สิ่งที่ผมจะกล่าวต่อไปนี้เป็นความเชื่อส่วนตัว ซึ่งมีบางส่วนไม่สอดคล้องกับคัมภีร์ไบเบิล
ขอให้ผู้ที่เข้ามาอ่านโปรดใช้วิจารณญาณ เพราะว่าความเชื่อของผมอาจถูกหรือผิดก็ได้
พระเจ้ามีหลายองค์ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1.
พระเจ้าผู้ประเสริฐ (God) มีเพียงองค์เดียว โดยพระองค์เป็นพระเจ้าผู้สูงสุด
พระองค์เป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง
ในพระองค์ไม่มีความโกรธเลย และพระองค์เต็มเปี่ยมด้วยความเมตตาต่อมนุษย์
แต่พระองค์ยังคงลงโทษผู้ที่ทำผิดบาปด้วยความรักอย่างยุติธรรม โดยจะไม่ลงโทษมนุษย์เกินกว่าเหตุ
พระองค์เชิญชวนให้มนุษย์เลิกทำบาป แล้วมุ่งทำความดี และวางใจพระองค์ เพื่อให้มนุษย์เดินในทางชอบธรรม
จะส่งผลให้มนุษย์ดำเนินชีวิตได้ดีและมีสันติสุข
2.
พระเจ้าอื่นใด (god) มีหลายองค์ โดยมีฤทธิ์อำนาจไม่เท่าเทียมกับพระเจ้าผู้ประเสริฐ
พระเจ้าอื่นใดเป็นปฏิปักษ์กับพระเจ้าผู้ประเสริฐ และทำทุกวิถีทางที่จะขัดขวางงานของพระเจ้าผู้ประเสริฐ
พระเจ้าอื่นใดมีความโกรธ และพยายามล่อลวงมนุษย์ให้ทำบาป เพื่อให้มนุษย์เดินออกจากทางชอบธรรมของพระเจ้า
แล้วหันมาศรัทธาพวกตน และชักจูงมนุษย์ให้เดินในทางอธรรม ทำให้มนุษย์ต้องพบกับความทุกข์ทรมาน
พระเจ้าผู้ประเสริฐทรงสถิตอยู่ในสวรรค์ และได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในสถานะพระบุตร โดยมีพระนามว่า "พระเยซูคริสต์"
พระองค์มีความเท่าเทียมกับพระบิดาในสวรรค์ทุกประการ
ผู้ใดพบพระเยซูคริสต์ ผู้นั้นได้พบพระบิดาด้วย
โดยพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณของพระเจ้า เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน
ในคัมภีร์ไบเบิลได้บันทึกลักษณะของพระเยซูคริสต์ว่าพระองค์ไม่มีความโกรธเลย พระองค์มีแต่ให้ความเมตตาแก่มนุษย์
และพร้อมที่จะยกโทษบาปให้แก่มนุษย์หากมนุษย์สำนึกผิดบาป แล้วมาสารภาพบาปต่อพระองค์จากใจจริง
ต่างจากลักษณะของพระเจ้าในคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาเดิม ที่ในบางครั้งเต็มไปด้วยความโกรธและมีความโหดร้ายทารุณ
พระเจ้าผู้ประเสริฐย่อมมีลักษณะท่าทีเหมือนเดิม ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตตลอดไป
การที่พระเจ้าผู้ประเสริฐมาเกิดเป็นมนุษย์ ไม่เพียงแต่พระองค์มีพระประสงค์มาไถ่บาปให้แก่มนุษย์
ด้วยการยอมถูกตรึงตายบนไม้กางเขนเท่านั้น แต่พระองค์ยังมีพระประสงค์ให้มนุษย์เห็นลักษณะที่แท้จริงของพระองค์อีกด้วย
ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่า
พระเจ้าผู้ประเสริฐไม่มีความโกรธ และไม่มีความโหดร้ายทารุณ
โดยความโกรธและความโหดร้ายทารุณของพระเจ้าที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์ไบเบิล
ได้ถูกเขียนขึ้นโดยไม่ได้รับการดลใจจากพระเจ้าผู้ประเสริฐ
คริสตชนจึงต้องแยกแยะให้ได้ว่า ข้อความใดในคัมภีร์ไบเบิลที่ไม่ใช่พระวจนะของพระเจ้าผู้ประเสริฐ
เพื่อจะได้ไม่หลงผิด แล้วเดินออกจากทางชอบธรรมของพระเจ้า
มัทธิว 5:37 พระเยซูคริสต์ตรัสดังนี้
จริงก็จงว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ คำพูดที่เกินกว่านี้มาจากความชั่ว
พระเจ้ามีความโกรธหรือไม่ ?
ขอให้ผู้ที่เข้ามาอ่านโปรดใช้วิจารณญาณ เพราะว่าความเชื่อของผมอาจถูกหรือผิดก็ได้
พระเจ้ามีหลายองค์ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1. พระเจ้าผู้ประเสริฐ (God) มีเพียงองค์เดียว โดยพระองค์เป็นพระเจ้าผู้สูงสุด
พระองค์เป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง ในพระองค์ไม่มีความโกรธเลย และพระองค์เต็มเปี่ยมด้วยความเมตตาต่อมนุษย์
แต่พระองค์ยังคงลงโทษผู้ที่ทำผิดบาปด้วยความรักอย่างยุติธรรม โดยจะไม่ลงโทษมนุษย์เกินกว่าเหตุ
พระองค์เชิญชวนให้มนุษย์เลิกทำบาป แล้วมุ่งทำความดี และวางใจพระองค์ เพื่อให้มนุษย์เดินในทางชอบธรรม
จะส่งผลให้มนุษย์ดำเนินชีวิตได้ดีและมีสันติสุข
2. พระเจ้าอื่นใด (god) มีหลายองค์ โดยมีฤทธิ์อำนาจไม่เท่าเทียมกับพระเจ้าผู้ประเสริฐ
พระเจ้าอื่นใดเป็นปฏิปักษ์กับพระเจ้าผู้ประเสริฐ และทำทุกวิถีทางที่จะขัดขวางงานของพระเจ้าผู้ประเสริฐ
พระเจ้าอื่นใดมีความโกรธ และพยายามล่อลวงมนุษย์ให้ทำบาป เพื่อให้มนุษย์เดินออกจากทางชอบธรรมของพระเจ้า
แล้วหันมาศรัทธาพวกตน และชักจูงมนุษย์ให้เดินในทางอธรรม ทำให้มนุษย์ต้องพบกับความทุกข์ทรมาน
พระเจ้าผู้ประเสริฐทรงสถิตอยู่ในสวรรค์ และได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในสถานะพระบุตร โดยมีพระนามว่า "พระเยซูคริสต์"
พระองค์มีความเท่าเทียมกับพระบิดาในสวรรค์ทุกประการ ผู้ใดพบพระเยซูคริสต์ ผู้นั้นได้พบพระบิดาด้วย
โดยพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณของพระเจ้า เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเป็นพระเจ้าองค์เดียวกัน
ในคัมภีร์ไบเบิลได้บันทึกลักษณะของพระเยซูคริสต์ว่าพระองค์ไม่มีความโกรธเลย พระองค์มีแต่ให้ความเมตตาแก่มนุษย์
และพร้อมที่จะยกโทษบาปให้แก่มนุษย์หากมนุษย์สำนึกผิดบาป แล้วมาสารภาพบาปต่อพระองค์จากใจจริง
ต่างจากลักษณะของพระเจ้าในคัมภีร์ไบเบิลภาคพันธสัญญาเดิม ที่ในบางครั้งเต็มไปด้วยความโกรธและมีความโหดร้ายทารุณ
พระเจ้าผู้ประเสริฐย่อมมีลักษณะท่าทีเหมือนเดิม ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตตลอดไป
การที่พระเจ้าผู้ประเสริฐมาเกิดเป็นมนุษย์ ไม่เพียงแต่พระองค์มีพระประสงค์มาไถ่บาปให้แก่มนุษย์
ด้วยการยอมถูกตรึงตายบนไม้กางเขนเท่านั้น แต่พระองค์ยังมีพระประสงค์ให้มนุษย์เห็นลักษณะที่แท้จริงของพระองค์อีกด้วย
ดังนั้นจึงเชื่อได้ว่า พระเจ้าผู้ประเสริฐไม่มีความโกรธ และไม่มีความโหดร้ายทารุณ
โดยความโกรธและความโหดร้ายทารุณของพระเจ้าที่บันทึกอยู่ในคัมภีร์ไบเบิล
ได้ถูกเขียนขึ้นโดยไม่ได้รับการดลใจจากพระเจ้าผู้ประเสริฐ
คริสตชนจึงต้องแยกแยะให้ได้ว่า ข้อความใดในคัมภีร์ไบเบิลที่ไม่ใช่พระวจนะของพระเจ้าผู้ประเสริฐ
เพื่อจะได้ไม่หลงผิด แล้วเดินออกจากทางชอบธรรมของพระเจ้า
มัทธิว 5:37 พระเยซูคริสต์ตรัสดังนี้
จริงก็จงว่าจริง ไม่ก็ว่าไม่ คำพูดที่เกินกว่านี้มาจากความชั่ว