พระศาสดา..ท่านทรงกล่าวว่า
วุตฺตํ โข ปเนตํ ภควตา
-- ก็นั่นแล..พระผู้มีพระภาคกล่าว..ว่า --
โย ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปสฺสติ โส ธมฺมํ ปสฺสติ
-- ผู้ใดใครก็ตาม..เห็นเข้าใจ..ปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้น..เห็นเข้าใจ..ซึ่งธรรม --
โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปสฺสตีติ ฯ
--- ผู้ใดใครก็ตาม..เห็นเข้าใจ..ซึ่งธรรม ผู้นั้น..เห็นเข้าใจ..ปฏิจจสมุปบาท --
โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส มํ(เรา) ปสฺสตีติ ฯ
--- ผู้ใดใครก็ตาม..เห็นเข้าใจ..ซึ่งธรรม ผู้นั้น..เห็นเข้าใจ..เรา(ตถาคต ) --
คำว่า " เรา(มํ) "...ในที่นี้..หมายถึง..ตถาคต...เพราะว่าท่านกำลังกล่าวข้อความนี้อยู่
ผู้ซึ่ง...ค้นพบ..ปฏิจจสมุปบาท..
และ ...ปฏิจจสมุปบาท..ก็คือ.." สพฺเพ ธมฺมา อนฺตตาติ "..
คือ..ธรรมทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นอนัตตา..นั่นหละ
ดังนั้น... ผู้ที่เข้าใจ..ปฏิจจสมุปบาท..ก็คือผู้ที่เข้าใจ..ธรรมทั้งปวง..
และ...ผู้ที่เข้าใจธรรมทั้งปวง..ก็คือ..ผู้ที่ได้ชื่อว่า " เห็นตถาคต "..แล้ว
ดังนั้น..พวกที่กล่าว " สัทธรรมปฏิรูป - อภิธรรมปฏิรูป "...ที่ว่า...
" เราไม่มี - ไม่มีเรา - เราคือสมมติของขันธ์๕ - นิพพานเป็นอนัตตา "..
คนเหล่านี้ ..ไม่เข้าใจปฏิจจสมุปบาท.. ไม่เข้าใจธรรม...
จึงได้ชื่อว่า... " ยังไม่ได้เห็น..ตถาตค "..หรือ...ผู้ที่ยังไม่เข้าใจพระสัทธรรม..นั่นเอง
ผู้ใดใครก็ตาม..เห็นเข้าใจ..ซึ่งธรรม(ปฏิจจสมุปปาท) ผู้นั้น..เห็นเข้าใจ..เรา(ตถาคต )
วุตฺตํ โข ปเนตํ ภควตา
-- ก็นั่นแล..พระผู้มีพระภาคกล่าว..ว่า --
โย ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปสฺสติ โส ธมฺมํ ปสฺสติ
-- ผู้ใดใครก็ตาม..เห็นเข้าใจ..ปฏิจจสมุปบาท ผู้นั้น..เห็นเข้าใจ..ซึ่งธรรม --
โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส ปฏิจฺจสมุปฺปาทํ ปสฺสตีติ ฯ
--- ผู้ใดใครก็ตาม..เห็นเข้าใจ..ซึ่งธรรม ผู้นั้น..เห็นเข้าใจ..ปฏิจจสมุปบาท --
โย ธมฺมํ ปสฺสติ โส มํ(เรา) ปสฺสตีติ ฯ
--- ผู้ใดใครก็ตาม..เห็นเข้าใจ..ซึ่งธรรม ผู้นั้น..เห็นเข้าใจ..เรา(ตถาคต ) --
คำว่า " เรา(มํ) "...ในที่นี้..หมายถึง..ตถาคต...เพราะว่าท่านกำลังกล่าวข้อความนี้อยู่
ผู้ซึ่ง...ค้นพบ..ปฏิจจสมุปบาท..
และ ...ปฏิจจสมุปบาท..ก็คือ.." สพฺเพ ธมฺมา อนฺตตาติ "..
คือ..ธรรมทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นอนัตตา..นั่นหละ
ดังนั้น... ผู้ที่เข้าใจ..ปฏิจจสมุปบาท..ก็คือผู้ที่เข้าใจ..ธรรมทั้งปวง..
และ...ผู้ที่เข้าใจธรรมทั้งปวง..ก็คือ..ผู้ที่ได้ชื่อว่า " เห็นตถาคต "..แล้ว
ดังนั้น..พวกที่กล่าว " สัทธรรมปฏิรูป - อภิธรรมปฏิรูป "...ที่ว่า...
" เราไม่มี - ไม่มีเรา - เราคือสมมติของขันธ์๕ - นิพพานเป็นอนัตตา "..
คนเหล่านี้ ..ไม่เข้าใจปฏิจจสมุปบาท.. ไม่เข้าใจธรรม...
จึงได้ชื่อว่า... " ยังไม่ได้เห็น..ตถาตค "..หรือ...ผู้ที่ยังไม่เข้าใจพระสัทธรรม..นั่นเอง