“เศรษฐา” อ้อนคนพังงาขอโอกาสให้เพื่อไทยได้ดูแลบ้าง
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_539148/
“เศรษฐา” เข้าใจชาวพังงาผูกพันพรรคการเมืองเก่าแก่ ขอแบ่งใจเลือกเพื่อไทยเข้าไปดูแล เพื่ออนาคตที่ดีกว่า ชูนโยบายพังงา-ภูเก็ตเมืองคู่แฝด ดึงนักท่องเที่ยว เล็งเพิ่มราคายาง-ปาล์ม
นาย
เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัย ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองพังงา (หลังเก่า) อ.เมือง จ.พังงา โดยระบุว่า เป็นจังหวัดแรกที่ได้ดอกกุหลาบมากที่สุดและเดินยาวนานที่สุด สำหรับจังหวัดพังงา พรรคเพื่อไทย ยังไม่เคยมาปักธงได้ ยังไม่เคยได้รับความรัก ความเอ็นดูจากพี่น้องมากเท่ากับพรรคการเมืองอื่นที่เคยดูแลพี่น้องมา 30-40 ปีวันนี้พรรคเพื่อไทยจึงมาขอเสนอตัว โดยมาอย่างถ่อมตัว มาด้วยความจริงใจ ที่จะมานำเสนอนโยบายแก้ไขปัญหาบ้านเมือง นำพาประเทศเดินทางไปข้างหน้า ทำพังงาให้ทั่วโลกรู้ถึงศักยภาพ
นาย
เศรษฐา ยังกล่าวถึงภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่ถือเป็นภาคอุตสาหกรรมใหญ่ และเชื่อว่า พังงาไม่ด้อยไปกว่าภูเก็ต ทั้งภูมิศาสตร์ ธรรมชาติ และความสวยงาม ถ้ามีผู้นำที่เข้าใจและเห็นถึงศักยภาพของพังงา จะสามารถขายภูเก็ตและพังงาเป็นคู่แฝด ดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก หากพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นใครจะเอาของดีของพังงาไปนำนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาใช้จ่ายที่นี่ได้ เพื่อนำรายได้เข้ามาให้ชาวพังงาทุกคน พร้อมย้ำนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ที่จะเข้ากระเป๋าทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป, ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท, เงินเดือนปริญญาตรีเริ่มต้น 25,000 บาท, เติมรายได้ให้ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท, พักหนี้ ทั้งต้น ทั้งดอก และจะใช้ตลาดนำนวัตรกรรมเสริม ทำราคายาง ราคาปาล์มสูงขึ้น ไม่ต่ำกว่า 80 บาท เหมือนสมัยที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงการปราบปรามยาเสพติด เปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย จัดหาอาชีพที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาให้มีที่ยืนในสังคม ขณะที่ผู้ค้าต้องถูกลงโทษอย่างเด็ดขาด จะต้องแก้กฎหมายยึดทรัพย์ให้รวดเร็ว
นาย
เศรษฐา ยังเน้นย้ำเรื่องกัญชาเสรี ที่เอาเรื่องทำมาหากิน เอาเรื่องเศรษฐกิจเฟื่องฟูจากการค้ากัญชามาเป็นตัวล่อ หากไปดูประเทศที่เคยเปิดกัญชาเสรีจะพบว่าขณะนี้เจ๊งหมดแล้ว ดังนั้นอย่าหลงงมงาย อย่าหลงเชื่อ เพราะพรรคเพื่อไทยเชื่ออย่างเดียวคือกัญชาเพื่อการแพทย์ ส่วนตัวเข้าใจชาวพังงาที่เคยเลือกพรรคอื่นมานาน 30-40 ปี มีความผูกพันกันมา แต่วันนี้ขอมาเลือกอนาคตที่จะส่งต่อให้ลูกหลานทุกคน จึงมาขอแบ่งปันความรัก เพื่อให้โอกาสตัวแทนของพรรคเพื่อไทยได้ไปทำหน้าที่ส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานชาวพังงา ขอแบ่งปันความรักบางส่วนมาให้เพื่อไทย เพราะหลายสิบปีที่ผ่านมาไม่เคยได้เข้าไปดูแลประชาชน จึงขอกราบวิงวอนให้เลือก ส.ส. เพื่อไทยเข้าไปดูแลทุกคนเข้าคูหากาเพื่อไทย
ชี้ ‘ภาษาพาที’ กดคนจนต้องพอเพียง สะท้อนระบบการศึกษาที่หดหู่ เหลื่อมล้ำสูงสุดในโลก จี้สังคายนาแบบเรียนใหม่
https://www.matichon.co.th/education/news_3942390
ชี้ ‘ภาษาพาที’ กดคนจนต้องพอเพียง สะท้อนระบบการศึกษาที่หดหู่ เหลื่อมล้ำสูงสุดในโลก จี้สังคายนาแบบเรียนใหม่
กรณีนาย
อัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้ชี้แจงถึงวัตถุประสงค์ของการจัดทำหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้น ป.1-6 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ภายหลังสังคมวิพากษ์วิจารณ์หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ภาษาพาที ระดับชั้น ป.5 ซึ่งมีเนื้อหาว่า กินไข่ต้มครึ่งซีก เหยาะน้ำปลา หรือข้าวเปล่าคลุกน้ำผัดผักบุ้ง ทำให้ตัวละครในหนังสือมีความสุข ถือเป็นการพอเพียง เห็นคุณค่าของชีวิต ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงโภชนาการของเด็ก โดยหนังสือดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดทำขึ้นสำหรับนักเรียนใช้ฝึกทักษะ และสร้างนิสัยรักการอ่าน และครูผู้สอนใช้ในการจัดการเรียนการสอน รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 และไม่ได้บังคับให้โรงเรียนใช้ในการสอนนักเรียน โดย สพฐ.ได้ปรับปรุงหนังสือเรียนทุกๆ 10 ปี นั้น
เมื่อวันที่ 25 เมษายน ศ.ดร.
สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า แบบเรียนดังกล่าวสะท้อนสิ่งที่ซ้อนเร้น และกดทับชีวิตคนจนหลายประเด็น จากที่ทำงานวิจัยโดยศึกษาลงลึกในครอบครัวที่ยากจนจำนวน 404 ครอบครัว พบข้อเท็จจริงที่น่าคิด คือครอบครัวมีรายได้ 1,134 บาท/ต่อเดือน แต่มีหนี้สิ้น 147,811 บาท จากข้อมูลนี้จะเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่เด็กจะไม่หลุดจากระบบการศึกษา นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่า คนกลุ่มนี้ยอมจำนนกับความยากจน คือรู้ตัวว่าเรียนไปก็ไม่มีสิทธิหลุดพ้นจากความยากจนได้ สู้ออกมาทำงานหาเงินดีกว่า ดังนั้น หนังสือแบบเรียนเล่มนี้ คือตัวสะท้อนให้อยู่กับความยากจน จะต้องพอเพียง และมีชีวิตอยู่กับความยากจนให้ได้ สิ่งเหล่านี้คือการยัดเหยียด กดทับ และทำให้คนยอมจำนนกับความยากจน
ศ.ดร.
สมพงษ์กล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นความซ่อนเร้นในระบบการศึกษา ที่เกิดขึ้นโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็แล้วตาม ทำให้เราเห็นความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ตั้งแต่แบบเรียน หลักสูตร และอาหารกลางวัน เด็กยากจนมีอุปสรรคที่จะให้ออกจากระบบการศึกษาจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้ เป็นหลุมใหญ่ของระบบการศึกษา ที่คอยตอกย้ำว่าเด็กยากจนต้องอยู่แบบนี้ ต้องพอใจกับสิ่งที่มี ดังนั้น เราจะพบว่าระบบการศึกษาไทยในปัจจุบัน ไม่ได้ทำให้เกิดโอกาส และสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษามากหนัก
ศ.ดร.
สมพงษ์กล่าวอีกว่า มองว่าแบบเรียนเล่มนี้ สะท้อนด้านหนึ่งของระบบการศึกษาที่สลด หดหู่ และทำให้เราเข้าใจว่าทำไมประเทศไทย ถึงมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาสูงที่สุดในโลก เพราะแบบเรียนนี้ไม่ได้ช่วยดึงเด็กออกมาจากความจน แต่กลับบอกเด็กให้มีความสุขกลับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่ในความจริง ใครที่อยู่แบบขัดสน ยากจน แล้วจะมีความสุข มองว่าการที่อยู่อย่างมีความสุข และพอเพียงได้ ต้องมีปัจจัยสี่ที่พอเพียง และมีชีวิตที่ไม่เดือดร้อน
“
มองว่าการที่จะทำให้เด็กหลุดพ้นจากกรอบความคิดเรื่องนี้ ต้องฝึกให้เด็กรู้จักการตั้งคำถาม วิพากษ์เรื่องต่างๆ ได้ ครูจะทำอย่างไรให้เด็กเกิดแรงบันดาลใจ เห็นคุณค่าของตน สามารถอยู่ต่อในระบบการศึกษา และลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนได้ ทั้งนี้ ผมพบว่าเด็กยากจนต้องใช้ความพยายามมากกว่าเด็กที่ฐานะปกติถึง 4 เท่า กว่าจะลากตัวเองให้จบการศึกษา และพ้นจากความยากจนได้ ดังนั้น จะต้องโละแบบเรียนเหล่านี้ทิ้ง และสังคายนาระบบหลักสูตร หนังสือแบบเรียนขึ้นใหม่” ศ.ดร.
สมพงษ์ กล่าว
"หมอธีระ" เผยพบ "XBB.1.16.x" แพร่ไปแล้ว 42 ประเทศ
https://siamrath.co.th/n/441853
วันที่ 26 เม.ย.66 รศ.นพ.
ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก
Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า...
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 51,316 คน ตายเพิ่ม 284 คน รวมแล้วติดไป 686,624,401 คน เสียชีวิตรวม 6,860,530 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส รัสเซีย และเวียดนาม
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 9 ใน 10 อันดับแรก และ 17 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 96.1 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 91.54
...อัพเดตสถานการณ์ XBB.1.16.x
ข้อมูลจาก GISAID (Cr: Rajnarayanan R) ล่าสุดพบว่า XBB.1.16.x นั้นแพร่ไปแล้ว 42 ประเทศ
หากดูลักษณะการกระจายของสายพันธุ์ย่อยของ XBB.1.16.x จะพบว่า แถบไทยและประเทศใกล้เคียง สัดส่วนหลักเป็น XBB.1.16 และมีตัวลูกหลาน ทั้ง XBB.1.16.1, XBB.1.16.2, XBB.1.16.3, FU.1, และ FU.2
...Molnupiravir ลดความเสี่ยง Long COVID ได้ 14%
Xie Y และทีมงานจาก VA Saint Louis Health Care System ประเทศสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ผลการวิจัยในวารสารการแพทย์ British Medical Journal วันที่ 25 เมษายน 2566
ศึกษาติดตามประชากรที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 และได้รับยา Molnupiravir จำนวน 11,472 คน เปรียบเทียบกับกลุ่มคนที่ไม่ได้รับยา 217,814 คน
พบว่ากลุ่มที่ได้รับยา Molnupiravir มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหา Long COVID (Post-acute sequelae) น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับยาราว 14%
...การติดเชื้อโรคโควิด-19 แต่ละครั้งนั้น ไม่ได้เป็นหวัดหรือหวัดใหญ่ แต่ป่วยหนักได้ ตายได้ และเสี่ยงต่อ Long COVID ซึ่งจะบั่นทอนสมรรถนะในการดำรงชีวิต และทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง รวมถึงเกิดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมาระยะยาว
ความรู้ปัจจุบันในการป้องกัน Long COVID นั้น ยังยืนยันว่า การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ หรือไม่ติดซ้ำ ย่อมดีที่สุด
การฉีดวัคซีนครบเข็มกระตุ้น จะช่วยลดเสี่ยง Long COVID ได้ 43%
ยา Metformin ช่วยลดได้ 42%
ยา Paxlovid ช่วยลดได้ 26%
และยา Molnupiravir ช่วยลดได้ 14%
...สถานการณ์ไทยเรา มีคนติดเชื้อกันมาก
ควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท ป้องกันตัวเสมอ
เลี่ยงที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี
ไม่ควรแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่นนอกบ้าน
การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
อ้างอิง
Molnupiravir and risk of post-acute sequelae of covid-19: cohort study. BMJ 2023;381:e074572. (Published 25 April 2023)
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid02fHpPKEvXnQK8b7XTYzNWjqGgvFqJGLbLfh6fyefmegT9ktZuoDZpcPi2bByCAfkvl
JJNY : “เศรษฐา” อ้อนคนพังงา│ชี้ ‘ภาษาพาที’ กดคนจน│พบ"XBB.1.16.x" แพร่ 42 ประเทศ│รัสเซียใช้ “T-14 Armata” รุ่นดีที่สุด
https://www.innnews.co.th/news/politics/news_539148/
นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัย ที่หน้าที่ว่าการอำเภอเมืองพังงา (หลังเก่า) อ.เมือง จ.พังงา โดยระบุว่า เป็นจังหวัดแรกที่ได้ดอกกุหลาบมากที่สุดและเดินยาวนานที่สุด สำหรับจังหวัดพังงา พรรคเพื่อไทย ยังไม่เคยมาปักธงได้ ยังไม่เคยได้รับความรัก ความเอ็นดูจากพี่น้องมากเท่ากับพรรคการเมืองอื่นที่เคยดูแลพี่น้องมา 30-40 ปีวันนี้พรรคเพื่อไทยจึงมาขอเสนอตัว โดยมาอย่างถ่อมตัว มาด้วยความจริงใจ ที่จะมานำเสนอนโยบายแก้ไขปัญหาบ้านเมือง นำพาประเทศเดินทางไปข้างหน้า ทำพังงาให้ทั่วโลกรู้ถึงศักยภาพ
นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ที่ถือเป็นภาคอุตสาหกรรมใหญ่ และเชื่อว่า พังงาไม่ด้อยไปกว่าภูเก็ต ทั้งภูมิศาสตร์ ธรรมชาติ และความสวยงาม ถ้ามีผู้นำที่เข้าใจและเห็นถึงศักยภาพของพังงา จะสามารถขายภูเก็ตและพังงาเป็นคู่แฝด ดึงนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก หากพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชน ไม่ว่านายกรัฐมนตรีจะเป็นใครจะเอาของดีของพังงาไปนำนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเข้ามาใช้จ่ายที่นี่ได้ เพื่อนำรายได้เข้ามาให้ชาวพังงาทุกคน พร้อมย้ำนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท
ที่จะเข้ากระเป๋าทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไป, ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท, เงินเดือนปริญญาตรีเริ่มต้น 25,000 บาท, เติมรายได้ให้ครอบครัวที่มีรายได้ไม่ถึง 20,000 บาท, พักหนี้ ทั้งต้น ทั้งดอก และจะใช้ตลาดนำนวัตรกรรมเสริม ทำราคายาง ราคาปาล์มสูงขึ้น ไม่ต่ำกว่า 80 บาท เหมือนสมัยที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงการปราบปรามยาเสพติด เปลี่ยนผู้เสพให้เป็นผู้ป่วย จัดหาอาชีพที่เหมาะสม เพื่อพัฒนาให้มีที่ยืนในสังคม ขณะที่ผู้ค้าต้องถูกลงโทษอย่างเด็ดขาด จะต้องแก้กฎหมายยึดทรัพย์ให้รวดเร็ว
นายเศรษฐา ยังเน้นย้ำเรื่องกัญชาเสรี ที่เอาเรื่องทำมาหากิน เอาเรื่องเศรษฐกิจเฟื่องฟูจากการค้ากัญชามาเป็นตัวล่อ หากไปดูประเทศที่เคยเปิดกัญชาเสรีจะพบว่าขณะนี้เจ๊งหมดแล้ว ดังนั้นอย่าหลงงมงาย อย่าหลงเชื่อ เพราะพรรคเพื่อไทยเชื่ออย่างเดียวคือกัญชาเพื่อการแพทย์ ส่วนตัวเข้าใจชาวพังงาที่เคยเลือกพรรคอื่นมานาน 30-40 ปี มีความผูกพันกันมา แต่วันนี้ขอมาเลือกอนาคตที่จะส่งต่อให้ลูกหลานทุกคน จึงมาขอแบ่งปันความรัก เพื่อให้โอกาสตัวแทนของพรรคเพื่อไทยได้ไปทำหน้าที่ส่งต่ออนาคตที่ดีกว่าให้กับลูกหลานชาวพังงา ขอแบ่งปันความรักบางส่วนมาให้เพื่อไทย เพราะหลายสิบปีที่ผ่านมาไม่เคยได้เข้าไปดูแลประชาชน จึงขอกราบวิงวอนให้เลือก ส.ส. เพื่อไทยเข้าไปดูแลทุกคนเข้าคูหากาเพื่อไทย
ชี้ ‘ภาษาพาที’ กดคนจนต้องพอเพียง สะท้อนระบบการศึกษาที่หดหู่ เหลื่อมล้ำสูงสุดในโลก จี้สังคายนาแบบเรียนใหม่
https://www.matichon.co.th/education/news_3942390
ชี้ ‘ภาษาพาที’ กดคนจนต้องพอเพียง สะท้อนระบบการศึกษาที่หดหู่ เหลื่อมล้ำสูงสุดในโลก จี้สังคายนาแบบเรียนใหม่
กรณีนายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) ได้ชี้แจงถึงวัตถุประสงค์ของการจัดทำหนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชุดภาษาเพื่อชีวิต ภาษาพาที ชั้น ป.1-6 ของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ภายหลังสังคมวิพากษ์วิจารณ์หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ภาษาพาที ระดับชั้น ป.5 ซึ่งมีเนื้อหาว่า กินไข่ต้มครึ่งซีก เหยาะน้ำปลา หรือข้าวเปล่าคลุกน้ำผัดผักบุ้ง ทำให้ตัวละครในหนังสือมีความสุข ถือเป็นการพอเพียง เห็นคุณค่าของชีวิต ทำให้สังคมตั้งคำถามถึงโภชนาการของเด็ก โดยหนังสือดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดทำขึ้นสำหรับนักเรียนใช้ฝึกทักษะ และสร้างนิสัยรักการอ่าน และครูผู้สอนใช้ในการจัดการเรียนการสอน รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 และไม่ได้บังคับให้โรงเรียนใช้ในการสอนนักเรียน โดย สพฐ.ได้ปรับปรุงหนังสือเรียนทุกๆ 10 ปี นั้น
เมื่อวันที่ 25 เมษายน ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ นักวิชาการด้านการศึกษา เปิดเผยว่า แบบเรียนดังกล่าวสะท้อนสิ่งที่ซ้อนเร้น และกดทับชีวิตคนจนหลายประเด็น จากที่ทำงานวิจัยโดยศึกษาลงลึกในครอบครัวที่ยากจนจำนวน 404 ครอบครัว พบข้อเท็จจริงที่น่าคิด คือครอบครัวมีรายได้ 1,134 บาท/ต่อเดือน แต่มีหนี้สิ้น 147,811 บาท จากข้อมูลนี้จะเห็นว่าเป็นไปไม่ได้ที่เด็กจะไม่หลุดจากระบบการศึกษา นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่า คนกลุ่มนี้ยอมจำนนกับความยากจน คือรู้ตัวว่าเรียนไปก็ไม่มีสิทธิหลุดพ้นจากความยากจนได้ สู้ออกมาทำงานหาเงินดีกว่า ดังนั้น หนังสือแบบเรียนเล่มนี้ คือตัวสะท้อนให้อยู่กับความยากจน จะต้องพอเพียง และมีชีวิตอยู่กับความยากจนให้ได้ สิ่งเหล่านี้คือการยัดเหยียด กดทับ และทำให้คนยอมจำนนกับความยากจน
ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวต่อว่า เรื่องดังกล่าวถือเป็นความซ่อนเร้นในระบบการศึกษา ที่เกิดขึ้นโดยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็แล้วตาม ทำให้เราเห็นความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ตั้งแต่แบบเรียน หลักสูตร และอาหารกลางวัน เด็กยากจนมีอุปสรรคที่จะให้ออกจากระบบการศึกษาจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้ เป็นหลุมใหญ่ของระบบการศึกษา ที่คอยตอกย้ำว่าเด็กยากจนต้องอยู่แบบนี้ ต้องพอใจกับสิ่งที่มี ดังนั้น เราจะพบว่าระบบการศึกษาไทยในปัจจุบัน ไม่ได้ทำให้เกิดโอกาส และสร้างความเท่าเทียมทางการศึกษามากหนัก
ศ.ดร.สมพงษ์กล่าวอีกว่า มองว่าแบบเรียนเล่มนี้ สะท้อนด้านหนึ่งของระบบการศึกษาที่สลด หดหู่ และทำให้เราเข้าใจว่าทำไมประเทศไทย ถึงมีความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาสูงที่สุดในโลก เพราะแบบเรียนนี้ไม่ได้ช่วยดึงเด็กออกมาจากความจน แต่กลับบอกเด็กให้มีความสุขกลับสิ่งที่เป็นอยู่ แต่ในความจริง ใครที่อยู่แบบขัดสน ยากจน แล้วจะมีความสุข มองว่าการที่อยู่อย่างมีความสุข และพอเพียงได้ ต้องมีปัจจัยสี่ที่พอเพียง และมีชีวิตที่ไม่เดือดร้อน
“มองว่าการที่จะทำให้เด็กหลุดพ้นจากกรอบความคิดเรื่องนี้ ต้องฝึกให้เด็กรู้จักการตั้งคำถาม วิพากษ์เรื่องต่างๆ ได้ ครูจะทำอย่างไรให้เด็กเกิดแรงบันดาลใจ เห็นคุณค่าของตน สามารถอยู่ต่อในระบบการศึกษา และลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงชีวิตของตนได้ ทั้งนี้ ผมพบว่าเด็กยากจนต้องใช้ความพยายามมากกว่าเด็กที่ฐานะปกติถึง 4 เท่า กว่าจะลากตัวเองให้จบการศึกษา และพ้นจากความยากจนได้ ดังนั้น จะต้องโละแบบเรียนเหล่านี้ทิ้ง และสังคายนาระบบหลักสูตร หนังสือแบบเรียนขึ้นใหม่” ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าว
"หมอธีระ" เผยพบ "XBB.1.16.x" แพร่ไปแล้ว 42 ประเทศ
https://siamrath.co.th/n/441853
วันที่ 26 เม.ย.66 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ระบุข้อความว่า...
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 51,316 คน ตายเพิ่ม 284 คน รวมแล้วติดไป 686,624,401 คน เสียชีวิตรวม 6,860,530 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส รัสเซีย และเวียดนาม
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 9 ใน 10 อันดับแรก และ 17 ใน 20 อันดับแรกของโลก
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 96.1 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 91.54
...อัพเดตสถานการณ์ XBB.1.16.x
ข้อมูลจาก GISAID (Cr: Rajnarayanan R) ล่าสุดพบว่า XBB.1.16.x นั้นแพร่ไปแล้ว 42 ประเทศ
หากดูลักษณะการกระจายของสายพันธุ์ย่อยของ XBB.1.16.x จะพบว่า แถบไทยและประเทศใกล้เคียง สัดส่วนหลักเป็น XBB.1.16 และมีตัวลูกหลาน ทั้ง XBB.1.16.1, XBB.1.16.2, XBB.1.16.3, FU.1, และ FU.2
...Molnupiravir ลดความเสี่ยง Long COVID ได้ 14%
Xie Y และทีมงานจาก VA Saint Louis Health Care System ประเทศสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ผลการวิจัยในวารสารการแพทย์ British Medical Journal วันที่ 25 เมษายน 2566
ศึกษาติดตามประชากรที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 และได้รับยา Molnupiravir จำนวน 11,472 คน เปรียบเทียบกับกลุ่มคนที่ไม่ได้รับยา 217,814 คน
พบว่ากลุ่มที่ได้รับยา Molnupiravir มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหา Long COVID (Post-acute sequelae) น้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับยาราว 14%
...การติดเชื้อโรคโควิด-19 แต่ละครั้งนั้น ไม่ได้เป็นหวัดหรือหวัดใหญ่ แต่ป่วยหนักได้ ตายได้ และเสี่ยงต่อ Long COVID ซึ่งจะบั่นทอนสมรรถนะในการดำรงชีวิต และทำให้คุณภาพชีวิตแย่ลง รวมถึงเกิดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ตามมาระยะยาว
ความรู้ปัจจุบันในการป้องกัน Long COVID นั้น ยังยืนยันว่า การป้องกันตัวไม่ให้ติดเชื้อ หรือไม่ติดซ้ำ ย่อมดีที่สุด
การฉีดวัคซีนครบเข็มกระตุ้น จะช่วยลดเสี่ยง Long COVID ได้ 43%
ยา Metformin ช่วยลดได้ 42%
ยา Paxlovid ช่วยลดได้ 26%
และยา Molnupiravir ช่วยลดได้ 14%
...สถานการณ์ไทยเรา มีคนติดเชื้อกันมาก
ควรใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท ป้องกันตัวเสมอ
เลี่ยงที่แออัด ระบายอากาศไม่ดี
ไม่ควรแชร์ของกินของใช้ร่วมกับผู้อื่นนอกบ้าน
การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก
อ้างอิง
Molnupiravir and risk of post-acute sequelae of covid-19: cohort study. BMJ 2023;381:e074572. (Published 25 April 2023)
https://www.facebook.com/thiraw/posts/pfbid02fHpPKEvXnQK8b7XTYzNWjqGgvFqJGLbLfh6fyefmegT9ktZuoDZpcPi2bByCAfkvl