”ใบตองแห้ง-วีระ” มองรัฐบาลอยู่ไม่ครบ 4 ปี เพราะมี”รมต.ขั้วเก่า”ยังอยู่ ถือเป็นจุดเสี่ยง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4193330
“วีระ สมความคิด-ใบตองแห้ง” ร่วมสนทนาในรายการ The Politics มองรัฐบาล
“เศรษฐา” จะอยู่ไม่ครบ 4 ปี เพราะรมต.บางคนเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ มองว่า ช่วงแรกอาจจะทำคะแนนนิยม แต่ทำได้เพียงระยะหนึ่ง จากนั้นความเสื่อมน่าจะเริ่มมากขึ้น ประกอบกับฝ่ายค้านทำงานแบบมีประสิทธิภาพ ขณะที่การชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลแบบเมื่อก่อนคงไม่มีแล้ว แต่อาจจะเปลี่ยนรูปแบบและพัฒนาไป ไม่จำเป็นต้องลงถนน อาจจะแสดงออกมาทางโซเชียลแทน ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
‘จิรัฏฐ์’ ซัด ผบ.ทร. เตรียมชงเครื่องยนต์จีน เพียงแค่ยื้อเวลา ปัดความรับผิดชอบ
https://voicetv.co.th/read/3j_8yznqK
‘จิรัฏฐ์’ มอง ผบ.ทร. เตรียมชงใช้เครื่องยนต์จีนในเรือดำน้ำก่อนเกษียณไม่กี่สัปดาห์ เป็นการยื้อเวลาปัดความรับผิดชอบหรือไม่ แนะถ้าชดเชยไม่คุ้มความเสี่ยง ควรยกเลิกสัญญา - หาใหม่ที่ดีกว่านี้ หากเรือดำน้ำสำคัญกับยุทธศาสตร์ของประเทศจริง
วันที่ 22 กันยายน 2566
จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นต่อกรณีผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงข้อเสนอการนำเครื่องยนต์เรือดำน้ำ CHD 620 ของประเทศจีน มาใส่แทนเครื่องยนต์สัญชาติเยอรมันซึ่งมีปัญหาไม่สามารถใส่ให้ตามสัญญาได้
โดยระบุว่า สิ่งที่ ผบ.ทร. เตรียมชงเรื่องครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนตัวเองเกษียนราชการ คำถามคือถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเครื่องยนต์เรือดำน้ำเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องความเป็นความตายของลูกเรือ ทำให้เกิดคำถามขึ้น ว่าการที่ ผบ.ทร ยื้อปัญหานี้เพื่อจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบหรือไม่?
ขณะเดียวกัน ที่กองทัพเรือเคยระบุว่าว่าเครื่องยนต์ CHD 620 ของจีนเป็นเครื่องยนต์ที่จีนใช้กับเรือผิวน้ำของตัวเองมานานแล้ว และส่งเจ้าหน้าที่ไปทดสอบประสิทธิภาพตั้งแต่กลางปี 2565 แต่เหตุใดเพิ่งจะได้ข้อสรุปนี้ออกมา 18 เดือนหลังไทยทราบว่าจีนมีปัญหาไม่สามารถส่งมอบเรือดำน้ำให้ไทยได้ตามสัญญา
จิรัฏฐ์ยังระบุต่อไปว่า กองทัพเรือเคยบอกว่าเป็นปัญหาจากทางฝั่งจีน เนื่องจากเยอรมนีไม่ออกใบอนุญาตการขายให้กับทางจีน เป็นปัญหาที่ทางจีนต้องดำเนินการแก้ไข แต่วันนี้นายกรัฐมนตรี
เศรษฐา ทวีสิน กำลังจะไปขอพบนายกรัฐมนตรีเยอรมนี เพื่อเจรจาขอให้ขายเครื่องยนต์ MTU 396 ให้จีน นั่นแปลว่ารัฐบาลไทยกำลังจะไปเจรจากับรัฐบาลเยอรมนีให้กับจีน ซึ่งฟังดูผิดฝาผิดตัว และถ้าช่วยเหลือจีนถึงขนาดนี้ ไทยจะมีอำนาจในการต่อรองเรียกค่าชดเชย หรือเรียกเงิน 7 พันกว่าล้านที่จ่ายไปแล้วจากจีนได้อย่างไร
ส่วนที่ว่าจีนจะชดเชยด้วยการสนับสนุนอะไหล่ 8 ปี ก็เป็นข้อเสนอเดิมตามสัญญาอยู่แล้ว และยังป็นข้อเสนอที่น้อยเกินไปแต่แรก ไทยซื้อเรือดำน้ำจากจีนตามข้อเสนอแรกคือใช้เครื่องยนต์เยอรมัน แต่พอหาเครื่องยนต์เยอรมันให้ไม่ได้ ถ้าต้องเปลี่ยนก็ควรต้องมีการชดเชยที่ดีกว่านี้ ให้คุ้มกับความเสี่ยงที่ไทยจะต้องยอมรับ เพราะไทยจะต้องใช้เครื่องยนต์รุ่นนี้ก่อนจีนด้วยซ้ำ
ประเทศไทยจ่ายเงินให้จีนไปแล้ว 7 พันกว่าล้าน และจีนไม่สามารถทำตามสัญญาได้ตามกำหนดส่งมอบเดิมคือปลายปีนี้ หาก ครม. ยอมรับข้อเสนอนี้ก็ต้องใช้เวลาอีก 40 เดือนเป็นอย่างน้อย สรุปได้ว่า ผบ.ทร จะเสนอเรื่องให้ ครม.แก้ไขสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ใหม่โดยแก้ไขแค่ยี่ห้อเครื่องยนต์ และวันสิ้นสุดสัญญาที่เลื่อนออกไปจากเดิมอีก 40 เดือนเท่านั้น
จิรัฏฐ์ยังกล่าวต่อไป ว่าสุดท้ายแล้ว ไทยควรยกเลิกสัญญา และเจรจาค่าเสียหายชดเชยให้ได้มากที่สุด และกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ หากเรือดำน้ำสำคัญกับยุทธศาสตร์ของประเทศจริง
“
การดำเนินการจัดหาใหม่ จะทำให้เราได้ข้อเสนอจากผู้ขายที่ดีกว่านี้มาก อ้างอิงข้อเสนอจากหลายประเทศที่เสนอเข้ามาแข่งก่อนกองทัพเรือจะยกงานนี้ให้จีน ทั้งเรื่องผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และเรือดำน้ำที่มีสมรรถนะและประสิทธิภาพสูงกว่า ในราคาที่ดีกว่าสัญญาเดิมที่กองทัพเรือไทยพยายามปกป้องผู้ขายสุดชีวิตแบบนี้”
จิรัฏฐ์กล่าว
ส.ส.กานต์ ซัดรัว 11 เรื่องใน 2 นาที คาใจผับ 6 ปีไม่มีใบอนุญาต แนะ รบ.อยากปราบมาเฟีย รุดแก้ด่วน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4193386
ส.ส.กานต์ ซัดรัว 11 เรื่องใน 2 นาที คาใจผับ 6 ปีไม่มีใบอนุญาต แนะ รบ.อยากปราบมาเฟีย รุดแก้ด่วน
เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา น.ส.
ภัสริน รามวงศ์ หรือ
กานต์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดเผยต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่1) โดยนำข้อมูลที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน และปัญหาอื่นๆ ได้รับทราบจากการทำงานในพื้นที่และเยี่ยมเยียนชุมชนต่างๆ รวม 11 เรื่อง ได้แก่
1.สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน จัดกิจกรรมรับน้อง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต 2.คอนโดมีเนียมขนาดใหญ่ของกองทัพไทย แยกประชานุกูล 3.สถานบันเทิงเปิดกิจการมา 6 ปี โดยที่ไม่มีใบอนุญาตทางกฎหมาย แต่ตำรวจเอาผิดไม่ได้ ชวนตั้งคำถามเปิดมาได้อย่างไรถึง 6 ปี 4.อุโมงค์บางซื่อน้ำท่วมระบายไม่ทันเมื่อฝนตก ประชาชนประสบอุบัติเหตุ
5.พื้นที่จอดรถในอาคารรัฐสภามีไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ต้องไปจอดในพื้นที่ชุมชน 6.ปัญหาจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ 7.ถนนในชุมชนโชติวัฒน์เป็นหลุมอุกกาบาต มืดมิด ไม่มีไฟส่องสว่าง และไม่มีการปรับปรุง 8.บริเวณสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีวงศ์สว่าง มีไฟฟ้าส่องสว่างไม่เพียงพอ 9.ริมทางรถไฟบางซ่อนกลายเป็นที่ทิ้งขยะทั้งเล็กและใหญ่ ไม่มีไฟส่องสว่างเพียงพอ มืดทั้งเส้น ดู GPS ลำบาก10.สายไฟสื่อสารในชุมชนระโยงระยางไม่มีการจัดระเบียบ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุด้านการใช้ไฟฟ้า และ 11.บริเวณเรียบคลองสามเสน พื้นที่ชุมชนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม เขตดุสิต ไม่มีไฟส่องสว่างมาเป็นเวลานาน และไม่ได้รับการแก้ไข
น.ส.
ภัสรินกล่าวว่า วันนี้ตนนำ 11 เรื่อง ในเขตบางซื่อดุสิต กรุงเทพมหานครเขต 7 เข้าปรึกษาหารือในสภาผู้แทนราษฎร ในเวลาที่รัฐสภากำหนดให้ 2 นาที ส่งเสียงปัญหาที่ซุกไว้มาเนิ่นนานให้ได้รับการแก้ไขในฐานะผู้แทนราษฏรที่ประชาชนเลือกมาทำงาน ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนกรณีสถานบันเทิงชื่อดัง ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ว่าชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเสียงดัง ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2561 จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับการแก้ไข
“
สถานบันเทิงชื่อดังย่านบางซ่อนตั้งอยู่บนพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ติดอยู่กับที่พักอาศัยชุมชน ประชาชนใช้ชีวิตลำบากอย่างยากยิ่ง ผวาเสียงเพลงดังทะลุไปยังโสตว่าปล่อยสถานบันเทิงนี้เปิดมาได้อย่างไรถึง 6 ปี โดยไม่มีใบอนุญาต ดิฉันเคยได้ชมคลิปจากชาวบ้านที่ส่งมาให้ดู ซึ่งประเด็นที่สงสัยคือ 6 ปี รอดมาได้อย่างไร
จากการตรวจสอบหลักฐานจากสำนักงานเขต มีการร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2561 ไปร้องว่าเจ้าของร้านกระทำความผิด ทางเจ้าหน้าที่เขตมาดูแล้วก็ยังปิดไม่ได้ ถ้าในประเทศนี้จะเปิดบาร์จะต้องมีใบอนุญาต ซึ่งจะเกี่ยวกับเงื่อนไขการเปิดร้าน การคุมความดังของเสียง แต่กรณีนี้อยู่มานานได้ขนาดนี้ได้อย่างไร
ชาวบ้านเดือดร้อนมาก คุณยายตาดำๆ นอนไม่หลับเลย เสียงดังถึงตี 2 ตี 3 คุณยายยายคนแก่พอเขาได้ตื่นแล้วก็นอนต่อไม่ได้เลย กลายเป็นว่าวันไหนที่สถานบันเทิงจัดคอนเสิร์ตใหญ่ๆ เชิญนักร้องดังมา เขาเตรียมตัวไปอยู่บ้านญาติไปเลย
ทุกวันนี้ชาวบ้านต้องคอยเช็กข้อมูลจากเพจร้านว่าจะมีการจัดงานไหนอย่างไร แล้วเตรียมย้ายไปอยู่บ้านญาติ มันกลายเป็นว่าเขาต้องยอมรับความไม่ปกติ ให้กลายมาเป็นความปกติ
หากรัฐบาลชุดนี้อยากจะปราบแก๊งมาเฟีย คอร์รัปชั่น ที่เป็นสีเทา ก็ให้ช่วยมาย้อนว่าที่ผ่านมา มันมีอะไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ควรได้รับการแก้ไข” น.ส.
ภัสรินกล่าว
ด้าน น.ส.
ศิขรา เกษมอนันต์ ผู้ช่วย ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคก้าวไกล กล่าวว่า คณะทำงานได้แจ้งทางร้านให้ปรับปรุง แต่สุดท้ายเจ้าของก็ขาดการติดต่อไป ช่วงนี้มีรัฐบาลใหม่ ชาวบ้านรู้แล้วว่าหน่วยงานไหนดูแล ใครเป็นคนรับผิดชอบโดยตรง ที่ผ่านมาเคยมีการร้องเรียนตั้งแต่ปี 2561 คำสั่งปิดก็มี แต่ทำอะไรไม่ได้ ชาวบ้านเกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลหรือไม่
“
ชาวบ้านร้องมาตั้งแต่ปี 2561 คำสั่งให้ปิดก็มี ทุกวันนี้ยังเหมือนดิม ทางเพจร้านก็ยังอัพเดทอยู่ คอนเน็กชั่นก็น่าจะดี มีการเชิญนักร้องมาตลอด” นางสาว
ศิขรากล่าว
เอเอฟพี รายงานนทท.จีน ไม่กล้ามาไทย เหตุข่าวลือการลักพาตัว
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/367295
อีกมุม สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ชาวจีนไม่กล้าเดินทางมาเที่ยวไทย หลังมีข่าวลือแพร่สะพัดบนโลกออนไลน์จีนว่า จะถูกลักพาตัวหากเดินทางมาท่องเที่ยว
โดยเอเอฟพี บอกว่า ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเยือนประเทศไทยมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี แต่ดูเหมือนว่าตัวเลขดังกล่าวจะฟื้นกลับคืนมาได้ยาก เพราะว่าขณะนี้บนโลกออนไลน์ของจีนมีข่าวลือแพร่สะพัดออกมาว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวไทยจะถูกลักพาตัวไปทำงานที่ชายแดนเมียนมากับกัมพูชา โดยเอเอฟพีได้สัมภาษณ์นักท่องเที่ยวจีนรายหนึ่งที่เดินทางมาเที่ยวไทยกับสามี เธอบอกว่าเกือบจะไม่ได้เดินทางมาเที่ยวไทยเพราะพ่อแม่ไม่อนุญาต เนื่องจากกังวลความปลอดภัย ส่วนเพื่อน ๆ หลายคนก็บอกว่าให้เธอไปสำรวจดูก่อน ถ้าหากปลอดภัย เพื่อน ๆ จะเดินทางตามมา
ความวิตกกังวลเหล่านี้ มีที่มาจากภาพยนตร์เรื่อง No More Bets หนังแนวระทึกขวัญที่สร้างจากเรื่องจริง เกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์รายหนึ่งที่ถูกหลอกลวงมาทำงานในประเทศนิรนามที่คล้ายคลึงกับประเทศไทย แม้บางคนจะทราบดีว่าเรื่องราวในหนังนั้นพูดเกินจริง แต่อดไม่ได้ที่จะกังวลเกี่ยวกับการเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย และกลัวถูกลักพาตัวไปกัมพูชาหรือเมียนมา ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบต่อภาพลักษณืการท่องเที่ยวของไทยอย่างมาก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งทำความเข้าใจ เพื่อเรียกความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวจีน ให้เดินทางมาเที่ยวไทยมากขึ้น
JJNY : 5in1 มองรบ.อยู่ไม่ครบ 4 ปี│‘จิรัฏฐ์’ซัดผบ.ทร.│ส.ส.กานต์ซัดรัว│AFPรายงาน นทท.จีนไม่กล้ามาไทย│ราคากาแฟเวียดนามพุ่ง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4193330
“วีระ สมความคิด-ใบตองแห้ง” ร่วมสนทนาในรายการ The Politics มองรัฐบาล “เศรษฐา” จะอยู่ไม่ครบ 4 ปี เพราะรมต.บางคนเป็นเหล้าเก่าในขวดใหม่ มองว่า ช่วงแรกอาจจะทำคะแนนนิยม แต่ทำได้เพียงระยะหนึ่ง จากนั้นความเสื่อมน่าจะเริ่มมากขึ้น ประกอบกับฝ่ายค้านทำงานแบบมีประสิทธิภาพ ขณะที่การชุมนุมเพื่อขับไล่รัฐบาลแบบเมื่อก่อนคงไม่มีแล้ว แต่อาจจะเปลี่ยนรูปแบบและพัฒนาไป ไม่จำเป็นต้องลงถนน อาจจะแสดงออกมาทางโซเชียลแทน ติดตามรายละเอียดจากคลิปด้านล่างนี้
‘จิรัฏฐ์’ ซัด ผบ.ทร. เตรียมชงเครื่องยนต์จีน เพียงแค่ยื้อเวลา ปัดความรับผิดชอบ
https://voicetv.co.th/read/3j_8yznqK
‘จิรัฏฐ์’ มอง ผบ.ทร. เตรียมชงใช้เครื่องยนต์จีนในเรือดำน้ำก่อนเกษียณไม่กี่สัปดาห์ เป็นการยื้อเวลาปัดความรับผิดชอบหรือไม่ แนะถ้าชดเชยไม่คุ้มความเสี่ยง ควรยกเลิกสัญญา - หาใหม่ที่ดีกว่านี้ หากเรือดำน้ำสำคัญกับยุทธศาสตร์ของประเทศจริง
วันที่ 22 กันยายน 2566 จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ให้ความเห็นต่อกรณีผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงข้อเสนอการนำเครื่องยนต์เรือดำน้ำ CHD 620 ของประเทศจีน มาใส่แทนเครื่องยนต์สัญชาติเยอรมันซึ่งมีปัญหาไม่สามารถใส่ให้ตามสัญญาได้
โดยระบุว่า สิ่งที่ ผบ.ทร. เตรียมชงเรื่องครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนตัวเองเกษียนราชการ คำถามคือถ้าเกิดปัญหาขึ้นมาใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ เนื่องจากเครื่องยนต์เรือดำน้ำเป็นเรื่องสำคัญ เป็นเรื่องความเป็นความตายของลูกเรือ ทำให้เกิดคำถามขึ้น ว่าการที่ ผบ.ทร ยื้อปัญหานี้เพื่อจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบหรือไม่?
ขณะเดียวกัน ที่กองทัพเรือเคยระบุว่าว่าเครื่องยนต์ CHD 620 ของจีนเป็นเครื่องยนต์ที่จีนใช้กับเรือผิวน้ำของตัวเองมานานแล้ว และส่งเจ้าหน้าที่ไปทดสอบประสิทธิภาพตั้งแต่กลางปี 2565 แต่เหตุใดเพิ่งจะได้ข้อสรุปนี้ออกมา 18 เดือนหลังไทยทราบว่าจีนมีปัญหาไม่สามารถส่งมอบเรือดำน้ำให้ไทยได้ตามสัญญา
จิรัฏฐ์ยังระบุต่อไปว่า กองทัพเรือเคยบอกว่าเป็นปัญหาจากทางฝั่งจีน เนื่องจากเยอรมนีไม่ออกใบอนุญาตการขายให้กับทางจีน เป็นปัญหาที่ทางจีนต้องดำเนินการแก้ไข แต่วันนี้นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน กำลังจะไปขอพบนายกรัฐมนตรีเยอรมนี เพื่อเจรจาขอให้ขายเครื่องยนต์ MTU 396 ให้จีน นั่นแปลว่ารัฐบาลไทยกำลังจะไปเจรจากับรัฐบาลเยอรมนีให้กับจีน ซึ่งฟังดูผิดฝาผิดตัว และถ้าช่วยเหลือจีนถึงขนาดนี้ ไทยจะมีอำนาจในการต่อรองเรียกค่าชดเชย หรือเรียกเงิน 7 พันกว่าล้านที่จ่ายไปแล้วจากจีนได้อย่างไร
ส่วนที่ว่าจีนจะชดเชยด้วยการสนับสนุนอะไหล่ 8 ปี ก็เป็นข้อเสนอเดิมตามสัญญาอยู่แล้ว และยังป็นข้อเสนอที่น้อยเกินไปแต่แรก ไทยซื้อเรือดำน้ำจากจีนตามข้อเสนอแรกคือใช้เครื่องยนต์เยอรมัน แต่พอหาเครื่องยนต์เยอรมันให้ไม่ได้ ถ้าต้องเปลี่ยนก็ควรต้องมีการชดเชยที่ดีกว่านี้ ให้คุ้มกับความเสี่ยงที่ไทยจะต้องยอมรับ เพราะไทยจะต้องใช้เครื่องยนต์รุ่นนี้ก่อนจีนด้วยซ้ำ
ประเทศไทยจ่ายเงินให้จีนไปแล้ว 7 พันกว่าล้าน และจีนไม่สามารถทำตามสัญญาได้ตามกำหนดส่งมอบเดิมคือปลายปีนี้ หาก ครม. ยอมรับข้อเสนอนี้ก็ต้องใช้เวลาอีก 40 เดือนเป็นอย่างน้อย สรุปได้ว่า ผบ.ทร จะเสนอเรื่องให้ ครม.แก้ไขสัญญาแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ใหม่โดยแก้ไขแค่ยี่ห้อเครื่องยนต์ และวันสิ้นสุดสัญญาที่เลื่อนออกไปจากเดิมอีก 40 เดือนเท่านั้น
จิรัฏฐ์ยังกล่าวต่อไป ว่าสุดท้ายแล้ว ไทยควรยกเลิกสัญญา และเจรจาค่าเสียหายชดเชยให้ได้มากที่สุด และกลับไปเริ่มนับหนึ่งใหม่ หากเรือดำน้ำสำคัญกับยุทธศาสตร์ของประเทศจริง
“การดำเนินการจัดหาใหม่ จะทำให้เราได้ข้อเสนอจากผู้ขายที่ดีกว่านี้มาก อ้างอิงข้อเสนอจากหลายประเทศที่เสนอเข้ามาแข่งก่อนกองทัพเรือจะยกงานนี้ให้จีน ทั้งเรื่องผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และเรือดำน้ำที่มีสมรรถนะและประสิทธิภาพสูงกว่า ในราคาที่ดีกว่าสัญญาเดิมที่กองทัพเรือไทยพยายามปกป้องผู้ขายสุดชีวิตแบบนี้” จิรัฏฐ์กล่าว
ส.ส.กานต์ ซัดรัว 11 เรื่องใน 2 นาที คาใจผับ 6 ปีไม่มีใบอนุญาต แนะ รบ.อยากปราบมาเฟีย รุดแก้ด่วน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4193386
ส.ส.กานต์ ซัดรัว 11 เรื่องใน 2 นาที คาใจผับ 6 ปีไม่มีใบอนุญาต แนะ รบ.อยากปราบมาเฟีย รุดแก้ด่วน
เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา น.ส.ภัสริน รามวงศ์ หรือ กานต์ ส.ส.กรุงเทพมหานคร เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดเผยต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 16 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่1) โดยนำข้อมูลที่ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน และปัญหาอื่นๆ ได้รับทราบจากการทำงานในพื้นที่และเยี่ยมเยียนชุมชนต่างๆ รวม 11 เรื่อง ได้แก่
1.สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน จัดกิจกรรมรับน้อง มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต 2.คอนโดมีเนียมขนาดใหญ่ของกองทัพไทย แยกประชานุกูล 3.สถานบันเทิงเปิดกิจการมา 6 ปี โดยที่ไม่มีใบอนุญาตทางกฎหมาย แต่ตำรวจเอาผิดไม่ได้ ชวนตั้งคำถามเปิดมาได้อย่างไรถึง 6 ปี 4.อุโมงค์บางซื่อน้ำท่วมระบายไม่ทันเมื่อฝนตก ประชาชนประสบอุบัติเหตุ
5.พื้นที่จอดรถในอาคารรัฐสภามีไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ต้องไปจอดในพื้นที่ชุมชน 6.ปัญหาจากโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ 7.ถนนในชุมชนโชติวัฒน์เป็นหลุมอุกกาบาต มืดมิด ไม่มีไฟส่องสว่าง และไม่มีการปรับปรุง 8.บริเวณสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีวงศ์สว่าง มีไฟฟ้าส่องสว่างไม่เพียงพอ 9.ริมทางรถไฟบางซ่อนกลายเป็นที่ทิ้งขยะทั้งเล็กและใหญ่ ไม่มีไฟส่องสว่างเพียงพอ มืดทั้งเส้น ดู GPS ลำบาก10.สายไฟสื่อสารในชุมชนระโยงระยางไม่มีการจัดระเบียบ อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุด้านการใช้ไฟฟ้า และ 11.บริเวณเรียบคลองสามเสน พื้นที่ชุมชนวัดสวัสดิ์วารีสีมาราม เขตดุสิต ไม่มีไฟส่องสว่างมาเป็นเวลานาน และไม่ได้รับการแก้ไข
น.ส.ภัสรินกล่าวว่า วันนี้ตนนำ 11 เรื่อง ในเขตบางซื่อดุสิต กรุงเทพมหานครเขต 7 เข้าปรึกษาหารือในสภาผู้แทนราษฎร ในเวลาที่รัฐสภากำหนดให้ 2 นาที ส่งเสียงปัญหาที่ซุกไว้มาเนิ่นนานให้ได้รับการแก้ไขในฐานะผู้แทนราษฏรที่ประชาชนเลือกมาทำงาน ที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนกรณีสถานบันเทิงชื่อดัง ถนนกรุงเทพ-นนทบุรี แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ว่าชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากเสียงดัง ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ 2561 จนถึงปัจจุบันยังไม่ได้รับการแก้ไข
“สถานบันเทิงชื่อดังย่านบางซ่อนตั้งอยู่บนพื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ติดอยู่กับที่พักอาศัยชุมชน ประชาชนใช้ชีวิตลำบากอย่างยากยิ่ง ผวาเสียงเพลงดังทะลุไปยังโสตว่าปล่อยสถานบันเทิงนี้เปิดมาได้อย่างไรถึง 6 ปี โดยไม่มีใบอนุญาต ดิฉันเคยได้ชมคลิปจากชาวบ้านที่ส่งมาให้ดู ซึ่งประเด็นที่สงสัยคือ 6 ปี รอดมาได้อย่างไร
จากการตรวจสอบหลักฐานจากสำนักงานเขต มีการร้องเรียนมาตั้งแต่ปี 2561 ไปร้องว่าเจ้าของร้านกระทำความผิด ทางเจ้าหน้าที่เขตมาดูแล้วก็ยังปิดไม่ได้ ถ้าในประเทศนี้จะเปิดบาร์จะต้องมีใบอนุญาต ซึ่งจะเกี่ยวกับเงื่อนไขการเปิดร้าน การคุมความดังของเสียง แต่กรณีนี้อยู่มานานได้ขนาดนี้ได้อย่างไร
ชาวบ้านเดือดร้อนมาก คุณยายตาดำๆ นอนไม่หลับเลย เสียงดังถึงตี 2 ตี 3 คุณยายยายคนแก่พอเขาได้ตื่นแล้วก็นอนต่อไม่ได้เลย กลายเป็นว่าวันไหนที่สถานบันเทิงจัดคอนเสิร์ตใหญ่ๆ เชิญนักร้องดังมา เขาเตรียมตัวไปอยู่บ้านญาติไปเลย
ทุกวันนี้ชาวบ้านต้องคอยเช็กข้อมูลจากเพจร้านว่าจะมีการจัดงานไหนอย่างไร แล้วเตรียมย้ายไปอยู่บ้านญาติ มันกลายเป็นว่าเขาต้องยอมรับความไม่ปกติ ให้กลายมาเป็นความปกติ
หากรัฐบาลชุดนี้อยากจะปราบแก๊งมาเฟีย คอร์รัปชั่น ที่เป็นสีเทา ก็ให้ช่วยมาย้อนว่าที่ผ่านมา มันมีอะไรบ้าง ซึ่งเรื่องนี้ควรได้รับการแก้ไข” น.ส.ภัสรินกล่าว
ด้าน น.ส.ศิขรา เกษมอนันต์ ผู้ช่วย ส.ส.กรุงเทพฯ เขตบางซื่อ-ดุสิต พรรคก้าวไกล กล่าวว่า คณะทำงานได้แจ้งทางร้านให้ปรับปรุง แต่สุดท้ายเจ้าของก็ขาดการติดต่อไป ช่วงนี้มีรัฐบาลใหม่ ชาวบ้านรู้แล้วว่าหน่วยงานไหนดูแล ใครเป็นคนรับผิดชอบโดยตรง ที่ผ่านมาเคยมีการร้องเรียนตั้งแต่ปี 2561 คำสั่งปิดก็มี แต่ทำอะไรไม่ได้ ชาวบ้านเกรงว่าจะเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลหรือไม่
“ชาวบ้านร้องมาตั้งแต่ปี 2561 คำสั่งให้ปิดก็มี ทุกวันนี้ยังเหมือนดิม ทางเพจร้านก็ยังอัพเดทอยู่ คอนเน็กชั่นก็น่าจะดี มีการเชิญนักร้องมาตลอด” นางสาวศิขรากล่าว
เอเอฟพี รายงานนทท.จีน ไม่กล้ามาไทย เหตุข่าวลือการลักพาตัว
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/367295
อีกมุม สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า ชาวจีนไม่กล้าเดินทางมาเที่ยวไทย หลังมีข่าวลือแพร่สะพัดบนโลกออนไลน์จีนว่า จะถูกลักพาตัวหากเดินทางมาท่องเที่ยว
โดยเอเอฟพี บอกว่า ก่อนการแพร่ระบาดของโควิด นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางมาเยือนประเทศไทยมากกว่า 10 ล้านคนต่อปี แต่ดูเหมือนว่าตัวเลขดังกล่าวจะฟื้นกลับคืนมาได้ยาก เพราะว่าขณะนี้บนโลกออนไลน์ของจีนมีข่าวลือแพร่สะพัดออกมาว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวไทยจะถูกลักพาตัวไปทำงานที่ชายแดนเมียนมากับกัมพูชา โดยเอเอฟพีได้สัมภาษณ์นักท่องเที่ยวจีนรายหนึ่งที่เดินทางมาเที่ยวไทยกับสามี เธอบอกว่าเกือบจะไม่ได้เดินทางมาเที่ยวไทยเพราะพ่อแม่ไม่อนุญาต เนื่องจากกังวลความปลอดภัย ส่วนเพื่อน ๆ หลายคนก็บอกว่าให้เธอไปสำรวจดูก่อน ถ้าหากปลอดภัย เพื่อน ๆ จะเดินทางตามมา
ความวิตกกังวลเหล่านี้ มีที่มาจากภาพยนตร์เรื่อง No More Bets หนังแนวระทึกขวัญที่สร้างจากเรื่องจริง เกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์รายหนึ่งที่ถูกหลอกลวงมาทำงานในประเทศนิรนามที่คล้ายคลึงกับประเทศไทย แม้บางคนจะทราบดีว่าเรื่องราวในหนังนั้นพูดเกินจริง แต่อดไม่ได้ที่จะกังวลเกี่ยวกับการเดินทางมาท่องเที่ยวในไทย และกลัวถูกลักพาตัวไปกัมพูชาหรือเมียนมา ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นปัญหาใหญ่ที่กระทบต่อภาพลักษณืการท่องเที่ยวของไทยอย่างมาก ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเร่งทำความเข้าใจ เพื่อเรียกความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวจีน ให้เดินทางมาเที่ยวไทยมากขึ้น