คึกคักรับสุดสัปดาห์ก่อนวันขอบคุณพระเจ้า เมื่อ Wicked for Good ภาพยนตร์ภาคต่อจากหนังสุดฮิตเมื่อปีก่อน ได้เวลาออกฉายสานต่อความยิ่งใหญ่ โดยคาดว่า Wicked for Good จะมีโอกาสสร้างสถิติทำเงินเปิดตัวสูงที่สุดประจำปี 2025 นี้
Wicked for Good (Universal)
ภาพยนตร์ภาคต่อที่จะออกมาเชื่อมเรื่องราวของ Wicked และ The Wizard of Oz เข้าด้วยกัน และจะให้ให้เราได้รู้บทสรุปของ 2 เพื่อนรัก Glinda และ Elphaba ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะจบลงอย่างไร Wicked for Good ยังคงกำกับการแสดงโดย Jon M. Chu และนำแสดงโดย Cynthia Erivo, Ariana Grande, Jonathan Bailey, Michelle Yeoh และ Jeff Goldblum เหมือนเดิม หนังจะเล่าเรื่องราวของ Elphaba ที่ถูกประณามว่าเป็น "แม่มดชั่วร้ายแห่งตะวันตก" และถูกตามล่า เธอต้องใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อนในป่าและยังคงต่อสู้อย่างลับ ๆ เพื่อเปิดโปงความจริงเกี่ยวกับพ่อมดแห่งออซ (The Wizard) และความอยุติธรรมที่สัตว์พูดได้ถูกกดขี่และปิดปาก ทางด้าน Glinda กลายเป็นสัญลักษณ์แห่ง "ความดีงาม" ที่สง่างามและเป็นที่รักของชาวออซ โดยอยู่ภายใต้การชี้แนะของมาดาม Morrible และพ่อมด เธอต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุขท่ามกลางความโด่งดังและเตรียมตัวจะแต่งงานกับ Fiyero แต่ในใจก็ยังคงรู้สึกผิดและคิดถึง Elphaba ซึ่ง Glinda ก็พยายามหาทางประนีประนอมระหว่าง Elphaba กับพ่อมด แต่ความพยายามนี้ล้มเหลว และยิ่งทำให้ทั้งสองห่างเหินกันไปอีก เหตุการณ์ต่าง ๆ นำไปสู่การมาถึงของเด็กสาวจากแคนซัสนามว่า Dorothy Gale และบ้านที่ปลิวมาซึ่งก็คือเนื้อเรื่องใน The Wizard of Oz นั่นเอง
แม้ Wicked for Good ทำคะแนนวิจารณ์ได้ต่ำกว่า Wicked โดยได้คะแนน Tomatometer ไป 70% จาก 186 รีวิว (Wicked ได้ 88%) และ Metascore = 60 จาก 50 รีวิว (Wicked ได้ 73) แต่จากความรักในตัวหนังภาคแรกของผู้ชมจำนวนมาก ทำให้คาดว่า Wicked for Good จะทำรายได้เปิดตัว 150+ ล้านเหรียญ และมีโอกาสที่จะทำลายสถิติภาพยนตร์ที่ทำรายได้เปิดตัวสูงที่สุดประจำปีนี้ที่ A Minecraft Movie ทำเอาไว้ 162.75 ล้านเหรียญลงได้เช่นกัน
Now You See Me: Now You Don’t (Lionsgate)
ก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จพอสมควรสำหรับ Now You See Me: Now You Don’t ที่สามารถเป็นแชมป์หนังทำเงินประจำสัปดาห์ได้เป็นเรื่องที่ 2 ของ Lionsgate ในปีนี้ได้อย่างพลิกความคาดหมาย (เรื่องแรกคือ Flight Risk ในเดือนมกราคม) โดยหนังได้เกรด CinemaScore = B+ ต่ำกว่า 2 ภาคแรกที่ได้ A- ทั้งคู่ คาดว่าสุดสัปดาห์ที่ 2 นี้ Now You See Me 3 จะทำรายได้ไปอีกราว 9-11 ล้าน รายได้รวมที่ประมาณ 36-38 ล้านเหรียญ
Predator: Badlands (Fox / Disney)
กำลังเดินหน้าลุ้นสู่หลัก 100 ล้านได้เป็นเรื่องแรกของแฟรนไชส์ ซึ่งพลัง WoM ที่ดีก็จะเริ่มส่งผลต่อการยืนระยะรายได้ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ 3 นี้เป็นต้นไป สุดสัปดาห์นี้ประมาณกันว่า Predator: Badlands จะทำรายได้ไปอีก 7-8 ล้าน และรายได้รวมไปที่ 77-79 ล้านเหรียญ
The Running Man (Paramount)
กลายเป็นความล้มเหลวอีกหนึ่งเรื่องของ Paramount ในปีนี้สำหรับ The Running Man ฉบับปี 2025 โดยหนังใช้ทุนสร้างไปถึง 110 ล้านเหรียญมากกว่า Predator: Badlands และ Now You See Me: Now You Don’t แต่ทำรายได้สู้สองเรื่องนั้นไม่ได้ และ The Running Man ก็ได้เกรด CinemaScore = B+ เท่ากับหนังฉบับปี 1987 คาดว่าหนังจะทำรายได้ในสุดสัปดาห์ที่ 2 ราว 5-7 ล้านเหรียญ และทำรายได้รวมประมาณ 26-28 ล้านเหรียญ
Rental Family (Fox / Disney)
นอกจาก Predator ที่เอาใจหนังตลาดแล้ว สุดสัปดาห์นี้ Fox ยังส่ง Rental Family มาเอาใจคอหนังสายคุณภาพที่ต้องการความแตกต่างอีกด้วย ซึ่ง Rental Family นั้นเป็นภาพยนตร์ Comedy-Drama กำกับโดย Hikari และนำแสดงโดย Brendan Fraser โดยมีฉากหลังเป็นกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวหลักสำรวจแนวคิดเรื่อง "ครอบครัวให้เช่า" (Rental Family) ซึ่งเป็นบริการที่มีอยู่จริงในญี่ปุ่น ที่ผู้คนสามารถจ้างนักแสดงให้มาสวมบทบาทเป็นคนสำคัญในชีวิตของพวกเขาเพื่อเติมเต็มช่องว่างทางอารมณ์หรือใช้ในสถานการณ์ทางสังคมต่าง ๆ โดย Rental Family ได้รับการตอบรับจากนักวิจารณ์ในระดับที่ดีมากๆ ทำคะแนน Tomatometer ได้ถึง 89% จาก 82 รีวิว และ Metascore = 68 จาก 25 รีวิว คาดว่าหนังจะทำรายได้เปิดตัวประมาณ 4-5 ล้านเหรียญ
SISU: Road to Revenge (Sony)
ภาคต่อของหนังแอ็คชั่นสุดเดือดสัญชาติฟินแลนด์ได้เวลาลงโรงฉายทั่วโลกแล้ว ซึ่งดูท่าทางภาคนี้จะยังโดนนักวิจารณ์เหมือนเดิมโดยทำคะแนน Tomatometer ได้ถึง 95% จาก 45 รีวิว (ภาคแรกได้ 94%) และ Metascore = 75 จาก 13 รีวิว (ภาคแรกได้ 70) ทำให้คาดว่า SISU: Road to Revenge จะทำรายได้เปิดตัวในอเมริกาเหนือ 3-5 ล้านเหรียญ
Wicked for Good ร่ายมนต์โกยสนั่น 150+ ล้าน Now You See Me 3 นั่งรองแชมป์ 9-11 ล้าน Predator ยังลิ่ว 7-8 ล้านเหรียญ