เราเริ่มขายข้าวเหนียว หมูปิ้ง หน้าโรงเรียนเป็นเจ้าแรกซึ่งเราดูทำเลแล้วขายได้ และยังไม่มีใครตั้งร้านขายอะไรเลย เราขายได้วันเดียว หลังจากนั้นมีคุณลุงกับคุณป้า มาขายไก่ทอดข้าวเหนียวข้างๆ ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ถือว่าลูกค้าจะได้มีตัวเลือกเพิ่มขึ้น และคิดว่าเป็นปกติของการค้าขายที่จะต้องมีคู่แข่ง ตอนเช้าวันแรกที่มาขายของข้างๆกันเขาเห็นร้านเราขายหมูปิ้งค่อนข้างดี มีเด็กมายืนรุมซื้อต่อแถว คุณป้าก็เดินมาถามว่าหมูนี่รับมาหรือหมักเราก็ตอบไปตามปกติว่า หมักเองเป็นสูตรของคุณแม่เราเอง วันแรกก็จบไป
    ต่อมาวันที่ 2 คุณลุงกับคุณป้าก็นำไก่ปิ้งเสียบไม้คล้ายๆกับหมูปิ้งโบราณของเรามาขายและเราก็เริ่มเอะใจแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรยังไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะไม่อยากมีปัญหา เพราะตอนแรกเราคิดว่าจะเอาไก่ปิ้งมาขายก่อนที่คุณป้าจะมาเปิดร้านข้างๆด้วย แต่เขามาเปิดร้านไก่ทอดข้างๆแล้วเลยเกรงใจร้านคุณป้า จึงปล่อยไป ถือว่าคนทำมาหากินด้วยกัน
     ต่อมาวันที่ 3 คุณลุงกับคุณป้า ทำป้ายไวนิลไก่ทอด,หมูย่าง,ไก่ย่าง,ไส้ย่าง ขึ้นป้ายหน้าร้านใหญ่โตซึ่งหมูย่างก็คือรูปภาพเป็นหมูปิ้งโบราณเหมือนแบบที่เราขายเลย และตอนขายคุณป้าจะชอบตัดราคาและชอบตะโกนเรียกดึงลูกค้าเวลาเขายืนต่อแถวซื้อของเรา
   เรื่องที่เรารับไม่ได้คือการชอบขายตัดราคาเรา ตัวอย่างคือข้าวเหนียว เขาจะขายราคาปกติคือถุงละ 10บาท แต่พอมีนักเรียนมาซื้อเขามักจะขายในราคาถุงละ 5 บาท แต่ถ้าเป็นชาวบ้านปกติมาซื้อคุณลุงกับคุณป้าก็ขึ้นราคาตามปกติคือถุงละ 10 บาท และไก่ทอดตอนแรกเขาตั้งราคาไว้ที่ 30 บาท พอขายให้นักเรียนจะลดลงมาเหลือ 20 บาท แต่ร้านเราทำป้ายราคาบอกชัดเจน ทุกอย่างและเราเริ่มคิดแล้วว่าเหมือนพวกเขาจะพยายามจะทำทุกวิธีที่จะดึงลูกค้าของร้านเราไปให้ได้มากที่สุด แต่เราไม่ได้อยากมีปัญหา เราเลยอยากมาปรึกษาเพื่อนๆว่าถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้เราควรรับมือยังไงดีคะ  ปล. ร้านเราขายข้างๆกันเลย ได้ยินทุกคำพูดและสังเกตทุกการกระทำมาตลอด