แห่ฟังปราศรัยกันทรลักษ์แน่น “เศรษฐา” ปลุกเลือก พท. 2 ใบ ชาวบ้านตะโกนไล่ 'ประยุทธ์'
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7637280
แห่ฟังปราศรัยกันทรลักษ์แน่น “เศรษฐา” ปลุกพี่น้องเลือกเพื่อไทยทั้งสองใบ สกัด 3 ลุงกลับมา ชาวบ้านตะโกนลั่น ‘ประยุทธ์’ ออกไป – ไม่เอากัญชา
เมื่อเวลา 10.50 น.วันที่ 29 เม.ย.2566 ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ นำโดย นาย
เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นาย
จาตุรนต์ ฉายแสง ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ นาย
สุทิน คลังแสง ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ นาย
สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค นาย
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย รวมทั้ง นาย
พานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคพท. หาเสียง 9 เขต
ประกอบด้วย นาย
ธเนศ เครือรัตน์ ผู้สมัครเขต 1เบอร์ 4 นาย
สุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ผู้สมัครเขต 2เบอร์ 8 นาย
วิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้สมัครเขต 3 เบอร์ 9 นาย
ภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ ผู้สมัคร เขต 4เบอร์ 8 นาย
อมรเทพ สมหมาย ผู้สมัคร เขต 5 เบอร์ 7 นาย
วีระพล จิตสัมฤทธิ์ ผู้สมัคร เขต 6 เบอร์ 8 น.ส.
วิลดา อินฉัตร ผู้สมัคร เขต 7เบอร์ 3 นาย
ประวิทย์ จารุรัชกุล ผู้สมัคร เขต 8เบอร์ 8 นาง
นุชนาถ จารุวงษ์เสถียร ผู้สมัครเขต 9เบอร์ 9 โดยมีพี่น้องประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยจนล้นออกนอกพื้นที่
นาย
เศรษฐา ปราศรัยว่า เวทีที่นี่ยิ่งใหญ่อลังการไปทั่วประเทศไทย วันนี้ตนได้ยินเสียงโห่ไล่ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ดังไปถึงทำเนียบรัฐบาลแล้ว ไม่ได้มาดูด้วยตา ไม่ได้พบเห็นถึงความรัก ความห่วงใยที่พี่น้องมีให้พรรคพท. 8 ปีที่ผ่านมาความทุกข์ทรมาน ทำงานใช้หนี้ก็ไม่พอ เหลืออีกไม่กี่วันจะถึงวันประวัติศาสตร์การเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. พวกเราชาวพท.หวังจะเป็นวันเปลี่ยนประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทย ขอให้พี่น้องรวมพลังกันกาพรรค พท.ทั้งคนทั้งพรรค ไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ปันใจแบ่งใจให้คนอื่นไม่ได้ ภารกิจนี้สำคัญยิ่งยวด ถ้าพท.ไม่ได้สองใบ สองลุงสามลุงกลับมาแน่นอน พี่น้องเอาหรือไม่ ตนก็ไม่เอา ไม่ไหวเหมือนกัน
นาย
เศรษฐา ปราศรัยว่า ส่วนราคาพืชผลตกต่ำ พรรคพท.จะทำให้ราคาพืชผลการเกษตรสูงขึ้นสามเท่าใน 4 ปี นายกฯ จากพรรคพท.จะนำสินค้าของพี่น้องไปขายทั่วโลก หนี้เกษตรกรมีเยอะ ทำงานใช้หนี้ไม่พอ พรรคพท.จะพักหนี้พักดอกสามปี เรื่องที่ดินทำกินเราจะแปลงเป็นเอกสารสิทธิ์ ตนจะออกโฉนดให้พี่น้อง 50 ล้านไร่ในสี่ปี ส่งต่ออนาคตให้ลูกหลานของพวกเรา ส่วนเรื่องน้ำแล้งก็สำคัญ พรรคพท.จะเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 15 ล้านไร่ในสี่ปีเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
เรามีนโยบายเศรษฐกิจเพื่อดูแลพี่น้องมากมาย ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ปริญญาตรี 25,000 บาท รวมทั้งดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท บ้านไหนมี 10 คนรับไป 1 แสนบาทเลย เราคิดใหญ่ทำเป็น พรรคพท.ต้องการให้พี่น้องอยู่ดีกินดี ไม่ต้องแบมือขอเงินใคร แล้วบัตรคนจนจะหายไป เพราะพรรคพท.ทำให้พี่น้องศรีสะเกษหายจน เป็นเป้าหมายสูงสุดให้พี่น้องหายจากความยากจน
นาย
เศรษฐา ปราศรัยต่อว่า เรื่องสำคัญสุดตอนนี้คือเรื่องยาเสพติด เราจะจัดการผู้ค้าอย่างเด็ดขาด ติดคุกไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ถ้าตนเป็นนายกฯ จะจัดการยึดทรัพย์ให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องกัญชาเสรี มีบางพรรคการเมืองเสนอเอากัญชามาสูบอีก สังคมมันไม่ไหวแล้ว เรารับไม่ได้ ลูกหลานเมากัญชาทั้งวัน แทนที่จะดูแลพ่อแม่พี่น้อง เรื่องนี้อย่าให้ใครมาหลอกว่าปลูกกัญชาแล้วรายได้ดี มันไม่มีหรอก ดังนั้นอย่ายอมรับ อย่าเห็นด้วย อย่าเลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุนกัญชาเสรี และต้องหมดไปจากระบบทั้งหมด
“
วันนี้มาที่นี่ดูจากแววตาและเสียงตอบรับ ผมมีความคาดหวังว่า ส.ส.เขตทั้ง 9 คนจะได้รับการตอบรับ ถ้าพลาดคนหนึ่งเราจะอ่อน เป็นโอกาสให้สองลุงซึ่งมอมเมาพี่น้องด้วยความยากจน วันนี้ผมมาขอร้อง ผมเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ มาเจอครั้งแรกขอความรัก ความเห็นใจว่าการเดินทางเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เราต้องมีเสียงสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขอให้เลือกพรรคพท.ทั้งสองใบ เพื่อเป็นภูมิต้านทานให้เราไปต่อสู้เพื่อพี่น้อง เอาความยากจนออกไปจากชีวิต” นาย
เศรษฐา ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นาย
เศรษฐาปราศรัยถึงเรื่องสองลุงและเรื่องกัญชา ได้มีประชาชนส่งเสียงตะโกนขับไล่ “
ประยุทธ์ออกไป” และ “
ไม่เอากัญชา” เป็นระยะๆ
ด้าน นาย
ณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคพท.ฝากความคิดถึงมาถึงพี่น้อง ถ้าน.ส.
แพทองธารเข้าห้องคลอดก็จะมีหมอทำคลอดให้ มาศรีสะเกษก็ขอให้พี่น้องทำคลอดให้ 9 เขตได้หรือไม่ การเลือกตั้ง 62 พี่น้องประชาชนเลือกคนที่เป็นหมอ มาเป็น ส.ส.แต่ไม่น่าเชื่อเข้าสภาฯ แป๊ปเดียวเลื้อยเป็นงู อยู่กับพรรคการเมืองที่มีผลงานมาก ไม่เอา จะไปอยู่กับเขาที่ดูดกัญชา เมื่อหมอคนเก่าเลื้อยไป เราก็เอาหมอคนใหม่มา หากพี่น้องเลือก ส.ส.ของพรรคทั้ง 9 เขตเข้าสภาฯ ตนรับรองว่าจะเอาเชือกกล้วยมัดขาเอาไว้ ใครที่เลื้อยไปดูดกัญชา ตนจะกลับมาหาพี่น้องเพื่อตามไปเช็กบิล
“
พล.อ.ประยุทธ์บอกน้ำหนักลดเพราะเครียด แต่จริงๆ ไม่ใช่ เพราะประชาชนไม่เหลือความน่าเชื่อถือต่างหาก 8 ปีที่ผ่านมา คนศรีสะเกษเดือดร้อนหนักหนา ดังนั้น 14 พ.ค.กา พท. 2 ใบเพื่อแก้ทุกปัญหา ชาวบ้านให้ขึ้นค่าแรง ทะลึ่งไปขึ้นค่าไฟ
ทั้งนี้ พรรค พท.ชนะเองไม่ได้ แต่ชนะได้ด้วยเสียงของประชาชน เราไม่มีพรรคสาขา มีคนบอกเลือกพรรคให้เลือก พท. แต่เขตให้เลือกคนอื่น คนที่พูดแบบนี้เขาเอาแต่ได้เพื่อสกัดพท. ดังนั้นเราต้องเลือกพท.ทั้งคนและพรรค และ 3 ป.ฟังไว้ ท่านไม่ต้องห่วง ถ้า พท.ได้เป็นรัฐบาล ผมจะถ่ายรูปเก้าอี้นายกฯ ส่งให้พร้อมเบี้ยผู้สูงอายุ” นาย
ณัฐวุฒิ ระบุ
‘กรุงเทพโพลล์’เผยแรงงานมีชีวิตเหมือนเดิม-แย่ลงไม่ต่างช่วงโควิด
https://www.dailynews.co.th/news/2273218/
‘กรุงเทพโพลล์’ เผยแรงงานมีชีวิตเหมือนเดิม-แย่ลงไม่ต่างช่วงโควิด ยังเจอผลกระทบในการทำงาน-รายได้ลด-งานหนัก รายรับพอดีรายจ่ายไร้เงินเก็บ วอนควบคุมราคาสินค้าพร้อมขึ้นค่าแรง
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. กรุงเทพโพลล์โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “
ความหวังของแรงงานไทย ในวันแรงงานแห่งชาติ” โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างแรงงานพบว่า
เมื่อถามว่าชีวิตความเป็นอยู่ในวันนี้เป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 พบว่า กลุ่มตัวอย่างแรงงานร้อยละ 41.4 มีชีวิตความเป็นอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนร้อยละ 30.9 มีชีวิตความเป็นอยู่แย่ลง ขณะที่ร้อยละ 27.7 มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อถามว่ายังต้องเจอผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.9 ยังเจอผลกระทบ โดยในจำนวนนี้ ร้อยละ 44.5 รายได้ต่อวันลดลงจากเดิมรองลงมาร้อยละ 31.3 ต้องทำงานเยอะขึ้น งานหนักขึ้น และร้อยละ 24.0 ไม่มี OT เงินโบนัส ขณะที่ร้อยละ 28.1ไม่เจอกับผลกระทบ
เมื่อถามว่า “
ในปัจจุบันรายรับจากค่าจ้างแรงงานกับรายจ่ายเป็นอย่างไร” พบว่า
แรงงานร้อยละ 45.7 มีรายรับพอดีกับค่าใช้จ่ายจึงไม่มีเงินเหลือเพื่อเก็บออม ขณะที่ร้อยละ 38.6 มีรายรับไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ต้องกู้ ต้องหยิบยืม ส่วนที่เหลือร้อยละ 15.7 มีรายรับเพียงพอกับค่าใช้จ่ายและมีเงินเก็บออม สิ่งที่อยากขอให้กับแรงงาน ในวันแรงงานแห่งชาติปีนี้พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 73.9 อยากให้ควบคุมราคาสินค้าอุปโภค บริโภค พื้นฐานไม่ให้ขึ้นราคา กระทบค่าครองชีพ รองลงมาคือ อยากให้เร่งขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคิดเป็นร้อยละ 72.2 และอยากให้มีสวัสดิการโบนัสแก่แรงงานในทุกๆ ปี คิดเป็นร้อยละ 52.7 สุดท้ายเมื่อถามว่าอยากให้มีการพัฒนาทักษะในด้านใด เพื่อเพิ่มศักยภาพต่อการเข้าสู่ตลาดแรงงานสากลพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 63.6 อยากให้พัฒนาทักษะในการปรับตัวและเปิดรับในการเรียนรู้สิ่งใหม่ รองลงมาคือ ทักษะทางภาษาคิดเป็นร้อยละ 44.6 และทักษะในการสื่อสารทางการตลาด คิดเป็นร้อยละ 27.1.
ชุดนักเรียนซบเซา เจ้าของร้านโอด ศก.ไม่ดีแถมเจอค่าไฟแพง ปีก่อนยอดลด 20% ปีนี้คงลงอีก
https://www.matichon.co.th/economy/news_3950306
ชุดนักเรียนโคราชซบเซา เจ้าของร้านโอด ศก.ไม่ดีแถมเจอค่าไฟแพง ปีก่อนยอดลด 20% ปีนี้คงลงอีก
เมื่อวันที่ 29 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่โรงเรียนต่างๆ ใกล้จะเปิดเทอม ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ผู้ปกครองหลายคนก็เริ่มพาบุตรหลานมาเลือกซื้อชุดนักเรียนกันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ร้านขายชุดนักเรียนในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีเริ่มมีความคึกคักขึ้นมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะที่ร้านศรทอง ถนนอัษฎางค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีผู้ปกครองจากพื้นที่ต่างอำเภอ และในอำเภอเมือง พาบุตร หลานมาเลือกซื้อชุดนักเรียนกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับบุตรหลาน ก่อนถึงวันที่โรงเรียนเปิดเทอม
นาย
ชาญ พรประสิทธิ์ เจ้าของร้านทวีผล กล่าวว่า ช่วงนี้เหลือเวลาอีกประมาณครึ่งเดือน ก็จะเปิดเทอมแล้ว ทำให้เริ่มมีผู้ปกครองพาบุตรหลานมาเลือกซื้อชุดนักเรียนที่ร้านบ้างแล้ว แต่ยังไม่คึกคักเท่าที่ควร และยังประเมินไม่ได้ว่าปีนี้จะขายดีมากน้อยเพียงใด เพราะยังเหลือเวลาอีกหลายวัน โดยคาดว่าร้านจะมีลูกค้าเข้ามามากในช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันแรงงาน จึงจะประเมินว่าปีนี้ขายได้มากหรือน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่ถ้าหากดูจากการขายชุดนักเรียนช่วงนี้ ก็พบว่าผู้ปกครองจะซื้อในปริมาณลดน้อยลง จากเดิมที่เคยซื้อ 2-3 ชุด ก็จะลดลงเหลือแค่ชุดเดียว แล้วใช้วิธีตัดแก้ชุดเก่าให้สามารถใช้ได้ใหม่แทน เพราะเศรษฐกิจไม่ดีมาหลายปีแล้ว ประกอบกับช่วงนี้เจอค่าไฟแพงอีก ลูกค้าหลายคนจึงต้องประหยัดค่าใช้จ่ายลง ซึ่งปีที่แล้วยอดขายลดลงกว่า 20% ดังนั้นปีนี้ก็คาดว่าจะลดลงอีกกว่านี้แน่นอน
ด้านนาง
นงนุช บุญผาง อายุ 38 ปี ชาว ต.หนองระเวียง อ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า วันนี้พาลูกชาย 2 คน อายุ 7 และ 9 ขวบ ที่กำลังจะขึ้น ป.1 และ ป.3 มาซื้อชุดนักเรียน โดยซื้อเต็มชุด ทั้งกางเกงนักเรียน เสื้อนักเรียน รองเท้า ชุดพละ และกระเป๋านักเรียน เพราะชุดเก่าใช้มา 3 ปีแล้ว ตอนนี้ใช้ไม่ได้แล้ว จึงต้องซื้อใหม่ทั้งหมด ซึ่งก็จะซื้อให้คนละ 1 ชุดเท่านั้น เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ค่าครองชีพสูง ค่าไฟก็แพง รายได้เท่าเดิมแต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นทุกอย่าง ดังนั้นอะไรที่สามารถประหยัดได้ก็ต้องประหยัด แต่ชุดนักเรียนของลูกก็จำเป็นต้องซื้อ โดยจะซื้อไซซ์ที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเผื่อจะสามารถใช้อย่างน้อย 2-3 ปีข้างหน้าได้อีก
JJNY : แห่ฟังปราศรัยกันทรลักษ์แน่น│‘กรุงเทพโพลล์’เผยแรงงานมีชีวิตเหมือนเดิม│ชุดนักเรียนซบเซา│รัสเซียปั่นป่วนจากภายใน?
https://www.khaosod.co.th/election-2023/news_7637280
แห่ฟังปราศรัยกันทรลักษ์แน่น “เศรษฐา” ปลุกพี่น้องเลือกเพื่อไทยทั้งสองใบ สกัด 3 ลุงกลับมา ชาวบ้านตะโกนลั่น ‘ประยุทธ์’ ออกไป – ไม่เอากัญชา
เมื่อเวลา 10.50 น.วันที่ 29 เม.ย.2566 ที่ว่าการอำเภอกันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดเวทีปราศรัยใหญ่ นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย (พท) และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสุทิน คลังแสง ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำพรรค นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย รวมทั้ง นายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคพท. หาเสียง 9 เขต
ประกอบด้วย นายธเนศ เครือรัตน์ ผู้สมัครเขต 1เบอร์ 4 นายสุรชาติ ชาญประดิษฐ์ ผู้สมัครเขต 2เบอร์ 8 นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้สมัครเขต 3 เบอร์ 9 นายภูมินทร์ ลีธีระประเสริฐ ผู้สมัคร เขต 4เบอร์ 8 นายอมรเทพ สมหมาย ผู้สมัคร เขต 5 เบอร์ 7 นายวีระพล จิตสัมฤทธิ์ ผู้สมัคร เขต 6 เบอร์ 8 น.ส.วิลดา อินฉัตร ผู้สมัคร เขต 7เบอร์ 3 นายประวิทย์ จารุรัชกุล ผู้สมัคร เขต 8เบอร์ 8 นางนุชนาถ จารุวงษ์เสถียร ผู้สมัครเขต 9เบอร์ 9 โดยมีพี่น้องประชาชนมาร่วมฟังปราศรัยจนล้นออกนอกพื้นที่
นายเศรษฐา ปราศรัยว่า เวทีที่นี่ยิ่งใหญ่อลังการไปทั่วประเทศไทย วันนี้ตนได้ยินเสียงโห่ไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ดังไปถึงทำเนียบรัฐบาลแล้ว ไม่ได้มาดูด้วยตา ไม่ได้พบเห็นถึงความรัก ความห่วงใยที่พี่น้องมีให้พรรคพท. 8 ปีที่ผ่านมาความทุกข์ทรมาน ทำงานใช้หนี้ก็ไม่พอ เหลืออีกไม่กี่วันจะถึงวันประวัติศาสตร์การเลือกตั้งในวันที่ 14 พ.ค. พวกเราชาวพท.หวังจะเป็นวันเปลี่ยนประวัติศาสตร์ทางการเมืองไทย ขอให้พี่น้องรวมพลังกันกาพรรค พท.ทั้งคนทั้งพรรค ไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ปันใจแบ่งใจให้คนอื่นไม่ได้ ภารกิจนี้สำคัญยิ่งยวด ถ้าพท.ไม่ได้สองใบ สองลุงสามลุงกลับมาแน่นอน พี่น้องเอาหรือไม่ ตนก็ไม่เอา ไม่ไหวเหมือนกัน
นายเศรษฐา ปราศรัยว่า ส่วนราคาพืชผลตกต่ำ พรรคพท.จะทำให้ราคาพืชผลการเกษตรสูงขึ้นสามเท่าใน 4 ปี นายกฯ จากพรรคพท.จะนำสินค้าของพี่น้องไปขายทั่วโลก หนี้เกษตรกรมีเยอะ ทำงานใช้หนี้ไม่พอ พรรคพท.จะพักหนี้พักดอกสามปี เรื่องที่ดินทำกินเราจะแปลงเป็นเอกสารสิทธิ์ ตนจะออกโฉนดให้พี่น้อง 50 ล้านไร่ในสี่ปี ส่งต่ออนาคตให้ลูกหลานของพวกเรา ส่วนเรื่องน้ำแล้งก็สำคัญ พรรคพท.จะเพิ่มพื้นที่ชลประทาน 15 ล้านไร่ในสี่ปีเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
เรามีนโยบายเศรษฐกิจเพื่อดูแลพี่น้องมากมาย ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ปริญญาตรี 25,000 บาท รวมทั้งดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท บ้านไหนมี 10 คนรับไป 1 แสนบาทเลย เราคิดใหญ่ทำเป็น พรรคพท.ต้องการให้พี่น้องอยู่ดีกินดี ไม่ต้องแบมือขอเงินใคร แล้วบัตรคนจนจะหายไป เพราะพรรคพท.ทำให้พี่น้องศรีสะเกษหายจน เป็นเป้าหมายสูงสุดให้พี่น้องหายจากความยากจน
นายเศรษฐา ปราศรัยต่อว่า เรื่องสำคัญสุดตอนนี้คือเรื่องยาเสพติด เราจะจัดการผู้ค้าอย่างเด็ดขาด ติดคุกไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวัน ถ้าตนเป็นนายกฯ จะจัดการยึดทรัพย์ให้เร็วที่สุด ส่วนเรื่องกัญชาเสรี มีบางพรรคการเมืองเสนอเอากัญชามาสูบอีก สังคมมันไม่ไหวแล้ว เรารับไม่ได้ ลูกหลานเมากัญชาทั้งวัน แทนที่จะดูแลพ่อแม่พี่น้อง เรื่องนี้อย่าให้ใครมาหลอกว่าปลูกกัญชาแล้วรายได้ดี มันไม่มีหรอก ดังนั้นอย่ายอมรับ อย่าเห็นด้วย อย่าเลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุนกัญชาเสรี และต้องหมดไปจากระบบทั้งหมด
“วันนี้มาที่นี่ดูจากแววตาและเสียงตอบรับ ผมมีความคาดหวังว่า ส.ส.เขตทั้ง 9 คนจะได้รับการตอบรับ ถ้าพลาดคนหนึ่งเราจะอ่อน เป็นโอกาสให้สองลุงซึ่งมอมเมาพี่น้องด้วยความยากจน วันนี้ผมมาขอร้อง ผมเป็นนักการเมืองหน้าใหม่ มาเจอครั้งแรกขอความรัก ความเห็นใจว่าการเดินทางเข้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เราต้องมีเสียงสนับสนุนอย่างเต็มที่ ขอให้เลือกพรรคพท.ทั้งสองใบ เพื่อเป็นภูมิต้านทานให้เราไปต่อสู้เพื่อพี่น้อง เอาความยากจนออกไปจากชีวิต” นายเศรษฐา ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายเศรษฐาปราศรัยถึงเรื่องสองลุงและเรื่องกัญชา ได้มีประชาชนส่งเสียงตะโกนขับไล่ “ประยุทธ์ออกไป” และ “ไม่เอากัญชา” เป็นระยะๆ
ด้าน นายณัฐวุฒิ ปราศรัยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แคนดิเดตนายกฯ พรรคพท.ฝากความคิดถึงมาถึงพี่น้อง ถ้าน.ส.แพทองธารเข้าห้องคลอดก็จะมีหมอทำคลอดให้ มาศรีสะเกษก็ขอให้พี่น้องทำคลอดให้ 9 เขตได้หรือไม่ การเลือกตั้ง 62 พี่น้องประชาชนเลือกคนที่เป็นหมอ มาเป็น ส.ส.แต่ไม่น่าเชื่อเข้าสภาฯ แป๊ปเดียวเลื้อยเป็นงู อยู่กับพรรคการเมืองที่มีผลงานมาก ไม่เอา จะไปอยู่กับเขาที่ดูดกัญชา เมื่อหมอคนเก่าเลื้อยไป เราก็เอาหมอคนใหม่มา หากพี่น้องเลือก ส.ส.ของพรรคทั้ง 9 เขตเข้าสภาฯ ตนรับรองว่าจะเอาเชือกกล้วยมัดขาเอาไว้ ใครที่เลื้อยไปดูดกัญชา ตนจะกลับมาหาพี่น้องเพื่อตามไปเช็กบิล
“พล.อ.ประยุทธ์บอกน้ำหนักลดเพราะเครียด แต่จริงๆ ไม่ใช่ เพราะประชาชนไม่เหลือความน่าเชื่อถือต่างหาก 8 ปีที่ผ่านมา คนศรีสะเกษเดือดร้อนหนักหนา ดังนั้น 14 พ.ค.กา พท. 2 ใบเพื่อแก้ทุกปัญหา ชาวบ้านให้ขึ้นค่าแรง ทะลึ่งไปขึ้นค่าไฟ
ทั้งนี้ พรรค พท.ชนะเองไม่ได้ แต่ชนะได้ด้วยเสียงของประชาชน เราไม่มีพรรคสาขา มีคนบอกเลือกพรรคให้เลือก พท. แต่เขตให้เลือกคนอื่น คนที่พูดแบบนี้เขาเอาแต่ได้เพื่อสกัดพท. ดังนั้นเราต้องเลือกพท.ทั้งคนและพรรค และ 3 ป.ฟังไว้ ท่านไม่ต้องห่วง ถ้า พท.ได้เป็นรัฐบาล ผมจะถ่ายรูปเก้าอี้นายกฯ ส่งให้พร้อมเบี้ยผู้สูงอายุ” นายณัฐวุฒิ ระบุ
‘กรุงเทพโพลล์’เผยแรงงานมีชีวิตเหมือนเดิม-แย่ลงไม่ต่างช่วงโควิด
https://www.dailynews.co.th/news/2273218/
‘กรุงเทพโพลล์’ เผยแรงงานมีชีวิตเหมือนเดิม-แย่ลงไม่ต่างช่วงโควิด ยังเจอผลกระทบในการทำงาน-รายได้ลด-งานหนัก รายรับพอดีรายจ่ายไร้เงินเก็บ วอนควบคุมราคาสินค้าพร้อมขึ้นค่าแรง
เมื่อวันที่ 29 เม.ย. กรุงเทพโพลล์โดยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “ความหวังของแรงงานไทย ในวันแรงงานแห่งชาติ” โดยเก็บข้อมูลจากกลุ่มตัวอย่างแรงงานพบว่า
เมื่อถามว่าชีวิตความเป็นอยู่ในวันนี้เป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 พบว่า กลุ่มตัวอย่างแรงงานร้อยละ 41.4 มีชีวิตความเป็นอยู่เหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนร้อยละ 30.9 มีชีวิตความเป็นอยู่แย่ลง ขณะที่ร้อยละ 27.7 มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น
ทั้งนี้ เมื่อถามว่ายังต้องเจอผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.9 ยังเจอผลกระทบ โดยในจำนวนนี้ ร้อยละ 44.5 รายได้ต่อวันลดลงจากเดิมรองลงมาร้อยละ 31.3 ต้องทำงานเยอะขึ้น งานหนักขึ้น และร้อยละ 24.0 ไม่มี OT เงินโบนัส ขณะที่ร้อยละ 28.1ไม่เจอกับผลกระทบ
เมื่อถามว่า “ในปัจจุบันรายรับจากค่าจ้างแรงงานกับรายจ่ายเป็นอย่างไร” พบว่า
แรงงานร้อยละ 45.7 มีรายรับพอดีกับค่าใช้จ่ายจึงไม่มีเงินเหลือเพื่อเก็บออม ขณะที่ร้อยละ 38.6 มีรายรับไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่าย ต้องกู้ ต้องหยิบยืม ส่วนที่เหลือร้อยละ 15.7 มีรายรับเพียงพอกับค่าใช้จ่ายและมีเงินเก็บออม สิ่งที่อยากขอให้กับแรงงาน ในวันแรงงานแห่งชาติปีนี้พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 73.9 อยากให้ควบคุมราคาสินค้าอุปโภค บริโภค พื้นฐานไม่ให้ขึ้นราคา กระทบค่าครองชีพ รองลงมาคือ อยากให้เร่งขึ้นค่าแรงขั้นต่ำคิดเป็นร้อยละ 72.2 และอยากให้มีสวัสดิการโบนัสแก่แรงงานในทุกๆ ปี คิดเป็นร้อยละ 52.7 สุดท้ายเมื่อถามว่าอยากให้มีการพัฒนาทักษะในด้านใด เพื่อเพิ่มศักยภาพต่อการเข้าสู่ตลาดแรงงานสากลพบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 63.6 อยากให้พัฒนาทักษะในการปรับตัวและเปิดรับในการเรียนรู้สิ่งใหม่ รองลงมาคือ ทักษะทางภาษาคิดเป็นร้อยละ 44.6 และทักษะในการสื่อสารทางการตลาด คิดเป็นร้อยละ 27.1.
ชุดนักเรียนซบเซา เจ้าของร้านโอด ศก.ไม่ดีแถมเจอค่าไฟแพง ปีก่อนยอดลด 20% ปีนี้คงลงอีก
https://www.matichon.co.th/economy/news_3950306
ชุดนักเรียนโคราชซบเซา เจ้าของร้านโอด ศก.ไม่ดีแถมเจอค่าไฟแพง ปีก่อนยอดลด 20% ปีนี้คงลงอีก
เมื่อวันที่ 29 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงที่โรงเรียนต่างๆ ใกล้จะเปิดเทอม ในวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ ผู้ปกครองหลายคนก็เริ่มพาบุตรหลานมาเลือกซื้อชุดนักเรียนกันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ร้านขายชุดนักเรียนในพื้นที่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีเริ่มมีความคึกคักขึ้นมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะที่ร้านศรทอง ถนนอัษฎางค์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้มีผู้ปกครองจากพื้นที่ต่างอำเภอ และในอำเภอเมือง พาบุตร หลานมาเลือกซื้อชุดนักเรียนกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับบุตรหลาน ก่อนถึงวันที่โรงเรียนเปิดเทอม
นายชาญ พรประสิทธิ์ เจ้าของร้านทวีผล กล่าวว่า ช่วงนี้เหลือเวลาอีกประมาณครึ่งเดือน ก็จะเปิดเทอมแล้ว ทำให้เริ่มมีผู้ปกครองพาบุตรหลานมาเลือกซื้อชุดนักเรียนที่ร้านบ้างแล้ว แต่ยังไม่คึกคักเท่าที่ควร และยังประเมินไม่ได้ว่าปีนี้จะขายดีมากน้อยเพียงใด เพราะยังเหลือเวลาอีกหลายวัน โดยคาดว่าร้านจะมีลูกค้าเข้ามามากในช่วงวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันแรงงาน จึงจะประเมินว่าปีนี้ขายได้มากหรือน้อยกว่าปีที่ผ่านมา แต่ถ้าหากดูจากการขายชุดนักเรียนช่วงนี้ ก็พบว่าผู้ปกครองจะซื้อในปริมาณลดน้อยลง จากเดิมที่เคยซื้อ 2-3 ชุด ก็จะลดลงเหลือแค่ชุดเดียว แล้วใช้วิธีตัดแก้ชุดเก่าให้สามารถใช้ได้ใหม่แทน เพราะเศรษฐกิจไม่ดีมาหลายปีแล้ว ประกอบกับช่วงนี้เจอค่าไฟแพงอีก ลูกค้าหลายคนจึงต้องประหยัดค่าใช้จ่ายลง ซึ่งปีที่แล้วยอดขายลดลงกว่า 20% ดังนั้นปีนี้ก็คาดว่าจะลดลงอีกกว่านี้แน่นอน
ด้านนางนงนุช บุญผาง อายุ 38 ปี ชาว ต.หนองระเวียง อ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า วันนี้พาลูกชาย 2 คน อายุ 7 และ 9 ขวบ ที่กำลังจะขึ้น ป.1 และ ป.3 มาซื้อชุดนักเรียน โดยซื้อเต็มชุด ทั้งกางเกงนักเรียน เสื้อนักเรียน รองเท้า ชุดพละ และกระเป๋านักเรียน เพราะชุดเก่าใช้มา 3 ปีแล้ว ตอนนี้ใช้ไม่ได้แล้ว จึงต้องซื้อใหม่ทั้งหมด ซึ่งก็จะซื้อให้คนละ 1 ชุดเท่านั้น เพราะเศรษฐกิจไม่ค่อยดี ค่าครองชีพสูง ค่าไฟก็แพง รายได้เท่าเดิมแต่ค่าใช้จ่ายเพิ่มสูงขึ้นทุกอย่าง ดังนั้นอะไรที่สามารถประหยัดได้ก็ต้องประหยัด แต่ชุดนักเรียนของลูกก็จำเป็นต้องซื้อ โดยจะซื้อไซซ์ที่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยเผื่อจะสามารถใช้อย่างน้อย 2-3 ปีข้างหน้าได้อีก