ขณะที่เจ้าหญิงวิมลลักษณากำลังทำ project เพื่อเตรียมจบปริญญาตรี ณ พระราชวังดานูป
ทันใดนั้น เหล่านางข้าหลวงก็วิ่งวุ่นเข้ามา "ทรงหนีเถอะค่ะพระองค์หญิง"
"มีอะไรกันเหรอ"
"พวกนักศึกษายกขบวนมาถึงหน้าวังแล้วค่ะ รีบหนีเถอะค่ะเสด็จพระองค์หญิง"
พอนางข้าหลวงกล่าวเสร็จก็รีบวิ่งไปทางด้านหลัง
เจ้าหญิงได้ยินเสียงจากเครื่องขยายเสียง
"ในขณะที่ประชาชนกำลังเดือดร้อน พวกคุณนั่งเฉย ๆ แต่ก็ได้เงิน มันเป็นธรรมแล้วเหรอ"
เสียงจากเครื่องขยายเสียงดังมากจนแทบจะกลบทุกเสียงในโลก
ตอนนี้ในวังเงียบมาก เงียบเหมือนกับว่าไม่มีใครอยู่เลย
นักศึกษาด้านนอกคุยกัน
"บุกเข้าไปภายในเลยดีไหม อยากเห็นด้านในของวังดานูปมาตั้งนานแล้ว"
แต่สิงหาเข้ามาห้ามไว้
"อย่าเลย เรามาเพื่อเรียกร้องบางเรื่องนะ แต่ไม่ใช่บุกรุกรบกวนคนอื่น"
"รบกวนอะไร คงเผ่นกันไปหมดแล้วล่ะ ไม่น่าจะมีใครอยู่แล้ว"
"ถึงงั้นก็เถอะ บุกรุกข้างในไม่ได้เป็นอันขาด"
เสียงจากเครื่องขยายเสียงยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
"พวกคุณเป็นใคร ทำไมถึงได้สิทธิมากกว่าผู้อื่น ทำไมถึงเอาเงินภาษีของเราไปผลาญได้
กฏหมายมีไว้ทำไม มีไว้ให้พวกคุณมากดขี่พวกเราอย่างนั้นเหรอ
พวกเรายอมไม่ได้อีกแล้ว และจะไม่ยอมตลอดไป"
ตอนนั้นเจ้าหญิงวิมลลักษณา ทรงออกมายืนตรงระเบียงชั้นสองของพระราชวังดานูป
พอคนที่พูดผ่านเครื่องขยายเสียงเห็นพระองค์ จึงได้หยุดพูด
"ไอ้สน เงียบทำไมอ่ะ" พอทุกคนหันไปมองนักศึกษาที่ชื่อสน
และได้เห็นสนมองขึ้นไปบนระเบียงชั้นสอง ทุกคนจึงเห็นเจ้าหญิงวิมลลักษณายืนอยู่บนนั้น
ทันใดนั้นก็มีเสียงมาจากท้ายขบวน
"นั่นเจ้าชายปารีสอยู่ตรงนั้น จับมันเลย" เสียงนักศึกษาหัวรุนแรงคนหนึ่งดังขึ้น
"ไม่ได้นะ เราจะทำอย่างนั้นไม่ได้ เรามาเพื่อแสดงออกทางความคิด
ไม่ได้มาเพื่อที่จะทำร้ายใคร" สิงหาตะโกนออกไป
"แต่พวกมันควรได้รับการสั่งสอนบ้าง ใช่ไหมพวกเรา"
มีนักศึกษาชายสองคนกำลังจะเข้าไปรวบตัวเจ้าชายปารีส
แต่สิงหากับคำรณ เข้ามาห้ามไว้
"อย่าแตะต้องตัวเจ้าชายนะ ท่านไม่มีความผิด เรามาเรียกร้องเชิงระบบ
ไม่ได้มุ่งหวังที่จะทำร้ายใคร" สิงหาพูดขึ้นในขณะที่กันเจ้าชายไว้
พอควบคุมความสงบได้ สิงหาจึงหันไปบอกกับเจ้าชายปารีส
"ทรงไปหาเจ้าหญิงวิมลลักษณาเถอะ"
แล้วหันมาตะโกนบอกกลุ่มเพื่อน "พวกเราหลีกทางให้เจ้าชายด้วย"
เจ้าชายได้เดินฝ่าฝูงชนจนเข้ามาถึงด้านในของพระราชวังดานูป
ทรงเสด็จขึ้นไปชั้นสอง แล้วเดินออกไปตรงระเบียงที่เจ้าหญิงทรงยืนอยู่
"น้องหญิงเข้าไปด้านในเถอะ"
เจ้าหญิงหันมามองหน้าเจ้าชาย แต่ทรงไม่ได้พูดอะไร แล้วจึงเสด็จกลับด้านใน
..................................................
ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโสฬส
เจ้าหญิงวิมลลักษณากับเจ้าชายปารีสทรงนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้ใต้อาคาร
สิงหากับคำรณค่อย ๆ เดินเข้ามาหาพระองค์ สิงหาพยายามพูดในสิ่งที่เขาอยากพูด
"เออ ขอพระราชทานอภัยโทษด้วยกระหม่อมคือข้าพระองค์ เออ"
เจ้าชายปารีสเห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า "ไม่ต้องใช้ราชาศัพท์กับเราหรอก
นั่งลงสิ จะได้คุยกัน"
สิงหากับคำรณนั่งฝั่งตรงข้ามของทั้งสองพระองค์
สิงหาพยายามพูดอีกครั้ง "คือ พวกเราจะมาขอโทษเรื่องเหตุการณ์ในวันนั้น"
"ไม่ต้องขอโทษหรอก พวกนายไม่ได้ทำผิดอะไร" เจ้าชายปารีสเอ่ยขึ้น
"แต่พวกเราไม่สบายใจเลย เราไม่คิดว่าจะมีใครอยู่ในวัง" คำรณกล่าวขึ้นบ้าง
"อย่ากังวลไป เราเองก็อยากรู้ความเห็นต่าง ๆ นานาเหมือนกัน" เจ้าหญิงวิมลลักษณาได้เอ่ยขึ้น
"ทางพวกผมเองอาจจะผิดที่คิดบุกรุกวัง" คำรณกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"บอกแล้วไงว่าไม่ต้องคิดมาก" เจ้าชายปารีสพูดพร้อมกับเอามือไปสัมผัสที่ไหล่ของเขา
"ปัญหาทุกอย่างมาจากรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพ" เจ้าหญิงทรงให้ความเห็น
หลังจากนั้นเจ้าชายกับเจ้าหญิงก็ผละออกมาจากสองคนนั้น
"วันนี้พี่อยากพาน้องหญิงไปสถานที่แห่งนึง เขาเพิ่งเปิดครับ น้องหญิงว่างไหม"
"ได้สิคะ"
รถจากวังพาทั้งสองพระองค์มาส่งที่ประภาคารเคียงดาว
"ที่นี่สวยจังเลยค่ะ"
เจ้าชายปารีสพาเจ้าหญิงวิมลลักษณาขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบน
"ชั้นบนก็สวยมากค่ะ"
ชั้นบนมีโต๊ะอาหารที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ
ทั้งคู่นั่งกันเรียบร้อย มีบริกรมาให้บริการอย่างสะดวกสบาย
"ใกล้จะจบปริญญาตรีกันแล้วนะ น้องหญิงมีแผนอย่างไรบ้าง"
"อืม หญิงคงต้องกลับมาบริหารวังทั้ง 7 ค่ะ ตอนนี้มีปัญหาร้อยแปดเลย"
"เกิดมาเป็นเชื้อพระวงศ์ ก็ยังต้องมาเจอปัญหากับอุปสรรคมากมาย
แต่ปัญหาหนักสุดคืออะไรรู้มั้ย"
"คืออะไรคะ"
"มีแต่คนคิดว่าพวกเราสบายไง ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก
ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น"
เจ้าหญิงวิมลลักษณาได้แต่ทรงยิ้ม
เวลาผ่านไป ทางบริกรได้นำไมโครโฟนกับกีต้าร์มาจัดเตรียมไว้
"จะมีคนมาร้องเพลงให้เราฟังเหรอคะ"
เจ้าชายปารีสทรงยิ้ม "พี่เองแหละ" แล้วพระองค์ก็ทรงลุกขึ้นไปเตรียมตัว
สักพักทรงพูดว่า "ขอมอบเพลงนี้ให้น้องหญิงนะครับ"
วิมานมายา โดย ศักดา ตอนที่ 48 ตอนพิเศษ: เรื่องราวแห่งรักของเจ้าหญิงวิมลลักษณาและเจ้าชายปารีส ตอนที่ 2
ทันใดนั้น เหล่านางข้าหลวงก็วิ่งวุ่นเข้ามา "ทรงหนีเถอะค่ะพระองค์หญิง"
"มีอะไรกันเหรอ"
"พวกนักศึกษายกขบวนมาถึงหน้าวังแล้วค่ะ รีบหนีเถอะค่ะเสด็จพระองค์หญิง"
พอนางข้าหลวงกล่าวเสร็จก็รีบวิ่งไปทางด้านหลัง
เจ้าหญิงได้ยินเสียงจากเครื่องขยายเสียง
"ในขณะที่ประชาชนกำลังเดือดร้อน พวกคุณนั่งเฉย ๆ แต่ก็ได้เงิน มันเป็นธรรมแล้วเหรอ"
เสียงจากเครื่องขยายเสียงดังมากจนแทบจะกลบทุกเสียงในโลก
ตอนนี้ในวังเงียบมาก เงียบเหมือนกับว่าไม่มีใครอยู่เลย
นักศึกษาด้านนอกคุยกัน
"บุกเข้าไปภายในเลยดีไหม อยากเห็นด้านในของวังดานูปมาตั้งนานแล้ว"
แต่สิงหาเข้ามาห้ามไว้
"อย่าเลย เรามาเพื่อเรียกร้องบางเรื่องนะ แต่ไม่ใช่บุกรุกรบกวนคนอื่น"
"รบกวนอะไร คงเผ่นกันไปหมดแล้วล่ะ ไม่น่าจะมีใครอยู่แล้ว"
"ถึงงั้นก็เถอะ บุกรุกข้างในไม่ได้เป็นอันขาด"
เสียงจากเครื่องขยายเสียงยังคงดังอย่างต่อเนื่อง
"พวกคุณเป็นใคร ทำไมถึงได้สิทธิมากกว่าผู้อื่น ทำไมถึงเอาเงินภาษีของเราไปผลาญได้
กฏหมายมีไว้ทำไม มีไว้ให้พวกคุณมากดขี่พวกเราอย่างนั้นเหรอ
พวกเรายอมไม่ได้อีกแล้ว และจะไม่ยอมตลอดไป"
ตอนนั้นเจ้าหญิงวิมลลักษณา ทรงออกมายืนตรงระเบียงชั้นสองของพระราชวังดานูป
พอคนที่พูดผ่านเครื่องขยายเสียงเห็นพระองค์ จึงได้หยุดพูด
"ไอ้สน เงียบทำไมอ่ะ" พอทุกคนหันไปมองนักศึกษาที่ชื่อสน
และได้เห็นสนมองขึ้นไปบนระเบียงชั้นสอง ทุกคนจึงเห็นเจ้าหญิงวิมลลักษณายืนอยู่บนนั้น
ทันใดนั้นก็มีเสียงมาจากท้ายขบวน
"นั่นเจ้าชายปารีสอยู่ตรงนั้น จับมันเลย" เสียงนักศึกษาหัวรุนแรงคนหนึ่งดังขึ้น
"ไม่ได้นะ เราจะทำอย่างนั้นไม่ได้ เรามาเพื่อแสดงออกทางความคิด
ไม่ได้มาเพื่อที่จะทำร้ายใคร" สิงหาตะโกนออกไป
"แต่พวกมันควรได้รับการสั่งสอนบ้าง ใช่ไหมพวกเรา"
มีนักศึกษาชายสองคนกำลังจะเข้าไปรวบตัวเจ้าชายปารีส
แต่สิงหากับคำรณ เข้ามาห้ามไว้
"อย่าแตะต้องตัวเจ้าชายนะ ท่านไม่มีความผิด เรามาเรียกร้องเชิงระบบ
ไม่ได้มุ่งหวังที่จะทำร้ายใคร" สิงหาพูดขึ้นในขณะที่กันเจ้าชายไว้
พอควบคุมความสงบได้ สิงหาจึงหันไปบอกกับเจ้าชายปารีส
"ทรงไปหาเจ้าหญิงวิมลลักษณาเถอะ"
แล้วหันมาตะโกนบอกกลุ่มเพื่อน "พวกเราหลีกทางให้เจ้าชายด้วย"
เจ้าชายได้เดินฝ่าฝูงชนจนเข้ามาถึงด้านในของพระราชวังดานูป
ทรงเสด็จขึ้นไปชั้นสอง แล้วเดินออกไปตรงระเบียงที่เจ้าหญิงทรงยืนอยู่
"น้องหญิงเข้าไปด้านในเถอะ"
เจ้าหญิงหันมามองหน้าเจ้าชาย แต่ทรงไม่ได้พูดอะไร แล้วจึงเสด็จกลับด้านใน
..................................................
ณ มหาวิทยาลัยแห่งชาติโสฬส
เจ้าหญิงวิมลลักษณากับเจ้าชายปารีสทรงนั่งอยู่ที่โต๊ะไม้ใต้อาคาร
สิงหากับคำรณค่อย ๆ เดินเข้ามาหาพระองค์ สิงหาพยายามพูดในสิ่งที่เขาอยากพูด
"เออ ขอพระราชทานอภัยโทษด้วยกระหม่อมคือข้าพระองค์ เออ"
เจ้าชายปารีสเห็นดังนั้นจึงกล่าวว่า "ไม่ต้องใช้ราชาศัพท์กับเราหรอก
นั่งลงสิ จะได้คุยกัน"
สิงหากับคำรณนั่งฝั่งตรงข้ามของทั้งสองพระองค์
สิงหาพยายามพูดอีกครั้ง "คือ พวกเราจะมาขอโทษเรื่องเหตุการณ์ในวันนั้น"
"ไม่ต้องขอโทษหรอก พวกนายไม่ได้ทำผิดอะไร" เจ้าชายปารีสเอ่ยขึ้น
"แต่พวกเราไม่สบายใจเลย เราไม่คิดว่าจะมีใครอยู่ในวัง" คำรณกล่าวขึ้นบ้าง
"อย่ากังวลไป เราเองก็อยากรู้ความเห็นต่าง ๆ นานาเหมือนกัน" เจ้าหญิงวิมลลักษณาได้เอ่ยขึ้น
"ทางพวกผมเองอาจจะผิดที่คิดบุกรุกวัง" คำรณกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
"บอกแล้วไงว่าไม่ต้องคิดมาก" เจ้าชายปารีสพูดพร้อมกับเอามือไปสัมผัสที่ไหล่ของเขา
"ปัญหาทุกอย่างมาจากรัฐบาลที่ไม่มีประสิทธิภาพ" เจ้าหญิงทรงให้ความเห็น
หลังจากนั้นเจ้าชายกับเจ้าหญิงก็ผละออกมาจากสองคนนั้น
"วันนี้พี่อยากพาน้องหญิงไปสถานที่แห่งนึง เขาเพิ่งเปิดครับ น้องหญิงว่างไหม"
"ได้สิคะ"
รถจากวังพาทั้งสองพระองค์มาส่งที่ประภาคารเคียงดาว
"ที่นี่สวยจังเลยค่ะ"
เจ้าชายปารีสพาเจ้าหญิงวิมลลักษณาขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นบน
"ชั้นบนก็สวยมากค่ะ"
ชั้นบนมีโต๊ะอาหารที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ
ทั้งคู่นั่งกันเรียบร้อย มีบริกรมาให้บริการอย่างสะดวกสบาย
"ใกล้จะจบปริญญาตรีกันแล้วนะ น้องหญิงมีแผนอย่างไรบ้าง"
"อืม หญิงคงต้องกลับมาบริหารวังทั้ง 7 ค่ะ ตอนนี้มีปัญหาร้อยแปดเลย"
"เกิดมาเป็นเชื้อพระวงศ์ ก็ยังต้องมาเจอปัญหากับอุปสรรคมากมาย
แต่ปัญหาหนักสุดคืออะไรรู้มั้ย"
"คืออะไรคะ"
"มีแต่คนคิดว่าพวกเราสบายไง ใช้ชีวิตไปวัน ๆ ไม่ต้องคิดอะไรมาก
ทั้ง ๆ ที่จริง ๆ แล้วมันไม่ได้เป็นอย่างนั้น"
เจ้าหญิงวิมลลักษณาได้แต่ทรงยิ้ม
เวลาผ่านไป ทางบริกรได้นำไมโครโฟนกับกีต้าร์มาจัดเตรียมไว้
"จะมีคนมาร้องเพลงให้เราฟังเหรอคะ"
เจ้าชายปารีสทรงยิ้ม "พี่เองแหละ" แล้วพระองค์ก็ทรงลุกขึ้นไปเตรียมตัว
สักพักทรงพูดว่า "ขอมอบเพลงนี้ให้น้องหญิงนะครับ"