เราควรจัดการก้บผู้หญิงคนนี้อย่างไรดี?.

มีผู้หญิงอยู่คนหนึ่งอายุเท่ากับเราคือ๕๐ปีเป็นหม้ายเลิกกับสามี มีลูกสาวคนหนึ่งอายุยี่สิบเศษ เป็นแม่ค้าอยู่ในหมู่บ้านที่เราอาศัยอยู่ ตอนนี้เราอยู่จ.แพร่
   เมื่อก่อนผู้หญิงคนนี้เคยชอบเราอยู่ แต่เราเฉยๆกับเขา แต่เราก็ตอบกับเขาอย่างสุภาพ,ให้เกียรติเขาตามมารยาทอยู่นะ คือเราจะเรียกเขาว่าพี่ เขาเองก็ทำทีไม่พอใจนัก กระเง้ากระงอดต่อว่าๆ"อายุเท่ากัน ทำไมต้องเรียกพี่ล่ะ?!"
                     เพี้ยนแบ๊ว
เราเองก็ไม่ได้รังเกียจเขาหรอกนะ คือถ้าเป็นแค่เพื่อน,คนรู้จักกันเนี่ยเราก็ยินดี แต่ถ้าเกินเลยกว่านั้น...เราไม่เอานะ!
   เราก็เลยวางตัวเหมือนเดิม คือยิ้มๆและพูดคุยอย่างสุภาพเท่าที่จำเป็น
   เราเป็นคนกรุงเทพฯ เป็นคนไม่กินเหล้า,สูบบุหรี่ฯลฯ ออกกำลังกายดูแลสุขภาพอยู่ตลอด เป็นพุทธมามกะที่เคร่งในวัตรปฏิบัติ มีเพศตรงข้ามเข้ามาพูดคุยผูกมิตรอยู่ตลอด แต่ผู้หญิงเหล่านั้นจะคิดกันอย่างไร? มากน้อยแค่ไหนเราก็ไม่ทราบได้
   แม่ค้าคนนั้นพอเห็นว่าความสัมพันธ์ที่ตนคาดหวังนั้นไม่คืบหน้าก็มีอารมณ์ขุ่นเคือง พาลมาอารมณ์เสียใส่เรา...
                     เพี้ยนรมเสีย
ร้านค้าในหมู่บ้านนี้ขายกับข้าวสดกันเป็นหลัก ขายกันไม่ดีนัก ขนาดเอามากันน้อยๆก็ยังเหลือขายถึงวันรุ่งขึ้น
   เราเป็นคนกรุงเทพฯ อาหารการกินก็กินไม่เหมือนคนแพร่อยู่แล้ว ถึงไม่ใช่ของเก่าข้ามวันก็เถอะ ถึงเป็นกับข้าวสดที่นำมาวันนี้ บางวันเราก็ไม่ซื้อนะ กินข้าวกับปลากระป๋อง,บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ตุนไว้ที่บ้านดีกว่า
   เพื่อให้เพื่อนๆเห็นภาพแผงขายกับข้าวสดในหมู่บ้านให้ชัดขึ้นก็จะบรรยายได้ว่า...เขาเอาผักกำฟีบๆมาขายอยู่๒-๓กำ ผักกาดขาว,กะหล่ำปลีแก่ๆหมองๆเบาว่องมาวางอยู่๑-๒หัว หมู,ไก่แล่ชิ้นเล็กๆบางๆชิ้นละ๑๒บ.อยู่๓-๔ชิ้น ขนมสดถุงละ๕บ.,หมูปิ้ง,แกงถุงเล็กๆฯลฯเต็มที่ก็ไม่เกินอย่างละ๕หน่วย
   ถ้าเป็นของเก่าข้ามวันล่ะก็สภาพจะเลวร้ายกว่านั้น...ผักเหี่ยวเน่า,หมูซีดเขียวฯลฯเขายังขายต่อได้หน้าตาเฉย!
                     เพี้ยนแหวะ
เราเป็นคนชอบทำอาหารนะ พิถีพิถันในเรื่องวัตถุดิบและขั้นตอนการทำ ได้เจอวัตถุดิบแบบนี้เข้า...ก็ทำใจกินลงได้แค่บางวันเท่านั้น
   ปัจจุบันแม่ค้าคนนี้พอเห็นเราเดินมาที่หน้าแผงก็จะเดินทำหน้าถทึงมาใส่เรา หยิบถุงหิ้วเก่าที่ใช้แล้วสกปรกๆมากางออก วันไหนเราซื้อเขาก็ไม่ขอบคุณ แต่ถ้าวันไหนไม่ซื้อล่ะก็ด่าคำผรุสวาทหยาบคายกันเลยนะ!
                     เพี้ยนลุย
เราเองก็เข้าใจนะ...คนเราพอไม่ได้ดังใจก็มีอารมณ์โกรธ,ขุ่นเคือง...ผู้หญิงทำตัวงอแงงี่เง่าก็เพราะอยากให้ผู้ชายเอาใจ..."
   เราเองกับแม่ค้าคนนี้ปัจจุบันไม่ได้พูดคุยกันนานแล้ว เราไม่มองหน้าเขาเลยด้วย
   อ่านมาถึงตรงนี้เพื่อนๆอาจจะแนะนำว่า"ก็ไปซื้อร้านอื่นสิ" ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่า"ในหมู่บ้านที่เราอยู่นี้มีร้านค้าแบบนี้อยู่๓ร้าน ทั้ง๓ร้านก็อเน็จอนาถพอๆกันนี่แหละ บางทีร้านนี้ก็มีไอ้นั่นร้านนี้ก็มีไอ้นี่ กว่าจะได้ของครบแค่๒-๓อย่างก็ต้องเดินไปทั่วทั้ง๓ร้าน บางครั้งเดินทั่ว๓ร้านแล้วได้ของไม่ครบหรือไม่ได้อะไรเลยก็มี!"
   เพื่อนๆอาจจะถามอีกว่าทำไมไม่กลับกรุงเทพฯล่ะ?" ก็ขอตอบว่า"เราไม่อยากอยู่ที่นี่เลย! ถ้าได้ทีได้โอกาสก็กลับกรุงเทพฯแน่นอนแล้ว"
   ทุกวันนี้สิ่งที่เราตอบโต้ผู้หญิงคนนี้ก็คือขันติ,โสรัจจะ(ความอดทนอดกลั้น,ความสงบสเงี่ยม)เพื่อที่จะรักษาบุคลิกภาพของสุภาพบุรุษ,วิญญูชนเอาไว้ และเราเชื่อในเรื่องของอนันตริยกรรมด้วย คือรับกรรมไปคนเดืยวเต็มๆนะ เราไม่ขอส่วนแบ่ง
   แต่ความคุกรุ่น,ขุ่นเคืองใจของเรายังมีอยู่นะ เลยอยากจะถามเพื่อนๆว่า...
   ๑.เราควรจะทำอย่างไรดีเพื่อให้ผู้หญิงคนนี้หยุดพฤติกรรมก้าวร้าวแบบนี้?
   ๒.เราควรจะตอบโต้ผู้หญิงคนนี้อย่างไรดีให้เขาเจ็บใจและเพื่อความสบายใจของเราเอง?
   เราเป็นคนวัด ไม่ค่อยรู้เรื่องทางโลกนัก ขอคำแนะนำจากเพื่อนๆที่รู้เรื่องทางโลกหน่อยนะครับ.
                     เพี้ยนเพลีย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่