พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติพระวินัย เพื่อให้ภิกษุยึดถือประพฤติปฏิบัติตาม เพื่อความงดงามในพระศาสนา ยังศรัทธาของคฤหัสถ์ให้เลื่อมใส
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๙๔๐
พระบัญญัติ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า..ภิกษุใด รับ ก็ดี ให้รับ ก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือ ยินดีทอง เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์.
การจะปลงอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ ก่อนจะปลงอาบัติ ภิกษุรูปนั้นจะต้องสละสิ่งของที่ทำให้ต้องอาบัติเสียก่อน
ถามว่า มีภิกษุรูปใดสละเงินทองที่รับมาในที่ประชุมสงฆ์ก่อนจะปลงอาบัติบ้าง
ถ้าไม่สละเงินทอง แต่ปลงอาบัติทั้งอย่างนั้น ก็ไม่ถือว่าได้ปลงอาบัติแล้ว
ถ้าภิกษุรูปนั้นตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เป็นแน่แท้ หลีกไม่พ้น
มีพระรูปใดบ้างที่ต้องอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ เพราะรับเงินจากญาติโยมแล้วปลงอาบัติด้วยการสละเงินที่รับมานั้นก่อนปลงอาบัติ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๓ - หน้าที่ ๙๔๐
พระบัญญัติ
พระพุทธเจ้าตรัสว่า..ภิกษุใด รับ ก็ดี ให้รับ ก็ดี ซึ่งทอง เงิน หรือ ยินดีทอง เงิน อันเขาเก็บไว้ให้ เป็นนิสสัคคิยปาจิตตีย์.
การจะปลงอาบัตินิสสัคคิยปาจิตตีย์ ก่อนจะปลงอาบัติ ภิกษุรูปนั้นจะต้องสละสิ่งของที่ทำให้ต้องอาบัติเสียก่อน
ถามว่า มีภิกษุรูปใดสละเงินทองที่รับมาในที่ประชุมสงฆ์ก่อนจะปลงอาบัติบ้าง
ถ้าไม่สละเงินทอง แต่ปลงอาบัติทั้งอย่างนั้น ก็ไม่ถือว่าได้ปลงอาบัติแล้ว
ถ้าภิกษุรูปนั้นตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก เป็นแน่แท้ หลีกไม่พ้น