นิยาม พระเจ้าในที่นี้ หมายถึง พระเจ้าผู้ประเสริฐ (พระเจ้าผู้สูงสุด : God)
มีคริสตชนเป็นจำนวนมากเชื่อว่า เพียงแค่เชื่อพระเจ้า และต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิต
เมื่อตายไปแล้วจะได้ไปสวรรค์ โดยไม่คำนึงว่าตนเองจะประพฤติอย่างไร
ความเชื่อนี้ถูกต้องตามคำสอนของพระเยซูคริสต์หรือไม่ ?
ข้อพิจารณา
ในคัมภีร์ไบเบิลได้กล่าวถึงเรื่องนี้เป็น 2 แนวทางด้วยกัน
# แนวทางที่ 1 เปาโลได้สอนว่า คนเหล่านี้จะได้รับความรอด (ได้ไปสวรรค์)
(1) กิจการ 2:21
และจะเป็นเช่นนี้คือ ทุกคนที่ร้องขอในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับความรอด
(2) โรม 10:13
เพราะว่า ผู้ที่ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะรอด
# แนวทางที่ 2 พระเยซูคริสต์ได้ตรัสเป็นความนัยว่า คนเหล่านั้นจะไม่ได้รับความรอด (ไม่ได้ไปสวรรค์)
โดยมียอห์นและมัทธิวเป็นผู้บันทึกคำสอนของพระเยซูคริสต์ และยากอบได้สนับสนุนคำสอนของพระองค์
(1) ยอห์น 5:24
เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า
ถ้าใครฟังคำของเราและวางใจผู้ทรงใช้เรามา
คนนั้นก็มีชีวิตนิรันดร์และไม่ถูกพิพากษา แต่ผ่านพ้นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว
(2) ยอห์น 6:47
เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า
ผู้ที่วางใจในเราก็มีชีวิตนิรันดร์
(3) มัทธิว 7:21
ไม่ใช่ทุกคนที่เรียกเราว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า" จะได้เข้าในแผ่นดินสวรรค์
แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระทัยพระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จึงจะเข้าได้
(4) มัทธิว 7:26-27
แต่ทุกคนที่ได้ยินคำเหล่านี้ของเราและไม่ประพฤติตาม ก็เปรียบเสมือนคนที่โง่เขลา สร้างบ้านของตนไว้บนทราย
แล้วฝนก็ตกและน้ำก็ไหลเชี่ยว ลมก็พัดปะทะบ้านนั้น บ้านนั้นก็พังทลายลง และการพังทลายนั้นก็ยิ่งใหญ่”
(5) 1 ยอห์น 2:17
และโลกกับสิ่งที่ยั่วยวนของโลกกำลังล่วงไป
แต่ผู้ที่ประพฤติตามพระทัยของพระเจ้าจะดำรงอยู่เป็นนิตย์
(6) ยากอบ 2:14,22,24
พี่น้องของข้าพเจ้า แม้ใครจะกล่าวว่าตนมีความเชื่อ แต่ไม่ได้ประพฤติตามจะมีประโยชน์อะไร ความเชื่อนั้นจะช่วยให้เขารอดได้หรือ
ท่านก็เห็นแล้วว่า ความเชื่อนั้นทำงานควบคู่กับการประพฤติของเขา และความเชื่อก็สมบูรณ์โดยการประพฤตินั้น
พวกท่านก็เห็นแล้วว่า คนหนึ่งคนใดจะถูกชำระให้ชอบธรรมได้ก็เพราะการประพฤติ และไม่ใช่เพราะความเชื่อเพียงอย่างเดียว
แต่ในขณะเดียวกัน เปาโลได้สอนในทิศทางเดียวกับพระเยซูคริสต์ด้วยเช่นกัน
ทิตัส 3:5-8
พระองค์ก็ทรงช่วยเราให้รอด ไม่ใช่เพราะความชอบธรรมที่เราทำเอง
แต่ด้วยพระเมตตาของพระองค์โดยผ่านการชำระให้บังเกิดใหม่และสร้างใหม่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์
พระวิญญาณองค์นี้แหละที่พระเจ้าประทานให้แก่เราอย่างบริบูรณ์ผ่านทางพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา
เพื่อว่าเมื่อเราถูกชำระให้ชอบธรรมโดยพระคุณของพระองค์แล้ว ก็จะได้เป็นผู้รับมรดกตามที่หวังไว้คือชีวิตนิรันดร์
คำกล่าวนี้สัตย์จริง ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านเน้นเรื่องเหล่านี้
เพื่อพวกที่เชื่อในพระเจ้าแล้วจะได้มุ่งทำการดี
การกระทำเหล่านี้ดีและเป็นประโยชน์กับทุกคน
***
แสดงให้เห็นว่าเมื่อเชื่อพระเจ้าแล้วจะต้องมุ่งทำความดี ซึ่งเป็นผลจากการที่พระเจ้าได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา
รวมทั้งจะต้องทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ตามที่พระเยซูคริสต์ได้ตรัสไว้ในมัทธิว 7:21 จึงจะได้รับความรอดเข้าสู่สวรรค์
สรุป
มีคริสตชนเป็นจำนวนมากที่จะไม่ได้รับความรอดเข้าสู่สวรรค์ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ศรัทธาพระเจ้าอย่างแท้จริง
โดยพวกเขาเชื่อพระเจ้าแต่เพียงเปลือกนอก แต่ภายในจิตใจไม่ได้วางใจพระเจ้าแต่อย่างใด
ดังนั้นผู้ที่เดินในทางชอบธรรมของพระเจ้า พระเจ้าจึงจะนับว่าเขาเป็นคนชอบธรรม เป็นสาวกของพระองค์
และเป็นลูกที่แท้จริงของพระองค์
เมื่อคนชอบธรรมตายไปแล้ว พระเจ้าจะรับไปอยู่ในสวรรค์ชั่วนิรันดร์
***การเดินในทางชอบธรรมของพระเจ้า ประกอบด้วย วางใจพระเจ้า ไม่ทำบาป และมุ่งทำความดี
หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งว่า
รักพระเจ้าและรักทุกคน
แค่เชื่อพระเจ้าจะได้ไปสวรรค์หรือไม่ ?
มีคริสตชนเป็นจำนวนมากเชื่อว่า เพียงแค่เชื่อพระเจ้า และต้อนรับพระเยซูคริสต์เข้ามาในชีวิต
เมื่อตายไปแล้วจะได้ไปสวรรค์ โดยไม่คำนึงว่าตนเองจะประพฤติอย่างไร
ความเชื่อนี้ถูกต้องตามคำสอนของพระเยซูคริสต์หรือไม่ ?
ข้อพิจารณา
ในคัมภีร์ไบเบิลได้กล่าวถึงเรื่องนี้เป็น 2 แนวทางด้วยกัน
# แนวทางที่ 1 เปาโลได้สอนว่า คนเหล่านี้จะได้รับความรอด (ได้ไปสวรรค์)
(1) กิจการ 2:21
และจะเป็นเช่นนี้คือ ทุกคนที่ร้องขอในพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะได้รับความรอด
(2) โรม 10:13
เพราะว่า ผู้ที่ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้าจะรอด
# แนวทางที่ 2 พระเยซูคริสต์ได้ตรัสเป็นความนัยว่า คนเหล่านั้นจะไม่ได้รับความรอด (ไม่ได้ไปสวรรค์)
โดยมียอห์นและมัทธิวเป็นผู้บันทึกคำสอนของพระเยซูคริสต์ และยากอบได้สนับสนุนคำสอนของพระองค์
(1) ยอห์น 5:24
เราบอกความจริงกับพวกท่านว่า ถ้าใครฟังคำของเราและวางใจผู้ทรงใช้เรามา
คนนั้นก็มีชีวิตนิรันดร์และไม่ถูกพิพากษา แต่ผ่านพ้นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว
(2) ยอห์น 6:47
เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ผู้ที่วางใจในเราก็มีชีวิตนิรันดร์
(3) มัทธิว 7:21
ไม่ใช่ทุกคนที่เรียกเราว่า "องค์พระผู้เป็นเจ้า" จะได้เข้าในแผ่นดินสวรรค์
แต่ผู้ที่ปฏิบัติตามพระทัยพระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จึงจะเข้าได้
(4) มัทธิว 7:26-27
แต่ทุกคนที่ได้ยินคำเหล่านี้ของเราและไม่ประพฤติตาม ก็เปรียบเสมือนคนที่โง่เขลา สร้างบ้านของตนไว้บนทราย
แล้วฝนก็ตกและน้ำก็ไหลเชี่ยว ลมก็พัดปะทะบ้านนั้น บ้านนั้นก็พังทลายลง และการพังทลายนั้นก็ยิ่งใหญ่”
(5) 1 ยอห์น 2:17
และโลกกับสิ่งที่ยั่วยวนของโลกกำลังล่วงไป แต่ผู้ที่ประพฤติตามพระทัยของพระเจ้าจะดำรงอยู่เป็นนิตย์
(6) ยากอบ 2:14,22,24
พี่น้องของข้าพเจ้า แม้ใครจะกล่าวว่าตนมีความเชื่อ แต่ไม่ได้ประพฤติตามจะมีประโยชน์อะไร ความเชื่อนั้นจะช่วยให้เขารอดได้หรือ
ท่านก็เห็นแล้วว่า ความเชื่อนั้นทำงานควบคู่กับการประพฤติของเขา และความเชื่อก็สมบูรณ์โดยการประพฤตินั้น
พวกท่านก็เห็นแล้วว่า คนหนึ่งคนใดจะถูกชำระให้ชอบธรรมได้ก็เพราะการประพฤติ และไม่ใช่เพราะความเชื่อเพียงอย่างเดียว
แต่ในขณะเดียวกัน เปาโลได้สอนในทิศทางเดียวกับพระเยซูคริสต์ด้วยเช่นกัน
ทิตัส 3:5-8
พระองค์ก็ทรงช่วยเราให้รอด ไม่ใช่เพราะความชอบธรรมที่เราทำเอง
แต่ด้วยพระเมตตาของพระองค์โดยผ่านการชำระให้บังเกิดใหม่และสร้างใหม่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์
พระวิญญาณองค์นี้แหละที่พระเจ้าประทานให้แก่เราอย่างบริบูรณ์ผ่านทางพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา
เพื่อว่าเมื่อเราถูกชำระให้ชอบธรรมโดยพระคุณของพระองค์แล้ว ก็จะได้เป็นผู้รับมรดกตามที่หวังไว้คือชีวิตนิรันดร์
คำกล่าวนี้สัตย์จริง ข้าพเจ้าปรารถนาให้ท่านเน้นเรื่องเหล่านี้ เพื่อพวกที่เชื่อในพระเจ้าแล้วจะได้มุ่งทำการดี
การกระทำเหล่านี้ดีและเป็นประโยชน์กับทุกคน
***แสดงให้เห็นว่าเมื่อเชื่อพระเจ้าแล้วจะต้องมุ่งทำความดี ซึ่งเป็นผลจากการที่พระเจ้าได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขา
รวมทั้งจะต้องทำตามน้ำพระทัยของพระเจ้า ตามที่พระเยซูคริสต์ได้ตรัสไว้ในมัทธิว 7:21 จึงจะได้รับความรอดเข้าสู่สวรรค์
สรุป
มีคริสตชนเป็นจำนวนมากที่จะไม่ได้รับความรอดเข้าสู่สวรรค์ เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ศรัทธาพระเจ้าอย่างแท้จริง
โดยพวกเขาเชื่อพระเจ้าแต่เพียงเปลือกนอก แต่ภายในจิตใจไม่ได้วางใจพระเจ้าแต่อย่างใด
ดังนั้นผู้ที่เดินในทางชอบธรรมของพระเจ้า พระเจ้าจึงจะนับว่าเขาเป็นคนชอบธรรม เป็นสาวกของพระองค์
และเป็นลูกที่แท้จริงของพระองค์ เมื่อคนชอบธรรมตายไปแล้ว พระเจ้าจะรับไปอยู่ในสวรรค์ชั่วนิรันดร์
***การเดินในทางชอบธรรมของพระเจ้า ประกอบด้วย วางใจพระเจ้า ไม่ทำบาป และมุ่งทำความดี
หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งว่า รักพระเจ้าและรักทุกคน