แนวร่วมมธ.ประกาศ ‘จับตา’ พท. จ่อระดมส่องไฟทั่วประเทศ นัดอีก 14 ส.ค. แยกปทุมวัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4125136
แนวร่วม มธ.ประกาศ ‘จับตา’ พท. จ่อระดมส่องไฟทั่วประเทศ นัดอีก 14 ส.ค. แยกปทุมวัน
เมื่อเวลา 19.10 น. วันที่ 11 สิงหาคม บริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.) กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดย นาย
อัลเจลโลว์ สาธร แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมแนวร่วม ได้ร่วมทำกิจกรรม “
ส่องไฟให้ทางประชาธิปไตย” โดยร่วมกันยืนส่องแสงไฟฉายไปยังพรรคเพื่อไทย
ซึ่งหลังจากเสร็จกิจกรรม นาย
อัลเจลโลว์ ให้สัมภาษณ์ถึงกิจกรรมในวันนี้ว่า อยากให้ประชาชนช่วยจับตาพรรค พท.ไว้ และหากต้องการให้แรงกดดันนี้สำเร็จ อยากเชิญชวนให้มาร่วมกิจกรรมกับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ในวันที่ 14 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะเป็นการเดินขบวนจากบริเวณแยกปทุมวันไปถึงแยกราชประสงค์
เมื่อถามว่า ถ้าไม่ได้อยู่ในบริเวณกรุงเทพฯ จะสามารถร่วมกิจกรรมได้อย่างไร นาย
อัลเจลโลว์กล่าวว่า หากไม่ได้อยู่ กทม. สามารถร่วมกิจกรรมได้ โดยการไปยังที่ทำการพรรคเพื่อไทยในบริเวณใกล้ๆ และไปส่องที่ทำการพรรค พท.บริเวณนั้นก็ได้ หรือจะแสดงออกผ่านการแสดงความคิดเห็นก็ได้เช่นกัน
เมื่อถามว่า สำหรับกิจกรรมในวันนี้เราอยากฝากอะไรไปยังพรรคเพื่อไทย นาย
อัลเจลโลว์กล่าวว่า อย่าลืมในสิ่งที่สัญญาไว้กับประชาชน อย่าลืมในสิ่งที่พรรคที่พวกคุณกำลังจะร่วมด้วย สิ่งที่เขาทำกับประชาชนอย่าลืม
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับคำว่า “ประชาชนรอไม่ได้” นายอั
ลเจลโลว์กล่าวว่า ประชาชนที่รอไม่ได้ คือ ประชาชนทั่วไปหรือว่าประชาชนที่อยู่ในผู้บริหารพรรคเพื่อไทย มันคือประชาชนจริงหรือเพราะว่าพวกเราประชาชนได้แสดงความเห็นแล้วว่า ปัญหาปากท้องจะสามารถแก้ไขได้ก็ต่อเมื่อเราเห็นอนาคตที่ดีกว่า ตอนที่สามารถแก้ไขปัญหาทางโครงสร้างได้
“อนุสรณ์” ตอก “สมชาย” แสดงความคิดเห็นต้องไม่บิดเบือน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_597591/
“อนุสรณ์” ตอกกลับ “สมชาย” แสดงความคิดเห็นต้องไม่บิดเบือน แนะ ต้องเป็นสว. ที่มีวุฒิภาวะ
นาย
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ล้มรัฐธรรมนูญปราบโกง ปฏิบัติการพาลุงโทนี่กลับบ้าน
โดยนายอนุสรณ์ระบุว่า นายสมชายจะแสดงความเห็นอย่างไรก็เป็นสิทธิ แต่ต้องไม่บิดเบือน หรือมองโลกในแง่ร้ายเกินไป การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้รณรงค์หาเสียงกับพี่น้องประชาชน นายสมชายน่าจะเข้าใจหลักการประชาธิปไตย แต่เมื่อได้ประโยชน์จากการแต่งตั้งมากกว่าการเลือกตั้งที่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยเลือกมาก็อาจต้องตัดตอนความจริง รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง เป็นเพียงแค่วาทกรรมที่ว่างเปล่า
ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ปราบโกงได้จริง ผลการจัดอันดับความโปร่งใสสถานการณ์ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันของไทยคงไม่ตกต่ำลงทุกปี ความกลัวทำให้เสื่อม สิบกว่าปีที่นายสมชายได้ประโยชน์จากระบอบนี้ มีรายได้ ได้เงินเดือน เบี้ยประชุม สวัสดิการอื่นๆ
โดยไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน พอจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลับไปให้ประชาชนเลือกจึงกลัวเสียประโยชน์ สวนทางกับ สว.หลายคนที่ให้ความเห็นว่าประเทศไทยเสียโอกาสไปมากแล้ว ประเทศไทยต้องเดินหน้าจะชักช้าไม่ได้ ใครรวมเสียงส่วนใหญ่ได้ จะเลือกคนนั้นพรรคนั้นเป็นนายกฯ ประเทศไทยต้องไม่ขาดรัฐบาลนานเกินไป
“
ประชาชนอยากเห็นสมาชิกวุฒิสภา เป็นสภาของผู้ทรงคุณวุฒิที่หลากหลาย เป็นกลางทางการเมือง นายสมชายต้องทำตัวให้มีวุฒิภาวะ อายุวุฒิภาวะต้องสูงตามอายุคน อย่าทำตัวให้ใครว่าวุฒิภาวะลดต่ำ สวนทางกับอายุที่เพิ่มขึ้น” นาย
อนุสรณ์ กล่าว
การเมืองวุ่น ฉุดความเชื่อมั่นปชช. ทรุดครั้งแรกในรอบ 14 เดือน
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/361584
หอการค้าไทยเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นประชาชน พบว่า ประชาชนกังวลการจั้ดตั้งรัฐบาลล่าช้า ฉุดเศรษฐกิจทรุดหนัก
นาย
ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนประจำเดือนกรกฎาคม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่น ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรก ในรอบ 14 เดือน แตะระดับ 55.6 เนื่องจากประชาชนรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลและเสถียรภาพทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง ซึ่งอาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันและในอนาคต ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชน ทั้ง ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำ และความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ปรับตัวลดลงทุกรายการ บ่งชี้ว่าประชาชนเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเศรษฐกิจไทย
ขณะที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลและล่าช้า ฉุดความเชื่อมั่นมากสุด ต่างชาติกลุ่มเดียวเชื่อมั่นอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ปรับลดลงถึง 33.3% เฉพาะเดือนกรกฎาคมเดือนเดียว นักลงทุนต่างชาติเทขายสุทธิกว่า 12,558 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และตั้งแต่ต้นปี เทขายหุ้นไทยไปแล้วถึง 118,181 ล้านบาท
JJNY : แนวร่วมมธ.‘จับตา’ พท.นัดอีก 14 ส.ค.│“อนุสรณ์”ตอก“สมชาย”│การเมืองวุ่น ฉุดความเชื่อมั่น│รัสเซีย-ยูเครนส่งโดรนสู้กัน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4125136
แนวร่วม มธ.ประกาศ ‘จับตา’ พท. จ่อระดมส่องไฟทั่วประเทศ นัดอีก 14 ส.ค. แยกปทุมวัน
เมื่อเวลา 19.10 น. วันที่ 11 สิงหาคม บริเวณหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.) กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นำโดย นายอัลเจลโลว์ สาธร แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมแนวร่วม ได้ร่วมทำกิจกรรม “ส่องไฟให้ทางประชาธิปไตย” โดยร่วมกันยืนส่องแสงไฟฉายไปยังพรรคเพื่อไทย
ซึ่งหลังจากเสร็จกิจกรรม นายอัลเจลโลว์ ให้สัมภาษณ์ถึงกิจกรรมในวันนี้ว่า อยากให้ประชาชนช่วยจับตาพรรค พท.ไว้ และหากต้องการให้แรงกดดันนี้สำเร็จ อยากเชิญชวนให้มาร่วมกิจกรรมกับกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์ฯ ในวันที่ 14 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะเป็นการเดินขบวนจากบริเวณแยกปทุมวันไปถึงแยกราชประสงค์
เมื่อถามว่า ถ้าไม่ได้อยู่ในบริเวณกรุงเทพฯ จะสามารถร่วมกิจกรรมได้อย่างไร นายอัลเจลโลว์กล่าวว่า หากไม่ได้อยู่ กทม. สามารถร่วมกิจกรรมได้ โดยการไปยังที่ทำการพรรคเพื่อไทยในบริเวณใกล้ๆ และไปส่องที่ทำการพรรค พท.บริเวณนั้นก็ได้ หรือจะแสดงออกผ่านการแสดงความคิดเห็นก็ได้เช่นกัน
เมื่อถามว่า สำหรับกิจกรรมในวันนี้เราอยากฝากอะไรไปยังพรรคเพื่อไทย นายอัลเจลโลว์กล่าวว่า อย่าลืมในสิ่งที่สัญญาไว้กับประชาชน อย่าลืมในสิ่งที่พรรคที่พวกคุณกำลังจะร่วมด้วย สิ่งที่เขาทำกับประชาชนอย่าลืม
เมื่อถามว่า คิดอย่างไรกับคำว่า “ประชาชนรอไม่ได้” นายอัลเจลโลว์กล่าวว่า ประชาชนที่รอไม่ได้ คือ ประชาชนทั่วไปหรือว่าประชาชนที่อยู่ในผู้บริหารพรรคเพื่อไทย มันคือประชาชนจริงหรือเพราะว่าพวกเราประชาชนได้แสดงความเห็นแล้วว่า ปัญหาปากท้องจะสามารถแก้ไขได้ก็ต่อเมื่อเราเห็นอนาคตที่ดีกว่า ตอนที่สามารถแก้ไขปัญหาทางโครงสร้างได้
“อนุสรณ์” ตอก “สมชาย” แสดงความคิดเห็นต้องไม่บิดเบือน
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_597591/
“อนุสรณ์” ตอกกลับ “สมชาย” แสดงความคิดเห็นต้องไม่บิดเบือน แนะ ต้องเป็นสว. ที่มีวุฒิภาวะ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ได้ออกมาแสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก ว่า ล้มรัฐธรรมนูญปราบโกง ปฏิบัติการพาลุงโทนี่กลับบ้าน
โดยนายอนุสรณ์ระบุว่า นายสมชายจะแสดงความเห็นอย่างไรก็เป็นสิทธิ แต่ต้องไม่บิดเบือน หรือมองโลกในแง่ร้ายเกินไป การแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้รณรงค์หาเสียงกับพี่น้องประชาชน นายสมชายน่าจะเข้าใจหลักการประชาธิปไตย แต่เมื่อได้ประโยชน์จากการแต่งตั้งมากกว่าการเลือกตั้งที่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยเลือกมาก็อาจต้องตัดตอนความจริง รัฐธรรมนูญฉบับปราบโกง เป็นเพียงแค่วาทกรรมที่ว่างเปล่า
ถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ปราบโกงได้จริง ผลการจัดอันดับความโปร่งใสสถานการณ์ต่อต้านทุจริตคอร์รัปชันของไทยคงไม่ตกต่ำลงทุกปี ความกลัวทำให้เสื่อม สิบกว่าปีที่นายสมชายได้ประโยชน์จากระบอบนี้ มีรายได้ ได้เงินเดือน เบี้ยประชุม สวัสดิการอื่นๆ
โดยไม่ได้ยึดโยงกับประชาชน พอจะแก้ไขรัฐธรรมนูญ กลับไปให้ประชาชนเลือกจึงกลัวเสียประโยชน์ สวนทางกับ สว.หลายคนที่ให้ความเห็นว่าประเทศไทยเสียโอกาสไปมากแล้ว ประเทศไทยต้องเดินหน้าจะชักช้าไม่ได้ ใครรวมเสียงส่วนใหญ่ได้ จะเลือกคนนั้นพรรคนั้นเป็นนายกฯ ประเทศไทยต้องไม่ขาดรัฐบาลนานเกินไป
“ประชาชนอยากเห็นสมาชิกวุฒิสภา เป็นสภาของผู้ทรงคุณวุฒิที่หลากหลาย เป็นกลางทางการเมือง นายสมชายต้องทำตัวให้มีวุฒิภาวะ อายุวุฒิภาวะต้องสูงตามอายุคน อย่าทำตัวให้ใครว่าวุฒิภาวะลดต่ำ สวนทางกับอายุที่เพิ่มขึ้น” นายอนุสรณ์ กล่าว
การเมืองวุ่น ฉุดความเชื่อมั่นปชช. ทรุดครั้งแรกในรอบ 14 เดือน
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/361584
หอการค้าไทยเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นประชาชน พบว่า ประชาชนกังวลการจั้ดตั้งรัฐบาลล่าช้า ฉุดเศรษฐกิจทรุดหนัก
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนประจำเดือนกรกฎาคม พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่น ปรับตัวลดลงเป็นครั้งแรก ในรอบ 14 เดือน แตะระดับ 55.6 เนื่องจากประชาชนรู้สึกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลและเสถียรภาพทางการเมืองหลังการเลือกตั้ง ซึ่งอาจส่งผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันและในอนาคต ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของประชาชน ทั้ง ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับโอกาสหางานทำ และความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคต ปรับตัวลดลงทุกรายการ บ่งชี้ว่าประชาชนเริ่มมีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเศรษฐกิจไทย
ขณะที่สภาธุรกิจตลาดทุนไทย เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของนักลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้า พบว่า ความไม่แน่นอนในการจัดตั้งรัฐบาลและล่าช้า ฉุดความเชื่อมั่นมากสุด ต่างชาติกลุ่มเดียวเชื่อมั่นอยู่ในเกณฑ์ “ซบเซา” ปรับลดลงถึง 33.3% เฉพาะเดือนกรกฎาคมเดือนเดียว นักลงทุนต่างชาติเทขายสุทธิกว่า 12,558 ล้านบาท ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 และตั้งแต่ต้นปี เทขายหุ้นไทยไปแล้วถึง 118,181 ล้านบาท