมอบอกโอกาสหน้าเบี้ยว100% หมอพูดขนาดนี้จะรอไรล่ะ เปลี่ยน รพ ทันทีสิคะ5555 จขกท เลยไปที่พิษณุโลก เพราะห่างจากบ้านแค่ขับรถ2.30ชม ตอนนั้นเริ่มจาก รพ รัฐก่อน แต่บังเอิญวันที่ไปหมอไม่ลงตรวจ จขกท ไม่ได้ศึกษาไว้ก่อน ไม่ได้ทำนัดใดๆ แต่ไม่อยากเสียเที่ยวเลยไปปรึกษาที่เอกชน ซึ่งผู้เข้ารอบสุดท้ายคือ รพ กรุงเทพ พิษณุโลก ปรึกษาแล้วก็ลองให้ รพ ทำพรีเคลมไปก่อน เพราะเอกชนอีกที่ตีราคาประมาณ170000-180000 แต่ที่นี่ 350000-370000 เลยเอาสบายใจไว้ก่อน ไม่อยากช็อคตอนสำรองจ่าย เพราะถึงแม้จะมีสลักหลังแต่ก็ยังไม่กล้ามั่นอยู่ดี สรุปคือประกันอนุมัตผ่านฉลุย นอนไป7คืนจุกๆ แต่ค่าใช้จ่ายจริงออกมาประมาณ 290000 เพราะเหมือนเครื่องอะไรซักอย่าง คิวไม่ว่างในวันที่เราผ่า

เรื่องที่ชอบเลยของที่ รพ กรุงเทพ พิษณุโลก อันนี้เราขอตัดการบริการออกไปเลยนะ เพราะดีเลิศอยู่แล้ว แต่ที่ชอบมากเป็นพิเศษคือ
- บริการ valley parking แค่ขับรถไปจอดหน้า รพ ก็มีคนมารับรถไปจอดให้ละ ไปไหนก็แค่แจ้งตรงเค้าเตอร์ เค้าก็จะไปขับรถมาจอดให้เราเอง ตรงนี้ฟรีนะคะ แต่เราแอบให้ทิปไปนิดหน่อย
- ห้องผู้ป่วย เราพักห้อง VVIP ซึ่งเราชอบห้องนี้ตรงที่ประตูทางเข้าจะมี2ประตู คือฝั่งคนป่วยกับฝั่งคนเฝ้า ซึ่งให้ความส่วนตัวทั้งคนป่วยทั้งคนเฝ้าโดยมีประตูบานเลื่อนกั้น เวลาอาหารมาเค้าจะเข้าทางห้องคนเฝ้าเพราะโต๊ะอาหารอยู่ห้องนั้น มี NETFLIX ให้ดูฟรีทั้งสองฝั่ง แถมมีเก้าอี้นวดไฟฟ้าให้ใช้ในห้อง คนเฝ้าเลิฟมากก
- อาหารที่ชอบคือห้องที่เราพักจะได้2เซ็ตสำหรับคนป่วยและคนเฝ้า ซึ่ง จขกท ผ่าตัดต้องมีการงดน้ำและอาหาร แต่คนเฝ้าจะยังได้อาหารทานปกติ และอร่อยด้วย
- เครื่องชงกาแฟมีอาจไม่แปลก แต่ที่ชอบคือกาแฟแคปซูลให้มาเป็น Starbuck จ้า คนเฝ้าชอบอีกล่ะ รีเควสลาเต้วนไปเพราะชอบมาก
- เวลาออกจาก รพ จะมีเจ้าหน้าที่การเงินเอาเอกสารมาให้เซ็นถึงห้อง มีเภสัชกรมาแนะนำการทานยาสำหรับกลับบ้าน และจะมีพยาบาลพร้อมเน้าหน้าที่รถเข็นทั้งคนทั้งของมารับและลงไปส่งถึง lobby พร้อมขึ้นรถกลับบ้านได้
- สุดท้ายคือ amenity ในห้องแม่บ้านจะให้ทุกวันโดยไม่สนว่าน้ำดื่มไปกี่ขวด สมมุตวันนึงได้6ขวด ดื่มไปแค่1 เค้าก็จะเติม6ขวดแบบนั้นทุกวัน วันออกรถเข็นของคือเต็มมาก เพราะแม่ฉันเอาทุกอย่างที่เอากลับได้ไปหมดค่ะ
- ราคาค่าห้องต่อคืน 10000

ค่าชดเชย
เนื่องจากเป็นการแอดมิดแบบผ่าตัด ค่าชดเชยจะได้เป็น4เท่า + ค่าเดือนทาง 1000 เรานอนไป7คืน ก็ได้ชดเชยมา 29000 รอบนี้ตัวแทนส่งเอกสารเคลมให้ภายใน24ชม หลังออกจาก รพ ซึ่งได้เงินเข้า บช 2วันหลังออก รพ

เคลมรอบที่ 2
เวลาตี2แคปหมูนั้น เราไปหาหมอ รพ กรุงเทพ ภูเก็ต หมอให้แอดมิด เพราะอาการมีถ่ายเหลวร่วมด้วย3รอบ แต่สุดท้ายอาการดีขึ้น เราเลยขอออก รพ ในวันถัดมาเลย สรุปนอนไปไม่ถึง24ชม โดนค่ารักษาไป 40000 แฟ็กซ์เคลมได้ไม่มีปัญหา

ค่าชดเชย
เป็นการเจ็บป่วยธรรมดา อายุ 30 จะได้2เท่า+ค่าเดินทาง 1000 ก็ได้มา 3000 รอบนี้ไม่ต้องส่งเอกสารอะไรเลย เหมือนเค้าจะดำเนินการให้อัตโนมัติ (มั้ง) และได้เงินไวเหมือนเดิม

เคลมรอบที่ 3
ผ่าตัดนิ่ว ก็คือส่งพรีเคลมตอนออก รพ ที่เคลมรอบ2นั่นแฟละ ประมาณค่ารักษาอยู่ที่ 290000 ซึ่งประกันก็ตอบรับมา หลังจากส่งเรื่องไป2วัน พอไปผ่าตัดค่าใช้จ่ายออกมาจริงคือ 370000 แต่ก็แฟ็กซ์เคลมฉลุย ตรงนี้เริ่มเห็นใจประกันละ

ค่าชดเชย
ผ่าตัดอีกล่ะ นอน2วัน ได้4เท่า+ค่าเดินทาง ก็ 9000 บาทจ้า

สิ่งที่คิดว่าควรปรับปรุง
- ไม่มีบริการจอดรถ ไม่แน่ใจว่าหรือมีแต่เราไม่ได้ใช้มั้ย ใครรู้บอกได้นะคะ แน่ถ้าไม่มีจริงๆ ส่วนตัวคิดว่าอาจเพราะผู้มารับบริการเยอะมากเพราะเป็นภูเก็ต(มั้ง)
- ห้อง Presidential Suite มีทางออกทางเดียว เป็นห้องที่แพงที่สุด ที่ใหญ่ที่สุด แต่มีเก้าอี้ทานข้าวแค่2ตัว งงเดะ ลำพัง จขกท พ่อ และแม่ทานข้าวพร้อมกันที่โต๊ะด้วยกันไม่ได้เลย ทำไมง่าาา
- ทีวีมี แต่ Netflix ต้องล็อคอินเอง ไม่ได้มีแอคเค้าท์ฟรีไว้ให้ใช้
- อาหารอร่อย แต่ จขกท ผ่าตัดอีกละต้องงดน้ำและอาหาร ซึ่งคนป่วยอดไม่ว่า แต่คนเฝ้าก็อดด้วยจ้า พ่อแม่ จขกท ต้องไปหาซื้อมาทานเอง แต่ค่าอาหารชาร์จปกตินะ งง 2
- ห้องเก่า ไม่รู้เก่าจริงหรือเป็นดีไซด์ แต่คิดว่าควร renovate ได้แล้วแหละ แหะๆ
- ที่นี่จะไม่มีอุปกรณ์สำหรับล้างจานให้ ทั้งๆที่มีซิ้งค์มีตู้บิ้วอินนะ ที่นี่ใช้แล้วเปลี่ยนอย่างเดียว เหมือนจะดีนะ แต่เวลาจะเก็บต้องคอยเรียก บางทีจานไม่พอแล้วจะใช้ต้องคอยขอและรอ ไม่สามารถล้างๆ ละใช้ต่อได้ทันที ยิ่งกินมื้อเย็นนะ เก็บอีกทีคือเช้าวันต่อมา เหมือนจะสะดวก แต่สำหรับเราไม่ ชอบแบบมีสก็อตไบท์กับน้ำยาล้างจานมากกว่า
- เวลาออกจาก รพ รอบแรกมีแค่พยาบาลมาอธิบายการทานยา และพาไปส่งชั้น2ไปจัดการเรื่องการเงินเองน่าจะพราะมีส่วนต่าง400 ส่วนรอบ2มีเอาเอกสารมาให้เซ็น พยาบาลมาแนะนำยา ละเรียกรถเข็นของให้ หลังจากนั้นก็ลงลิฟต์ไปเอง แต่ พนง เข็นของดีมากค่ะ จริงๆแล้วข้อนี้อาจจะปกติสำหรับที่นี่ เพราะคนไข้เยอะ เลยไม่ได้มีขั้นมีตอนเยอะเท่าไหร่
- ค่าห้องต่อคืน 15300

สุดท้ายนี้ใครอยากได้คอนแทร็คตัวแทนหลังไมค์มาได้นะคะ จขกท ไม่ได้ขาย แต่คอนเฟิร์มได้ว่าตัวแทนที่ดูแลดีมาก นอกจากคอยดูแลแล้ว เวลาเจ็บป่วยมีของเยี่ยมไข้ตลอด และเวลาถามข้อมูลผลิตภัณฑ์ตัวอื่นคือตอบแบบจริงใจ อันไหนไม่เหมาะกะเราก็บอกตรงๆ ไม่ได้มุ่งแต่จะขาย

ปล. ย้ำๆเลยว่าประกันควรทำตอนสุขภาพดี และควรแถลงอาการเจ็บป่วยทั้งหมดแก่ตัวแทน อันไหนไม่แน่ใจ แนะนำให้ลิส รพ ที่เคยไปรักษาให้ตัวแทนไปขอประวัติก่อน ละก็ถ้าใครมีพวกสวัสดิการตรวจสุขภาพประจำปี แนะนำแนบไปด้วย ถ้าแถลงทุกอย่างตามจริง ตอนเคลมไม่มีปัญหาแน่นอน (ถ้าเคลมหลังพ้นระยะรอคอย)

จบแล้วฮ้าบบ ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนจบนะคะ 😄
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่