กรี๊ดสิครับ สรยุทธโหมโรง ‘เราคือเพื่อนกัน’ รับ ‘พิธา’ ชาวเน็ตหยอก เจ้าของเพลงจะว่าไรไหม ?
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4009264
กรี๊ดสิครับ สรยุทธโหมโรง ‘เราคือเพื่อนกัน’ รับ ‘พิธา’ ชาวเน็ตหยอก เจ้าของเพลงจะว่าไรไหม ? หลังรทสช. เอาไปใช้ ก่อนเจอแถลงไม่คู่ควร
เป็นที่ฮือฮาอีกรอบ สำหรับเพลง เราคือเพื่อนกัน ของวงสามัญชน เมื่อ
สรยุทธ สุทัศนะจินดา นำมาเปิดกลางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เพื่อโหมโรงรับแขกรับเชิญพิเศษ อย่าง
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยพิธีกรชื่อดัง ที่เคยชวนให้ชาวเน็ตบางส่วนที่พาคณะทัวร์มาลง ออกมา ‘
กรี๊ดสิครับกรี๊ด’ หยอกเย้าหอมปากหอมคอ ว่าเพลงนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติเคยนำไปใช้ในคลิปหาเสียง แต่เจ้าของเพลงเข้าไม่ให้ แล้วตนจะโดนว่าอะไรไหม ?
สำหรับเพลง เราคือเพื่อนกัน คือ ผลงานของวงสามัญชน ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านการรัฐประหารโดยมีสมาชิกแรกเริ่ม 2 คน ร่วมกันแต่งเพลงเราคือเพื่อนกัน เพื่อใช้รณรงค์ช่วยเหลือพลเรือน ที่ถูกพิจารณาคดีในศาลทหารเพียงเพราะชุมนุมรำลึกครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร ซึ่งประกอบไปด้วยคุณ
รังสิมันต์ โรม,
ปกรณ์ อารีกุล,
ชลธิชา แจ้งเร็ว ฯลฯ
เพลงดังกล่าว ถูกนำมาใช้อีกครั้งอย่างต่อเนื่องในการชุมนุมของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในแฟลชม็อบที่ต่อมาเรียกว่ากลุ่มราษฎร หรือคณะราษฎร 63 โดยวงสามัญชนปรากฏตัวแสดงสดทั้งในเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ รวมถึงในการชุมนุมย่อยในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด จนกลายเป็นเพลงสำคัญประจำการชุมนุมที่ติดหู
ต่อมา ยังถูกนำไปใช้ในการชุมนุมอื่นๆสำหรับเรียกร้องความเป็นธรรม อาทิ การชุมนุมเพื่อให้กำลังใจชาวเมียนมา โดยมีการแปลเนื้อเพลงเป็นภาษาเมียนมาประกอบ
เนื้อเพลง เราคือเพื่อนกัน มีดังนี้
เพลง เราคือเพื่อนกัน
คำร้องและทำนอง
ชูเวช เดชดิษฐรักษ์ และ
ณัฐพงษ์ ภูแก้ว หรือ
แก้วใส
หากเธอได้ยินเสียงเพลงบรรเลง
เธอจงกลับไปเรียกไพร่พล
มันคือท่วงทำนองของสามัญชน
คนธรรมดาอย่างเรา
หากเธอได้ยินเสียงกลองกระหน่ำ
มันคือเสียงเท้าของมวลชน
กระหึ่มด้วยแรงประสานของเสรีชน
คนใต้ฟ้าเดียวกัน
ดวงดาวยังประกายทอแสง
จรัสแรงยามมืดมนบนฟ้าไกล
ผูกใจเราร่วมประสาน
ศรัทธามั่นสู้ถึงวันบรรลุชัย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
‘วงสามัญชน’แถลงการณ์ ‘รทสช.’ ไม่คู่ควรกับเพลงเราคือเพื่อนกัน หลัง ‘สุชาติ’ เอาไปใช้หาเสียง ล่าสุดลบโพสต์แล้ว
‘ชนินทร์’ โต้ ‘รองพงษ์’ หนี้ครัวเรือนสูงหลังรัฐประหาร อย่าโยนบาป รัฐบาลยิ่งลักษณ์
https://www.matichon.co.th/politics/news_4009323
‘ชนินทร์’ โต้ ‘รองพงษ์’ โยนบาปหนี้ครัวเรือนรัฐบาล ‘ยิ่งลักษณ์’ ให้ข้อมูลคาดเคลื่อน ทั้งที่เพิ่มสูงหลังทำรัฐประหาร ลั่น รบ.ใหม่จะเข้ามาแก้ปัญหาที่ไว้นาน-ฟื้นปชช.ให้เร็วที่สุด
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นาย
ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่าหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูงเกินกว่า 80% มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลน.ส.
ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ว่า ถือเป็นการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เนื่องจากการบริหารราชการในสมัยนั้น แม้จะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ แต่ยังยึดมั่นในการควบคุมสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีให้ไม่เกิน 80% ซึ่งเป็นระดับยั่งยืนตามมาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทยมาตลอด
นาย
ชนินทร์ กล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงคือ สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูงกว่า 80% ครั้งแรก เกิดขึ้นในปี 2558 ภายหลังมีการทำรัฐประหาร และส่งผลต่อการส่งออกที่หดตัวลง สถานการณ์หนี้ย่ำแย่จนต้องมีโครงการคลีนิกแก้หนี้ในปี 2560 ซึ่งสถานการณ์ควรดีขึ้น แต่ด้วยการบริหารงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี กลับเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 90.1% ในปี 2564 และยังไม่สามารถแก้หนี้ให้ประชาชนได้จนปัจจุบันโดยในปี 2565 หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพียังอยู่ที่ 86.8% ซึ่งเป็นระดับที่ยังต้องเฝ้าระวัง
นาย
ชนินทร์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การที่นายสุพัฒนพงษ์ฝากให้รัฐบาลใหม่มาแก้ปัญหาเรื่องนี้ต่อนั้น พรรค พท. ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนสูงเกิดจากสาเหตุหลักคือ ประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่เพิ่มสูงขึ้น พรรค พท.มุ่งเน้นนโยบายที่จะขยายโอกาสทางธุรกิจ
การขยายตัวด้านการส่งออกจากการเปิดตลาดใหม่ๆ ค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพ ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ หาโอกาสจากวิกฤตทั้งในและต่างประเทศ สร้างรายได้ภาคการเกษตรให้เพื่มขึ้น และขยายฐานรายได้ให้พี่น้องประชาชน ด้วยกลไกเหล่านี้จะเป็นทางออกให้คนไทยมีรายได้ที่เติบโตอย่างยั่งยืน และมีกำลังเพียงพอจะจ่ายหนี้เก่า เพื่อปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีให้กลับมาอยู่ในระดับยั่งยืนที่ต่ำกว่า 80% ตามเดิม
“
พรรคเพื่อไทยมีความเชื่อมั่นและความพร้อมในการเดินหน้าแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนโดยทันที สถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยซบเซามามากในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลใหม่จะเข้ามาเริ่มแก้ปัญหาที่ซุกไว้มานาน ฟื้นชีพประชาชนให้เร็วที่สุด” นาย
ชนินทร์ กล่าว
ว่าด้วยข่าว"ต้มกบ" และการเข้าสู่สถานการณ์ปฏิวัติ 3 ชนิด
https://siamrath.co.th/n/451550
นาย
ไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุว่า
ต้มกบ
ก่อนเลือกตั้ง มีข่าวต้มกบว่า ลุงจะชนะเลือกตั้งแบบแลนสไลด์ จะมีผู้ลงคะแนนเสียงให้ถึง 20 ล้านคน ได้แสดงบัญชีกลุ่มมวลชนที่จะเลือกลุงไว้ชัดเจน เช่นชาวอโศก 1 ล้านคนเป็นต้น
ต้มกบสนิทก็ในวันเลือกตั้ง ถึงขั้นเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปรอแถลงชัยที่ safe house การปูพรมแดง ที่พรรคเตรียมประกาศชัย การแจ้งสื่อมวลชนไปรอทำข่าวอย่างพร้อมพรั่ง
หลังปิดหีบเลือกตั้ง 3 ชั่วโมง ผลตรงกันข้าม กลายเป็นเรื่องต้มกบต่างคนต่างไป พ่ายแพ้ยับเยิน
ต้มกบ ด้วยข่าวเรื่องดีลลับลังกาวี มาถึงวันนี้ความจริงก็ถูกเปิดเผยแล้วว่าเป็นแค่อุบายทำลายพรรคร่วมรัฐบาลตามแถลงการณ์ให้แตกกัน เพื่อฉวยโอกาสจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ต้มกบล่าสุดว่า ถ้านายพิธาถูกสอยตกสวรรค์ จะทำให้ผู้สมัครส.ส ก้าวไกล เป็นโมฆะ 151 คน อาจต้องเลือกตั้งทั้งประเทศ
ว้าวๆๆๆ ทำไมจึงว่าต้มกบ?
~ขณะนี้ กกต. ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้ง ถ้าจะทำเรื่องนี้ ต้องส่งคดีไปที่ศาลฎีกา ซึ่งมีบรรทัดฐานอยู่แล้ว ว่าถ้าถือหุ้นน้อยก็ไม่ผิด เมื่อพิธาไม่ผิด จะสอยผู้สมัคร กก.ทั้งพรรคก็ล้มไปด้วย
ดูลีลาท่าทางคงไม่กล้าส่งคดีไปศาลฎีกาแน่
ดังนั้นก็ต้องรอให้กกต.รับรองผลเลือกตั้งเสียก่อน คดีจึงจะอยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องหมูๆเพราะ
- เมื่อกกต.ประกาศผลเลือกตั้ง ก็สามารถเปิดประชุม สภาได้ สามารถเลือก นายกรัฐมนตรีได้ เขาก็ตั้งรัฐบาลกันไปเรียบร้อย แผนนี้ก็จะเดี้ยง
- ถ้าจะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ก็ติดตรงที่กฎหมายบัญญัติให้ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลย้อนหลัง คือวินิจฉัยเมื่อใดก็มีผลเมื่อนั้น ถ้าหากนายพิธาผิด ก็ไม่กระทบต่อการรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคให้ตกเป็นโมฆะไปด้วย
~ กกต. เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ ในการตรวจ และมีคำสั่งในการเลือกตั้ง ซึ่งต้องตรวจความถูกต้องทุกประการของผู้สมัครทุกคนว่า มีการรับรองโดยถูกต้องหรือไม่ มีคุณสมบัติโดยถูกต้องหรือไม่ เมื่อกกต.เห็นว่าถูกต้องแล้ว จึงมีคำสั่งให้รับสมัครรับเลือกตั้ง ผู้สมัครจึงมีสิทธิ์ สมัครรับเลือกตั้งได้
ถ้าอยู่ๆกกต. จะทำฆาตกรรมตัวเอง ว่าตรวจสอบผู้สมัครรับเลือกตั้งผิดพลาด ก็จะเกิดความเสียหาย อย่างใหญ่หลวงขึ้น กกต.จะยอมฆ่าตัวตาย ด้วยตนเองทั้งคณะ หรือว่าจะยืนยันว่าที่ตรวจสอบมานั้นถูกต้อง?
- ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก และเป็นกระบวนการของการรัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมาย อยู่ในสภาพที่ ประชาชนทั่วประเทศ ที่เขาไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเขาก็ไม่ยอม ให้ปล้นสะดมภ์ อำนาจอธิปไตยในการเลือกตั้งอย่างแน่นอนแล้ว
ระยะนี้เอากันแค่ว่า กกต.จะรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งเมื่อใด ก็หาข้อยุติกันให้ได้ก่อน เพราะเป็นจุดกำหนดว่า จะส่งคดีนี้ ไปร้องที่ศาลฎีกา หรือจะไปศาลรัฐธรรมนูญ
~การลุกฮือขึ้นของประชาชน เพื่อต่อต้านการ รัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมาย อาจกลายเป็นการปฏิวัติ ประชาชาติ และนักล่าอาณานิคมต่างชาติ ก็อาจฉวยโอกาสขยายผลเป็นการปฏิวัติสี และถ้ามีความรุนแรงมากขึ้น การรัฐประหารก็อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้
นี่คือสิ่งที่เคยเตือนไว้แล้วว่า สถานการณ์กำลังเข้าสู่ สถานการณ์ปฏิวัติ 3 ชนิด พร้อมๆกัน ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อบ้านเมือง และความมั่นคงของชาติ
#รัฐบาล66
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid0feGB87waoLPh67ULQWQJuNKjHGMm6zqLxYbwx9Vfk8JN93NNWqjZmtQ5fsLPgTnzl
JJNY : กรี๊ดสิครับ สรยุทธโหมโรง│‘ชนินทร์’ โต้ ‘รองพงษ์’│ว่าด้วยข่าว"ต้มกบ"และเข้าสู่ปฏิวัติ│แฉส่วยลอตเตอรี่มีมานานแล้ว
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_4009264
กรี๊ดสิครับ สรยุทธโหมโรง ‘เราคือเพื่อนกัน’ รับ ‘พิธา’ ชาวเน็ตหยอก เจ้าของเพลงจะว่าไรไหม ? หลังรทสช. เอาไปใช้ ก่อนเจอแถลงไม่คู่ควร
เป็นที่ฮือฮาอีกรอบ สำหรับเพลง เราคือเพื่อนกัน ของวงสามัญชน เมื่อ สรยุทธ สุทัศนะจินดา นำมาเปิดกลางรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เพื่อโหมโรงรับแขกรับเชิญพิเศษ อย่าง พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล โดยพิธีกรชื่อดัง ที่เคยชวนให้ชาวเน็ตบางส่วนที่พาคณะทัวร์มาลง ออกมา ‘กรี๊ดสิครับกรี๊ด’ หยอกเย้าหอมปากหอมคอ ว่าเพลงนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติเคยนำไปใช้ในคลิปหาเสียง แต่เจ้าของเพลงเข้าไม่ให้ แล้วตนจะโดนว่าอะไรไหม ?
สำหรับเพลง เราคือเพื่อนกัน คือ ผลงานของวงสามัญชน ซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อต่อต้านการรัฐประหารโดยมีสมาชิกแรกเริ่ม 2 คน ร่วมกันแต่งเพลงเราคือเพื่อนกัน เพื่อใช้รณรงค์ช่วยเหลือพลเรือน ที่ถูกพิจารณาคดีในศาลทหารเพียงเพราะชุมนุมรำลึกครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร ซึ่งประกอบไปด้วยคุณ รังสิมันต์ โรม, ปกรณ์ อารีกุล, ชลธิชา แจ้งเร็ว ฯลฯ
เพลงดังกล่าว ถูกนำมาใช้อีกครั้งอย่างต่อเนื่องในการชุมนุมของกลุ่มคนรุ่นใหม่ในแฟลชม็อบที่ต่อมาเรียกว่ากลุ่มราษฎร หรือคณะราษฎร 63 โดยวงสามัญชนปรากฏตัวแสดงสดทั้งในเวทีปราศรัยขนาดใหญ่ รวมถึงในการชุมนุมย่อยในมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งในกรุงเทพและต่างจังหวัด จนกลายเป็นเพลงสำคัญประจำการชุมนุมที่ติดหู
ต่อมา ยังถูกนำไปใช้ในการชุมนุมอื่นๆสำหรับเรียกร้องความเป็นธรรม อาทิ การชุมนุมเพื่อให้กำลังใจชาวเมียนมา โดยมีการแปลเนื้อเพลงเป็นภาษาเมียนมาประกอบ
เนื้อเพลง เราคือเพื่อนกัน มีดังนี้
เพลง เราคือเพื่อนกัน
คำร้องและทำนอง ชูเวช เดชดิษฐรักษ์ และณัฐพงษ์ ภูแก้ว หรือ แก้วใส
หากเธอได้ยินเสียงเพลงบรรเลง
เธอจงกลับไปเรียกไพร่พล
มันคือท่วงทำนองของสามัญชน
คนธรรมดาอย่างเรา
หากเธอได้ยินเสียงกลองกระหน่ำ
มันคือเสียงเท้าของมวลชน
กระหึ่มด้วยแรงประสานของเสรีชน
คนใต้ฟ้าเดียวกัน
ดวงดาวยังประกายทอแสง
จรัสแรงยามมืดมนบนฟ้าไกล
ผูกใจเราร่วมประสาน
ศรัทธามั่นสู้ถึงวันบรรลุชัย
อ่านข่าวเพิ่มเติม
‘วงสามัญชน’แถลงการณ์ ‘รทสช.’ ไม่คู่ควรกับเพลงเราคือเพื่อนกัน หลัง ‘สุชาติ’ เอาไปใช้หาเสียง ล่าสุดลบโพสต์แล้ว
‘ชนินทร์’ โต้ ‘รองพงษ์’ หนี้ครัวเรือนสูงหลังรัฐประหาร อย่าโยนบาป รัฐบาลยิ่งลักษณ์
https://www.matichon.co.th/politics/news_4009323
‘ชนินทร์’ โต้ ‘รองพงษ์’ โยนบาปหนี้ครัวเรือนรัฐบาล ‘ยิ่งลักษณ์’ ให้ข้อมูลคาดเคลื่อน ทั้งที่เพิ่มสูงหลังทำรัฐประหาร ลั่น รบ.ใหม่จะเข้ามาแก้ปัญหาที่ไว้นาน-ฟื้นปชช.ให้เร็วที่สุด
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ระบุว่าหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูงเกินกว่า 80% มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น ว่า ถือเป็นการให้ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เนื่องจากการบริหารราชการในสมัยนั้น แม้จะต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายหลังสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ แต่ยังยึดมั่นในการควบคุมสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีให้ไม่เกิน 80% ซึ่งเป็นระดับยั่งยืนตามมาตรฐานของธนาคารแห่งประเทศไทยมาตลอด
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า ข้อเท็จจริงคือ สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีสูงกว่า 80% ครั้งแรก เกิดขึ้นในปี 2558 ภายหลังมีการทำรัฐประหาร และส่งผลต่อการส่งออกที่หดตัวลง สถานการณ์หนี้ย่ำแย่จนต้องมีโครงการคลีนิกแก้หนี้ในปี 2560 ซึ่งสถานการณ์ควรดีขึ้น แต่ด้วยการบริหารงานของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี กลับเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 90.1% ในปี 2564 และยังไม่สามารถแก้หนี้ให้ประชาชนได้จนปัจจุบันโดยในปี 2565 หนี้ครัวเรือนต่อจีดีพียังอยู่ที่ 86.8% ซึ่งเป็นระดับที่ยังต้องเฝ้าระวัง
นายชนินทร์ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ การที่นายสุพัฒนพงษ์ฝากให้รัฐบาลใหม่มาแก้ปัญหาเรื่องนี้ต่อนั้น พรรค พท. ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลพร้อมแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนสูงเกิดจากสาเหตุหลักคือ ประชาชนมีรายได้ไม่เพียงพอต่อการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันที่เพิ่มสูงขึ้น พรรค พท.มุ่งเน้นนโยบายที่จะขยายโอกาสทางธุรกิจ
การขยายตัวด้านการส่งออกจากการเปิดตลาดใหม่ๆ ค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพ ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ หาโอกาสจากวิกฤตทั้งในและต่างประเทศ สร้างรายได้ภาคการเกษตรให้เพื่มขึ้น และขยายฐานรายได้ให้พี่น้องประชาชน ด้วยกลไกเหล่านี้จะเป็นทางออกให้คนไทยมีรายได้ที่เติบโตอย่างยั่งยืน และมีกำลังเพียงพอจะจ่ายหนี้เก่า เพื่อปรับลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีให้กลับมาอยู่ในระดับยั่งยืนที่ต่ำกว่า 80% ตามเดิม
“พรรคเพื่อไทยมีความเชื่อมั่นและความพร้อมในการเดินหน้าแก้ปัญหาให้พี่น้องประชาชนโดยทันที สถานการณ์เศรษฐกิจประเทศไทยซบเซามามากในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลใหม่จะเข้ามาเริ่มแก้ปัญหาที่ซุกไว้มานาน ฟื้นชีพประชาชนให้เร็วที่สุด” นายชนินทร์ กล่าว
ว่าด้วยข่าว"ต้มกบ" และการเข้าสู่สถานการณ์ปฏิวัติ 3 ชนิด
https://siamrath.co.th/n/451550
นายไพศาล พืชมงคล นักกฎหมาย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol ระบุว่า
ต้มกบ
ก่อนเลือกตั้ง มีข่าวต้มกบว่า ลุงจะชนะเลือกตั้งแบบแลนสไลด์ จะมีผู้ลงคะแนนเสียงให้ถึง 20 ล้านคน ได้แสดงบัญชีกลุ่มมวลชนที่จะเลือกลุงไว้ชัดเจน เช่นชาวอโศก 1 ล้านคนเป็นต้น
ต้มกบสนิทก็ในวันเลือกตั้ง ถึงขั้นเชิญแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลไปรอแถลงชัยที่ safe house การปูพรมแดง ที่พรรคเตรียมประกาศชัย การแจ้งสื่อมวลชนไปรอทำข่าวอย่างพร้อมพรั่ง
หลังปิดหีบเลือกตั้ง 3 ชั่วโมง ผลตรงกันข้าม กลายเป็นเรื่องต้มกบต่างคนต่างไป พ่ายแพ้ยับเยิน
ต้มกบ ด้วยข่าวเรื่องดีลลับลังกาวี มาถึงวันนี้ความจริงก็ถูกเปิดเผยแล้วว่าเป็นแค่อุบายทำลายพรรคร่วมรัฐบาลตามแถลงการณ์ให้แตกกัน เพื่อฉวยโอกาสจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย
ต้มกบล่าสุดว่า ถ้านายพิธาถูกสอยตกสวรรค์ จะทำให้ผู้สมัครส.ส ก้าวไกล เป็นโมฆะ 151 คน อาจต้องเลือกตั้งทั้งประเทศ
ว้าวๆๆๆ ทำไมจึงว่าต้มกบ?
~ขณะนี้ กกต. ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้ง ถ้าจะทำเรื่องนี้ ต้องส่งคดีไปที่ศาลฎีกา ซึ่งมีบรรทัดฐานอยู่แล้ว ว่าถ้าถือหุ้นน้อยก็ไม่ผิด เมื่อพิธาไม่ผิด จะสอยผู้สมัคร กก.ทั้งพรรคก็ล้มไปด้วย
ดูลีลาท่าทางคงไม่กล้าส่งคดีไปศาลฎีกาแน่
ดังนั้นก็ต้องรอให้กกต.รับรองผลเลือกตั้งเสียก่อน คดีจึงจะอยู่ในอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องหมูๆเพราะ
- เมื่อกกต.ประกาศผลเลือกตั้ง ก็สามารถเปิดประชุม สภาได้ สามารถเลือก นายกรัฐมนตรีได้ เขาก็ตั้งรัฐบาลกันไปเรียบร้อย แผนนี้ก็จะเดี้ยง
- ถ้าจะส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ก็ติดตรงที่กฎหมายบัญญัติให้ผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่มีผลย้อนหลัง คือวินิจฉัยเมื่อใดก็มีผลเมื่อนั้น ถ้าหากนายพิธาผิด ก็ไม่กระทบต่อการรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคให้ตกเป็นโมฆะไปด้วย
~ กกต. เป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ ในการตรวจ และมีคำสั่งในการเลือกตั้ง ซึ่งต้องตรวจความถูกต้องทุกประการของผู้สมัครทุกคนว่า มีการรับรองโดยถูกต้องหรือไม่ มีคุณสมบัติโดยถูกต้องหรือไม่ เมื่อกกต.เห็นว่าถูกต้องแล้ว จึงมีคำสั่งให้รับสมัครรับเลือกตั้ง ผู้สมัครจึงมีสิทธิ์ สมัครรับเลือกตั้งได้
ถ้าอยู่ๆกกต. จะทำฆาตกรรมตัวเอง ว่าตรวจสอบผู้สมัครรับเลือกตั้งผิดพลาด ก็จะเกิดความเสียหาย อย่างใหญ่หลวงขึ้น กกต.จะยอมฆ่าตัวตาย ด้วยตนเองทั้งคณะ หรือว่าจะยืนยันว่าที่ตรวจสอบมานั้นถูกต้อง?
- ก็รู้ๆกันอยู่ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็ก และเป็นกระบวนการของการรัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมาย อยู่ในสภาพที่ ประชาชนทั่วประเทศ ที่เขาไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งเขาก็ไม่ยอม ให้ปล้นสะดมภ์ อำนาจอธิปไตยในการเลือกตั้งอย่างแน่นอนแล้ว
ระยะนี้เอากันแค่ว่า กกต.จะรับรองผู้สมัครรับเลือกตั้งเมื่อใด ก็หาข้อยุติกันให้ได้ก่อน เพราะเป็นจุดกำหนดว่า จะส่งคดีนี้ ไปร้องที่ศาลฎีกา หรือจะไปศาลรัฐธรรมนูญ
~การลุกฮือขึ้นของประชาชน เพื่อต่อต้านการ รัฐประหารโดยไสยศาสตร์ทางกฎหมาย อาจกลายเป็นการปฏิวัติ ประชาชาติ และนักล่าอาณานิคมต่างชาติ ก็อาจฉวยโอกาสขยายผลเป็นการปฏิวัติสี และถ้ามีความรุนแรงมากขึ้น การรัฐประหารก็อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้
นี่คือสิ่งที่เคยเตือนไว้แล้วว่า สถานการณ์กำลังเข้าสู่ สถานการณ์ปฏิวัติ 3 ชนิด พร้อมๆกัน ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรงต่อบ้านเมือง และความมั่นคงของชาติ
#รัฐบาล66
https://www.facebook.com/Paisal.Fanpage/posts/pfbid0feGB87waoLPh67ULQWQJuNKjHGMm6zqLxYbwx9Vfk8JN93NNWqjZmtQ5fsLPgTnzl