พระรับเงิน และ การบริหารค่าใช้จ่ายในวัด เรื่องง่ายที่ (ทำไม) ทำได้ยาก

กระทู้สนทนา
กลุ่มหนึ่งกล่าวหา พระรับเงินทอง ต้องอาบัติ ทำลายศาสนา เสื่อม บลาๆๆ  
อีกกลุ่มหนึ่งก็ด่าทอฝั่งที่กล่าวหาพระว่า ไม่ปรับตัวตามสถานะการณ์ บลาๆๆ
กลายเป็นว่า แทนที่จะหาทางออกร่วมกัน กลับสาดกันไปมา ด่าทอกันรุนแรงมาก
ทั้งๆ ที่ เรื่องนี้มันเล็กน้อยมาก เทียบกับเรื่อง การบิดเบือนพระธรรมวินัย
หรือ พระที่ต้องอาบัติปาราชิก แต่ยังเป็นกาฝากอยู่ในพุทธศาสนา  

มองในแง่พระวินัย พระรับเงินทองต้องอาบัติแน่นอน และต้องสละออกถึงจะปลงอาบัติได้ (นิสสัคคิยปาจิตตีย์)
หรือ ใครมีข้อมูลวินิจฉัย ข้ออนุโลมอย่างไร ขอให้ช่วยแสดงมานะครับ
มองในแง่ประเด็นเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในวัด ฝ่ายที่สนับสนุน อ้างความจำเป็นในการใช้เงิน
(ค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในวัด ที่เป็นส่วนรวม และทั้งส่วนตัวของพระภิกษุเอง)

ถ้าเรามองเพื่อจะหาทางออกร่วมกัน มันน่าจะมีหลักการที่ไม่ยากเลย
สร้างบัญชีส่วนรวมของวัด ให้คนทำบุญ บริจาค เข้าเป็นส่วนกลาง เพื่อทำนุบำรุงกิจการพระพุทธศาสนา
พระไม่ต้องรับเงิน ห้ามมีบัญชีส่วนตัว ก็ไม่ต้องอาบัติ เงินที่เป็นส่วนกลาง ก็นำมาใช้เป็นค่าน้ำ ไฟ การจัดการต่างๆ ฯลฯ
รวมทั้งค่าใช้จ่ายตามความจำเป็น ของพระภิกษุเช่น ค่าเดินทาง ค่ารักษาพยาบาล ฯลฯ
และให้ พระภิกษุบริหารจัดการร่วมกันกับฆราวาส โดยตั้งเป็นคณะกรรมการร่วม
ซึ่งเราสามารถป้องกัน การทุจริตต่างๆ ได้ดีเพราะมันมีการเกี่ยวเนื่องของหลายคน
ป้องกันการเข้ามาเพื่อลาภสักการะ ของพระบางจำพวก และอีกหลายๆ ประเด็นมาก
เดี๋ยวนี้ ในกุฏิพระ มีทีวี เย็นๆ พระก็นั่งดูทีวี ดูละคร ดูเน็ต (เว็บโป๊) ของเหล่านี้จะป้องกันได้เยอะ

จริงๆ อยากถามดังๆ เลยละว่า ทำได้ไหม หรือมีข้อติดขัดอย่างไร
อีกอย่าง เราออกแบบระบบมาแล้ว มีปัญหาก็ต้องค่อยปรับแก้กันไป เพื่อความเหมาะสมในสถานะการณ์ปัจจุบัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่