น้าเราเปิดร้านอาหารมานานแล้วที่ต่างจังหวัด วันเสาร์อาทิตย์เราก็จะขับรถไปหาน้าเราบ่อยๆ น้าเรามีลูกซึ่งเป็นพี่สาวเราที่เป็นลูกพี่ลูกน้อง(ขอแทนนามสมมุติว่าพี่เอนะคะ) เราค่อนข้างสนิทและเชื่อใจพี่เอมาก เพราะพี่เอเป็นคนใจดีแถมร่าเริงชอบติดตลกบ่อยๆ น้องสาวเราก็ชอบพี่เอเหมือนกัน ตอนเราไปหาพี่เอ เราชอบเล่าเรื่องที่โรงเรียนให้พี่เอฟัง พี่เอก็รับฟังและเป็นที่ปรึกษาปัญหาชีวิตในโรงเรียนและเรื่องต่างๆให้ แต่พี่เอไม่ชอบเล่าเรื่องตัวเองให้ฟังเท่าไหร่ เราก็เข้าใจเพราะไม่ได้เจอกันบ่อยๆแถมนิสัยเราก็ใช่ว่าจะน่าเชื่อใจเท่าพี่เอด้วย
จนกระทั่งน้าเรามีความคิดว่า จะย้ายร้านมาขายในจังหวัดเรา พี่เอที่เป็นลูกของน้าเราก็จะมาด้วย เราเลยดีใจที่จะมีเพื่อนคุย เพราะสมัยนั้นน้องเราปากสว่างมาก ปรึกษาอะไรไม่ค่อยได้ หลังจากน้าย้ายร้านมาที่จังหวัดเราได้ประมาณ3เดือน ก็ประจวบเหมาะกับที่พี่เอจะสอบเข้ามัธยมพอดี จึงมาสอบเข้ามัธยมที่จังหวัดเราตามพี่สาวเราอีกคน แต่สอบไม่ติดเพราะพี่เอไม่ค่อยจะฉลาด(อันนี้พูดจริงๆค่ะ พี่เอค่อนข้างเรียนไม่เก่งเลย) พี่เอซึมไปเลย แต่พี่เอก็สอบเข้าโรงเรียนที่แม่เราอยู่แทน ข้อสอบไม่ค่อยจะยาก พี่เอเลยผ่านได้สบาย พี่เอเลยกลับมาร่าเริง(เพราะมีหวานใจค่ะ เฮอะ)พอพี่เราเข้าเรียนไปสักพัก แม่เราที่สอนพี่เอ(สอนอังกฤษนะคะ)ก็เล็งเห็นว่าพี่เอเรียนไม่เก่งเลย มาบ่นให้พี่เอว่าทำไมแม้แต่เรื่องที่เป็นพื้นฐานของประถมยังทำไม่เป็น ผ่านมาได้ยังไง ประมาณนี้ค่ะ แล้วก็ลงที่เรียนพิเศษให้พี่เอ และให้พี่เอท่องคำศัพท์มาสอบกับแม่ทุกวันค่ะ โดยให้เรามาช่วยท่องช่วยจำ เพราะถ้าเอาตรงๆแบบไม่อวดเลย ภาษาอังกฤษเราเก่งกว่าพี่เอค่ะ ตั้งแต่ตอนนั้นเหมือนพี่เอไม่ค่อยชอบใจแม่เราแล้ว เพราะการบ้านที่ให้ทำก็หนักพออยู่แล้วยังจะให้ท่องศัพท์อีก แต่พี่เอก็ยอมทำเพราะบอกเราว่าอยากเก่งให้เท่าเราบ้าง เราก็ดีใจแหละที่ไอดอลเราอยากเป็นแบบเรา
แต่พี่เอก็เงียบขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่น้าเราก็ย้ายร้านมาอยู่ใกล้ๆบ้านเราแทน เพราะร้านเดิมมันไกล น้าเลยให้พี่เอต้องขับรถมาเก็บร้านช่วยน้าทุกวัน แรกๆก็เป็นการช่วยปกติ พี่เอล้างจาน น้าเก็บของหน้าร้านปกติ แต่หลังๆแม่เริ่มบอกให้เราไปช่วยด้วย เราก็ไปช่วยพี่เอล้างจานปกติ ผ่านไปสักพักเราเริ่มเห็นว่าน้าเริ่มไม่ช่วยอะไรแล้ว เราก็ถามว่าทำไมไม่ค่อยมาช่วยแล้ว น้าเราก็มองเราแล้วบอกว่า น้าเหนื่อย น้าทำอาหารทั้งวัน ให้น้าพักบ้าง แรกๆก็เข้าใจค่ะว่ามันเหนื่อยจริงๆกับการทำอาหาร แต่ช่วงหลังมานี้น้าเริ่มไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆค่ะ เรากับพี่เอล้างจาน เก็บร้าน ยกโต๊ะยกเก้าอี้กันเองทุกวัน เก็บเครื่องเคียงต่างๆเอง ทำเองทุกอย่างค่ะ วันไหนที่มีจานน้อยเราจะถามน้าตลอดว่าวันนี้จานน้อย วันนี้เหนื่อยรึป่าว ถ้าไม่เหนื่อยมาช่วยหน่อยได้มั้ย เพราะร้านน้าเราก็ไม่ได้เล็ก แต่น้าชอบตอบว่า เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามาเถียง บอกให้ทำก็ทำ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะมาทวงอะไรเยอะแยะ แรกๆเราเฟลนะคะ เพราะเราก็ถามดีๆ แต่พี่เอบอกว่ามาช่วยทุกวันเอง แถมได้ค่าเก็บร้านตั้งครั้งละ20 อย่างน้อยก็เหมือนทำงานแลกเงินนะ เราก็โอเคไปกับพี่เอ แต่มีช่วงนึงที่พี่เอติดเพื่อน เลยล้างจานแบบขอไปทีบ่อยๆ น้าเรามาเห็นก็โมโห บ่นพี่เอชุดใหญ่ ตั้งแต่นั้นพี่เอก็ดูรำคาญกับทุกอย่างที่ถูกสั่งเลยค่ะ กับเราพี่เอจะปกติ คุยเล่นดี๊ด๊า เพราะพี่เอก็เชื่อใจเราและเล่าเรื่องต่างๆให้ฟังมากขึ้น
พี่เอเล่าอย่างมีความสุข เราก็ดีใจที่พี่เอกลับมาร่าเริง แต่ก็แค่ช่วงกลางคืนที่นอนด้วยกันเท่านั้น เพราะวันนึงที่เราเก็บร้านเสร็จช้าเลยไม่ได้ออกมานั่งเล่นพร้อมพี่เอ ตอนเรากำลังเดินไปหาพี่เอ เราก็ได้เห็นค่ะ ว่าพี่เอร้องไห้ เราตกใจแหละแต่ไม่ได้ถามว่าเหนื่อยเรื่องอะไร เพราะกลัวจะเป็นเรื่องที่พี่เอไม่อยากเล่า จนพี่เอโดนแม่เรากดดันมากขึ้น จนพี่เอไม่ค่อยเล่าเรื่องให้เราฟังแล้ว จะฟังแต่เรื่องเล่าของเราอย่างเดียว วันนึงพี่เอไม่สบาย เรามาช่วยเก็บร้านแทน ระหว่างทางมาเราถามแม่ว่าพี่เอเป็นอะไรถึงไม่สบาย แม่บอกว่าเพราะปวดตา น่าจะเพราะเล่นโทรศัพท์เยอะ เราเถียงไม่ได้ค่ะเพราะพี่เอเล่นเยอะจริงๆ พี่เอเริ่มหงุดหงิดใส่เราบ่อยขึ้น ยิ่งที่บ้านแม่เราจะชอบให้เรากับพี่ตากผ้า พี่เอไม่ชอบตากผ้าเลยค่ะ แล้วแม่ยิ่งแบ่งเวรทำความสะอาดบ้านให้เรากับพี่เอสลับกัน ตอนแบ่งแรกๆพี่เอทำดีนะคะ แต่หลังๆพี่เอเริ่มไม่ทำแล้วให้เราที่ทำวันต่อไปทำแทน เราโกรธค่ะช่วงแรกๆเพราะเราก็ทำครบทุกงานแต่พี่เอกลับไม่ทำ แต่ก็พอผ่อนปรนได้เพราะพี่เอก็แบกอะไรไว้เยอะ จนวันนึงที่พี่เอเงียบมากๆ เราอยากให้พี่เอสดใสขึ้นเลยชวนเล่นเกมออนไลน์ แต่พี่เอตอบใส่เราว่า ไม่ได้ว่างเหมือนเรา อยากทำอะไรก็ทำเอง เราช็อกเลย เพราะเราเองก็เรียนพิเศษทุกวัน มีการบ้าน งานค้าง งานกลุ่ม งานนำเสนอต่างๆ แถมเราไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเหมือนเราไม่พยายามเลย เราไม่คุยกับพี่เอแล้วก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยค่ะ จนถึงตอนนี้ก็ยังเคืองพี่เออยู่
เราเคืองพี่เอเพราะช่วงหลังๆพี่เอชอบทำตัวโทษเราตลอด ไม่ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีแต่ยังมาบอกว่าเราเอาเปรียบเขารึเปล่า แถมช่วง หลังพี่เราเริ่มจะทำตัวเหมือนนอกใจแฟนด้วยการไปชอบคนอื่นและให้ความสำคัญกับแฟนตัวเองน้อยลงซึ่งเราไม่ชอบเลย เราเคืองแม่ที่กดดันให้เราช่วยพี่เอทำงานทั้งวัน หาว่าเราเอาเปรียบพี่เอทั้งๆทีบางครั้งพี่เอไม่ช่วยเราทำอะไรด้วยซ้ำ แถมชอบด่าที่เราไม่ค่อยชอบช่วยเก็บร้าน ทวงบุญคุณต่างๆนาๆ โดยที่เราไม่รู้ด้วยว่ามันโยงกันไปได้ยังไง และแม่ก็ชอบบ่นชอบด่าที่เราทำตัวช้าเวลาสั่งให้ทำนู่นนี่ เอะอะจะยึดโทรศัพท์ ตลอด เราเคืองน้าที่กดดันทั้งพี่เอทั้งเราให้ช่วยทำงานส่วนตัวเองนั่งกินข้าวเย็นกับแม่เราแบบสบายๆ แถมบ่นแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องเช่น ทำไมพี่เอถึงต้องทำหน้าไม่ชอบใจเวลาสั่งให้ช่วยงาน บางครั้งขณะที่มีลูกค้าในร้านน้าเราก็ด่าพี่เอต่อหน้าลูกค้าเลยค่ะ ให้อารมณ์เหมือนประจานพี่เอเลย
เรางี่เง่าไปรึเปล่าคะที่โกรธทั้ง3คนด้วยเรื่องไร้สาระแบบนี้
เราแย่มากไปรึป่าวคะที่เคืองแม่ น้ากับพี่สาว ด้วยเหตุผลเรื่องเล็กๆ
จนกระทั่งน้าเรามีความคิดว่า จะย้ายร้านมาขายในจังหวัดเรา พี่เอที่เป็นลูกของน้าเราก็จะมาด้วย เราเลยดีใจที่จะมีเพื่อนคุย เพราะสมัยนั้นน้องเราปากสว่างมาก ปรึกษาอะไรไม่ค่อยได้ หลังจากน้าย้ายร้านมาที่จังหวัดเราได้ประมาณ3เดือน ก็ประจวบเหมาะกับที่พี่เอจะสอบเข้ามัธยมพอดี จึงมาสอบเข้ามัธยมที่จังหวัดเราตามพี่สาวเราอีกคน แต่สอบไม่ติดเพราะพี่เอไม่ค่อยจะฉลาด(อันนี้พูดจริงๆค่ะ พี่เอค่อนข้างเรียนไม่เก่งเลย) พี่เอซึมไปเลย แต่พี่เอก็สอบเข้าโรงเรียนที่แม่เราอยู่แทน ข้อสอบไม่ค่อยจะยาก พี่เอเลยผ่านได้สบาย พี่เอเลยกลับมาร่าเริง(เพราะมีหวานใจค่ะ เฮอะ)พอพี่เราเข้าเรียนไปสักพัก แม่เราที่สอนพี่เอ(สอนอังกฤษนะคะ)ก็เล็งเห็นว่าพี่เอเรียนไม่เก่งเลย มาบ่นให้พี่เอว่าทำไมแม้แต่เรื่องที่เป็นพื้นฐานของประถมยังทำไม่เป็น ผ่านมาได้ยังไง ประมาณนี้ค่ะ แล้วก็ลงที่เรียนพิเศษให้พี่เอ และให้พี่เอท่องคำศัพท์มาสอบกับแม่ทุกวันค่ะ โดยให้เรามาช่วยท่องช่วยจำ เพราะถ้าเอาตรงๆแบบไม่อวดเลย ภาษาอังกฤษเราเก่งกว่าพี่เอค่ะ ตั้งแต่ตอนนั้นเหมือนพี่เอไม่ค่อยชอบใจแม่เราแล้ว เพราะการบ้านที่ให้ทำก็หนักพออยู่แล้วยังจะให้ท่องศัพท์อีก แต่พี่เอก็ยอมทำเพราะบอกเราว่าอยากเก่งให้เท่าเราบ้าง เราก็ดีใจแหละที่ไอดอลเราอยากเป็นแบบเรา
แต่พี่เอก็เงียบขึ้นกว่าเดิมตั้งแต่น้าเราก็ย้ายร้านมาอยู่ใกล้ๆบ้านเราแทน เพราะร้านเดิมมันไกล น้าเลยให้พี่เอต้องขับรถมาเก็บร้านช่วยน้าทุกวัน แรกๆก็เป็นการช่วยปกติ พี่เอล้างจาน น้าเก็บของหน้าร้านปกติ แต่หลังๆแม่เริ่มบอกให้เราไปช่วยด้วย เราก็ไปช่วยพี่เอล้างจานปกติ ผ่านไปสักพักเราเริ่มเห็นว่าน้าเริ่มไม่ช่วยอะไรแล้ว เราก็ถามว่าทำไมไม่ค่อยมาช่วยแล้ว น้าเราก็มองเราแล้วบอกว่า น้าเหนื่อย น้าทำอาหารทั้งวัน ให้น้าพักบ้าง แรกๆก็เข้าใจค่ะว่ามันเหนื่อยจริงๆกับการทำอาหาร แต่ช่วงหลังมานี้น้าเริ่มไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆค่ะ เรากับพี่เอล้างจาน เก็บร้าน ยกโต๊ะยกเก้าอี้กันเองทุกวัน เก็บเครื่องเคียงต่างๆเอง ทำเองทุกอย่างค่ะ วันไหนที่มีจานน้อยเราจะถามน้าตลอดว่าวันนี้จานน้อย วันนี้เหนื่อยรึป่าว ถ้าไม่เหนื่อยมาช่วยหน่อยได้มั้ย เพราะร้านน้าเราก็ไม่ได้เล็ก แต่น้าชอบตอบว่า เป็นเด็กเป็นเล็กอย่ามาเถียง บอกให้ทำก็ทำ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้จะมาทวงอะไรเยอะแยะ แรกๆเราเฟลนะคะ เพราะเราก็ถามดีๆ แต่พี่เอบอกว่ามาช่วยทุกวันเอง แถมได้ค่าเก็บร้านตั้งครั้งละ20 อย่างน้อยก็เหมือนทำงานแลกเงินนะ เราก็โอเคไปกับพี่เอ แต่มีช่วงนึงที่พี่เอติดเพื่อน เลยล้างจานแบบขอไปทีบ่อยๆ น้าเรามาเห็นก็โมโห บ่นพี่เอชุดใหญ่ ตั้งแต่นั้นพี่เอก็ดูรำคาญกับทุกอย่างที่ถูกสั่งเลยค่ะ กับเราพี่เอจะปกติ คุยเล่นดี๊ด๊า เพราะพี่เอก็เชื่อใจเราและเล่าเรื่องต่างๆให้ฟังมากขึ้น
พี่เอเล่าอย่างมีความสุข เราก็ดีใจที่พี่เอกลับมาร่าเริง แต่ก็แค่ช่วงกลางคืนที่นอนด้วยกันเท่านั้น เพราะวันนึงที่เราเก็บร้านเสร็จช้าเลยไม่ได้ออกมานั่งเล่นพร้อมพี่เอ ตอนเรากำลังเดินไปหาพี่เอ เราก็ได้เห็นค่ะ ว่าพี่เอร้องไห้ เราตกใจแหละแต่ไม่ได้ถามว่าเหนื่อยเรื่องอะไร เพราะกลัวจะเป็นเรื่องที่พี่เอไม่อยากเล่า จนพี่เอโดนแม่เรากดดันมากขึ้น จนพี่เอไม่ค่อยเล่าเรื่องให้เราฟังแล้ว จะฟังแต่เรื่องเล่าของเราอย่างเดียว วันนึงพี่เอไม่สบาย เรามาช่วยเก็บร้านแทน ระหว่างทางมาเราถามแม่ว่าพี่เอเป็นอะไรถึงไม่สบาย แม่บอกว่าเพราะปวดตา น่าจะเพราะเล่นโทรศัพท์เยอะ เราเถียงไม่ได้ค่ะเพราะพี่เอเล่นเยอะจริงๆ พี่เอเริ่มหงุดหงิดใส่เราบ่อยขึ้น ยิ่งที่บ้านแม่เราจะชอบให้เรากับพี่ตากผ้า พี่เอไม่ชอบตากผ้าเลยค่ะ แล้วแม่ยิ่งแบ่งเวรทำความสะอาดบ้านให้เรากับพี่เอสลับกัน ตอนแบ่งแรกๆพี่เอทำดีนะคะ แต่หลังๆพี่เอเริ่มไม่ทำแล้วให้เราที่ทำวันต่อไปทำแทน เราโกรธค่ะช่วงแรกๆเพราะเราก็ทำครบทุกงานแต่พี่เอกลับไม่ทำ แต่ก็พอผ่อนปรนได้เพราะพี่เอก็แบกอะไรไว้เยอะ จนวันนึงที่พี่เอเงียบมากๆ เราอยากให้พี่เอสดใสขึ้นเลยชวนเล่นเกมออนไลน์ แต่พี่เอตอบใส่เราว่า ไม่ได้ว่างเหมือนเรา อยากทำอะไรก็ทำเอง เราช็อกเลย เพราะเราเองก็เรียนพิเศษทุกวัน มีการบ้าน งานค้าง งานกลุ่ม งานนำเสนอต่างๆ แถมเราไม่ชอบให้ใครมาทำตัวเหมือนเราไม่พยายามเลย เราไม่คุยกับพี่เอแล้วก็ไม่ได้คุยกันอีกเลยค่ะ จนถึงตอนนี้ก็ยังเคืองพี่เออยู่
เราเคืองพี่เอเพราะช่วงหลังๆพี่เอชอบทำตัวโทษเราตลอด ไม่ทำหน้าที่ตัวเองให้ดีแต่ยังมาบอกว่าเราเอาเปรียบเขารึเปล่า แถมช่วง หลังพี่เราเริ่มจะทำตัวเหมือนนอกใจแฟนด้วยการไปชอบคนอื่นและให้ความสำคัญกับแฟนตัวเองน้อยลงซึ่งเราไม่ชอบเลย เราเคืองแม่ที่กดดันให้เราช่วยพี่เอทำงานทั้งวัน หาว่าเราเอาเปรียบพี่เอทั้งๆทีบางครั้งพี่เอไม่ช่วยเราทำอะไรด้วยซ้ำ แถมชอบด่าที่เราไม่ค่อยชอบช่วยเก็บร้าน ทวงบุญคุณต่างๆนาๆ โดยที่เราไม่รู้ด้วยว่ามันโยงกันไปได้ยังไง และแม่ก็ชอบบ่นชอบด่าที่เราทำตัวช้าเวลาสั่งให้ทำนู่นนี่ เอะอะจะยึดโทรศัพท์ ตลอด เราเคืองน้าที่กดดันทั้งพี่เอทั้งเราให้ช่วยทำงานส่วนตัวเองนั่งกินข้าวเย็นกับแม่เราแบบสบายๆ แถมบ่นแต่เรื่องไม่เป็นเรื่องเช่น ทำไมพี่เอถึงต้องทำหน้าไม่ชอบใจเวลาสั่งให้ช่วยงาน บางครั้งขณะที่มีลูกค้าในร้านน้าเราก็ด่าพี่เอต่อหน้าลูกค้าเลยค่ะ ให้อารมณ์เหมือนประจานพี่เอเลย
เรางี่เง่าไปรึเปล่าคะที่โกรธทั้ง3คนด้วยเรื่องไร้สาระแบบนี้