สองข้างทางที่นพ ขับผ่าน ท้องถนนเต็มไปด้วยคราบเลือด และสารพัดรถจอดระเกะระกะไปหมด
ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ขับมาถึงห้างสรรพสินค้าแล้ว แต่นพ ไม่สามารถนำรถเข้าไปยังอาคารจอดรถได้เพราะมีรถขวางทางยาวเหยียด นพ เพียงแต่ได้
นำรถไปจอดหน้าห้างฯ แล้วทุกคนก็ลงจากรถเดินเข้าไปในห้าง วิ ดูมีท่าทีระริระรี้กว่าใครเพื่อน
" ไม่ได้มาเดินช้อปปิ้งนานมากแล้ว มัวแต่ทำงาน "
" ช้อปฯออนไลน์ก็ได้นิ "
" ช้อปฯ ออนไลน์ หนูนะตัวแม่นะคะ "
" ช้อปฯ ออนไลน์ ยังไง ๆ ก็สู้มาช้อปในห้างฯ ไม่ได้หรอกค่ะ ยิ่งเป็นพวกของที่สวมใส่ด้วยแล้ว มาลองสัมผัสสวมใส่จริงๆจะดีกว่า "
" จริงของ วิ " สองลุงพูดพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
" ผมว่า เอาแบบนี้ดีกว่า เราแยกกันช้อปฯ จะได้ไม่เสียเวลา เพราะต่างคนต่างชอบของไม่เหมือนกันจะได้เลือกให้เต็มที่ ดีไหม "
" ดีเหมือนกันค่ะ วิ เองก็เกรงใจหากต้องตามวิ ไปเลือกของที่วิ ชอบ "
" ถ้างั้นเป็นอันตกลงตามนี้ อีกสองชั่วโมงไปเจอกันชั้นใต้ดินแผนกซุปเปอร์มาเก็ต " นพ นัดแนะ
บัด แยกตัวเดินเลี้ยวซ้ายไปยังร้านนาฬิกาแบรนด์ดัง เขาเดินเข้าไปหาตามตู้โชว์ต่างๆ มองหารุ่นลิมิเต็ดที่กำลังพูดถึงกันอยู่ในโลกออนไลน์ ว่า
ต่อให้มีตังค์มากขนาดไหนก็ซื้อตอนนี้ยังไม่ได้ เพราะถูกจองหมดแล้ว หากจะซื้อต้องไปซื้อต่อจากพวกที่จอง มีตังค์อย่างเดียวแต่หากไม่ได้เป็นสาวก
ของแบรนด์ก็ไม่สามารถสั่งจองได้ จะต้องเป็นลูกค้าที่อุดหนุนสินค้าของแบรนด์จนเข้าเกณฑ์กำหนดถึงจะจองรุ่นลิมิเต็ดได้ วันนี้ บัดได้มาเห็นเรือนจริง
แถมยังได้เอามาขึ้นข้อด้วย มันช่างมีความสุขเหมือนฝันจริงๆ เขาหยิบมันขึ้นมาดู แล้วนึกในใจ งานเนี๊ยบสุดๆ มิน่าทำไมถึงแพง ไม่มีเพชรสักเม็ด แต่
แพงโคดๆ ไหนลองเอามาขึ้นข้อดูจะเท่ป่ะ บัด หยิบมาสวมใส่บนข้อมือซ้าย โห..... เท่ไม่เบา
ไปดูแบบฝังเพชรบ้างดีกว่า ไหนๆ ก็ ไหนๆ บัด หยิบขึ้นมาใส่ โห .....หนักจังว่ะ อ่านเวลายาก แต่งามแต้ๆ เขาสะบัดข้อมือไปมาเบาๆ
วิ เดินตรงไปด้านใน แล้วเลี้ยวเข้าร้านขายเครื่องสำอางค์ หยิบลิปสติกมาลองทา หยิบเซรั่ม หยิบแป้งพัฟมาโปะหน้า ทาคิ้ว ทาตา สนุกกับการ
เสริมสวย
นพ เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นสอง มองๆ หา ไม่มี เดินขึ้นบันไดเลื่อนต่อไปยังชั้นสาม อ่า......... อยู่ชั้นนี้เอง เขาเดินตรงไปยังแผนกอุปกรณ์กีฬา
เขาเดินไปเลือกรองเท้าสตั๊ด เดินไปเลือกชุดสโมสรทีมโปรด แต่ต้องเก็บแขวนตามเดิม แล้วเดินไปหากางเกงบอล และ เสื้อ ที่ไม่มีตราสโมสร พร้อมกับ
เดินไปหยิบถุงมือผู้รักษาประตู เขาเปลี่ยนชุดเป็นผู้รักษาประตูเต็มยศ เคลียร์พื้นที่ หามุมกล้อง และไม่ลืมหยิบลูกฟุตบอลมาเก๊กท่าถ่ายรูป
ล่อไปหลายรูป
เหลือบมองดูนาฬิกาที่โทรศัพท์ ได้เวลานัดเจอทุกคนแล้ว ไปชั้นใต้ดินได้แล้ว นพ ตอบตัวเอง
นพ มาถึงแผนกซุปเปอร์มาเก็ต ก็เห็นสองคนยืนคอยอยู่แล้ว
" อ้าวไหนพวกเราได้อะไรกันมาบ้าง หา.... " นพ ถาม
" วิ หิวแล้ว เราเข้าไปข้างในหาอะไรมานั่งกินตรงฟู้ดคอร์ท แล้วค่อยโชว์ของที่ไปช้อปฯมากันดีไหมคะ "
ทั้งสามก็แยกย้ายไปหยิบของที่ตัวเองชอบกินมานั่งกินที่โต๊ะกัน
วิ มีของที่หยิบมา คือ สารพัดผัก ผลไม้ และ สลัดน้ำมันงา แต่ยังมีไวน์แดงราคาแพง หนึ่งขวด
บัด หยิบ ไส้กรอก แหนม หมูยอ พริกขี้หนู กระเทียมสด และ ผักชี พร้อมสุราพื้นบ้าน
นพ หยิบ ปลาแซลมอน ปูอัด วาซาบิ โชยุ และ เบียร์ดำ
" พวกเราป่วยหนัก แต่ไม่วาย หยิบแอลกอฮอล์มาดื่ม กันนะคะ "
" จริงๆ ผมก็เลิกดื่มมายี่สิบ สามสิบปีแล้วนะ วันนี้เอาซะหน่อย "
" ผมเองก็ไม่ค่อยดื่ม มีบ้างเป็นบางครั้ง พอเข้าสังคมได้ "
" วิ กินมังฯ หรอ " บัด ถาม
" หึ "
" อ้าว ...ไม่กินมังฯ แล้วหยิบผัก ผลไม้มาทำไมเยอะแยะ "
" ลืมตัวค่า กินแต่ผักตลอดตอนเข้าวงการ เพราะต้องรักษาหุ่นน่ะค่ะ "
" วิ ขอชิมไส้กรอกของพี่บัด ได้ไหมคะ สีแปลกดี "
" ไส้กรอกบนโต๊ะน่ะได้ แต่ไส้กรอกของผมไม่ได้ "
HA... HA ... HA ... เสียงหัวเราะเบาๆ ของคนทั้งสาม
" ไส้กรอกอะไรคะ เค็มจัง "
" ไส้กรอกยังไม่ได้อาบน้ำ "
HA ... HA ... HA .... ทุกคนหัวเราะ
" ไส้กรอกทำมาจากเนื้อม้า แน่ะ วิ "
" เนื้อม้า " วิ พูดเสียงดัง
" ชู่ว......ววววว " บัด ทำเสียงให้ทุกคนพูดเบาๆ
" คนเอเชียนี่ก็แปลกดี กินหมา กินงู กันมานมนานหลายชั่วอายุคน พอฝรั่งบอกทารุณสัตว์ หมาเป็นสัตว์เลี้ยง งูเป็นสัตว์ป่า ตอนนี้ใครกิน
ก็จะถูกตราหน้าว่าป่าเถื่อน แล้วดูพวกฝรั่งมันกินม้าได้ ม้า กับ หมา อันไหนมีน้อยกว่ากัน นี่ยังไม่พูดถึงเนื้อจิงโจ้นะ จิงโจ้ในโลกนี้มีอยู่แค่ที่เดียว แต่
พวกมันเอาเนื้อมากินได้ เอาหนังมาทำกระเป๋า รองเท้า เข็มขัดได้ รองเท้าสตั๊ดบางรุ่นยังทำมาจากหนังจิงโจ้เลย กับทีหนังจรเข้ บอกทารุณสัตว์
คนเอเชียก็บ้าจี้เชื่อตามเค้าโดยเฉพาะคนบ้านเราเชื่อฝรั่งง่าย พูดแล้วของขึ้น " นพ บ่น
บัดเห็นพี่นพของขึ้น เลยพูดแทรก เพื่อให้พี่นพ เย็นลง
" เราเอาของมาอวดกันดีกว่า พี่ กับ วิ ช้อปฯอะไรกันมา "
" ไหนของ วิ "
" นี่ ไงคะ " พร้อมยื่นหน้าเข้ามาในโต๊ะ
" ไหนล่ะ "
" ก็อยู่ที่หน้าวิ นี่ไงคะ วิ หยิบตัวทดลองมาแต่งหน้าเล่นๆ วิ ไม่รู้ว่าจะต้องแต่งไปทำไม อีกแล้ว เลยไม่ได้หยิบอะไรมา "
ทุกคนนิ่งเงียบกันไปพักใหญ่ๆ นพ เลยรีบถามบัด เพื่อไม่ให้บรรยากาศมันเงียบ ดูหดหู่ เศร้าหมอง
" บัด ล่ะ ได้อะไร "
" ไม่ได้อะไร เหมือนกันครับพี่ "
" พี่เห็นบัด แวะร้านนาฬิกาแบรนด์ดัง ไม่เจอเรือนที่ชอบหรอ "
" เจอครับพี่ ลองเอาขึ้นข้อแล้วถูกใจมากเลย ยิ่งกว่าฝันเป็นจริง แต่ผมไม่รู้จะเอามันมาทำไมครับพี่ "
ทุกคนนิ่งเงียบกันอีกแล้ว ....................................................................................
" ส่วนของพี่นพ ละคะ "
นพ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา วิ กับ บัด มองดูโทรศัพท์เครื่องนั้นเก่าตกรุ่น เลยสงสัยว่าคืออะไร แต่สองคนยังไม่ทันเอ่ยปากถาม นพ หยิบ
โทรศัพท์ของเขาส่งภาพที่เขาถ่ายไปให้ทุกคนดู
" โอ้โห ... เท่ไม่เบา พี่เรา "
" สมัยเด็กๆ ผมชอบเล่นฟุตบอล แต่ผมเล่นตำแหน่งอื่นไม่ไหว เล่นได้แต่ตำแหน่งผู้รักษาประตู ขนาดเล่นเป็นโกล์ยังหอบเลย ตอนอยู่ชั้นมัธยมต้น
ต้องรีบกินข้าวเที่ยง แล้วไปสนามฟุตบอลของโรงเรียน เพื่อแย่งพื้นที่เล่นบอลกับห้องอื่นๆ และ ชั้นอื่นๆ ด้วย " นพ เล่าด้วยรอยยิ้ม
บัด กับ วิ ก็ยิ้มตาม เพราะรับรู้ถึงความรู้สึกที่มีความสุขของพี่นพ
นพ เล่าต่อ
" บางทีพวกเราก็ท้าแข่งกับเพื่อนห้องอื่น กินตังค์ลูกละ 20 บาท มีครั้งนึง พวกเราเล่นกันเพลิน ออดดังขึ้นเรียนแล้ว เรายังแข่งกันอยู่เลย ห้องเรา
นำไปหนึ่งลูก แต่ห้องนั้นไม่ยอมเลิก ขอแข่งต่อ พวกเราก็มัน เลย..... เลยตามเลย จนรองหัวหน้าห้องผู้หญิงมาตาม เพราะหัวหน้าห้องผู้ชายเล่นเป็น
กองกลางอยู่ในทีม เราเลยต้องเลิก ทุกคนถูกคาดโทษ โดยเฉพาะหัวหน้าห้อง ซึ่งเป็นเด็กเรียนเก่งมาก เกรดสี่ทุกวิชา เล่นกีฬาก็เก่ง หลายอย่างด้วย
เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลโรงเรียน นักปิงปองกีฬาสีโรงเรียน คนบ้าอะไรวะ เก่งเกือบทุกอย่าง อ๋อ.... ยกเว้นวาดรูป "
นพ เล่าเพลิน ลืมสังเกตเพื่อนร่วมโต๊ะ
" หลับกันไปแล้ว "
" บัด วิ ตื่น เราขึ้นไปชั้นห้าไปร้านขายเตียงขายที่นอน ไปขอนอน ในร้านกัน "
" บัด วิ ตื่นๆ ทำเป็นง่วง "
" ตื่น ตื่น ตื่น "
นพ เริ่มผิดสังเกต เลยลุกไปเขย่าตัวบัด กับ วิ แต่ทั้งสองไม่ตอบสนองการปลุกนี้แล้ว เขาทั้งสองได้จากไปเพราะโรคร้ายของแต่ละคน
วิ ต้องเข้ารับการผ่านตัด ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม
บัด เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย รอวันตาย
นพ ทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ มองร่างบัด กับ วิ ใบหน้าของคนทั้งสองมีรอยยิ้ม คล้ายๆกับยิ้มให้กับเรื่องราวที่มีความสุขของนพ
นพ รำพึงอยู่ในใจ รู้จักกับบัด ได้ไม่กี่วัน เหมือนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล ส่วนวิ น้องก็เป็นเทย ที่น่ารัก พวกเธอสองคนหนีไปสบายแล้ว
นะปล่อยให้พี่อยู่คนเดียวแบบนี้ได้ไง โกงกันชัดๆ
นพ เดินไปที่ชั้นไวน์ หยิบเลือกไวน์ราคาแพงๆ มาหลายขวด กลับมาที่โต๊ะเดิม เปิดขวดไวน์ วางไว้หน้าร่างของคนทั้งสอง
" มา ไอ้น้อง วันนี้ไม่เมา ไม่เลิก "
นพ ดื่มขวดแล้ว ขวดเล่า จนฟุบหลับไปกับโต๊ะ
.......................................................................................................................................................................................................
ข้างนอกห้างสรรพสินค้าแดดจ้า มีเสียงรถยนต์มาจอดหน้าห้างฯ มีชายสี่คนลงมาจากรถ ต่างวิ่งลงบันไดเลื่อน มายังชั้นใต้ดิน ตรงไปหาของกิน
" เฮ้ย พวกเรา มีพวกขี้เมา มานอนในนี้ด้วย "
" เฮ้ย ตื่น .... ตื่น .... กู บอกให้ตื่น "
มีชายคนนึงเดินไปเขย่าตัวนพ แล้วสะดุ้ง
" พวกมันตายหมดแล้วพี่ " ชายคนนั้นพูด
.........................................................................................................................................................................................................
ใครจะมองเราอย่างไร ปล่อยให้เขามองไป
ใครจะคิดกับเราอย่างไร ปล่อยให้เขาคิดไป
ใครจะนินทาเราอย่างไร ปล่อยให้เขานินทาไป
ใครอยากตัดสินเราอย่างไร เชิญตามสบาย
แต่ขอให้ใจเราร่มเย็นเป็นพอ .....................
เพราะทุกอย่างมัน ว่างเปล่า ว่างเปล่า ว่างเปล่า
ก่อนที่นพ จะหมดลมหายใจ นพ ได้เขียนข้อความลงบนโต๊ะอาหาร
*** ป.ล. ผู้เขียน ขอจบเรื่องแต่เพียงเท่านี้ ตอนแรกกะจะเขียนให้ได้ 16 ตอน แต่คงไม่ไหว
หวังว่าจะได้รอยยิ้มจากการอ่านเรื่องที่ผมเขียนกลับไป
เกิดอะไรขึ้น ตอนที่ 4 ด่วนสรุป 2 + โชคดีที่ตายก่อน
ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ขับมาถึงห้างสรรพสินค้าแล้ว แต่นพ ไม่สามารถนำรถเข้าไปยังอาคารจอดรถได้เพราะมีรถขวางทางยาวเหยียด นพ เพียงแต่ได้
นำรถไปจอดหน้าห้างฯ แล้วทุกคนก็ลงจากรถเดินเข้าไปในห้าง วิ ดูมีท่าทีระริระรี้กว่าใครเพื่อน
" ไม่ได้มาเดินช้อปปิ้งนานมากแล้ว มัวแต่ทำงาน "
" ช้อปฯออนไลน์ก็ได้นิ "
" ช้อปฯ ออนไลน์ หนูนะตัวแม่นะคะ "
" ช้อปฯ ออนไลน์ ยังไง ๆ ก็สู้มาช้อปในห้างฯ ไม่ได้หรอกค่ะ ยิ่งเป็นพวกของที่สวมใส่ด้วยแล้ว มาลองสัมผัสสวมใส่จริงๆจะดีกว่า "
" จริงของ วิ " สองลุงพูดพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
" ผมว่า เอาแบบนี้ดีกว่า เราแยกกันช้อปฯ จะได้ไม่เสียเวลา เพราะต่างคนต่างชอบของไม่เหมือนกันจะได้เลือกให้เต็มที่ ดีไหม "
" ดีเหมือนกันค่ะ วิ เองก็เกรงใจหากต้องตามวิ ไปเลือกของที่วิ ชอบ "
" ถ้างั้นเป็นอันตกลงตามนี้ อีกสองชั่วโมงไปเจอกันชั้นใต้ดินแผนกซุปเปอร์มาเก็ต " นพ นัดแนะ
บัด แยกตัวเดินเลี้ยวซ้ายไปยังร้านนาฬิกาแบรนด์ดัง เขาเดินเข้าไปหาตามตู้โชว์ต่างๆ มองหารุ่นลิมิเต็ดที่กำลังพูดถึงกันอยู่ในโลกออนไลน์ ว่า
ต่อให้มีตังค์มากขนาดไหนก็ซื้อตอนนี้ยังไม่ได้ เพราะถูกจองหมดแล้ว หากจะซื้อต้องไปซื้อต่อจากพวกที่จอง มีตังค์อย่างเดียวแต่หากไม่ได้เป็นสาวก
ของแบรนด์ก็ไม่สามารถสั่งจองได้ จะต้องเป็นลูกค้าที่อุดหนุนสินค้าของแบรนด์จนเข้าเกณฑ์กำหนดถึงจะจองรุ่นลิมิเต็ดได้ วันนี้ บัดได้มาเห็นเรือนจริง
แถมยังได้เอามาขึ้นข้อด้วย มันช่างมีความสุขเหมือนฝันจริงๆ เขาหยิบมันขึ้นมาดู แล้วนึกในใจ งานเนี๊ยบสุดๆ มิน่าทำไมถึงแพง ไม่มีเพชรสักเม็ด แต่
แพงโคดๆ ไหนลองเอามาขึ้นข้อดูจะเท่ป่ะ บัด หยิบมาสวมใส่บนข้อมือซ้าย โห..... เท่ไม่เบา
ไปดูแบบฝังเพชรบ้างดีกว่า ไหนๆ ก็ ไหนๆ บัด หยิบขึ้นมาใส่ โห .....หนักจังว่ะ อ่านเวลายาก แต่งามแต้ๆ เขาสะบัดข้อมือไปมาเบาๆ
วิ เดินตรงไปด้านใน แล้วเลี้ยวเข้าร้านขายเครื่องสำอางค์ หยิบลิปสติกมาลองทา หยิบเซรั่ม หยิบแป้งพัฟมาโปะหน้า ทาคิ้ว ทาตา สนุกกับการ
เสริมสวย
นพ เดินขึ้นบันไดเลื่อนไปชั้นสอง มองๆ หา ไม่มี เดินขึ้นบันไดเลื่อนต่อไปยังชั้นสาม อ่า......... อยู่ชั้นนี้เอง เขาเดินตรงไปยังแผนกอุปกรณ์กีฬา
เขาเดินไปเลือกรองเท้าสตั๊ด เดินไปเลือกชุดสโมสรทีมโปรด แต่ต้องเก็บแขวนตามเดิม แล้วเดินไปหากางเกงบอล และ เสื้อ ที่ไม่มีตราสโมสร พร้อมกับ
เดินไปหยิบถุงมือผู้รักษาประตู เขาเปลี่ยนชุดเป็นผู้รักษาประตูเต็มยศ เคลียร์พื้นที่ หามุมกล้อง และไม่ลืมหยิบลูกฟุตบอลมาเก๊กท่าถ่ายรูป
ล่อไปหลายรูป
เหลือบมองดูนาฬิกาที่โทรศัพท์ ได้เวลานัดเจอทุกคนแล้ว ไปชั้นใต้ดินได้แล้ว นพ ตอบตัวเอง
นพ มาถึงแผนกซุปเปอร์มาเก็ต ก็เห็นสองคนยืนคอยอยู่แล้ว
" อ้าวไหนพวกเราได้อะไรกันมาบ้าง หา.... " นพ ถาม
" วิ หิวแล้ว เราเข้าไปข้างในหาอะไรมานั่งกินตรงฟู้ดคอร์ท แล้วค่อยโชว์ของที่ไปช้อปฯมากันดีไหมคะ "
ทั้งสามก็แยกย้ายไปหยิบของที่ตัวเองชอบกินมานั่งกินที่โต๊ะกัน
วิ มีของที่หยิบมา คือ สารพัดผัก ผลไม้ และ สลัดน้ำมันงา แต่ยังมีไวน์แดงราคาแพง หนึ่งขวด
บัด หยิบ ไส้กรอก แหนม หมูยอ พริกขี้หนู กระเทียมสด และ ผักชี พร้อมสุราพื้นบ้าน
นพ หยิบ ปลาแซลมอน ปูอัด วาซาบิ โชยุ และ เบียร์ดำ
" พวกเราป่วยหนัก แต่ไม่วาย หยิบแอลกอฮอล์มาดื่ม กันนะคะ "
" จริงๆ ผมก็เลิกดื่มมายี่สิบ สามสิบปีแล้วนะ วันนี้เอาซะหน่อย "
" ผมเองก็ไม่ค่อยดื่ม มีบ้างเป็นบางครั้ง พอเข้าสังคมได้ "
" วิ กินมังฯ หรอ " บัด ถาม
" หึ "
" อ้าว ...ไม่กินมังฯ แล้วหยิบผัก ผลไม้มาทำไมเยอะแยะ "
" ลืมตัวค่า กินแต่ผักตลอดตอนเข้าวงการ เพราะต้องรักษาหุ่นน่ะค่ะ "
" วิ ขอชิมไส้กรอกของพี่บัด ได้ไหมคะ สีแปลกดี "
" ไส้กรอกบนโต๊ะน่ะได้ แต่ไส้กรอกของผมไม่ได้ "
HA... HA ... HA ... เสียงหัวเราะเบาๆ ของคนทั้งสาม
" ไส้กรอกอะไรคะ เค็มจัง "
" ไส้กรอกยังไม่ได้อาบน้ำ "
HA ... HA ... HA .... ทุกคนหัวเราะ
" ไส้กรอกทำมาจากเนื้อม้า แน่ะ วิ "
" เนื้อม้า " วิ พูดเสียงดัง
" ชู่ว......ววววว " บัด ทำเสียงให้ทุกคนพูดเบาๆ
" คนเอเชียนี่ก็แปลกดี กินหมา กินงู กันมานมนานหลายชั่วอายุคน พอฝรั่งบอกทารุณสัตว์ หมาเป็นสัตว์เลี้ยง งูเป็นสัตว์ป่า ตอนนี้ใครกิน
ก็จะถูกตราหน้าว่าป่าเถื่อน แล้วดูพวกฝรั่งมันกินม้าได้ ม้า กับ หมา อันไหนมีน้อยกว่ากัน นี่ยังไม่พูดถึงเนื้อจิงโจ้นะ จิงโจ้ในโลกนี้มีอยู่แค่ที่เดียว แต่
พวกมันเอาเนื้อมากินได้ เอาหนังมาทำกระเป๋า รองเท้า เข็มขัดได้ รองเท้าสตั๊ดบางรุ่นยังทำมาจากหนังจิงโจ้เลย กับทีหนังจรเข้ บอกทารุณสัตว์
คนเอเชียก็บ้าจี้เชื่อตามเค้าโดยเฉพาะคนบ้านเราเชื่อฝรั่งง่าย พูดแล้วของขึ้น " นพ บ่น
บัดเห็นพี่นพของขึ้น เลยพูดแทรก เพื่อให้พี่นพ เย็นลง
" เราเอาของมาอวดกันดีกว่า พี่ กับ วิ ช้อปฯอะไรกันมา "
" ไหนของ วิ "
" นี่ ไงคะ " พร้อมยื่นหน้าเข้ามาในโต๊ะ
" ไหนล่ะ "
" ก็อยู่ที่หน้าวิ นี่ไงคะ วิ หยิบตัวทดลองมาแต่งหน้าเล่นๆ วิ ไม่รู้ว่าจะต้องแต่งไปทำไม อีกแล้ว เลยไม่ได้หยิบอะไรมา "
ทุกคนนิ่งเงียบกันไปพักใหญ่ๆ นพ เลยรีบถามบัด เพื่อไม่ให้บรรยากาศมันเงียบ ดูหดหู่ เศร้าหมอง
" บัด ล่ะ ได้อะไร "
" ไม่ได้อะไร เหมือนกันครับพี่ "
" พี่เห็นบัด แวะร้านนาฬิกาแบรนด์ดัง ไม่เจอเรือนที่ชอบหรอ "
" เจอครับพี่ ลองเอาขึ้นข้อแล้วถูกใจมากเลย ยิ่งกว่าฝันเป็นจริง แต่ผมไม่รู้จะเอามันมาทำไมครับพี่ "
ทุกคนนิ่งเงียบกันอีกแล้ว ....................................................................................
" ส่วนของพี่นพ ละคะ "
นพ หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา วิ กับ บัด มองดูโทรศัพท์เครื่องนั้นเก่าตกรุ่น เลยสงสัยว่าคืออะไร แต่สองคนยังไม่ทันเอ่ยปากถาม นพ หยิบ
โทรศัพท์ของเขาส่งภาพที่เขาถ่ายไปให้ทุกคนดู
" โอ้โห ... เท่ไม่เบา พี่เรา "
" สมัยเด็กๆ ผมชอบเล่นฟุตบอล แต่ผมเล่นตำแหน่งอื่นไม่ไหว เล่นได้แต่ตำแหน่งผู้รักษาประตู ขนาดเล่นเป็นโกล์ยังหอบเลย ตอนอยู่ชั้นมัธยมต้น
ต้องรีบกินข้าวเที่ยง แล้วไปสนามฟุตบอลของโรงเรียน เพื่อแย่งพื้นที่เล่นบอลกับห้องอื่นๆ และ ชั้นอื่นๆ ด้วย " นพ เล่าด้วยรอยยิ้ม
บัด กับ วิ ก็ยิ้มตาม เพราะรับรู้ถึงความรู้สึกที่มีความสุขของพี่นพ
นพ เล่าต่อ
" บางทีพวกเราก็ท้าแข่งกับเพื่อนห้องอื่น กินตังค์ลูกละ 20 บาท มีครั้งนึง พวกเราเล่นกันเพลิน ออดดังขึ้นเรียนแล้ว เรายังแข่งกันอยู่เลย ห้องเรา
นำไปหนึ่งลูก แต่ห้องนั้นไม่ยอมเลิก ขอแข่งต่อ พวกเราก็มัน เลย..... เลยตามเลย จนรองหัวหน้าห้องผู้หญิงมาตาม เพราะหัวหน้าห้องผู้ชายเล่นเป็น
กองกลางอยู่ในทีม เราเลยต้องเลิก ทุกคนถูกคาดโทษ โดยเฉพาะหัวหน้าห้อง ซึ่งเป็นเด็กเรียนเก่งมาก เกรดสี่ทุกวิชา เล่นกีฬาก็เก่ง หลายอย่างด้วย
เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลโรงเรียน นักปิงปองกีฬาสีโรงเรียน คนบ้าอะไรวะ เก่งเกือบทุกอย่าง อ๋อ.... ยกเว้นวาดรูป "
นพ เล่าเพลิน ลืมสังเกตเพื่อนร่วมโต๊ะ
" หลับกันไปแล้ว "
" บัด วิ ตื่น เราขึ้นไปชั้นห้าไปร้านขายเตียงขายที่นอน ไปขอนอน ในร้านกัน "
" บัด วิ ตื่นๆ ทำเป็นง่วง "
" ตื่น ตื่น ตื่น "
นพ เริ่มผิดสังเกต เลยลุกไปเขย่าตัวบัด กับ วิ แต่ทั้งสองไม่ตอบสนองการปลุกนี้แล้ว เขาทั้งสองได้จากไปเพราะโรคร้ายของแต่ละคน
วิ ต้องเข้ารับการผ่านตัด ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม
บัด เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย รอวันตาย
นพ ทรุดตัวลงนั่งกับเก้าอี้ มองร่างบัด กับ วิ ใบหน้าของคนทั้งสองมีรอยยิ้ม คล้ายๆกับยิ้มให้กับเรื่องราวที่มีความสุขของนพ
นพ รำพึงอยู่ในใจ รู้จักกับบัด ได้ไม่กี่วัน เหมือนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ชั้นอนุบาล ส่วนวิ น้องก็เป็นเทย ที่น่ารัก พวกเธอสองคนหนีไปสบายแล้ว
นะปล่อยให้พี่อยู่คนเดียวแบบนี้ได้ไง โกงกันชัดๆ
นพ เดินไปที่ชั้นไวน์ หยิบเลือกไวน์ราคาแพงๆ มาหลายขวด กลับมาที่โต๊ะเดิม เปิดขวดไวน์ วางไว้หน้าร่างของคนทั้งสอง
" มา ไอ้น้อง วันนี้ไม่เมา ไม่เลิก "
นพ ดื่มขวดแล้ว ขวดเล่า จนฟุบหลับไปกับโต๊ะ
.......................................................................................................................................................................................................
ข้างนอกห้างสรรพสินค้าแดดจ้า มีเสียงรถยนต์มาจอดหน้าห้างฯ มีชายสี่คนลงมาจากรถ ต่างวิ่งลงบันไดเลื่อน มายังชั้นใต้ดิน ตรงไปหาของกิน
" เฮ้ย พวกเรา มีพวกขี้เมา มานอนในนี้ด้วย "
" เฮ้ย ตื่น .... ตื่น .... กู บอกให้ตื่น "
มีชายคนนึงเดินไปเขย่าตัวนพ แล้วสะดุ้ง
" พวกมันตายหมดแล้วพี่ " ชายคนนั้นพูด
.........................................................................................................................................................................................................
ใครจะมองเราอย่างไร ปล่อยให้เขามองไป
ใครจะคิดกับเราอย่างไร ปล่อยให้เขาคิดไป
ใครจะนินทาเราอย่างไร ปล่อยให้เขานินทาไป
ใครอยากตัดสินเราอย่างไร เชิญตามสบาย
แต่ขอให้ใจเราร่มเย็นเป็นพอ .....................
เพราะทุกอย่างมัน ว่างเปล่า ว่างเปล่า ว่างเปล่า
ก่อนที่นพ จะหมดลมหายใจ นพ ได้เขียนข้อความลงบนโต๊ะอาหาร
*** ป.ล. ผู้เขียน ขอจบเรื่องแต่เพียงเท่านี้ ตอนแรกกะจะเขียนให้ได้ 16 ตอน แต่คงไม่ไหว
หวังว่าจะได้รอยยิ้มจากการอ่านเรื่องที่ผมเขียนกลับไป