7.21.23 คือวันสำคัญของวงการภาพยนตร์ Hollywood ในปีนี้ เมื่อ 2 ภาพยนตร์ฟอร์มดีลงสนามเปิดตัวชนกันกลางซัมเมอร์ 2023 ซึ่งไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก ปกติแล้วหนังที่มีแนวโน้มจะครองแชมป์ทำเงินสุดสัปดาห์ได้จะเปิดตัวสับหว่างกับหนังเต็งเรื่องอื่นๆอย่างน้อยก็ 1 สัปดาห์เพื่อครองโรงฉายและตำแหน่งแชมป์หนังทำเงินประจำสุดสัปดาห์นั้นๆ
แต่ในปีนี้ทั้ง WB และ Universal ต่างเลือกที่จะชนช้างกันในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ โดย WB ส่ง Barbie เต็งหามแชมป์หนังทำเงินซัมเมอร์ 2023 ลงประชันกับ Oppernheimer จากฝั่ง Universal ที่กำกับโดย Christopher Nolan หนึ่งในผู้กำกับไม่กี่คนบนโลกนี้ที่เอาชื่อของตัวเองมาแปะหน้าหนังขายได้ ซึ่งคอภาพยนตร์ทั่วโลกต่างเฝ้ารอการมาถึงของสุดสัปดาห์นี้ ที่จะได้ชมภาพยนตร์ที่รับประกันความน่าสนใจอย่างจุใจและมีความสุข
Barbie นั้นกำกับโดย Greta Gerwig ผู้กำกับหญิงคุณภาพของ Hollywood รวมทั้งร่วมเขียนบทกับ Noah Baumbach สามีของเธอเองซึ่งเป็นผู้กำกับระดับชิงรางวัลเช่นกัน แถมยังมีทีมนักแสดงที่แข็งเป๊ก ทั้ง Margot Robbie, Ryan Gosling, Simon Liu และยังมีนักร้องนักแสดงมา Surprise ในเรื่องอีกมากมายบวกกับคะแนนจากรอบทดลองฉายที่สุงปรี๊ด ทำให้ Barbie มีองค์ประกอบทุกอย่างที่จะเป็นหนังยอดฮิตประจำซัมเมอร์ปีนี้
ในด้านรายได้ ด้วยเนื้อหาที่เข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้กว้างกว่าและมีฐานแฟนคลับทั่วโลก Barbie นั้นย่อมเอาชนะ Oppenheimer ได้อย่างไม่ต้องลุ้น จากยอดขายตั๋ว Pre-Sales ที่พุ่งทะยานปรอทแตกในอเมริกาเหนือ ยุโรป ออสเตรเลีย และ LATAM รวมทั้งญี่ปุ่น ทำให้ Barbie น่าจะทำเงินในบ้านขั้นต่ำ 350 ล้านเหรียญได้สบายๆ ส่วนรายได้รวมทั่วโลก 800 ล้านเหรียญก็น่าจะอยู่ในกระเป๋า เป้าหมายที่ท้าทายของ Barbie น่าจะเป็นในบ้าน 400 ล้าน และทำเงินทั่วโลกถึงหลักพันล้านเป้นเรื่องที่ 2 ของปีนี้ต่อจาก Super Mario Bros. มากกว่า ถึงแม้ว่า Barbie จะไม่ได้ฉายในโรง IMAX เลยก็ตาม
ข้างฝ่าย Oppenheimer ภาพยนตร์ชีวประวัติระทึกขวัญของนักฟิสิกส์ผู้พัฒนาระเบิดปรมาณูจากเด็จพ่อโนแลนก็มีความน่าสนใจ และดึงดูดผู้ชมตั้งแต่เริ่มประกาศสร้างเลยด้วยซ้ำ เพราะนี่คือหนังเรื่องแรกในรอบหลายปีที่ Nolan ก้าวออกจากการจัดจำหน่ายโดย WB มาซบค่ายตราลูกโลก Universal แทน หลังจากปัญหาความไม่ลงรอยกันกับ WB เรื่องการฉาย TENET แบบ Day & Date เมื่อปี 2020 ทำให้ Nolan ที่ตั้งใจผลิตหนังออกมาเพื่อเน้นการรับชมในโรงภาพยนตร์โดยเฉพาะในโรง IMAX นั้นไม่พอใจเป็นอย่างมาก ส่งผลต่อเนื่องมาจนทำให้ความสัมพันธ์ของ WB และ Nolan ขาดสะบั้นลง เมื่อ Nolan ประกาศโครงการสร้างหนังใหม่ทาง WB จึงไม่ได้เป้นผู้จัดจำหน่ายอีกต่อไป โดย Nolan ได้ตัดสินใจย้ายค่ายมาซบ Universal ในที่สุด
นอกจาก Nolan ที่ขายชื่อตัวเองบนผลงานกำกับได้แล้ว Oppenheimer นั้นยังระดมทีมนักแสดงระดับ Top ของวงการมากมายทั้ง Cillian Murphy, Emily Blunt, Matt Damon, Robert Downey Jr., Florence Pugh, Josh Hartnett, Casey Affleck, Rami Malek, Kenneth Branagh บวกกับเรื่องราวเนื้อหาที่น่าสนใจกับการพัฒนาระเบิดปรมาณูที่อยู่บนทางสองแพร่งระหว่างความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และศีลธรรม จึงมีแฟนหนังตั้งตาคอยชม Oppenheimer กันอย่างมากมาย
ในด้านรายได้แม้ Oppenheimer จะไม่มีทางเทียบ Barbie ได้ แต่ Oppenheimer เองก็มีแนวโน้มจะทำเงินได้เป็นที่น่าพอใจ ทั้งการเปิดตัวในบ้านที่ระดับ 60 ล้านเหรียญ รายได้รวมในบ้าน 170-190 ล้าน รายได้รวมทั่วโลกระดับ 500-600 ล้าน อีกทั้ง Oppenheimer ยังได้เปรียบตรงที่มี Format สำหรับฉายโรง IMAX ในขณะที่ Barbie ไม่มี รวมทั้ง Oppenheimer ก็น่าจครองโรง PLF ได้มากกว่าด้วย และสุดท้าย Oppenheimer มี Production Cost เพียง 100 ล้านเหรียญเท่านั้น ทำให้สามารถเกือบจะคืนทุนสร้างได้จากรายได้ในอเมริกาเหนือเพียงตลาดเดียว
สาเหตุที่แท้จริงลึกๆนั้นไม่มีใครทราบว่าทำไมจึงเกิด Berbenheimer weekend ขึ้นมา ทั้งๆที่จริงๆแล้วภาพยนตร์ระดับ Top 2 เรื่องไม่ควรมาเปิดตัวฉายชนกันในสุดสัปดาห์เดียวกัน จากข่าวที่เคยอ่านมานั้น Nolan ผิดหวังที่ WB ตัดสินใจปล่อย Barbie มาชนกับ Oppenheimer เต็มๆ ไม่มีใครทราบว่าแท้จริงแล้ว WB ทำไมจึงตัดสินใจเช่นนั้น มันเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างพวกเค้ากับ Nolan ในอดีตหรือไม่?
เรารู้แค่เพียงว่าสุดสัปดาห์นี้เป้นสุดสัปดาห์ในฝันของคนรักหนังและผู้ชมภาพยนตร์ทั่วไปรวมทั้งเจ้าของโรงหนังด้วย เพราะมีหนังเกรดเอที่ครอบคลุมกลุ่มผู้ชมเกือบทั้งหมดตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ครอบครัว ผู้หญิง (Barbie) ไปจนถึงกลุ่มผู้ชาย ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ (Oppenheimer) และยังมีอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่คือ Mission Impossible: Dead Reckoning – Part I จากสุดสัปดาห์ที่แล้วอีกต่างหาก จากข้อมูลของ AMC ซึ่งเป็นเครือโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาพบว่ามีสมาชิก AMC กว่า 1 แสนคนจองตั๋วดูทั้ง Barbie และ Oppenheimer ในวันเปิดตัว 21 กรกฎาคม นับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาทองของวงการภาพยนตร์ในปีนี้จริงๆ
Barbenheimer weekend: สุดสัปดาห์ของคนรักหนัง เมื่อเต็งแชมป์ทำเงินหนังซัมเมอร์เปิดตัวชนช้างกับหนังใหม่เด็จพ่อโนแลน
แต่ในปีนี้ทั้ง WB และ Universal ต่างเลือกที่จะชนช้างกันในสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ โดย WB ส่ง Barbie เต็งหามแชมป์หนังทำเงินซัมเมอร์ 2023 ลงประชันกับ Oppernheimer จากฝั่ง Universal ที่กำกับโดย Christopher Nolan หนึ่งในผู้กำกับไม่กี่คนบนโลกนี้ที่เอาชื่อของตัวเองมาแปะหน้าหนังขายได้ ซึ่งคอภาพยนตร์ทั่วโลกต่างเฝ้ารอการมาถึงของสุดสัปดาห์นี้ ที่จะได้ชมภาพยนตร์ที่รับประกันความน่าสนใจอย่างจุใจและมีความสุข
ในด้านรายได้ ด้วยเนื้อหาที่เข้าถึงกลุ่มผู้ชมได้กว้างกว่าและมีฐานแฟนคลับทั่วโลก Barbie นั้นย่อมเอาชนะ Oppenheimer ได้อย่างไม่ต้องลุ้น จากยอดขายตั๋ว Pre-Sales ที่พุ่งทะยานปรอทแตกในอเมริกาเหนือ ยุโรป ออสเตรเลีย และ LATAM รวมทั้งญี่ปุ่น ทำให้ Barbie น่าจะทำเงินในบ้านขั้นต่ำ 350 ล้านเหรียญได้สบายๆ ส่วนรายได้รวมทั่วโลก 800 ล้านเหรียญก็น่าจะอยู่ในกระเป๋า เป้าหมายที่ท้าทายของ Barbie น่าจะเป็นในบ้าน 400 ล้าน และทำเงินทั่วโลกถึงหลักพันล้านเป้นเรื่องที่ 2 ของปีนี้ต่อจาก Super Mario Bros. มากกว่า ถึงแม้ว่า Barbie จะไม่ได้ฉายในโรง IMAX เลยก็ตาม
นอกจาก Nolan ที่ขายชื่อตัวเองบนผลงานกำกับได้แล้ว Oppenheimer นั้นยังระดมทีมนักแสดงระดับ Top ของวงการมากมายทั้ง Cillian Murphy, Emily Blunt, Matt Damon, Robert Downey Jr., Florence Pugh, Josh Hartnett, Casey Affleck, Rami Malek, Kenneth Branagh บวกกับเรื่องราวเนื้อหาที่น่าสนใจกับการพัฒนาระเบิดปรมาณูที่อยู่บนทางสองแพร่งระหว่างความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และศีลธรรม จึงมีแฟนหนังตั้งตาคอยชม Oppenheimer กันอย่างมากมาย
ในด้านรายได้แม้ Oppenheimer จะไม่มีทางเทียบ Barbie ได้ แต่ Oppenheimer เองก็มีแนวโน้มจะทำเงินได้เป็นที่น่าพอใจ ทั้งการเปิดตัวในบ้านที่ระดับ 60 ล้านเหรียญ รายได้รวมในบ้าน 170-190 ล้าน รายได้รวมทั่วโลกระดับ 500-600 ล้าน อีกทั้ง Oppenheimer ยังได้เปรียบตรงที่มี Format สำหรับฉายโรง IMAX ในขณะที่ Barbie ไม่มี รวมทั้ง Oppenheimer ก็น่าจครองโรง PLF ได้มากกว่าด้วย และสุดท้าย Oppenheimer มี Production Cost เพียง 100 ล้านเหรียญเท่านั้น ทำให้สามารถเกือบจะคืนทุนสร้างได้จากรายได้ในอเมริกาเหนือเพียงตลาดเดียว
สาเหตุที่แท้จริงลึกๆนั้นไม่มีใครทราบว่าทำไมจึงเกิด Berbenheimer weekend ขึ้นมา ทั้งๆที่จริงๆแล้วภาพยนตร์ระดับ Top 2 เรื่องไม่ควรมาเปิดตัวฉายชนกันในสุดสัปดาห์เดียวกัน จากข่าวที่เคยอ่านมานั้น Nolan ผิดหวังที่ WB ตัดสินใจปล่อย Barbie มาชนกับ Oppenheimer เต็มๆ ไม่มีใครทราบว่าแท้จริงแล้ว WB ทำไมจึงตัดสินใจเช่นนั้น มันเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งระหว่างพวกเค้ากับ Nolan ในอดีตหรือไม่?
เรารู้แค่เพียงว่าสุดสัปดาห์นี้เป้นสุดสัปดาห์ในฝันของคนรักหนังและผู้ชมภาพยนตร์ทั่วไปรวมทั้งเจ้าของโรงหนังด้วย เพราะมีหนังเกรดเอที่ครอบคลุมกลุ่มผู้ชมเกือบทั้งหมดตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น ครอบครัว ผู้หญิง (Barbie) ไปจนถึงกลุ่มผู้ชาย ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ (Oppenheimer) และยังมีอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่คือ Mission Impossible: Dead Reckoning – Part I จากสุดสัปดาห์ที่แล้วอีกต่างหาก จากข้อมูลของ AMC ซึ่งเป็นเครือโรงภาพยนตร์ที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาพบว่ามีสมาชิก AMC กว่า 1 แสนคนจองตั๋วดูทั้ง Barbie และ Oppenheimer ในวันเปิดตัว 21 กรกฎาคม นับเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาทองของวงการภาพยนตร์ในปีนี้จริงๆ