‘ชลิตา’ ชวนแก้มายาคติที่อ้างว่าศักดิ์สิทธิ์ หยุดปลุกผีแบ่งแยกดินแดน
https://www.matichon.co.th/politics/news_4046778
‘ชลิตา’ ชวนแก้มายาคติที่อ้างว่าศักดิ์สิทธิ์ หยุดปลุกผีแบ่งแยกดินแดน
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ลานประติมากรรมประวัติศาสตร์ หน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) จัดงาน “
มุ่งหน้าธรรมศาสตร์ เฉลิมฉลองวันชาติราษฎร”
บรรยากาศ เวลา 17.35 น. มีการปาฐกถา “
91 ปี อภิวัฒน์สยาม กับการสร้างประชาธิปไตยด้วยรัฐธรรมนูญประชาชน” โดย รศ.ดร.
อนุสรณ์ อุณโณ เนื้อหาความว่า ถึงเวลาร่วมเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนเสียที
ต่อมาเวลา 17.58 น. มีการร่วมร้องเพลง 24 มิถุนา 2475 ก่อนเข้าสู่เสวนา “
เล่าฝัน ความหวังรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” โดย น.ส.
บุณยนุช มัทธุจักร หรือ
แตงโม ตัวแทนจาก ไอลอว์, ผศ.ดร.
ชลิตา บัณฑุวงศ์ จากเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง และ น.ส.
จิรนุช เปรมชัยพร จากเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ (CALL) อดีตผู้สื่อข่าว
ผศ.ดร.
ชลิตากล่าวตอนหนึ่งว่า ปัญหาของรัฐธรรมนูญปี 60 คือเรื่องของสถานะ มีคนบางกลุ่มมักบอกว่า รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องประเพณีอันดีงาม เป็นเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ ในเนื้อหา ฉบับปี 60 คำปรารภก็ระบุเช่นนี้ มีนัยยะของการพยายามทำให้รัฐธรรมนูญเป็นขนบที่สืบทอดกันมา เป็นศีลธรรมและความศักดิ์สิทธิ์
นอกจากนี้ควรจะเป็นพื้นที่โอบรับความหลากหลาย ไม่ว่าจะเพศสภาพ ศาสนา ชาติพันธุ์ การมีพื้นที่ให้กับความฝันของผู้คน โดยเฉพาะสิทธิในการกำหนดอนาคตตัวเองก็ต้องถูกรับรองไว้ รวมถึงความฝันที่จะมีรูปแบบการปกครองในพื้นที่ต่างๆ เช่น ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ต้องถูกรวมมาแลกเปลี่ยนกับคนกลุ่มอื่น ต้องเปิดพื้นที่อำนวย ส่งเสริมสิ่งนี้
รวมถึงปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะเวลาพูดถึงการแสดงความเห็น ก็จะมีข้อความกำกับว่า ต้องอยู่ภายใต้ศีลธรรมอันดีงาม ไม่กระทบกับความมั่นคงทั้งหลาย ทำให้เกิดความคุมเครือในประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น
จากนั้นกล่าวถึงนักศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ทำประชามติจำลอง แต่ถูกเจ้าหน้าที่คุกคาม
ผศ.ดร.
ชลิตากล่าวว่า สรุปแล้วจะปกป้องหรือไม่ปกป้อง ทำให้การแสดงออกของคนในหลายฝ่าย หรือแม้แค่พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ยังอึ้ง
“
จะเห็นข้อจำกัดเหล่านี้ ความคลุมเครือของรัฐธรรมนูญ เปิดช่องให้เกิดการข่มขู่นักศึกษาที่ทำกิจกรรมเหล่านี้ ดังนั้น ต้องสถาปนาอำนาจประชาชนอย่างแท้จริง
ผศ.ดร.
ชลิตากล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ อันดับแรก เราต้องทำความเข้าใจนัยยะประวัติศาสตร์ของรัฐธรรมนูญให้ดี เพื่อก้าวพ้นจากกับดักแนวคิดบางอย่าง
“
ก้าวต่อไปที่ภาคประชานจะทำได้ คือเข้าไปผลักดัน ผ่านช่องทางร่างรัฐธรรมนูญ จัดเวทีรณรงค์ไปเรื่อยๆ เพื่อแก้มายาคติ อีกส่วนที่ควรทำ คือส่งตัวแทนของเราไปสมัคร ส.ส.ร. เพื่อผลักดันเรื่องนี้ต่อไป ไม่ว่าสำเร็จหรือไม่ เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะผ่านกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตยแล้ว ‘แค่คิดก็ผิดแล้ว’ เราต้องข้ามมายาคตินี้ให้ได้” ผศ.ดร.
ชลิตากล่าวทิ้งท้าย
“ศิโรตม์” มอง ปธ.สภา อาจจบสูตรอดิศร – ฉะ”บิ๊กตู่” ปมบ้านหลวง เด็กยังคิดได้ ควรไม่ควร
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4046759
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ผู้ดำเนินรายการมีเรื่องมาเคลียร์ ให้สัมภาษณ์มองประเด็นการเมืองกรณีบ้านหลวงของ พล.อ.
ประยุทธ์ เด็กยังคิดได้ ว่าควรพักต่อหรือไม่ ยกผู้นำเหล่าทัพหลายคนอยู่บ้านตัวเอง ถามจะกลัวอะไร ส่วนกรณีประธานสภา มองว่าจะจบสูตรอดิศร และอาจจะลากถึงวันโหวต แต่อาจจะไม่เป็นผลดีต่อเพื่อไทย ติดตามรายละเอียดทั้งหมดจากคลิปด้านล่างนี้
โพลเอสเอ็มอี ร้องรบ.ใหม่ลดค่าไฟ เพิ่มเงินสดในมือประชาชนคล้าย ‘เราชนะ-คนละครึ่ง’
https://www.matichon.co.th/economy/news_4046399
โพลเอสเอ็มอีร้องรบ.ใหม่ลดค่าไฟ ขอนโยบายเพิ่มเงินสดในมือประชาชน คล้าย ‘เราชนะ-คนละครึ่ง’ กลุ่มแอลกอฮอล์วอนอย่าจำกัดเวลา
นาย
วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ได้ทำการสำรวจผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เกี่ยวกับความต้องการมาตรการส่งเสริมจากว่าที่รัฐบาลใหม่ โดยสอบถามผู้ประกอบการ จำนวน 2,683 ราย ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 19-28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เอสเอ็มอีส่วนใหญ่ 54.5% ต้องการความช่วยเหลือด้านต้นทุนและค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าสาธารณูปโภค มีความต้องการเร่งด่วนมากที่สุดในเรื่องค่าไฟฟ้า รองลงมาเป็นค่าสินค้า วัตถุดิบ เป็นความต้องการของธุรกิจการผลิตและภาคธุรกิจการเกษตรเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ แนวทางความช่วยเหลือด้านค่าสาธารณูปโภคที่ผู้ประกอบการต้องการโดยภาพรวม ได้แก่ ลดอัตราการเก็บค่าไฟฟ้า ให้เงินอุดหนุนค่าไฟบางส่วน กำหนดอัตราการเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับธุรกิจให้ถูกลง งดเก็บค่าไฟฟ้ากรณีใช้ไม่ครบตามที่กำหนด มีระบบการผ่อนชำระ และส่งเสริมการใช้แผงโซลาร์เซลล์ ส่วนแนวทางความช่วยเหลือด้านภาษี ได้แก่ ให้สิทธิประโยชน์ในการนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้ ลดหย่อนอัตราการเก็บภาษีธุรกิจ (ภาษีร้าน ภาษีป้าย ภาษีสิ่งปลูกสร้าง) และการลดหย่อนภาษีการนำเข้า
ความช่วยเหลือด้านหนี้สิน พบว่า การลดอัตราดอกเบี้ยเป็นความต้องการมากที่สุด รวมถึงต้องการสินเชื่อเฉพาะสำหรับเอสเอ็มอีที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ และผ่อนปรนเงื่อนไขการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งธุรกิจรายย่อยต้องการมาตรการช่วยเหลือเรื่องการพักชำระหนี้มากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มภาคธุรกิจการเกษตร
ส่วนความต้องการให้มีการปรับปรุงการอนุมัติการปล่อยสินเชื่อให้เร็วขึ้นจะเพิ่มขึ้นตามขนาดธุรกิจ เนื่องจากความล่าช้าในการได้รับเงินแม้จะผ่านเงื่อนไขการกู้แล้ว โดยรูปแบบสินเชื่อที่ต้องการ ได้แก่ สินเชื่อที่มีระยะเวลาการผ่อนชำระนาน ปลอดหลักทรัพย์ค้ำประกัน ดอกเบี้ยต่ำ และวงเงินสูง รูปแบบการลดขั้นตอนและระยะเวลาการขอสินเชื่อ ได้แก่ อนุมัติการปล่อยเงินกู้ให้เร็วขึ้น และลดขั้นตอนและเอกสารขอสินเชื่อ
ด้านกระตุ้นกำลังซื้อด้วยมาตรการเพิ่มเงินสดในมือผู้บริโภค ยังเป็นความต้องการมากที่สุดในทุกภาคธุรกิจและทุกขนาดธุรกิจ ซึ่งธุรกิจรายย่อยโดยเฉพาะภาคการค้า มองว่าควรมีนโยบายเงินสนับสนุนเพิ่มเงินสดในมือให้ผู้บริโภคเพื่อช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย ธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง มองว่าควรลดภาษีสินค้า บริการ เพื่อช่วยลดต้นทุนราคา รวมถึงการสร้างรายได้และอาชีพให้ผู้บริโภคมีรายได้เพียงพอต่อการใช้จ่าย โดยรูปแบบมาตรการสนับสนุนการใช้จ่าย เช่น เงินสนันสนุนเพิ่มกำลังซื้อ ในลักษณะของโครงการเราชนะ คนละครึ่ง การแจกคูปองสำหรับซื้อสินค้า บริการซึ่งให้สิทธิพิเศษถึงธุรกิจรายย่อยได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ด้านความรู้ทางด้านการตลาดและช่องทางการตลาดเป็นความต้องการมากที่สุดของเอสเอ็มอีด้านการเพิ่มศักยภาพและส่งเสริมธุรกิจ รองลงมาเป็นความรู้เฉพาะทางและเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเอสเอ็มอีต้องการให้มีการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจการเกษตรและภาคการผลิต ซึ่งธุรกิจขนาดกลางมีความต้องการให้ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกต่อการส่งออก ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียน การขอมาตรฐาน โดยรูปแบบการส่งเสริมความรู้ด้านการตลาด เช่น การทำตลาด การเปิดตลาด จัดหาแหล่งจำหน่ายสินค้า และการประชาสัมพันธ์ให้ธุรกิจขนาดเล็กและรายย่อย เป็นต้น
นายวีระพงศ์ กล่าวว่า ด้านเงินอุดหนุนค่าจ้างและการขึ้นค่าแรงเป็นขั้นบันได เป็นความต้องการช่วยเหลือมากที่สุดทางด้านแรงงาน เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวปรับต้นทุน รวมถึงการเพิ่มทักษะแรงงานเป็นที่ต้องการมากในภาคการผลิต ส่วนการขาดแรงงานมีปัญหามากในภาคธุรกิจการเกษตร ซึ่งประเด็นความต้องการให้ส่งเสริมการนำเข้าแรงงานต่างด้าวจะเพิ่มขึ้นตามขนาดธุรกิจ โดยเฉพาะการแก้ไขประเด็นเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตที่มีขั้นตอนและระยะเวลาการดำเนินงานมาก
โดยรูปแบบความช่วยเหลือด้านต้นทุนค่าจ้างแรงงาน เช่น เงินอุดหนุนค่าจ้าง การปรับเพิ่มค่าจ้างเป็นลำดับขั้น มาตรการช่วยเหลือรองรับค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น ส่วนความช่วยเหลือด้านการเข้าถึงแรงงาน เช่น การจัดหาแรงงานที่มีทักษะตรงกับธุรกิจ มีศูนย์พบปะแรงงานที่มีคุณภาพให้กับผู้ประกอบการ และแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย เป็นต้น
นาย
วีระพงศ์ กล่าวอีกว่า การผ่อนปรนข้อจำกัดการขายและพื้นที่รวมถึงการอำนวยความสะดวกการขอใบอนุญาตต่าง ๆ เป็นความต้องการช่วยเหลือมากที่สุดใน ด้านการแข่งขัน กฎระเบียบข้อบังคับ ใบอนุญาต เพื่อให้เกิดความสะดวก และลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ ซึ่งธุรกิจรายย่อยต้องการให้ลดกฎระเบียบการดำเนินงานของธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มภาคการค้าและภาคการบริการที่ต้องการให้ยกเลิกการจำกัดเวลาการขายสินค้าแอลกอฮอล์
ขณะที่เอสเอ็มอีส่วนใหญ่ต้องการให้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับใบอนุญาตของธุรกิจ โดยสัดส่วนความต้องการเพิ่มขึ้นตามขนาดธุรกิจ การแก้ไขไม่ว่าจะเป็นการลดขั้นตอน ระยะเวลาในการขอใบอนุญาต งดเก็บค่าบริการ เพิ่มอายุใบอนุญาต หรือการดำเนินการที่สามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้ทุกขั้นตอน
“
ปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ยังสนใจเข้าร่วมโครงการภาครัฐ แม้จะต้องขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการธุรกิจ โดยเฉพาะการลงทุนซื้ออุปกรณ์เครื่องมือเพื่อเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือของภาครัฐ ได้รับความสนใจมากที่สุด ส่วนเอสเอ็มอีที่ไม่สนใจ เนื่องจากมีความกังวลในขั้นตอนดำเนินการและผลทางภาษีเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจรายย่อย เพราะกังวลด้านค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่อาจจะสูงจนเป็นภาระต้นทุนในการประกอบธุรกิจ” นาย
วีระพงศ์กล่าว
JJNY : ‘ชลิตา’ ชวนแก้มายาคติ│“ศิโรตม์”ฉะ”ตู่” ปมบ้านหลวง│โพลเอสเอ็มอี ร้องรบ.ใหม่ลดค่าไฟ│พบสัญญาณล่วงหน้ากบฏในรัสเซีย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4046778
‘ชลิตา’ ชวนแก้มายาคติที่อ้างว่าศักดิ์สิทธิ์ หยุดปลุกผีแบ่งแยกดินแดน
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ที่ลานประติมากรรมประวัติศาสตร์ หน้าหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ คณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) จัดงาน “มุ่งหน้าธรรมศาสตร์ เฉลิมฉลองวันชาติราษฎร”
บรรยากาศ เวลา 17.35 น. มีการปาฐกถา “91 ปี อภิวัฒน์สยาม กับการสร้างประชาธิปไตยด้วยรัฐธรรมนูญประชาชน” โดย รศ.ดร.อนุสรณ์ อุณโณ เนื้อหาความว่า ถึงเวลาร่วมเขียนรัฐธรรมนูญใหม่ ที่อำนาจอธิปไตยเป็นของประชาชนเสียที
ต่อมาเวลา 17.58 น. มีการร่วมร้องเพลง 24 มิถุนา 2475 ก่อนเข้าสู่เสวนา “เล่าฝัน ความหวังรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” โดย น.ส.บุณยนุช มัทธุจักร หรือ แตงโม ตัวแทนจาก ไอลอว์, ผศ.ดร.ชลิตา บัณฑุวงศ์ จากเครือข่ายนักวิชาการเพื่อสิทธิพลเมือง และ น.ส.จิรนุช เปรมชัยพร จากเครือข่ายรณรงค์รัฐธรรมนูญ (CALL) อดีตผู้สื่อข่าว
ผศ.ดร.ชลิตากล่าวตอนหนึ่งว่า ปัญหาของรัฐธรรมนูญปี 60 คือเรื่องของสถานะ มีคนบางกลุ่มมักบอกว่า รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องประเพณีอันดีงาม เป็นเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์ ในเนื้อหา ฉบับปี 60 คำปรารภก็ระบุเช่นนี้ มีนัยยะของการพยายามทำให้รัฐธรรมนูญเป็นขนบที่สืบทอดกันมา เป็นศีลธรรมและความศักดิ์สิทธิ์
นอกจากนี้ควรจะเป็นพื้นที่โอบรับความหลากหลาย ไม่ว่าจะเพศสภาพ ศาสนา ชาติพันธุ์ การมีพื้นที่ให้กับความฝันของผู้คน โดยเฉพาะสิทธิในการกำหนดอนาคตตัวเองก็ต้องถูกรับรองไว้ รวมถึงความฝันที่จะมีรูปแบบการปกครองในพื้นที่ต่างๆ เช่น ใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ต้องถูกรวมมาแลกเปลี่ยนกับคนกลุ่มอื่น ต้องเปิดพื้นที่อำนวย ส่งเสริมสิ่งนี้
รวมถึงปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างแท้จริง เพราะเวลาพูดถึงการแสดงความเห็น ก็จะมีข้อความกำกับว่า ต้องอยู่ภายใต้ศีลธรรมอันดีงาม ไม่กระทบกับความมั่นคงทั้งหลาย ทำให้เกิดความคุมเครือในประเด็นปัญหาที่เกิดขึ้น
จากนั้นกล่าวถึงนักศึกษาใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ทำประชามติจำลอง แต่ถูกเจ้าหน้าที่คุกคาม
ผศ.ดร.ชลิตากล่าวว่า สรุปแล้วจะปกป้องหรือไม่ปกป้อง ทำให้การแสดงออกของคนในหลายฝ่าย หรือแม้แค่พรรคฝ่ายประชาธิปไตย ยังอึ้ง
“จะเห็นข้อจำกัดเหล่านี้ ความคลุมเครือของรัฐธรรมนูญ เปิดช่องให้เกิดการข่มขู่นักศึกษาที่ทำกิจกรรมเหล่านี้ ดังนั้น ต้องสถาปนาอำนาจประชาชนอย่างแท้จริง
ผศ.ดร.ชลิตากล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ อันดับแรก เราต้องทำความเข้าใจนัยยะประวัติศาสตร์ของรัฐธรรมนูญให้ดี เพื่อก้าวพ้นจากกับดักแนวคิดบางอย่าง
“ก้าวต่อไปที่ภาคประชานจะทำได้ คือเข้าไปผลักดัน ผ่านช่องทางร่างรัฐธรรมนูญ จัดเวทีรณรงค์ไปเรื่อยๆ เพื่อแก้มายาคติ อีกส่วนที่ควรทำ คือส่งตัวแทนของเราไปสมัคร ส.ส.ร. เพื่อผลักดันเรื่องนี้ต่อไป ไม่ว่าสำเร็จหรือไม่ เนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญออกมาอย่างไร ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะผ่านกระบวนการที่เป็นประชาธิปไตยแล้ว ‘แค่คิดก็ผิดแล้ว’ เราต้องข้ามมายาคตินี้ให้ได้” ผศ.ดร.ชลิตากล่าวทิ้งท้าย
“ศิโรตม์” มอง ปธ.สภา อาจจบสูตรอดิศร – ฉะ”บิ๊กตู่” ปมบ้านหลวง เด็กยังคิดได้ ควรไม่ควร
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4046759
ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ผู้ดำเนินรายการมีเรื่องมาเคลียร์ ให้สัมภาษณ์มองประเด็นการเมืองกรณีบ้านหลวงของ พล.อ.ประยุทธ์ เด็กยังคิดได้ ว่าควรพักต่อหรือไม่ ยกผู้นำเหล่าทัพหลายคนอยู่บ้านตัวเอง ถามจะกลัวอะไร ส่วนกรณีประธานสภา มองว่าจะจบสูตรอดิศร และอาจจะลากถึงวันโหวต แต่อาจจะไม่เป็นผลดีต่อเพื่อไทย ติดตามรายละเอียดทั้งหมดจากคลิปด้านล่างนี้
โพลเอสเอ็มอี ร้องรบ.ใหม่ลดค่าไฟ เพิ่มเงินสดในมือประชาชนคล้าย ‘เราชนะ-คนละครึ่ง’
https://www.matichon.co.th/economy/news_4046399
โพลเอสเอ็มอีร้องรบ.ใหม่ลดค่าไฟ ขอนโยบายเพิ่มเงินสดในมือประชาชน คล้าย ‘เราชนะ-คนละครึ่ง’ กลุ่มแอลกอฮอล์วอนอย่าจำกัดเวลา
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ได้ทำการสำรวจผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) เกี่ยวกับความต้องการมาตรการส่งเสริมจากว่าที่รัฐบาลใหม่ โดยสอบถามผู้ประกอบการ จำนวน 2,683 ราย ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 19-28 พฤษภาคมที่ผ่านมา เอสเอ็มอีส่วนใหญ่ 54.5% ต้องการความช่วยเหลือด้านต้นทุนและค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าสาธารณูปโภค มีความต้องการเร่งด่วนมากที่สุดในเรื่องค่าไฟฟ้า รองลงมาเป็นค่าสินค้า วัตถุดิบ เป็นความต้องการของธุรกิจการผลิตและภาคธุรกิจการเกษตรเป็นส่วนใหญ่
ทั้งนี้ แนวทางความช่วยเหลือด้านค่าสาธารณูปโภคที่ผู้ประกอบการต้องการโดยภาพรวม ได้แก่ ลดอัตราการเก็บค่าไฟฟ้า ให้เงินอุดหนุนค่าไฟบางส่วน กำหนดอัตราการเก็บค่าไฟฟ้าสำหรับธุรกิจให้ถูกลง งดเก็บค่าไฟฟ้ากรณีใช้ไม่ครบตามที่กำหนด มีระบบการผ่อนชำระ และส่งเสริมการใช้แผงโซลาร์เซลล์ ส่วนแนวทางความช่วยเหลือด้านภาษี ได้แก่ ให้สิทธิประโยชน์ในการนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้ ลดหย่อนอัตราการเก็บภาษีธุรกิจ (ภาษีร้าน ภาษีป้าย ภาษีสิ่งปลูกสร้าง) และการลดหย่อนภาษีการนำเข้า
ความช่วยเหลือด้านหนี้สิน พบว่า การลดอัตราดอกเบี้ยเป็นความต้องการมากที่สุด รวมถึงต้องการสินเชื่อเฉพาะสำหรับเอสเอ็มอีที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ และผ่อนปรนเงื่อนไขการใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ซึ่งธุรกิจรายย่อยต้องการมาตรการช่วยเหลือเรื่องการพักชำระหนี้มากที่สุด โดยเฉพาะในกลุ่มภาคธุรกิจการเกษตร
ส่วนความต้องการให้มีการปรับปรุงการอนุมัติการปล่อยสินเชื่อให้เร็วขึ้นจะเพิ่มขึ้นตามขนาดธุรกิจ เนื่องจากความล่าช้าในการได้รับเงินแม้จะผ่านเงื่อนไขการกู้แล้ว โดยรูปแบบสินเชื่อที่ต้องการ ได้แก่ สินเชื่อที่มีระยะเวลาการผ่อนชำระนาน ปลอดหลักทรัพย์ค้ำประกัน ดอกเบี้ยต่ำ และวงเงินสูง รูปแบบการลดขั้นตอนและระยะเวลาการขอสินเชื่อ ได้แก่ อนุมัติการปล่อยเงินกู้ให้เร็วขึ้น และลดขั้นตอนและเอกสารขอสินเชื่อ
ด้านกระตุ้นกำลังซื้อด้วยมาตรการเพิ่มเงินสดในมือผู้บริโภค ยังเป็นความต้องการมากที่สุดในทุกภาคธุรกิจและทุกขนาดธุรกิจ ซึ่งธุรกิจรายย่อยโดยเฉพาะภาคการค้า มองว่าควรมีนโยบายเงินสนับสนุนเพิ่มเงินสดในมือให้ผู้บริโภคเพื่อช่วยกระตุ้นการใช้จ่าย ธุรกิจขนาดย่อมและขนาดกลาง มองว่าควรลดภาษีสินค้า บริการ เพื่อช่วยลดต้นทุนราคา รวมถึงการสร้างรายได้และอาชีพให้ผู้บริโภคมีรายได้เพียงพอต่อการใช้จ่าย โดยรูปแบบมาตรการสนับสนุนการใช้จ่าย เช่น เงินสนันสนุนเพิ่มกำลังซื้อ ในลักษณะของโครงการเราชนะ คนละครึ่ง การแจกคูปองสำหรับซื้อสินค้า บริการซึ่งให้สิทธิพิเศษถึงธุรกิจรายย่อยได้ เป็นต้น
นอกจากนี้ด้านความรู้ทางด้านการตลาดและช่องทางการตลาดเป็นความต้องการมากที่สุดของเอสเอ็มอีด้านการเพิ่มศักยภาพและส่งเสริมธุรกิจ รองลงมาเป็นความรู้เฉพาะทางและเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเอสเอ็มอีต้องการให้มีการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้ โดยเฉพาะในภาคธุรกิจการเกษตรและภาคการผลิต ซึ่งธุรกิจขนาดกลางมีความต้องการให้ส่งเสริมและอำนวยความสะดวกต่อการส่งออก ไม่ว่าจะเป็นการจดทะเบียน การขอมาตรฐาน โดยรูปแบบการส่งเสริมความรู้ด้านการตลาด เช่น การทำตลาด การเปิดตลาด จัดหาแหล่งจำหน่ายสินค้า และการประชาสัมพันธ์ให้ธุรกิจขนาดเล็กและรายย่อย เป็นต้น
นายวีระพงศ์ กล่าวว่า ด้านเงินอุดหนุนค่าจ้างและการขึ้นค่าแรงเป็นขั้นบันได เป็นความต้องการช่วยเหลือมากที่สุดทางด้านแรงงาน เพื่อให้มีเวลาเตรียมตัวปรับต้นทุน รวมถึงการเพิ่มทักษะแรงงานเป็นที่ต้องการมากในภาคการผลิต ส่วนการขาดแรงงานมีปัญหามากในภาคธุรกิจการเกษตร ซึ่งประเด็นความต้องการให้ส่งเสริมการนำเข้าแรงงานต่างด้าวจะเพิ่มขึ้นตามขนาดธุรกิจ โดยเฉพาะการแก้ไขประเด็นเกี่ยวกับการขอใบอนุญาตที่มีขั้นตอนและระยะเวลาการดำเนินงานมาก
โดยรูปแบบความช่วยเหลือด้านต้นทุนค่าจ้างแรงงาน เช่น เงินอุดหนุนค่าจ้าง การปรับเพิ่มค่าจ้างเป็นลำดับขั้น มาตรการช่วยเหลือรองรับค่าจ้างที่เพิ่มขึ้น เป็นต้น ส่วนความช่วยเหลือด้านการเข้าถึงแรงงาน เช่น การจัดหาแรงงานที่มีทักษะตรงกับธุรกิจ มีศูนย์พบปะแรงงานที่มีคุณภาพให้กับผู้ประกอบการ และแก้ไขปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย เป็นต้น
นายวีระพงศ์ กล่าวอีกว่า การผ่อนปรนข้อจำกัดการขายและพื้นที่รวมถึงการอำนวยความสะดวกการขอใบอนุญาตต่าง ๆ เป็นความต้องการช่วยเหลือมากที่สุดใน ด้านการแข่งขัน กฎระเบียบข้อบังคับ ใบอนุญาต เพื่อให้เกิดความสะดวก และลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ ซึ่งธุรกิจรายย่อยต้องการให้ลดกฎระเบียบการดำเนินงานของธุรกิจ โดยเฉพาะในกลุ่มภาคการค้าและภาคการบริการที่ต้องการให้ยกเลิกการจำกัดเวลาการขายสินค้าแอลกอฮอล์
ขณะที่เอสเอ็มอีส่วนใหญ่ต้องการให้แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับใบอนุญาตของธุรกิจ โดยสัดส่วนความต้องการเพิ่มขึ้นตามขนาดธุรกิจ การแก้ไขไม่ว่าจะเป็นการลดขั้นตอน ระยะเวลาในการขอใบอนุญาต งดเก็บค่าบริการ เพิ่มอายุใบอนุญาต หรือการดำเนินการที่สามารถทำผ่านระบบออนไลน์ได้ทุกขั้นตอน
“ปัจจุบันผู้ประกอบการเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ยังสนใจเข้าร่วมโครงการภาครัฐ แม้จะต้องขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการธุรกิจ โดยเฉพาะการลงทุนซื้ออุปกรณ์เครื่องมือเพื่อเข้าร่วมโครงการช่วยเหลือของภาครัฐ ได้รับความสนใจมากที่สุด ส่วนเอสเอ็มอีที่ไม่สนใจ เนื่องจากมีความกังวลในขั้นตอนดำเนินการและผลทางภาษีเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจรายย่อย เพราะกังวลด้านค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่อาจจะสูงจนเป็นภาระต้นทุนในการประกอบธุรกิจ” นายวีระพงศ์กล่าว