สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เอามุมมองของคนที่สนใจวิทยาศาสตร์ดีกว่า ว่าหนังเกี่ยวกับโครงการสร้างระเบิดนิวเคลียร์(เฉพาะที่มีอ้างอิงว่าสำเร็จ)ลูกแรกของโลก สมจริงขนาดไหน ตรงไหนไม่สมจริง แล้วในมุมมองของเพื่อนๆที่ชอบเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ น่าตีตั๋วเข้าไปชมไหม ข้อวิจารณ์ต่างๆ เกี่ยวกับความสมจริงเท่านั้นนะ
ผมว่า หลายท่านจะคาดหวังกับฉาก "ระเบิด"
ของระเบิดนิวเคลียร์ในหนังเรื่องนี้ ผมจึงขอเรียนว่า
ฉากระเบิดเป็นลูกไฟพร้อมดอกเห็ดแดงฉานที่หวังไว้นั้น
ไม่ใช่จุดเด่นของหนังเรื่องนี้เลย คือฉากระเบิดในหนังนั้น
ได้นำเสนอเพียงมุมมองที่สื่อให้เห็นแสง Flash สีขาว
(ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของระเบิดนิวเคลียร์)
และมี shock wave กระจายไปทั่วพื้นที่ทดสอบระเบิดเท่านั้นครับ
หรือ อาจพูดได้ว่าหลายคนอาจผิดหวังกับฉากระเบิด
ที่หวังไว้ว่าจะอลังการกว่าหนังหลายเรื่อง
ใน 3 ชั่วโมงเต็มของ Oppenheimer
ช่วงแรกจะเสนอชีวิตสมัยเรียนของเขา
ช่วงต่อไปเนื้อเรื่องที่เน้นก็คือ การเริ่มโครงการแมนแฮตตัน
โดยสร้างเมืองที่ Los Alamos เพื่อให้ จนท.ในโครงการ ฯ
พร้อมครอบครัวมาอยู่อาศัย
และติดต่อดึงตัวนักวิทยาศาสตร์มาร่วมในโครงการ
หากผู้ชมหนังเรื่องนี้ไม่เคยรู้จักนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก
ก็จะไม่รู้จัก "ชื่อ" ที่หนังนำเสนอมาเลย
แต่คนในวงการวิทยาศาสตร์สาขา Quantum physics
จะ "อิน" ไปกับหนังเรื่องนี้มาก ๆ เพราะในหนัง
ได้นำเสนอว่าโครงการ ฯ นี้ มีนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก
มามีส่วนร่วมหลายท่านเลย เช่น ....
Albert Einstein Niels Bohr Werner Heisenberg
Ernest Lawrence Robert Serber Richard Tolman
Richard Feynman Edward Teller
Teller นี่คือบิดาของระเบิด Hydrogen (Thermonuclear)
ซึ่งเป็นระเบิดแบบ Nuclear fucion
Missile นิวเคลียร์ปัจจุบันนี้ทุกลูก ทุกประเทศ
เป็นแบบ Thermonuclear หมด
Nolan เนี่ย สรรหานักแสดงได้หน้าตา บุคลิก
คล้ายนักวิทยาศาสตร์ตัวจริงเหล่านั้นมาก
ต่อไป หนังจะนำเสนอช่วงที่ (ทุกคน) ชอบดู
ก็คือความเป็นมาในการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรก นี้
หนังได้เล่าเรื่องในช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ทดสอบระเบิด
และ ยังเล่าต่อไปถึงช่วงที่รัฐบาลสหรัฐ
ตัดสินใจนำระเบิดนิวเคลียร์อีก 2 ลูกไปทิ้งลงญี่ปุ่น
โดย focus ไปที่ความหนักใจ และ ความอึดอัดใจ
ของตัว Oppenheimer เอง ขณะที่พลโท Leslie R. Groves
กลับยินดีปรีดาที่ได้ยุติสงครามโลกครั้งที่ 2
ด้วยระเบิดนิวเคลียร์ 2 ลูกนี้
และสุดท้ายที่ต้องเน้น คือ
เห็นเจตนาชัดเจนว่าผู้กำกับ Nolan
ได้เน้นที่ชีวิตช่วงท้าย ๆ ของ Oppenheimer
ก็คือ Oppenheimer ได้ถูกสอบสวน
เพราะมีความสงสัยว่าเขามีความสัมพันธ์
กับพรรคคอมมิวนิสต์ เพราะภรรยา
และน้องชายของเขาก็เคยเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์
ในหนังได้นำเสนอฉากที่เป็นการสอบสวนมากถึง 40%
ของความยาวหนังเลยครับ แต่ผมบอกเลยว่า
Nolan มีชั้นเชิงการนำเสนอแบบที่ไม่น่าเบื่อ
เพราะ Nolan แฝงบรรยากาศการกดดันต่าง ๆ
เข้าไปเยอะเลย
สรุป หากท่าน จขกท.ถามว่า
น่าตีตั๋วเข้าไปชมไหม ข้อวิจารณ์ต่างๆ เกี่ยวกับความสมจริงเท่านั้นนะ
จขกท.อาจผิดหวังตรงนี้ครับ
แต่ผมยืนยันว่าควรเข้าไปดูอย่างยิ่ง
เพราะตัวหนังเองมีเทคนิคการนำเสนอเยี่ยมมาก
หากผิดหวังเรื่องฉากความสมจริงของระเบิด
ก็ถือว่าไปดูผลงานดี ๆ ของ Nolan ก็แล้วกันนะ
ผมว่า หลายท่านจะคาดหวังกับฉาก "ระเบิด"
ของระเบิดนิวเคลียร์ในหนังเรื่องนี้ ผมจึงขอเรียนว่า
ฉากระเบิดเป็นลูกไฟพร้อมดอกเห็ดแดงฉานที่หวังไว้นั้น
ไม่ใช่จุดเด่นของหนังเรื่องนี้เลย คือฉากระเบิดในหนังนั้น
ได้นำเสนอเพียงมุมมองที่สื่อให้เห็นแสง Flash สีขาว
(ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของระเบิดนิวเคลียร์)
และมี shock wave กระจายไปทั่วพื้นที่ทดสอบระเบิดเท่านั้นครับ
หรือ อาจพูดได้ว่าหลายคนอาจผิดหวังกับฉากระเบิด
ที่หวังไว้ว่าจะอลังการกว่าหนังหลายเรื่อง
ใน 3 ชั่วโมงเต็มของ Oppenheimer
ช่วงแรกจะเสนอชีวิตสมัยเรียนของเขา
ช่วงต่อไปเนื้อเรื่องที่เน้นก็คือ การเริ่มโครงการแมนแฮตตัน
โดยสร้างเมืองที่ Los Alamos เพื่อให้ จนท.ในโครงการ ฯ
พร้อมครอบครัวมาอยู่อาศัย
และติดต่อดึงตัวนักวิทยาศาสตร์มาร่วมในโครงการ
หากผู้ชมหนังเรื่องนี้ไม่เคยรู้จักนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก
ก็จะไม่รู้จัก "ชื่อ" ที่หนังนำเสนอมาเลย
แต่คนในวงการวิทยาศาสตร์สาขา Quantum physics
จะ "อิน" ไปกับหนังเรื่องนี้มาก ๆ เพราะในหนัง
ได้นำเสนอว่าโครงการ ฯ นี้ มีนักวิทยาศาสตร์ระดับโลก
มามีส่วนร่วมหลายท่านเลย เช่น ....
Albert Einstein Niels Bohr Werner Heisenberg
Ernest Lawrence Robert Serber Richard Tolman
Richard Feynman Edward Teller
Teller นี่คือบิดาของระเบิด Hydrogen (Thermonuclear)
ซึ่งเป็นระเบิดแบบ Nuclear fucion
Missile นิวเคลียร์ปัจจุบันนี้ทุกลูก ทุกประเทศ
เป็นแบบ Thermonuclear หมด
Nolan เนี่ย สรรหานักแสดงได้หน้าตา บุคลิก
คล้ายนักวิทยาศาสตร์ตัวจริงเหล่านั้นมาก
ต่อไป หนังจะนำเสนอช่วงที่ (ทุกคน) ชอบดู
ก็คือความเป็นมาในการสร้างระเบิดนิวเคลียร์ลูกแรก นี้
หนังได้เล่าเรื่องในช่วงนี้ไปจนถึงวันที่ทดสอบระเบิด
และ ยังเล่าต่อไปถึงช่วงที่รัฐบาลสหรัฐ
ตัดสินใจนำระเบิดนิวเคลียร์อีก 2 ลูกไปทิ้งลงญี่ปุ่น
โดย focus ไปที่ความหนักใจ และ ความอึดอัดใจ
ของตัว Oppenheimer เอง ขณะที่พลโท Leslie R. Groves
กลับยินดีปรีดาที่ได้ยุติสงครามโลกครั้งที่ 2
ด้วยระเบิดนิวเคลียร์ 2 ลูกนี้
และสุดท้ายที่ต้องเน้น คือ
เห็นเจตนาชัดเจนว่าผู้กำกับ Nolan
ได้เน้นที่ชีวิตช่วงท้าย ๆ ของ Oppenheimer
ก็คือ Oppenheimer ได้ถูกสอบสวน
เพราะมีความสงสัยว่าเขามีความสัมพันธ์
กับพรรคคอมมิวนิสต์ เพราะภรรยา
และน้องชายของเขาก็เคยเข้าร่วมพรรคคอมมิวนิสต์
ในหนังได้นำเสนอฉากที่เป็นการสอบสวนมากถึง 40%
ของความยาวหนังเลยครับ แต่ผมบอกเลยว่า
Nolan มีชั้นเชิงการนำเสนอแบบที่ไม่น่าเบื่อ
เพราะ Nolan แฝงบรรยากาศการกดดันต่าง ๆ
เข้าไปเยอะเลย
สรุป หากท่าน จขกท.ถามว่า
น่าตีตั๋วเข้าไปชมไหม ข้อวิจารณ์ต่างๆ เกี่ยวกับความสมจริงเท่านั้นนะ
จขกท.อาจผิดหวังตรงนี้ครับ
แต่ผมยืนยันว่าควรเข้าไปดูอย่างยิ่ง
เพราะตัวหนังเองมีเทคนิคการนำเสนอเยี่ยมมาก
หากผิดหวังเรื่องฉากความสมจริงของระเบิด
ก็ถือว่าไปดูผลงานดี ๆ ของ Nolan ก็แล้วกันนะ

แสดงความคิดเห็น
ใครดู Oppenheimer แล้วบ้าง
หนังที่อิงมาจากชิวิตจริงของเจ. รอเบิร์ต ออปเพนไฮเมอร์ ที่กำกับโดยผู้กำกับชื่อดัง คริสโตเฟอร์ โนแลน ผกก.ที่ชอบความสมจริง ฝากผลงานมาแล้วหลายเรื่อง เขาอยากถ่ายทำฉากระเบิดนิวเคลียร์ ลงบน IMAX ให้เหมือนจริงที่สุด โดยไม่ใช้ CG และ ไม่ใช้ระเบิดนิวเคลียร์ของจริง ถึงให้ใช้ได้ก็คงหาไม่ได้อยู่ดีนะ โดยถ่ายทำลงถึงระดับควอนตัม โหอันนี้ต้อง CG ละไม่ว่าฟิล์มหรือเซนเซอร์กล้องที่ไหนก็ช่วยไม่ได้นะ
ตัวอย่าง https://www.youtube.com/watch?v=bK6ldnjE3Y0
ถอดตัวอย่างหนัง นิดนุง
Q ถ้าเรากดปุ่มนั่น เราจะทำลายโลกเลยมั้ย ---อันนี้หมายถึงจะเกิดผลเป็นลูกโซ่ไปทั่วโลก
O โอกาสเข้าใกล้ศูนย์
Q ใกล้ศูนย์???
O แล้วคุณต้องการอะไรจากการใช้แต่ทฤษฎีอย่างเดียวละ
Q ต้องเป็นศูนย์ถึงจะดี
ถ้าให้แปลความแบบมั่วๆ จขกท.หมายถึง ทุกวันนี้หัวรบนิวเคลียร์ก็มีทั่วโลก แต่ก็ไม่มีใครอยากใช้มันพร้อมกัน แต่ก็ไม่แน่ ประมาณนี้
เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกผิดที่ต้องสร้างมหาประลัยขึ้นมาจึงหาเหตุผลให้ตัวเองว่าทำไปเพราะรักชาติ
ปล. ในอีกซีกโลก ผู้กำกับได้รับคำสั่งมาให้สร้างหนังมาเป็นเรื่องจริง ให้ลุงเป็นพระเอก เอาส้มออก และให้แดงยอมศิโรราบ จะมาทั้งก๊ก หรือ แบ่งก๊กมาก็ไม่ว่ากัน แล้วเรื่องเก่าๆก็ให้มันแล้วกันไป ใครตายก็ช่าง ยุติปรองดองแค่นี้ ถ้าให้โนแลนมากำกับ โนแลนคงหัวจะปวด แต่ผู้กำกับไทยคงจะบอก สบาย ได้ครับท่าน
จะหนัง หรือ เรื่องจริง ก็ออกฉายในเวลาใกล้ๆกันนี่ละ