สวัสดีค่ะ สำหรับกระทู้นี้เราจะมาแบ่งปันประสบการ์ณฝึกสอนของเราเมื่อปี 2565 อาจจะช้าไปนิดหน่อย สำหรับน้องๆที่ฝึกสอนปี 66 นี้ กระทู้นี้เราตั้งใจเขียนให้ทุกคนที่รู้สึกยังไม่พร้อมกับการฝึกสอนในโรงเรียน เป็นการปลอบใจและบอกว่ามันอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้น้า
แน่นอนว่าทุกโรงเรียนย่อมมีปัญหาให้เหนื่อยใจค่ะ555 แต่ปัญหาที่แต่ละคนเจอน่าจะไม่เหมือนกันเท่านั้นเอง สำหรับของเราเป็นปัญหาที่ครูหัวหน้าหมวดค่ะ แกเป็นมนุษย์ป้าคนนึงที่พร้อมจะหาเรื่องทุกคนได้หมด เราเป็นคนนึงที่ไม่ชอบนิสัยของแกค่ะ เป็นประเภทที่ทำดีเท่าไหร่ก็ไม่ถูกใจ มีเรื่องให้ติตลอด แต่ดีหน่อยที่ครูพี่เลี้ยงเราก็เอือม และเข้าใจถึงปัญหาตรงนี้ดีเวลาเจอปัญหาจากแกเลยสามารถนำมาปรึกษาครูพี่เลี้ยงได้ค่ะ
ต่อมาก็เป็นเรื่องหน้าที่ของเรา เรารับผิดชอบสอน ม.6 ทั้งหมด 6 ห้อง ม.3 อีก 1 ห้อง รวมแป็น 7 ห้อง มีทั้งห้องที่ว่าง่าย พูดอะไรสั่งให้เตรียมอะไรก็ทำตามหมด ไม่คุย ไม่รบกวนทุกคนในห้องเรียน ไปจนถึงห้องลิงโลด เสียงดังจนบางทีเราต้องเงียบแล้วปล่อยให้เค้าเตือนกันเอง บอกเราว่าไปเข้าห้องน้ำแต่จริงๆไปเล่นแบตอยู่ที่สนาม นอนในคาบเรา จนครูผู้ใหญ่มาเห็นแล้วก็โดนติ อ่านถึงตรงนี้อาจจะน่ากลัวนะคะ แต่อย่าลืมว่าเราไม่ได้ตัวคนเดียว มีเพื่อนฝึกสอนคนอื่นแล้วก็ครูพี่เลี้ยงอีก หากแก้ไขไม่ได้ก็ลองปรึกษาลองแชร์ดู หรือถ้าครูพี่เลี้ยงไม่โอเค ทางเดียวคือทำตัวจริงจังแล้วคุยกับเด็กค่ะ555 คุยด้วยเหตุผล ไม่ใช่การดุด่าว่ากล่าว สร้างข้อตกลงขึ้นมา เด็กๆก็จะฟังเราเองเมื่อเห็นว่าเราจริงจัง หรือถ้ายังมีคนติดเล่น ก็บอกไปเลยค่ะว่าตอนนี้จริงจังอยู่ ไม่ตลกนะ เราว่ามันช่วยได้ อีกอย่างคือเอาคะแนนเข้าช่วยค่ะ ของเราเนื่องจากเป็นวิชาปฏิบัติเลยเอาพฤติกรรมในห้องเรียนกับชิ้นงานเป็นหลัก คะแนนสอบเป็นรองเลยใช้เป็นตัวช่วยให้ชั้นเรียนเรียบร้อยขึ้นได้นิดหน่อย555 สุดท้าย Topic คนไม่เอาอะไรเลย ประเภทนี้ที่โรงเรียนเราคือโรงเรียนก็ไม่มาด้วยค่ะ จะเหนื่อยตามงาน ของเราต้องตามเองทั้งหมด ครูพี่เลี้ยงไม่ได้ช่วย คือเหนื่อยมากกก โทรหาผู้ปกครองก็แล้ว นัดนอกรอบก็แล้ว ก็ยังไม่มา งานซ่อมก็ไม่ทำ สรุปก็ให้แค่พอผ่าน หรือไม่ก็ให้มาแก้ตามกระบวนการไป จริงๆแล้วเราว่าถ้าปรับตัวได้ก็ไม่มีอะไรน่ากังวลนะคะ เด็กๆดื้อๆเนี่ยคุยกันได้ คุยด้วยความเข้าใจเผลอๆเค้าน่าจะชอบเราด้วยน้า ที่เหนื่อยจริงๆคือสังคมครูด้วยกันนั่นแหละค่ะ แต่เราเชื่อว่ามันต้องมีคนดีๆอยู่บ้างแหละ เช่น คุณครูฝึกสอนในวัยเดียวกัน หรือถ้าใครฝึกที่เดียวกับเพื่อนก็เก๋กู้ดเลย ใครเมคเฟรนใหม่ไม่เก่งบ่นกับเพื่อนก็เป็นการระบายที่ดีค่ะ555
อีกหน้าที่นึงคืองานจากมหาลัยค่ะ ตัวหนักเลยคือวิจัย พยายามเตรียมตั้งแต่เนิ่นๆก็ดีนะคะ มองหาปัญหาที่อยากแก้เข้าไว้ หรือหาวิจัยคนอื่นอ่าน จะช่วยให้คิดวิจัยในชั้นเรียนของเราออกก็ได้ค่ะ ค่อยๆทำไปเรื่อยๆ ของเราแย่หน่อยที่ช่วยดำเนินการวิจัยเราติดโควิดจากเด็กค่ะ ทำให้ผิดแผนไปหมด แต่สุดท้ายก็ทัน เย้ยยย
ประสบการณ์ที่เรามาแชร์ก็ประมาณนี้แหละค่ะ จขกทขอเป็นกำลังใจให้นศฝึกสอนทุกคนที่หลงมาอ่านนะคะ ปีสุดท้ายแล้วอีกนิดเดียวเท่านั้น สู้เค้าน้า ถ้าเขียนอะไรผิด สื่อออกมาในทางไม่ดี หรือไม่ครบถ้วนตรงไหนเราขอโทษไว้ตรงนี้นะคะ ไม่ได้มีเจตนาไม่ดีเลย ขอบคุณค่ะ
ประสบการณ์ฝึกสอนที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง