ไปต่อไม่ไหว! 103 ชีวิตร่ำไห้ ตกงานฟ้าผ่า โรงงานเฟอร์นิเจอร์เลิกจ้าง หลังขาดทุนต่อเนื่อง
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7825648
ไปต่อไม่ไหว! 103 ชีวิตร่ำไห้ พนักงานตกงานฟ้าผ่า โรงงานเฟอร์นิเจอร์ส่งออก ประกาศเลิกจ้าง หลังขาดทุนสะสม เจอทั้งพิษโควิด-สงครามรัสเซีย ยูเครน
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.66 ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 10 ลำปาง มีกลุ่มพนักงานลูกจ้างเป็นจำนวนมากนับ 100 คน ของบริษัทแห่งหนึ่งใน ต.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ส่งออกต่างประเทศ เลิกจ้างพนักงานแบบกะทันหัน
โดยประกาศแจ้งเลิกจ้างให้พนักงานสิ้นสุดการเป็นพนักงานเพียง 18 วัน ทำให้พนักงานได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะจะไม่มีงานทำ และจะไม่มีรายได้เลี้ยงชีพต่อไป จึงออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับทราบปัญหาและช่วยเหลือ ทั้งยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างสัปดาห์สุดท้าย และเป็นการบอกเลิกจ้างที่ถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้
พนักงานที่ถูกเลิกจ้าง จึงเดินทางเข้ามายังสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 10 ลำปาง ตามที่หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัดนัดให้มาพบ เพราะถือว่าเป็นหน่วยงานที่อยู่ใกล้บ้านของพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง เพราะส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งทางจังหวัด โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน 7 หน่วยงาน นำโดย สำนักงานสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำปาง ให้พนักงานทุกคนเขียนคำร้อง และข้อมูลการทำงานของแต่ละคน รวม 103 คน พร้อมทั้งอธิบายขั้นตอน และแนวทางในการช่วยเหลือ
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ทางพนักงานถือกระดาษประกาศบริษัท และหนังสือเลิกจ้างที่มีชื่อของแต่ละคนมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ โดยข้อความประกาศของบริษัท ระบุว่า “
ตามที่บริษัทฯ ได้มีหนังสือเลิกจ้าง แจ้งให้พนักงาน เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2566 จำนวน 103 คน ตามเอกสาร ซึ่งพนักงานทราบถึงการเลิกจ้างแล้ว บริษัทฯ ขอแจ้งอีกครั้งว่า ท่านจะมาทำงานถึงวันที่ 18 ส่วนวันที่ 19 และ 20 เป็นวันเสาร์ และอาทิตย์ และวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ถือว่าสิ้นสุดการเป็นพนักงาน จึงเรียนมาเพื่อทราบ”
ส่วนหนังสือเลิกจ้าง ที่แต่ละคนได้รับ จะมีการระบุชื่อแต่ละคนไว้อย่างชัดเจน ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2566 ซึ่งมีข้อความว่า บริษัทฯ มีความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้ทราบว่า ทางบริษัทฯ จำเป็น และหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องปิดกิจการและเลิกจ้างพักงาน
สืบเนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้เกิดปัญหา ด้านเศรษฐกิจตกต่ำ ทั้งในและต่างประเทศจนถึงปัจจุบัน ประกอบกับบริษัทฯ ประสบภาวะขาดทุนสะสมมาเป็นเวลานาน ขาดสภาพคล่องทางการเงินถึงขั้นวิกฤต จนไม่สามารถประกอบกิจการตามปกติต่อไปได้อย่างที่ท่านได้รับทราบกันมาโดยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา บริษัทฯ พยายามหลีกเลี่ยงการปิดกิจการ และเลิกจ้างพนักงาน โดยหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น แต่กลับแน่ลง โดยมิอาจฟื้นกลับได้ บริษัทฯจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเลิกจ้างท่าน มีผลนับตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป บริษัทฯขอโทษสำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ และขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านได้ให้ความร่วมมือในการทำงานให้กับบริษัทฯ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ลงชื่อ กรรมการผู้จัดการ
ด้านหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ที่เข้ารับข้อร้องเรียน และความเดือดร้อนของพนักงานที่ถูกเลิกจ้างในครั้งนี้ หลังตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงนำเรียนเหตุการณ์ต่อ นาย
ชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางว่า ทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัด ทุกหน่วยงาน ร่วมกันให้บริการพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 10 ลำปาง ต.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานประกอบกิจการ ที่ลูกจ้างถูกเลิกจ้าง เพื่อให้ลูกจ้างได้ยื่นคำร้อง และบันทึกปากคำลูกจ้าง และหน่วยงานกระทรวงแรงงานจังหวัดลำปางมาร่วมให้บริการลูกจ้างตามภารกิจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน
สำหรับบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานในครั้งนี้ จากข้อมูลที่ทางจังหวัดมีการตรวจสอบ ประกอบกิจการผลิต และส่งออกเครื่องเรือน เครื่องใช้จากไม้ ตั้งอยู่ในต.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง มีพนักงานลูกจ้างทั้งสิ้น 189 คน เป็นชาย 62 คน และหญิง 127 คน ประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ และสถานการณ์สงครามรัสเซีย – ยูเครน ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ส่งไปขายที่ประเทศรัสเซีย จึงเลิกจ้างพนักงานลูกจ้าง จำนวน 103 คน โดยยังค้างจ่ายค่าจ้างตั้งแต่วันที่ 1-18 สิงหาคม 2566 และค่าชดเชยการทำงาน รวมเป็นเงินประมาณ 8,000,000 บาท
แนวทางการช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐ จะมีการดำเนินการ ดังนี้
1. สำนักงานสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำปาง รับคำร้องทุกข์เรียกร้องสิทธิประโยชน์ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2541 อาทิ ค่าจ้างค้างจ่าย และค่าชดเชยการทำงาน
2. สำนักงานประกันสังคมจังหวัดลำปาง รับแจ้งและให้คำปรึกษาสิทธิประโยชน์ ตามกฎหมายประกันสังคม
3. สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง และศูนย์บริหารข้อมูลตลาดแรงงานภาคเหนือ บริการสมัครงาน ตำแหน่งงานว่าง โดยมีตำแหน่งงานว่างรองรับมากกว่า 500 อัตรา
4. สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 10 ลำปาง แนะนำ และรับสมัครฝึกอาชีพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานลูกจ้าง ที่เดินทางมาในครั้งนี้ มีทั้งวัยทำงาน และวัยกลางคน ส่วนใหญ่ต่างไม่เข้าใจ ถึงระเบียบกฎหมายแรงงาน จึงนั่งฟังขั้นตอนต่างๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่อธิบายอย่างตั้งใจ และหวังว่า หน่วยงานภาครัฐ จะให้ความช่วยเหลือ และให้ความเป็นธรรมในครั้งนี้ ที่ถูกเลิกจ้างแบบเร็วเกินไป
ซึ่งทางจังหวัดก็ได้ให้ตั้งตัวแทนของกลุ่มพนักงานลูกจ้าง เพื่อให้เข้าติดตาม และรับฟังความคืบหน้าในการช่วยเหลือต่างๆต่อไป ส่วนบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานในครั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะออกหนังสือให้เข้ามาชี้แจงต่อกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้ตกลงกันในการจ่ายเงินช่วยเหลือต่อไป
นาย
ชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง หลังทราบรายงานเหตุการณ์ ก็เดินทางมายังสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 10 ลำปาง พร้อมเยี่ยม และพูดคุยให้กำลังใจพนักงานลูกจ้าง ที่อยู่ในห้องประชุม
ขณะที่กำลังสมัคร และเลือกตำแหน่งงานว่างกับทางเจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดลำปาง โดยให้คำมั่นกับพนักงานว่า จะให้ความเป็นธรรม และช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งเบื้องต้น ก็จะช่วยเหลือเงินตามระเบียบแรงงาน กรณีถูกเลิกจ้างและว่างงาน ที่จะได้รับจากสำนักงานจัดหางานและเงินประกันตน ที่จะได้รับจากประกันสังคม ขอให้ทุกคนสบายใจ อย่าได้วิตกกังวล หน่วยงานจังหวัดที่เกี่ยวข้องพร้อมช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรม
ที่มา
มติชนออนไลน์
ไปต่อไม่ไหวเดือนก.ค.“ธุรกิจเจ๊ง”เกือบ2พันแห่ง
https://www.thansettakij.com/business/economy/573938
ธุรกิจไทยไปต่อไม่ไหว เลิกกิจการเพียบ “พาณิชย์”เผย เฉพาะเดือนก.ค.เจ๊งไปเกือบ2พันแห่ง 7เดือน เลิกกิจการ 18.70% สูงสุดในรอบ10ปี
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าสถานการณ์การดำเนินธุรกิจของผู้ประกบอการไทยว่า การจดทะเบียนเลิกธุรกิจ 7 เดือนแรก ปี 2566 มีจำนวน 8,964 ราย เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (7 เดือนแรก ปี 2565) คิดเป็น 18.70%
โดยเป็นการจดทะเบียนเลิกธุรกิจ 7 เดือนแรกที่สูงสุดในรอบ 10 ปี (ปี 2557 - 2566) ส่วนหนึ่งอาจมาจากธุรกิจมีการปรับตัวตามสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไปทำให้มีการปรับธุรกิจเพื่อเข้าสู่ตลาดจะเห็นได้จากการจดจัดตั้งใหม่ที่สูงและการจดเลิกธุรกิจก็สูงเช่นกัน
สำหรับธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนกรกฎาคม 2566 มีจำนวน 1,867 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 7,527.92 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดย3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 175 ราย คิดเป็น 9% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 103 ราย คิดเป็น 6% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 43 ราย คิดเป็น 2% ตามลำดับ
ทั้งนี้ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,342 ราย คิดเป็น 71.88% ช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 455 ราย คิดเป็น 24.37% ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 63 ราย คิดเป็น 3.37% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 7 ราย คิดเป็น 0.37% ตามลำดับ
ราคาข้าวพุ่งไม่หยุด! มหาสารคามข้าวสาร ขึ้นกิโลฯ ละ 5 บาท
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/362857
นางสาว
วิภาดา จิตรหนักแน่น เจ้าของร้านเฮียสามข้าวแกง 10 บาท ถนนเลี่ยงเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า ราคาข้าวสารปรับราคาขึ้นมา 2 สัปดาห์แล้ว ล่าสุด กระสอบ 40 กิโลฯ ปรับขึ้นมา 200 บาท หรือ กิโลฯ ละ 5 บาท และไม่มั่นใจจะปรับขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าร้านต้องแบกรับต้นทุนสูงขึ้นมาก เพราะนอกจากข้าวสารจะขึ้นราคาแล้ว ก็ยังมีแก๊สกับไข่ไก่ ที่ทางผู้ประกอบการแจ้งว่าใกล้จะมีการปรับราคาเช่นกัน
ขณะที่ชาวนาในจังหวัดอุทัยธานี น้ำตาตกเพราะฝนทิ้งช่วง ทำต้นข้าวรอวันตาย อย่างที่ตำบลทุ่งพง อำเภอหนองฉาง ข้าวอายุ 2 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องการน้ำมาก กำลังรอวันยืนต้นตาย นับพันไร่ / หลายแปลงรอไม่ไหว ยืนต้นตายไปแล้วก็มี ส่งผลเงินที่ลงทุนไป กลายเป็นหนี้เป็นสิน สวนทางกับราคาข้าวเปลือกที่วันนี้พุ่งไปถึงตันละ 13,000 บาท ซึ่งชาวนาได้แต่หวังว่า จะมีการตั้งรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว และเข้ามาเร่งรัดโครงการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรอย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นความหวังที่รอกันมาอย่างยาวนาน
ขณะที่ชาวสวนมังคุดที่จังกหวัดนครศรีธรรมราช ประสบปัญหาราคามังุคุดตกต่ำ จากพ่อค้าคนกลางเข้าไปกดราคารับซื้อ ล่าสุดนาย
วัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่นำผู้ประกอบการล้ง , ผู้ส่งออก , ห้างค้า-ส่งค้าปลีก และตลาดลาง เข้าไปรับซื้อมังคุดตรงจากสวน จำนวน 12,950 ตัน เพื่อช่วยดูดซับผลผลิตและดูแลราคาให้กับชาวสวน ล่าสุดเกรดผิวมันขึ้นมาอยู่ที่ 50 บาทต่อกิโลกรัม เกรดคละ 30 บาท พร้อมเพิ่มช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์ โดยได้มอบกล่องไปรษณีย์ พร้อมติดสติกเกอร์ นำไปส่งที่ไปรษณีย์ได้เลยทั่วประเทศ ส่วนกรณีพ่อค้าคนกลางเข้าไปกดราคารับซื้อ จะเร่งตรวจสอบ หากพบมีการกระทำความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที
พิษเอลนีโญลามฉุดผลผลิตยางพาราวูบ
https://www.khaosod.co.th/economics/news_7825640
นาย
ณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์เอลนีโญที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะแหล่งผลิตยางพาราสำคัญของโลก ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย ส่งผลให้ผลผลิตยางพารามีแนวโน้มลดลง 2% ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 แม้จะยังมีปริมาณยางในสต๊อกของโลกมีแนวโน้มยางในสต๊อกลดลง ประเทศผู้ใช้หันมานำเข้าเพิ่มขึ้น เชื่อว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาซื้อขายยางพาราปรับตัวสูงขึ้นได้
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมยางอาจได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลก ผลผลิตต่อไร่มีแนวโน้มลดลงเนื่องจากปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศ อาจส่งผลให้ระดับราคาปรับตัวสูงขึ้นได้ในอนาคต โดย กยท. ยังคงเฝ้าระวังแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในช่วงครึ่งหลังปี 2566 ส่งผลให้รัฐบาลจากหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ เยอรมัน ญี่ปุ่น และจีน เริ่มมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงความต้องการของผลิตภัณฑ์ยางพาราที่มีมากขึ้น
JJNY : 6in1 ตกงานฟ้าผ่า│เจ๊งเกือบ2พันแห่ง│ข้าวพุ่งไม่หยุด!│ผลผลิตยางพาราวูบ│‘ทัศนีย์’ลาออก พท.│ธิดาเชื่อเสื้อแดงยินดี
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7825648
เมื่อวันที่ 21 ส.ค.66 ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 10 ลำปาง มีกลุ่มพนักงานลูกจ้างเป็นจำนวนมากนับ 100 คน ของบริษัทแห่งหนึ่งใน ต.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งเป็นโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ส่งออกต่างประเทศ เลิกจ้างพนักงานแบบกะทันหัน
โดยประกาศแจ้งเลิกจ้างให้พนักงานสิ้นสุดการเป็นพนักงานเพียง 18 วัน ทำให้พนักงานได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เพราะจะไม่มีงานทำ และจะไม่มีรายได้เลี้ยงชีพต่อไป จึงออกมาเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับทราบปัญหาและช่วยเหลือ ทั้งยังไม่ได้รับเงินค่าจ้างสัปดาห์สุดท้าย และเป็นการบอกเลิกจ้างที่ถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้
พนักงานที่ถูกเลิกจ้าง จึงเดินทางเข้ามายังสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 10 ลำปาง ตามที่หน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัดนัดให้มาพบ เพราะถือว่าเป็นหน่วยงานที่อยู่ใกล้บ้านของพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง เพราะส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งทางจังหวัด โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน 7 หน่วยงาน นำโดย สำนักงานสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำปาง ให้พนักงานทุกคนเขียนคำร้อง และข้อมูลการทำงานของแต่ละคน รวม 103 คน พร้อมทั้งอธิบายขั้นตอน และแนวทางในการช่วยเหลือ
สำหรับกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ทางพนักงานถือกระดาษประกาศบริษัท และหนังสือเลิกจ้างที่มีชื่อของแต่ละคนมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ โดยข้อความประกาศของบริษัท ระบุว่า “ตามที่บริษัทฯ ได้มีหนังสือเลิกจ้าง แจ้งให้พนักงาน เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2566 จำนวน 103 คน ตามเอกสาร ซึ่งพนักงานทราบถึงการเลิกจ้างแล้ว บริษัทฯ ขอแจ้งอีกครั้งว่า ท่านจะมาทำงานถึงวันที่ 18 ส่วนวันที่ 19 และ 20 เป็นวันเสาร์ และอาทิตย์ และวันที่ 21 สิงหาคม 2566 ถือว่าสิ้นสุดการเป็นพนักงาน จึงเรียนมาเพื่อทราบ”
ส่วนหนังสือเลิกจ้าง ที่แต่ละคนได้รับ จะมีการระบุชื่อแต่ละคนไว้อย่างชัดเจน ลงวันที่ 4 สิงหาคม 2566 ซึ่งมีข้อความว่า บริษัทฯ มีความเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่จะแจ้งให้ทราบว่า ทางบริษัทฯ จำเป็น และหลีกเลี่ยงไม่ได้ ที่จะต้องปิดกิจการและเลิกจ้างพักงาน
สืบเนื่องจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้เกิดปัญหา ด้านเศรษฐกิจตกต่ำ ทั้งในและต่างประเทศจนถึงปัจจุบัน ประกอบกับบริษัทฯ ประสบภาวะขาดทุนสะสมมาเป็นเวลานาน ขาดสภาพคล่องทางการเงินถึงขั้นวิกฤต จนไม่สามารถประกอบกิจการตามปกติต่อไปได้อย่างที่ท่านได้รับทราบกันมาโดยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา บริษัทฯ พยายามหลีกเลี่ยงการปิดกิจการ และเลิกจ้างพนักงาน โดยหวังว่าสถานการณ์ต่างๆ จะดีขึ้น แต่กลับแน่ลง โดยมิอาจฟื้นกลับได้ บริษัทฯจึงมีความจำเป็นที่จะต้องเลิกจ้างท่าน มีผลนับตั้งแต่วันที่ 21 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป บริษัทฯขอโทษสำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ และขอขอบพระคุณท่านเป็นอย่างยิ่ง ที่ท่านได้ให้ความร่วมมือในการทำงานให้กับบริษัทฯ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ลงชื่อ กรรมการผู้จัดการ
ด้านหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงาน ที่เข้ารับข้อร้องเรียน และความเดือดร้อนของพนักงานที่ถูกเลิกจ้างในครั้งนี้ หลังตรวจสอบข้อเท็จจริง จึงนำเรียนเหตุการณ์ต่อ นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางว่า ทางสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำปาง พร้อมด้วยหน่วยงานสังกัดกระทรวงแรงงานในจังหวัด ทุกหน่วยงาน ร่วมกันให้บริการพนักงานที่ถูกเลิกจ้าง ณ สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 10 ลำปาง ต.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานประกอบกิจการ ที่ลูกจ้างถูกเลิกจ้าง เพื่อให้ลูกจ้างได้ยื่นคำร้อง และบันทึกปากคำลูกจ้าง และหน่วยงานกระทรวงแรงงานจังหวัดลำปางมาร่วมให้บริการลูกจ้างตามภารกิจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน
สำหรับบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานในครั้งนี้ จากข้อมูลที่ทางจังหวัดมีการตรวจสอบ ประกอบกิจการผลิต และส่งออกเครื่องเรือน เครื่องใช้จากไม้ ตั้งอยู่ในต.ห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง มีพนักงานลูกจ้างทั้งสิ้น 189 คน เป็นชาย 62 คน และหญิง 127 คน ประสบภาวะขาดทุนต่อเนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ และสถานการณ์สงครามรัสเซีย – ยูเครน ซึ่งสินค้าส่วนใหญ่ส่งไปขายที่ประเทศรัสเซีย จึงเลิกจ้างพนักงานลูกจ้าง จำนวน 103 คน โดยยังค้างจ่ายค่าจ้างตั้งแต่วันที่ 1-18 สิงหาคม 2566 และค่าชดเชยการทำงาน รวมเป็นเงินประมาณ 8,000,000 บาท
แนวทางการช่วยเหลือของหน่วยงานภาครัฐ จะมีการดำเนินการ ดังนี้
1. สำนักงานสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำปาง รับคำร้องทุกข์เรียกร้องสิทธิประโยชน์ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 2541 อาทิ ค่าจ้างค้างจ่าย และค่าชดเชยการทำงาน
2. สำนักงานประกันสังคมจังหวัดลำปาง รับแจ้งและให้คำปรึกษาสิทธิประโยชน์ ตามกฎหมายประกันสังคม
3. สำนักงานจัดหางานจังหวัดลำปาง และศูนย์บริหารข้อมูลตลาดแรงงานภาคเหนือ บริการสมัครงาน ตำแหน่งงานว่าง โดยมีตำแหน่งงานว่างรองรับมากกว่า 500 อัตรา
4. สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 10 ลำปาง แนะนำ และรับสมัครฝึกอาชีพ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานลูกจ้าง ที่เดินทางมาในครั้งนี้ มีทั้งวัยทำงาน และวัยกลางคน ส่วนใหญ่ต่างไม่เข้าใจ ถึงระเบียบกฎหมายแรงงาน จึงนั่งฟังขั้นตอนต่างๆ ที่ทางเจ้าหน้าที่อธิบายอย่างตั้งใจ และหวังว่า หน่วยงานภาครัฐ จะให้ความช่วยเหลือ และให้ความเป็นธรรมในครั้งนี้ ที่ถูกเลิกจ้างแบบเร็วเกินไป
ซึ่งทางจังหวัดก็ได้ให้ตั้งตัวแทนของกลุ่มพนักงานลูกจ้าง เพื่อให้เข้าติดตาม และรับฟังความคืบหน้าในการช่วยเหลือต่างๆต่อไป ส่วนบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานในครั้งนี้ ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะออกหนังสือให้เข้ามาชี้แจงต่อกรณีที่เกิดขึ้น เพื่อจะได้ตกลงกันในการจ่ายเงินช่วยเหลือต่อไป
นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง หลังทราบรายงานเหตุการณ์ ก็เดินทางมายังสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 10 ลำปาง พร้อมเยี่ยม และพูดคุยให้กำลังใจพนักงานลูกจ้าง ที่อยู่ในห้องประชุม
ขณะที่กำลังสมัคร และเลือกตำแหน่งงานว่างกับทางเจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดลำปาง โดยให้คำมั่นกับพนักงานว่า จะให้ความเป็นธรรม และช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ซึ่งเบื้องต้น ก็จะช่วยเหลือเงินตามระเบียบแรงงาน กรณีถูกเลิกจ้างและว่างงาน ที่จะได้รับจากสำนักงานจัดหางานและเงินประกันตน ที่จะได้รับจากประกันสังคม ขอให้ทุกคนสบายใจ อย่าได้วิตกกังวล หน่วยงานจังหวัดที่เกี่ยวข้องพร้อมช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรม
ที่มา มติชนออนไลน์
ไปต่อไม่ไหวเดือนก.ค.“ธุรกิจเจ๊ง”เกือบ2พันแห่ง
https://www.thansettakij.com/business/economy/573938
ธุรกิจไทยไปต่อไม่ไหว เลิกกิจการเพียบ “พาณิชย์”เผย เฉพาะเดือนก.ค.เจ๊งไปเกือบ2พันแห่ง 7เดือน เลิกกิจการ 18.70% สูงสุดในรอบ10ปี
แหล่งข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าสถานการณ์การดำเนินธุรกิจของผู้ประกบอการไทยว่า การจดทะเบียนเลิกธุรกิจ 7 เดือนแรก ปี 2566 มีจำนวน 8,964 ราย เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (7 เดือนแรก ปี 2565) คิดเป็น 18.70%
โดยเป็นการจดทะเบียนเลิกธุรกิจ 7 เดือนแรกที่สูงสุดในรอบ 10 ปี (ปี 2557 - 2566) ส่วนหนึ่งอาจมาจากธุรกิจมีการปรับตัวตามสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไปทำให้มีการปรับธุรกิจเพื่อเข้าสู่ตลาดจะเห็นได้จากการจดจัดตั้งใหม่ที่สูงและการจดเลิกธุรกิจก็สูงเช่นกัน
สำหรับธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนกรกฎาคม 2566 มีจำนวน 1,867 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 7,527.92 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการเลิกกิจการในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดย3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 175 ราย คิดเป็น 9% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 103 ราย คิดเป็น 6% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 43 ราย คิดเป็น 2% ตามลำดับ
ทั้งนี้ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,342 ราย คิดเป็น 71.88% ช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 455 ราย คิดเป็น 24.37% ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 63 ราย คิดเป็น 3.37% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 7 ราย คิดเป็น 0.37% ตามลำดับ
ราคาข้าวพุ่งไม่หยุด! มหาสารคามข้าวสาร ขึ้นกิโลฯ ละ 5 บาท
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/362857
นางสาววิภาดา จิตรหนักแน่น เจ้าของร้านเฮียสามข้าวแกง 10 บาท ถนนเลี่ยงเมืองมหาสารคาม กล่าวว่า ราคาข้าวสารปรับราคาขึ้นมา 2 สัปดาห์แล้ว ล่าสุด กระสอบ 40 กิโลฯ ปรับขึ้นมา 200 บาท หรือ กิโลฯ ละ 5 บาท และไม่มั่นใจจะปรับขึ้นอีกหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าร้านต้องแบกรับต้นทุนสูงขึ้นมาก เพราะนอกจากข้าวสารจะขึ้นราคาแล้ว ก็ยังมีแก๊สกับไข่ไก่ ที่ทางผู้ประกอบการแจ้งว่าใกล้จะมีการปรับราคาเช่นกัน
ขณะที่ชาวนาในจังหวัดอุทัยธานี น้ำตาตกเพราะฝนทิ้งช่วง ทำต้นข้าวรอวันตาย อย่างที่ตำบลทุ่งพง อำเภอหนองฉาง ข้าวอายุ 2 เดือน ซึ่งเป็นช่วงที่ต้องการน้ำมาก กำลังรอวันยืนต้นตาย นับพันไร่ / หลายแปลงรอไม่ไหว ยืนต้นตายไปแล้วก็มี ส่งผลเงินที่ลงทุนไป กลายเป็นหนี้เป็นสิน สวนทางกับราคาข้าวเปลือกที่วันนี้พุ่งไปถึงตันละ 13,000 บาท ซึ่งชาวนาได้แต่หวังว่า จะมีการตั้งรัฐบาลชุดใหม่โดยเร็ว และเข้ามาเร่งรัดโครงการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรอย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นความหวังที่รอกันมาอย่างยาวนาน
ขณะที่ชาวสวนมังคุดที่จังกหวัดนครศรีธรรมราช ประสบปัญหาราคามังุคุดตกต่ำ จากพ่อค้าคนกลางเข้าไปกดราคารับซื้อ ล่าสุดนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่นำผู้ประกอบการล้ง , ผู้ส่งออก , ห้างค้า-ส่งค้าปลีก และตลาดลาง เข้าไปรับซื้อมังคุดตรงจากสวน จำนวน 12,950 ตัน เพื่อช่วยดูดซับผลผลิตและดูแลราคาให้กับชาวสวน ล่าสุดเกรดผิวมันขึ้นมาอยู่ที่ 50 บาทต่อกิโลกรัม เกรดคละ 30 บาท พร้อมเพิ่มช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์ โดยได้มอบกล่องไปรษณีย์ พร้อมติดสติกเกอร์ นำไปส่งที่ไปรษณีย์ได้เลยทั่วประเทศ ส่วนกรณีพ่อค้าคนกลางเข้าไปกดราคารับซื้อ จะเร่งตรวจสอบ หากพบมีการกระทำความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที
พิษเอลนีโญลามฉุดผลผลิตยางพาราวูบ
https://www.khaosod.co.th/economics/news_7825640
นายณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า สถานการณ์เอลนีโญที่เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะแหล่งผลิตยางพาราสำคัญของโลก ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย ส่งผลให้ผลผลิตยางพารามีแนวโน้มลดลง 2% ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2568 แม้จะยังมีปริมาณยางในสต๊อกของโลกมีแนวโน้มยางในสต๊อกลดลง ประเทศผู้ใช้หันมานำเข้าเพิ่มขึ้น เชื่อว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาซื้อขายยางพาราปรับตัวสูงขึ้นได้
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมยางอาจได้รับปัจจัยบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลทั่วโลก ผลผลิตต่อไร่มีแนวโน้มลดลงเนื่องจากปัจจัยด้านสภาพภูมิอากาศ อาจส่งผลให้ระดับราคาปรับตัวสูงขึ้นได้ในอนาคต โดย กยท. ยังคงเฝ้าระวังแนวโน้มการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในช่วงครึ่งหลังปี 2566 ส่งผลให้รัฐบาลจากหลายประเทศ ได้แก่ สหรัฐฯ เยอรมัน ญี่ปุ่น และจีน เริ่มมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงความต้องการของผลิตภัณฑ์ยางพาราที่มีมากขึ้น