รีวิว Yunomori Onsen and Spa สาขา สาทร สัมผัส ออนเซน และสปาบรรยากาศแบบญี่ปุ่น ในใจกลาง กทม.
สวัสดีครับเพื่อนๆ Japanese Club Thailand ทุกท่าน วันนี้แอดมินได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมและใช้บริการ ออนเซนแบรนด์ดังอีกแห่ง ที่เรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกบริการออนเซนในประเทศไทยอย่างยาวนาน นั่นก็คือแบรนด์ Yunomori นั่นเองครับ แต่คราวนี้จะมารีวิวสาขาสาทร ซึ่งเป็นสาขาล่าสุดที่ทาง Yunomori ได้ปั้นขึ้นมา โดยรวมรวมจุดเด่นของสถานที่อื่นๆเข้าด้วยกัน มาชมกันเลยครับ
เรื่อง Location สาขานี้อยู่ที่ซอย สาทร 10 เราสามารถเดินทางได้สะดวกมากขึ้น เพราะอยู่แทบจะติดกับ BTS สถานีเซนต์หลุยครับ เดินไม่ถึง 5 นาทีก็มาถึงที่อาคารได้เลย
เมื่อเข้ามาก็จะมีตู้รองเท้าให้เราได้เปลี่ยนก่อนครับ เป็นรองเท้าแตะสาน ตามวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ซึ่งตู้ก็จะสามารถล๊อคกุญแจได้ด้วย ไม่ต้องกลัวหายครับ

โซน Reception ตกแต่งแบบธรรมชาติและอบอุ่น แนวไม้ๆสีโทนวอร์ม สวยงามตั้งแต่ทางเข้าเลยครับ เมื่อมาถึงเคาท์เตอร์ก็แจ้งบริการที่ต้องการใช้งาน ได้เลย จะมีเมนูพร้อมป้ายราคาบอกอย่างละเอียดครับ สำหรับออนเซนจะอยู่ที่ 550 บาท ส่วนสปาก็จะมีหลากหลายราคาขึ้นกับที่เราเลือกครับ
เมื่อ Check In เรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้ Wristband มาครับ ซึ่งสายรัดข้อมืออันนี้ เราสามารถใช้ในการซื้ออาหาร เครื่องดื่มต่างๆด้านในได้เลยโดยที่ไม่ต้องพกเงินสด แล้วเมื่อ Check-Out ค่อยมาชำระเงินทีเดียวครับ

พามาชมบริเวณออนเซนก่อนนะครับ เมื่อเราเข้ามาก็จะมีผ้าเช็ดตัว ผืนใหญ่ ผืนเล็ก และชุดญี่ปุ่นให้เราเลือกตาม Size และลายที่เราต้องการครับ ซึ่งจะใช้ใส่หลังจากแช่ออนเซนครับ ใครที่อยากใส่กางเกงแช่น้ำ ก็สามารถขอได้ครับที่ร้านมีให้บริการครับ

บริเวณล๊อคเกอร์ จะใช้ระบบสแกนเปิดด้วย Wristband ที่เราได้มาครับ เลือกหมายเลขให้ตรงกับเบอร์ที่เราได้ ขนาดล๊อคเกอร์ที่ว่ากำลังดีครับ สามารถใส่เป้ใบเหญ่ได้ และมีช่องแยกสำหรับรองเท้า ไม่ให้ปะปนกับสัมภาระครับ
ด้านใน Onsen แอดมินได้ขอใช้รูปของทางร้านนะครับ ไม่สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ครับ
ภายในจะมีบ่อให้เราเลือกแช่ได้หลายบ่อมากๆ ทั้งบ่อร้อนและเย็น สำหรับบ่อร้อนส่วนใหญ่จะมีอุณหภูมิประมาณ 40-42 องศาครับ ส่วนบ่อเย็นจะอุณหภูมิประมาณ 15-17 องศาครับ รายละเอียดของแต่ละบ่อมีดังนี้ครับ
1. บ่อยูโนะโมริซิกเนเจอร์
อุณหภูมิประมาณ 40-41 องศาเซลเซียส ผสานคุณประโยชน์ของแมกนีเซียมซัลเฟตเข้ากับน้ำมันหอมระเหยที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยปรับอารมณ์และจิตใจ ให้คุณได้รู้สึกผ่อนคลาย
2. บ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ
อุณหภูมิประมาณ 41 องศาเซลเซียส น้ำแร่ของยูโนะโมริถูกส่งตรงจากวัดวังขนาย จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยคุณสมบัติของน้ำแร่ร้อนที่อุดมไปด้วยด้วยแร่ธาตุต่างๆที่ดีต่อร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อ รวมไปถึงเรื่องระบบไหลเวียนและการผ่อนคลายความเครียด
3. บ่อน้ำวนหรือเจ๊ตบาธ
อุณหภูมิประมาณ 41-42 องศาเซลเซียส บ่อนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว เมื่อนั่งหรือนอนในบ่อ จะมีฟองอากาศนวดบริเวณหลัง ต้นขา ขา และเท้า ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อได้ตรงจุด ความร้อนและแรงดันน้ำจะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ลดความดัน บรรเทาอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อและข้อต่อ บ่อนี้จะค่อนข้างร้อนนิดนึงนะครับ อย่าแช่นานจนเกินไป
4. บ่อไมโครบับเบิ้ลบาธ
อุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียส บ่อนี้ถูกเติมเต็มด้วยฟองอากาศขนาดเล็กที่จะมอบประสบการณ์การบำบัดและการผ่อนคลายอย่างล้ำลึก ฟองอากาศขนาดเล็กไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล แต่ยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อย
5. บ่อบับเบิลบาธ
บ่อนี้แอดมินชอบที่สุดครับ เพราะอุ่นกำลังดีสำหรับคนไทย อุณหภูมิประมาณ 39 องศาเซลเซียส จะช่วยปรับสภาพร่างกายให้พร้อมก่อนย้ายสู่บ่อน้ำแร่ร้อน และทำให้จิตใจเริ่มผ่อนคลาย ตัวฟองกาศในบ่อนี้จะช่วยนวดกระตุ้นกล้ามเนื้อ ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
6. บ่อน้ำเย็น
น้ำเย็นจะช่วยปิดรูขุมขน ทำให้ผิวตึง กระชับ นุ่มนวล พร้อมปรับสมดุลในร่างกาย ให้รู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา และยังช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต
7. บ่อน้ำเย็นแบบยืน
การแช่น้ำเย็นแช่แบบเต็มตัว ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความเย็นชุ่มฉ่ำ และสดชื่นที่สุด

นอกจากนี้ยังมีห้องสตรีม และห้องซาวน่า ให้บริการด้วยเช่นกันครับ สามารถสลับใช้งานระหว่างแช่น้ำได้ แต่เข้าสตรีมหรือซาวน่าแล้ว ควรล้างตัวก่อนลงบ่อนะครับ

หลังจากแช่ออนเซ็นเสร็จ บริเวณห้องแต่งตัวของที่นี่ก็จะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆพร้อมครับ ไม่ว่าจะเป็นไดร์เป่าผม โฟมล้างหน้า โลชั่น แว๊กซ์แต่งผม ครบครันพร้อมแต่งตัวด้วยชุดญี่ปุ่นไปเดินเล่นได้เลยครับ
ในโซนสปาก็จะมีที่นั่งรอ วิวสวนสวยๆครับ บรรยากาศผ่อนคลายดีมากๆ วันนี้แอดมินไม่ได้ใช้บริการสปา แต่ได้ขอทางร้านถ่ายรูปมาให้เพื่อนๆได้ชมนะครับ ว่าในห้องสปาเป็นอย่างไรบ้าง สำหรับพนักงานนวด ที่นี่มีให้เลือกทั้งชายและหญิง ตามที่เราต้องการครับ

เริ่มที่ห้องนวดไทยครับ จะเป็นเตียงแบบวางบนพื้น ตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูดีและแสงสีอบอุ่นบรรยากาศแบบญี่ปุ่นครับ
ถัดมาเป็นห้องนวด Aroma ห้องนี้จะเป็นเตียงสูงในระดับมาตรฐาน และในห้องก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบครัน พร้อมกับห้องอาบน้ำ และอ่างล้างมืออยู่ภายในห้องสปาครับ ค่อนข้างหรูหราใกล้เคียงโรงแรมหรูเลยทีเดียว

ต่อไปพามาชมสครับและน้ำมันนวดต่างๆครับ ที่นี่เราก็จะสามารถเลือกได้ว่าต้องการแบบไหน มีหลายแบบหลายกลิ่นให้เลือกครับ

นอกจากออนเซน สปา ทาง Yunomori Onsen and Spa สาขา สาทร ก็ยังมีโซนพักผ่อนให้เราได้นั่งพัก นอนพัก หรือนั่งทำงานอีกด้วยครับ ซึ่งถ้าเราซื้อ Onsen Day Pass เราก็สามารถใช้บริการโซนพักผ่อนต่างๆได้ยาวๆ แอดมินจะพาไปชมกันครับ
เริ่มต้นที่ Garden Lounge จะอยู่บริเวณชั้นที่ 2 ครับ เป็นห้องพักผ่อนนอนพัก นั่งพัก ทำงานได้ มีปลั๊กไฟ และช่องเสียบ USB ให้ที่เตียงทุกตัวครับ มีผ้าห่มให้หยิบหน้าห้อง และมีน้ำดื่มให้บริการอยู่หน้าห้องครับ ห้องนี้ช่วงบ่ายๆคนจะแน่นมากๆครับ แต่ค่ำๆจะเริ่มโล่งมากขึ้นครับ
Sky Lounge รูปแบบของห้องจะคล้ายๆ Gargen เลยครับ แต่เปลี่ยนมาอยู่ที่บริเวณชั้นที่ 7 ถ้าเรามองออกไปนอกหน้าต่างก็จะได้วิวสวยๆเหมือนอยู่บนตึกสูงครับ

สุดท้ายเป็น Roof Top ชั้น 8 เป็นโซนนั่งพัก และสามารถสั่งเครื่องดื่ม อาหารเบาๆได้ด้วย โซนนี้เหมาะกับการนั่งทำงานที่สงบๆและใช้สมาธิ วิวมองออกไปสวยงามมากครับ มีทั้งแบบนั่งเก้าอี้ และแบบนั่งพื้นให้เลือกใช้บริการ



ต่อมาจะพาไปดูโซนสวนญี่ปุ่น มุมประจำที่หลายๆคนชอบมาถ่ายรูปเช็คอินกันครับ บริเวณนี้จะอยู่ชั้นล่างสุด เป็นสวน OutDoor ระหว่างตึก ตกแต่งสวนมาในรูปแบบญี่ปุ่นครับ
หลังจากชมพื้นที่ต่างๆแล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆอยู่ในนี้ทั้งวัน คงต้องมีหิวกันบ้างใช่ไหมครับ ไม่ใช่ปัญหาเพราะที่นี่มีร้านอาหารแบบเต็มรูปแบบ พร้อมให้บริการครับ ชื่อว่าร้าน Happy Rice อยู่บริเวณชั้น 1 ข้างๆสวนญี่ปุ่นครับ
ที่นี่จะมีทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารเพื่อสุขภาพ อาคารมังสวิรัติ ขนมหวาน ไอสกรีม เครื่องดื่ม ให้บริการครบครันครับ
แอดมินได้สั่งเมนูแนะนำของที่นี่ คือิ คุมะซัง ข้าวหมูทอดทงคัตซึกับซอสแกงกะหรี่ เสริฟมาแบบแบ้วๆ น่ารักมากครับ ในชุดมีสลัด และน้ำชาเขียวให้ด้วยครับ และของหวานคือ ข้าวเหนียวมะม่วงเสริฟพร้อมไอสกรีม บอกเลยว่าเมนูนี้ ชาวจีน ชาวต่างชาติต้องชื่นชอบสุดๆครับ เพราะเป็นเหมือนนำอาหาร Signature ของคนไทยมาฟิวชั่นกับไอสกรีมได้อย่างลงตัวและอร่อยครับ

สุดท้ายนี้ เรียกได้ว่าการมาพักผ่อน แช่ออนเซนที่ ยูโนโมริ Onsen and Spa สาขา สาทร เป็นการเติมพลังในวันหยุด ให้ผ่อนคลายอย่างเต็มอิ่มจริงๆครับ เพราะได้อารมณ์บรรยากาศแบบญี่ปุ่นจริงๆ และมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้ได้ทำในสถานที่เดียว ทั้งออนเซน พักผ่อน สปา และรับประทานอาหาร ท่านไหนที่ยังไม่เคยมาต้องลองมาใช้บริการดูนะครับ แล้วจะประทับใจอย่างแน่นอนครับ
[SR] รีวิว Yunomori Onsen and Spa สาขา สาทร สัมผัส ออนเซน และสปาบรรยากาศแบบญี่ปุ่น ในใจกลาง กทม.
สวัสดีครับเพื่อนๆ Japanese Club Thailand ทุกท่าน วันนี้แอดมินได้มีโอกาสมาเยี่ยมชมและใช้บริการ ออนเซนแบรนด์ดังอีกแห่ง ที่เรียกได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกบริการออนเซนในประเทศไทยอย่างยาวนาน นั่นก็คือแบรนด์ Yunomori นั่นเองครับ แต่คราวนี้จะมารีวิวสาขาสาทร ซึ่งเป็นสาขาล่าสุดที่ทาง Yunomori ได้ปั้นขึ้นมา โดยรวมรวมจุดเด่นของสถานที่อื่นๆเข้าด้วยกัน มาชมกันเลยครับ
เรื่อง Location สาขานี้อยู่ที่ซอย สาทร 10 เราสามารถเดินทางได้สะดวกมากขึ้น เพราะอยู่แทบจะติดกับ BTS สถานีเซนต์หลุยครับ เดินไม่ถึง 5 นาทีก็มาถึงที่อาคารได้เลย
เมื่อเข้ามาก็จะมีตู้รองเท้าให้เราได้เปลี่ยนก่อนครับ เป็นรองเท้าแตะสาน ตามวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ซึ่งตู้ก็จะสามารถล๊อคกุญแจได้ด้วย ไม่ต้องกลัวหายครับ
โซน Reception ตกแต่งแบบธรรมชาติและอบอุ่น แนวไม้ๆสีโทนวอร์ม สวยงามตั้งแต่ทางเข้าเลยครับ เมื่อมาถึงเคาท์เตอร์ก็แจ้งบริการที่ต้องการใช้งาน ได้เลย จะมีเมนูพร้อมป้ายราคาบอกอย่างละเอียดครับ สำหรับออนเซนจะอยู่ที่ 550 บาท ส่วนสปาก็จะมีหลากหลายราคาขึ้นกับที่เราเลือกครับ
เมื่อ Check In เรียบร้อยแล้ว เราก็จะได้ Wristband มาครับ ซึ่งสายรัดข้อมืออันนี้ เราสามารถใช้ในการซื้ออาหาร เครื่องดื่มต่างๆด้านในได้เลยโดยที่ไม่ต้องพกเงินสด แล้วเมื่อ Check-Out ค่อยมาชำระเงินทีเดียวครับ
พามาชมบริเวณออนเซนก่อนนะครับ เมื่อเราเข้ามาก็จะมีผ้าเช็ดตัว ผืนใหญ่ ผืนเล็ก และชุดญี่ปุ่นให้เราเลือกตาม Size และลายที่เราต้องการครับ ซึ่งจะใช้ใส่หลังจากแช่ออนเซนครับ ใครที่อยากใส่กางเกงแช่น้ำ ก็สามารถขอได้ครับที่ร้านมีให้บริการครับ
บริเวณล๊อคเกอร์ จะใช้ระบบสแกนเปิดด้วย Wristband ที่เราได้มาครับ เลือกหมายเลขให้ตรงกับเบอร์ที่เราได้ ขนาดล๊อคเกอร์ที่ว่ากำลังดีครับ สามารถใส่เป้ใบเหญ่ได้ และมีช่องแยกสำหรับรองเท้า ไม่ให้ปะปนกับสัมภาระครับ
ด้านใน Onsen แอดมินได้ขอใช้รูปของทางร้านนะครับ ไม่สามารถเข้าไปถ่ายรูปได้ครับ
ภายในจะมีบ่อให้เราเลือกแช่ได้หลายบ่อมากๆ ทั้งบ่อร้อนและเย็น สำหรับบ่อร้อนส่วนใหญ่จะมีอุณหภูมิประมาณ 40-42 องศาครับ ส่วนบ่อเย็นจะอุณหภูมิประมาณ 15-17 องศาครับ รายละเอียดของแต่ละบ่อมีดังนี้ครับ
1. บ่อยูโนะโมริซิกเนเจอร์
อุณหภูมิประมาณ 40-41 องศาเซลเซียส ผสานคุณประโยชน์ของแมกนีเซียมซัลเฟตเข้ากับน้ำมันหอมระเหยที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยปรับอารมณ์และจิตใจ ให้คุณได้รู้สึกผ่อนคลาย
2. บ่อน้ำแร่ร้อนธรรมชาติ
อุณหภูมิประมาณ 41 องศาเซลเซียส น้ำแร่ของยูโนะโมริถูกส่งตรงจากวัดวังขนาย จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยคุณสมบัติของน้ำแร่ร้อนที่อุดมไปด้วยด้วยแร่ธาตุต่างๆที่ดีต่อร่างกาย ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อและกล้ามเนื้อ รวมไปถึงเรื่องระบบไหลเวียนและการผ่อนคลายความเครียด
3. บ่อน้ำวนหรือเจ๊ตบาธ
อุณหภูมิประมาณ 41-42 องศาเซลเซียส บ่อนี้จะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว เมื่อนั่งหรือนอนในบ่อ จะมีฟองอากาศนวดบริเวณหลัง ต้นขา ขา และเท้า ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อยของกล้ามเนื้อได้ตรงจุด ความร้อนและแรงดันน้ำจะช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต ลดความดัน บรรเทาอาการเจ็บปวดของกล้ามเนื้อและข้อต่อ บ่อนี้จะค่อนข้างร้อนนิดนึงนะครับ อย่าแช่นานจนเกินไป
4. บ่อไมโครบับเบิ้ลบาธ
อุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียส บ่อนี้ถูกเติมเต็มด้วยฟองอากาศขนาดเล็กที่จะมอบประสบการณ์การบำบัดและการผ่อนคลายอย่างล้ำลึก ฟองอากาศขนาดเล็กไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกนุ่มนวล แต่ยังช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ บรรเทาอาการปวดเมื่อย
5. บ่อบับเบิลบาธ
บ่อนี้แอดมินชอบที่สุดครับ เพราะอุ่นกำลังดีสำหรับคนไทย อุณหภูมิประมาณ 39 องศาเซลเซียส จะช่วยปรับสภาพร่างกายให้พร้อมก่อนย้ายสู่บ่อน้ำแร่ร้อน และทำให้จิตใจเริ่มผ่อนคลาย ตัวฟองกาศในบ่อนี้จะช่วยนวดกระตุ้นกล้ามเนื้อ ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
6. บ่อน้ำเย็น
น้ำเย็นจะช่วยปิดรูขุมขน ทำให้ผิวตึง กระชับ นุ่มนวล พร้อมปรับสมดุลในร่างกาย ให้รู้สึกสดชื่น มีชีวิตชีวา และยังช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต
7. บ่อน้ำเย็นแบบยืน
การแช่น้ำเย็นแช่แบบเต็มตัว ยิ่งทำให้รู้สึกถึงความเย็นชุ่มฉ่ำ และสดชื่นที่สุด
นอกจากนี้ยังมีห้องสตรีม และห้องซาวน่า ให้บริการด้วยเช่นกันครับ สามารถสลับใช้งานระหว่างแช่น้ำได้ แต่เข้าสตรีมหรือซาวน่าแล้ว ควรล้างตัวก่อนลงบ่อนะครับ
หลังจากแช่ออนเซ็นเสร็จ บริเวณห้องแต่งตัวของที่นี่ก็จะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆพร้อมครับ ไม่ว่าจะเป็นไดร์เป่าผม โฟมล้างหน้า โลชั่น แว๊กซ์แต่งผม ครบครันพร้อมแต่งตัวด้วยชุดญี่ปุ่นไปเดินเล่นได้เลยครับ
ในโซนสปาก็จะมีที่นั่งรอ วิวสวนสวยๆครับ บรรยากาศผ่อนคลายดีมากๆ วันนี้แอดมินไม่ได้ใช้บริการสปา แต่ได้ขอทางร้านถ่ายรูปมาให้เพื่อนๆได้ชมนะครับ ว่าในห้องสปาเป็นอย่างไรบ้าง สำหรับพนักงานนวด ที่นี่มีให้เลือกทั้งชายและหญิง ตามที่เราต้องการครับ
เริ่มที่ห้องนวดไทยครับ จะเป็นเตียงแบบวางบนพื้น ตกแต่งเรียบง่ายแต่ดูดีและแสงสีอบอุ่นบรรยากาศแบบญี่ปุ่นครับ
ถัดมาเป็นห้องนวด Aroma ห้องนี้จะเป็นเตียงสูงในระดับมาตรฐาน และในห้องก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆครบครัน พร้อมกับห้องอาบน้ำ และอ่างล้างมืออยู่ภายในห้องสปาครับ ค่อนข้างหรูหราใกล้เคียงโรงแรมหรูเลยทีเดียว
ต่อไปพามาชมสครับและน้ำมันนวดต่างๆครับ ที่นี่เราก็จะสามารถเลือกได้ว่าต้องการแบบไหน มีหลายแบบหลายกลิ่นให้เลือกครับ
นอกจากออนเซน สปา ทาง Yunomori Onsen and Spa สาขา สาทร ก็ยังมีโซนพักผ่อนให้เราได้นั่งพัก นอนพัก หรือนั่งทำงานอีกด้วยครับ ซึ่งถ้าเราซื้อ Onsen Day Pass เราก็สามารถใช้บริการโซนพักผ่อนต่างๆได้ยาวๆ แอดมินจะพาไปชมกันครับ
เริ่มต้นที่ Garden Lounge จะอยู่บริเวณชั้นที่ 2 ครับ เป็นห้องพักผ่อนนอนพัก นั่งพัก ทำงานได้ มีปลั๊กไฟ และช่องเสียบ USB ให้ที่เตียงทุกตัวครับ มีผ้าห่มให้หยิบหน้าห้อง และมีน้ำดื่มให้บริการอยู่หน้าห้องครับ ห้องนี้ช่วงบ่ายๆคนจะแน่นมากๆครับ แต่ค่ำๆจะเริ่มโล่งมากขึ้นครับ
Sky Lounge รูปแบบของห้องจะคล้ายๆ Gargen เลยครับ แต่เปลี่ยนมาอยู่ที่บริเวณชั้นที่ 7 ถ้าเรามองออกไปนอกหน้าต่างก็จะได้วิวสวยๆเหมือนอยู่บนตึกสูงครับ
สุดท้ายเป็น Roof Top ชั้น 8 เป็นโซนนั่งพัก และสามารถสั่งเครื่องดื่ม อาหารเบาๆได้ด้วย โซนนี้เหมาะกับการนั่งทำงานที่สงบๆและใช้สมาธิ วิวมองออกไปสวยงามมากครับ มีทั้งแบบนั่งเก้าอี้ และแบบนั่งพื้นให้เลือกใช้บริการ
ต่อมาจะพาไปดูโซนสวนญี่ปุ่น มุมประจำที่หลายๆคนชอบมาถ่ายรูปเช็คอินกันครับ บริเวณนี้จะอยู่ชั้นล่างสุด เป็นสวน OutDoor ระหว่างตึก ตกแต่งสวนมาในรูปแบบญี่ปุ่นครับ
หลังจากชมพื้นที่ต่างๆแล้ว เชื่อว่าเพื่อนๆอยู่ในนี้ทั้งวัน คงต้องมีหิวกันบ้างใช่ไหมครับ ไม่ใช่ปัญหาเพราะที่นี่มีร้านอาหารแบบเต็มรูปแบบ พร้อมให้บริการครับ ชื่อว่าร้าน Happy Rice อยู่บริเวณชั้น 1 ข้างๆสวนญี่ปุ่นครับ
ที่นี่จะมีทั้งอาหารญี่ปุ่น อาหารเพื่อสุขภาพ อาคารมังสวิรัติ ขนมหวาน ไอสกรีม เครื่องดื่ม ให้บริการครบครันครับ
แอดมินได้สั่งเมนูแนะนำของที่นี่ คือิ คุมะซัง ข้าวหมูทอดทงคัตซึกับซอสแกงกะหรี่ เสริฟมาแบบแบ้วๆ น่ารักมากครับ ในชุดมีสลัด และน้ำชาเขียวให้ด้วยครับ และของหวานคือ ข้าวเหนียวมะม่วงเสริฟพร้อมไอสกรีม บอกเลยว่าเมนูนี้ ชาวจีน ชาวต่างชาติต้องชื่นชอบสุดๆครับ เพราะเป็นเหมือนนำอาหาร Signature ของคนไทยมาฟิวชั่นกับไอสกรีมได้อย่างลงตัวและอร่อยครับ
สุดท้ายนี้ เรียกได้ว่าการมาพักผ่อน แช่ออนเซนที่ ยูโนโมริ Onsen and Spa สาขา สาทร เป็นการเติมพลังในวันหยุด ให้ผ่อนคลายอย่างเต็มอิ่มจริงๆครับ เพราะได้อารมณ์บรรยากาศแบบญี่ปุ่นจริงๆ และมีกิจกรรมต่างๆมากมายให้ได้ทำในสถานที่เดียว ทั้งออนเซน พักผ่อน สปา และรับประทานอาหาร ท่านไหนที่ยังไม่เคยมาต้องลองมาใช้บริการดูนะครับ แล้วจะประทับใจอย่างแน่นอนครับ
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้