‘ผู้ประกอบการ-นักธุรกิจโคราช’ ฝากความหวัง พท. ผลักดันเปิดมอเตอร์เวย์ หนุนการท่องเที่ยว-กระตุ้น ศก.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3856897
‘ผู้ประกอบการ-นักธุรกิจ’ ฝากความหวัง พท. หากเป็นรัฐบาล ช่วยพลิกชีวิต ‘คนโคราช’ วอนผลักดันเร่งเปิดมอเตอร์เวย์ หนุนการท่องเที่ยว-กระตุ้น ศก.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 มีนาคม นพ.
ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.
แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรค พท. นาย
ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท. พร้อม ส.ส.นครราชสีมา และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรค พท. พบปะหารือกับตัวแทนผู้ประกอบการและนักธุรกิจในจ.นครราชสีมา นำโดยประธานหอการค้าจังหวัด เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สภาหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ประธานชมรมรถโดยสารประจำทางโคราช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครราชสีมาและนายกสมาคมโรงแรมจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับฟังปัญหาและเสียงสะท้อนเพื่อรวบรวมข้อมูลนำไปจัดทำนโยบายพรรคในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน
โดย นพ.
ชลน่าน กล่าวว่า พรรค พท.มองเห็นศักยภาพและความพร้อมของจ.นครราชสีมา ซึ่งมีความสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่และภาคอีสาน โดยพรรค พท.มีแนวนโยบายเรื่องเขตธุรกิจใหม่ ที่จะช่วยลดข้อจำกัดไปพร้อมกับการเพิ่มสิทธิประโยชน์ สร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมในการประกอบธุรกิจให้ผู้ประกอบการทุกระดับ โดยเฉพาะข้อจำกัดในเรื่องกฎหมาย ดังนั้น เราจึงพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอต่างๆ เพื่อนำไปสู่การประกอบเป็นนโยบายของพรรคและนโยบายรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาในทุกด้าน
ขณะที่ น.ส.
แพทองธาร กล่าวว่า จ.นครราชสีมา มีความพร้อมและมีศักยภาพในหลายด้าน พรรค พท.มีนโยบายในภาพใหญ่ที่จะดึงนักท่องเที่ยวทั้งประเทศ อาทิ การสร้างสนามบินเพิ่มในหลายพื้นที่ ในส่วนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ผ่านมาเราได้พูดคุยกับหลายๆ กลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มซอฟต์เพาเวอร์ ที่จะเป็นช่องทางในการประกอบอาชีพให้มากขึ้น เราจะแก้ไขข้อจำกัดโดยเฉพาะด้านกฎหมาย เพื่อลดความซ้ำซ้อน ลดการผูกขาด ลดความเหลื่อมล้ำ ลดอุปสรรคต่อการเติบโตของผู้ประกอบการ รวมไปถึงแนวทางการเพิ่มทุนให้ผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบธุรกิจ
ขณะที่ตัวแทนผู้ประกอบการ กล่าวว่า ฝากความหวังพรรค พท.พิจารณามาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการด้านต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจในจังหวัดและพื้นที่ภาคอีสานขยายตัวได้ โดยจ.นครราชสีมา มีเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้ต่อหัวประชากร จาก 1.2 แสนบาทต่อคนต่อปี เป็น 2 แสนบาทต่อคนต่อปี ซึ่งผู้ประกอบการเชื่อว่ามีความพร้อมในการประกอบธุรกิจทุกด้าน มีโรงงานอุตสาหกรรมมากที่สุดในภาคอีสาน รวมถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจสำคัญ หากพรรค พท.ชนะเลือกตั้งและได้เป็นรัฐบาล ขอให้เร่งสนับสนุน โดยเฉพาะในส่วนของระเบียงเศรษฐกิจภาคอีสาน ที่จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจจ.นครราชสีมาและภาคอีสานไปพร้อมกัน
ตัวแทนผู้ประกอบการ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังขอให้พรรค พท. พิจารณามาตรการแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าที่ขณะนี้ค่อนข้างสูงจนกระทบต้นทุนผู้ประกอบการ การปรับขึ้นของค่าไฟฟ้าของไทยในปัจจุบันแพงกว่าในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ยากต่อการดึงดูดนักลงทุน และในส่วนของการคมนาคนนั้น รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ เป็นเรื่องที่จำเป็นและต้องเร่งดำเนินการ หรือแนวคิดเรื่องสนามบินของ จ.นครราชสีมา ซึ่งจะต้องพิจารณาร่วมกับการสร้างอุปสงค์การเดินทางเชื่อมโยงจังหวัดต่างๆ ไปพร้อมกัน อีกปัญหาสำคัญคือ มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดใช้บริการได้ หากเร่งรัดให้เปิดบริการได้เร็ว ก็จะเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งและจะเป็นตัวจักรสำคัญในการพลิกชีวิตคนโคราช
ขณะที่ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ได้ฝากให้พรรค พท.พิจารณามาตรการสนับสนุนและเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากที่จะเป็นตัวจักรสำคัญในการหมุนเวียนเศรษฐกิจของประเทศ
บิ๊กแจ๊สโต้เดือด ให้ความร่วมมือทุกพรรค ขอยืนข้างประชาชน ทำปทุมฯ ให้เจริญ
https://www.matichon.co.th/election66/news_3856877
บิ๊กแจ๊สโต้เดือด ให้ความร่วมมือทุกพรรค ขอยืนข้างประชาชน ทำปทุมฯ ให้เจริญ
วันที่ 5 มีนาคม “
บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.
คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า เนื่องจากการเมืองตอนนี้เริ่มรุนแรง และจะร้อนแรงเพิ่มขึ้นอีก หลังจากมีการยุบสภาก็มีเลือกตั้ง โดยมีการแบ่งเขตชัดเจน และการต่อสู้กัน แต่ผลกระทบก็คือ คนที่ออกไปต่อสู้ในแต่ละพรรคกลายเป็นคนใกล้ชิดตนหมดเลย ซึ่งจะเห็นว่าท่านอดีตรองนายกฯก็ไปสมัครพรรคหนึ่ง ท่านอดีตที่ปรึกษาฯก็ไปสมัครอีกพรรคหนึ่ง แล้วน้องรักตนอย่าง
จ่ายุทธ-ยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ ก็ไปสมัครพรรคหนึ่ง และ สจ.ในทีมตน 3 คน คนหนึ่งไปสมัครพรรคเพื่อไทย คนหนึ่งไปสมัครภูมิใจไทย ส่วนอีกคนไปสมัครพรรคพลังประชารัฐ
“
ทุกคนใกล้ชิดผมหมดเลย ก็คิดในแง่ดีว่าการแข่งขันก็ต้องว่าไปตามกติกา เราตั้งทีมคนรักปทุมขึ้นมา แสดงให้เห็นว่า ทุกคนที่เคยอยู่ในทีมคนรักปทุมตั่งแต่ สจ. ที่ปรึกษา หรือท่านรองนายกฯ ทุกคนต่างก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ทำให้พรรคการเมืองจึงพยายามทาบทามพวกเขาไปลงในพรรคเขา เพราะคิดว่าศักยภาพเขาเพียงพอ ผมก็ดีใจว่าเราเลือกคนไม่ผิดนะที่มา ร่วมทำงาน เพื่อพัฒนาปทุมธานีให้เจริญนี่คือเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้”
พล.ต.ท.
คำรณวิทย์ กล่าวว่า แต่เมื่อเพื่อนพ้องน้องพี่ออกไปแล้วแข่งขันกัน การให้สัมภาษณ์การพูดอะไรการแข่งขันมันสูง ตนก็ไม่คิดว่าจะออกมาในรู้แบบนี้ ตามกระแสข่าวที่ออกมา คนอย่างตนไม่เคยคิดจะหักคนที่มีพระคุณมีความผูกผันกับอดีตนายก
ทักษิณ ชินวัตร ตลอด มาตั้งแต่ที่เรียนจนจบจากสามพรานมาด้วยกัน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน และก็ผูกผันกันมานาน แล้วเรื่องการเลือกพรรคต่างๆ พวกนี้มันเรื่องเล็ก ผู้สมัครคนนั้นคนนี่มาลงพรรคไหนก็เป็นสิทธิของพรรคเขา เมื่อพรรคไม่เลือก เขาก็มีสิทธิที่จะไปพรรคอื่น ก็เป็นธรรมดาไม่ใช่เฉพาะในจังหวัดปทุมธานี แต่ในกลุ่มนี้กลายเป็นคนใกล้ชิดตนทั้งหมด พอจะเริ่มไปแข่งขันตนก็รู้ว่า มีคนไปฟ้องว่า ตนไปขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทย ก็รู้ว่ามาจากใคร ที่ไปฟ้องท่านอดีตนายฯ
ทักษิณว่า ตนขึ้นเวทีภูมิใจไทย แต่เขาพูดไม่หมดไง เขาควรพูดให้หมด
“
ถ้าคุณลูกผู้ชายจริงคุณจะไปฟ้องว่า ผมขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทยคุณพูดใหม่หมดสิว่าเป็นงานอะไร คุณเป็น ส.ส.แล้วคุณทำไมพูดไม่หมด เมื่อคุณมีคู่แข่งขึ้นมาคุณเริ่มหวั่นไหว แล้วคุณก็มาใส่ความกันแบบนี้ มันไม่ใช่ เหตุในวันนั้นเป็นงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของ สจ.สมร แต่งอ่อน ในพื้นที่ อ.ลาดหลุมแก้ว มี สจ.อยู่ 2 คน สจ.ชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ ตอนนี้เป็นประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และ สจ.สมร แต่งอ่อน หรือ สจ.หริ่งก็เป็น สจ.วันนั้นเป็นวันคล้ายวันเกิด สจ.สมร เขาได้จัดเวที ตนเป็นนายก อบจ. พูดง่ายๆ ก็เป็นหัวหน้าทีมเขา และเขาได้ให้ตนเป็นประธานในพิธี แต่ตัวคุณไม่ไป คนอื่นเขาไปกันเยอะแยะ คุณก็ไปโจมตีไปใส่ว่า ตนขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทย สจ.สมร ไม่ใช่ภูมิใจเลย”
บิ๊กแจ๊ส กล่าวอีกว่า ตนเป็นนายกฯตนก็อิสระ แต่วันนี้ที่ตนขึ้นเวทีคนเยอะ แล้วในงานวันนั้นตนจะไม่ขึ้นก็ไม่ได้คนหลายพันคนมาร่วมงาน ตนได้ขึ้นไปอวยพรไม่เห็นจะเสียหาย แต่คุณก็ไปสร้างประเด็นขึ้นมา ตนก็พูดในภาพรวม แล้วการแข่งขันก็แข่งขันกันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม เมื่อทุกคนเป็นคนใกล้ชิดตน อยากจะพูดว่าอย่าร้องเรียนกันได้ไหม ในเมื่อทุกคนเคยทำงานร่วมกัน เมื่อคุณสู้แล้วก็สู้กันไปเลย แพ้คือแพ้ ชนะคือชนะ หลังจากนี้อย่าไปร้องเรียนกันให้เสียเวลา เมื่อมีข่าวออกไปกลัวว่าตัวเองสู้ไม่ได้ แล้วจะไปโวยวายทำไม นี่เป็นความรู้สึกตนนะ ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ทีมทนายฟ้องที่เขียนข่าวให้ตนเสียหาย
เป้าหมายของตนคือ ต้องการให้ปทุมธานีเจริญ ขณะเดียวกันเพราะโครงการเหล่านี้ เกินความสามารถของ อบจ. ซึ่งเรามีงบ 1,000 กว่าล้าน แต่การแก้ไขปัญหาถนนหนทาง โรคระบาดเราก็ใช้งบเหล่านี้ เมื่อเราไปทำโครงการใหญ่ก็ไม่มีทาง เพราะต้องใช้เงินเป็น 10,000 ล้าน เราจึงต้องพยายามให้ผ่านทุกขั้นตอน โดยเฉพาะ ครม. ตนต้องการให้รถไฟฟ้าโมโนเรลเกิดจากสายสีแดง ไปจนถึงสถานีสวนสัตว์คลองหก เพื่อรองรับสวนสัตว์ที่จะเปิดในปี 2570 จะเป็นสวนสัตว์แห่งประเทศไทยอยู่ที่ปทุมธานี การจราจรต้องพร้อมรถไฟฟ้าโมโนเรลต้องเกิด ตนต้องยืนอยู่กับประชาชนเป็นหลัก
ดังนั้นโครงการใหญ่ที่จะเกิดได้ตนเองพูดกับน้องๆ ที่ไปพรรคต่างๆ ว่าคนที่อยู่เพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ถ้าได้เป็น ส.ส.ต้องช่วยผลักดันโครงการต่างๆ หากใครได้ไปอยู่พรรคคุมกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็ช่วยผลักดันโครงการให้ผ่านให้ได้ ตนได้คุยกับน้องๆ อย่างนี้ เพราะทุกคนมีเจตนามาเพื่อช่วยพัฒนาปทุมธานีอยู่แล้ว ตอนนี้ก็สู้กันไป เมื่อเสร็จแล้วกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ทำจังหวัดปทุมธานีให้เจริญ ไม่ใช่ไปทะเลาะเอาเป็นเอาตายเหมือนที่ผ่านมา ขนาด ส.ส.พรรคเดียวกันยังไม่ถูกกันแบบนี้ก็ไม่ใช่
ส่วนใครที่มาในจังหวัดปทุมธานี ตนไปรับทุกคน อย่างท่าน พล.อ.
ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาในพื้นที่ปทุมธานีตนก็ไปรับ เขามาตรวจน้ำท่วม ท่าน พล.อ.
อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาตนก็ไปรับ ท่านรัฐมนตรี
ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ มาตนก็ไปรับ “
อุ๊งอิ๊ง”
แพทองธาร ชินวัตร มาเดินหาเสียงก็เอาช่อดอกไม้ไปให้ ท่าน พล.ต.อ.
เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส มาหาเสียง ตนก็เอาช่อดอกไม้ไปมอบให้ เป็นหน้าที่ของผู้แทนของท้องถิ่นคือนายก อบจ.ถือว่าใครก็ตามที่เป็นรัฐบาลตนก็ต้องประสาน
แต่ไม่มีการรับปากรับคำว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี่ มีการพูดกันเองว่า ถ้าได้มากตนต้องเป็นรัฐมนตรีไม่ใช่เลย จำไว้เลยว่า ถ้าเห็นตนเป็นรัฐมนตรีนะ พี่น้องเสื้อแดงมาประจานได้เลย ชีวิตนี้ตนไม่เอาแล้วจะอยู่ของตนแค่นี้ ถ้าปทุมธานี ไม่เจริญตนไม่ไปเด็ดขาด ปทุมธานีป่วยหนักมานานแล้ว ถ้าเราแก้ปัญหาโดยการมีรถไฟฟ้าโมโนเรลเข้ามาได้ การยกระดับคันกั้นน้ำริมฝั่งเจ้าพระยาให้ยกขึ้นตลอดแนวให้น้ำผ่านปทุมธานีโดยที่ไม่ล้น 2 ฝั่ง เรามีคันกั้นน้ำถาวร พี่น้องชาวปทุมธานีก็จะไม่ต้องมาหวาดระแวงว่า จะต้องคอยขนของ หรือไม่น้ำจะท่วมหรือเปล่า แล้วที่ตนพูดเสมอคือ ปทุมธานีต้องมีสนามกีฬา อบจ.
“
ผมไม่เคยที่จะลบลู่อดีตนายกทักษิณ แม้แต่นิดเดียว ยังเคารพรักพี่เขาเหมือนเดิม อย่างคำพูดนักเรียนนายร้อยตำรวจเรา ยศถาบรรดาศักดิ์มันตามกันทัน แต่รุ่นพี่รุ่นน้องมันตามกันไม่ทัน รุ่นน้องคือรุ่นน้อง รุ่นพี่คือรุ่นพี่ คนที่ไม่รู้จริงแล้ว คุณไปเขียนข่าว คุณเป็นนักข่าวเป็นสื่อมวลชนเป็นกระจกเงาสะท้อนความจริง เมื่อคุณไม่สะท้อนความจริง แต่สะท้อนมโนความคิดของคุณ ตนว่าแบบนี้ใช่ไม่ได้นักข่าว ตนจึงให้รวบรวมเอกสารทั้งหมดที่ว่า สะบั้นกับทักษิณ หากเข้าข่ายตนฟ้องแน่นอน”
JJNY : ฝากความหวัง พท.│บิ๊กแจ๊สโต้เดือด ให้ความร่วมมือทุกพรรค│‘สรยุทธ’ สวนกลับนิ่งๆแต่เจ็บ│เกาหลีเหนือขาดแคลนอาหาร
https://www.matichon.co.th/politics/news_3856897
‘ผู้ประกอบการ-นักธุรกิจ’ ฝากความหวัง พท. หากเป็นรัฐบาล ช่วยพลิกชีวิต ‘คนโคราช’ วอนผลักดันเร่งเปิดมอเตอร์เวย์ หนุนการท่องเที่ยว-กระตุ้น ศก.
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 5 มีนาคม นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรค พท. นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค พท. พร้อม ส.ส.นครราชสีมา และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา พรรค พท. พบปะหารือกับตัวแทนผู้ประกอบการและนักธุรกิจในจ.นครราชสีมา นำโดยประธานหอการค้าจังหวัด เลขาธิการสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สภาหอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด ประธานชมรมรถโดยสารประจำทางโคราช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดนครราชสีมาและนายกสมาคมโรงแรมจังหวัดนครราชสีมา เพื่อรับฟังปัญหาและเสียงสะท้อนเพื่อรวบรวมข้อมูลนำไปจัดทำนโยบายพรรคในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน
โดย นพ.ชลน่าน กล่าวว่า พรรค พท.มองเห็นศักยภาพและความพร้อมของจ.นครราชสีมา ซึ่งมีความสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่และภาคอีสาน โดยพรรค พท.มีแนวนโยบายเรื่องเขตธุรกิจใหม่ ที่จะช่วยลดข้อจำกัดไปพร้อมกับการเพิ่มสิทธิประโยชน์ สร้างสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมในการประกอบธุรกิจให้ผู้ประกอบการทุกระดับ โดยเฉพาะข้อจำกัดในเรื่องกฎหมาย ดังนั้น เราจึงพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอต่างๆ เพื่อนำไปสู่การประกอบเป็นนโยบายของพรรคและนโยบายรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาในทุกด้าน
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า จ.นครราชสีมา มีความพร้อมและมีศักยภาพในหลายด้าน พรรค พท.มีนโยบายในภาพใหญ่ที่จะดึงนักท่องเที่ยวทั้งประเทศ อาทิ การสร้างสนามบินเพิ่มในหลายพื้นที่ ในส่วนของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่ผ่านมาเราได้พูดคุยกับหลายๆ กลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มซอฟต์เพาเวอร์ ที่จะเป็นช่องทางในการประกอบอาชีพให้มากขึ้น เราจะแก้ไขข้อจำกัดโดยเฉพาะด้านกฎหมาย เพื่อลดความซ้ำซ้อน ลดการผูกขาด ลดความเหลื่อมล้ำ ลดอุปสรรคต่อการเติบโตของผู้ประกอบการ รวมไปถึงแนวทางการเพิ่มทุนให้ผู้ประกอบการเพื่อเพิ่มโอกาสในการประกอบธุรกิจ
ขณะที่ตัวแทนผู้ประกอบการ กล่าวว่า ฝากความหวังพรรค พท.พิจารณามาตรการสนับสนุนผู้ประกอบการด้านต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจในจังหวัดและพื้นที่ภาคอีสานขยายตัวได้ โดยจ.นครราชสีมา มีเป้าหมายที่จะเพิ่มรายได้ต่อหัวประชากร จาก 1.2 แสนบาทต่อคนต่อปี เป็น 2 แสนบาทต่อคนต่อปี ซึ่งผู้ประกอบการเชื่อว่ามีความพร้อมในการประกอบธุรกิจทุกด้าน มีโรงงานอุตสาหกรรมมากที่สุดในภาคอีสาน รวมถึงศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจสำคัญ หากพรรค พท.ชนะเลือกตั้งและได้เป็นรัฐบาล ขอให้เร่งสนับสนุน โดยเฉพาะในส่วนของระเบียงเศรษฐกิจภาคอีสาน ที่จะช่วยยกระดับเศรษฐกิจจ.นครราชสีมาและภาคอีสานไปพร้อมกัน
ตัวแทนผู้ประกอบการ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังขอให้พรรค พท. พิจารณามาตรการแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้าที่ขณะนี้ค่อนข้างสูงจนกระทบต้นทุนผู้ประกอบการ การปรับขึ้นของค่าไฟฟ้าของไทยในปัจจุบันแพงกว่าในประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ยากต่อการดึงดูดนักลงทุน และในส่วนของการคมนาคนนั้น รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่ เป็นเรื่องที่จำเป็นและต้องเร่งดำเนินการ หรือแนวคิดเรื่องสนามบินของ จ.นครราชสีมา ซึ่งจะต้องพิจารณาร่วมกับการสร้างอุปสงค์การเดินทางเชื่อมโยงจังหวัดต่างๆ ไปพร้อมกัน อีกปัญหาสำคัญคือ มอเตอร์เวย์บางปะอิน-โคราช ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดใช้บริการได้ หากเร่งรัดให้เปิดบริการได้เร็ว ก็จะเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งและจะเป็นตัวจักรสำคัญในการพลิกชีวิตคนโคราช
ขณะที่ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและสตาร์ทอัพ ได้ฝากให้พรรค พท.พิจารณามาตรการสนับสนุนและเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมากที่จะเป็นตัวจักรสำคัญในการหมุนเวียนเศรษฐกิจของประเทศ
บิ๊กแจ๊สโต้เดือด ให้ความร่วมมือทุกพรรค ขอยืนข้างประชาชน ทำปทุมฯ ให้เจริญ
https://www.matichon.co.th/election66/news_3856877
บิ๊กแจ๊สโต้เดือด ให้ความร่วมมือทุกพรรค ขอยืนข้างประชาชน ทำปทุมฯ ให้เจริญ
วันที่ 5 มีนาคม “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า เนื่องจากการเมืองตอนนี้เริ่มรุนแรง และจะร้อนแรงเพิ่มขึ้นอีก หลังจากมีการยุบสภาก็มีเลือกตั้ง โดยมีการแบ่งเขตชัดเจน และการต่อสู้กัน แต่ผลกระทบก็คือ คนที่ออกไปต่อสู้ในแต่ละพรรคกลายเป็นคนใกล้ชิดตนหมดเลย ซึ่งจะเห็นว่าท่านอดีตรองนายกฯก็ไปสมัครพรรคหนึ่ง ท่านอดีตที่ปรึกษาฯก็ไปสมัครอีกพรรคหนึ่ง แล้วน้องรักตนอย่าง จ่ายุทธ-ยุทธศักดิ์ ชูประเสริฐ ก็ไปสมัครพรรคหนึ่ง และ สจ.ในทีมตน 3 คน คนหนึ่งไปสมัครพรรคเพื่อไทย คนหนึ่งไปสมัครภูมิใจไทย ส่วนอีกคนไปสมัครพรรคพลังประชารัฐ
“ทุกคนใกล้ชิดผมหมดเลย ก็คิดในแง่ดีว่าการแข่งขันก็ต้องว่าไปตามกติกา เราตั้งทีมคนรักปทุมขึ้นมา แสดงให้เห็นว่า ทุกคนที่เคยอยู่ในทีมคนรักปทุมตั่งแต่ สจ. ที่ปรึกษา หรือท่านรองนายกฯ ทุกคนต่างก็เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ ทำให้พรรคการเมืองจึงพยายามทาบทามพวกเขาไปลงในพรรคเขา เพราะคิดว่าศักยภาพเขาเพียงพอ ผมก็ดีใจว่าเราเลือกคนไม่ผิดนะที่มา ร่วมทำงาน เพื่อพัฒนาปทุมธานีให้เจริญนี่คือเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้”
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า แต่เมื่อเพื่อนพ้องน้องพี่ออกไปแล้วแข่งขันกัน การให้สัมภาษณ์การพูดอะไรการแข่งขันมันสูง ตนก็ไม่คิดว่าจะออกมาในรู้แบบนี้ ตามกระแสข่าวที่ออกมา คนอย่างตนไม่เคยคิดจะหักคนที่มีพระคุณมีความผูกผันกับอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร ตลอด มาตั้งแต่ที่เรียนจนจบจากสามพรานมาด้วยกัน เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน และก็ผูกผันกันมานาน แล้วเรื่องการเลือกพรรคต่างๆ พวกนี้มันเรื่องเล็ก ผู้สมัครคนนั้นคนนี่มาลงพรรคไหนก็เป็นสิทธิของพรรคเขา เมื่อพรรคไม่เลือก เขาก็มีสิทธิที่จะไปพรรคอื่น ก็เป็นธรรมดาไม่ใช่เฉพาะในจังหวัดปทุมธานี แต่ในกลุ่มนี้กลายเป็นคนใกล้ชิดตนทั้งหมด พอจะเริ่มไปแข่งขันตนก็รู้ว่า มีคนไปฟ้องว่า ตนไปขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทย ก็รู้ว่ามาจากใคร ที่ไปฟ้องท่านอดีตนายฯ ทักษิณว่า ตนขึ้นเวทีภูมิใจไทย แต่เขาพูดไม่หมดไง เขาควรพูดให้หมด
“ถ้าคุณลูกผู้ชายจริงคุณจะไปฟ้องว่า ผมขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทยคุณพูดใหม่หมดสิว่าเป็นงานอะไร คุณเป็น ส.ส.แล้วคุณทำไมพูดไม่หมด เมื่อคุณมีคู่แข่งขึ้นมาคุณเริ่มหวั่นไหว แล้วคุณก็มาใส่ความกันแบบนี้ มันไม่ใช่ เหตุในวันนั้นเป็นงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของ สจ.สมร แต่งอ่อน ในพื้นที่ อ.ลาดหลุมแก้ว มี สจ.อยู่ 2 คน สจ.ชัยวัฒน์ อินทร์เลิศ ตอนนี้เป็นประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และ สจ.สมร แต่งอ่อน หรือ สจ.หริ่งก็เป็น สจ.วันนั้นเป็นวันคล้ายวันเกิด สจ.สมร เขาได้จัดเวที ตนเป็นนายก อบจ. พูดง่ายๆ ก็เป็นหัวหน้าทีมเขา และเขาได้ให้ตนเป็นประธานในพิธี แต่ตัวคุณไม่ไป คนอื่นเขาไปกันเยอะแยะ คุณก็ไปโจมตีไปใส่ว่า ตนขึ้นเวทีพรรคภูมิใจไทย สจ.สมร ไม่ใช่ภูมิใจเลย”
บิ๊กแจ๊ส กล่าวอีกว่า ตนเป็นนายกฯตนก็อิสระ แต่วันนี้ที่ตนขึ้นเวทีคนเยอะ แล้วในงานวันนั้นตนจะไม่ขึ้นก็ไม่ได้คนหลายพันคนมาร่วมงาน ตนได้ขึ้นไปอวยพรไม่เห็นจะเสียหาย แต่คุณก็ไปสร้างประเด็นขึ้นมา ตนก็พูดในภาพรวม แล้วการแข่งขันก็แข่งขันกันอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม เมื่อทุกคนเป็นคนใกล้ชิดตน อยากจะพูดว่าอย่าร้องเรียนกันได้ไหม ในเมื่อทุกคนเคยทำงานร่วมกัน เมื่อคุณสู้แล้วก็สู้กันไปเลย แพ้คือแพ้ ชนะคือชนะ หลังจากนี้อย่าไปร้องเรียนกันให้เสียเวลา เมื่อมีข่าวออกไปกลัวว่าตัวเองสู้ไม่ได้ แล้วจะไปโวยวายทำไม นี่เป็นความรู้สึกตนนะ ขณะนี้อยู่ระหว่างให้ทีมทนายฟ้องที่เขียนข่าวให้ตนเสียหาย
เป้าหมายของตนคือ ต้องการให้ปทุมธานีเจริญ ขณะเดียวกันเพราะโครงการเหล่านี้ เกินความสามารถของ อบจ. ซึ่งเรามีงบ 1,000 กว่าล้าน แต่การแก้ไขปัญหาถนนหนทาง โรคระบาดเราก็ใช้งบเหล่านี้ เมื่อเราไปทำโครงการใหญ่ก็ไม่มีทาง เพราะต้องใช้เงินเป็น 10,000 ล้าน เราจึงต้องพยายามให้ผ่านทุกขั้นตอน โดยเฉพาะ ครม. ตนต้องการให้รถไฟฟ้าโมโนเรลเกิดจากสายสีแดง ไปจนถึงสถานีสวนสัตว์คลองหก เพื่อรองรับสวนสัตว์ที่จะเปิดในปี 2570 จะเป็นสวนสัตว์แห่งประเทศไทยอยู่ที่ปทุมธานี การจราจรต้องพร้อมรถไฟฟ้าโมโนเรลต้องเกิด ตนต้องยืนอยู่กับประชาชนเป็นหลัก
ดังนั้นโครงการใหญ่ที่จะเกิดได้ตนเองพูดกับน้องๆ ที่ไปพรรคต่างๆ ว่าคนที่อยู่เพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ถ้าได้เป็น ส.ส.ต้องช่วยผลักดันโครงการต่างๆ หากใครได้ไปอยู่พรรคคุมกระทรวงที่เกี่ยวข้องก็ช่วยผลักดันโครงการให้ผ่านให้ได้ ตนได้คุยกับน้องๆ อย่างนี้ เพราะทุกคนมีเจตนามาเพื่อช่วยพัฒนาปทุมธานีอยู่แล้ว ตอนนี้ก็สู้กันไป เมื่อเสร็จแล้วกลับมาเป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม ทำจังหวัดปทุมธานีให้เจริญ ไม่ใช่ไปทะเลาะเอาเป็นเอาตายเหมือนที่ผ่านมา ขนาด ส.ส.พรรคเดียวกันยังไม่ถูกกันแบบนี้ก็ไม่ใช่
ส่วนใครที่มาในจังหวัดปทุมธานี ตนไปรับทุกคน อย่างท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มาในพื้นที่ปทุมธานีตนก็ไปรับ เขามาตรวจน้ำท่วม ท่าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาตนก็ไปรับ ท่านรัฐมนตรีชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ มาตนก็ไปรับ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร มาเดินหาเสียงก็เอาช่อดอกไม้ไปให้ ท่าน พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส มาหาเสียง ตนก็เอาช่อดอกไม้ไปมอบให้ เป็นหน้าที่ของผู้แทนของท้องถิ่นคือนายก อบจ.ถือว่าใครก็ตามที่เป็นรัฐบาลตนก็ต้องประสาน
แต่ไม่มีการรับปากรับคำว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี่ มีการพูดกันเองว่า ถ้าได้มากตนต้องเป็นรัฐมนตรีไม่ใช่เลย จำไว้เลยว่า ถ้าเห็นตนเป็นรัฐมนตรีนะ พี่น้องเสื้อแดงมาประจานได้เลย ชีวิตนี้ตนไม่เอาแล้วจะอยู่ของตนแค่นี้ ถ้าปทุมธานี ไม่เจริญตนไม่ไปเด็ดขาด ปทุมธานีป่วยหนักมานานแล้ว ถ้าเราแก้ปัญหาโดยการมีรถไฟฟ้าโมโนเรลเข้ามาได้ การยกระดับคันกั้นน้ำริมฝั่งเจ้าพระยาให้ยกขึ้นตลอดแนวให้น้ำผ่านปทุมธานีโดยที่ไม่ล้น 2 ฝั่ง เรามีคันกั้นน้ำถาวร พี่น้องชาวปทุมธานีก็จะไม่ต้องมาหวาดระแวงว่า จะต้องคอยขนของ หรือไม่น้ำจะท่วมหรือเปล่า แล้วที่ตนพูดเสมอคือ ปทุมธานีต้องมีสนามกีฬา อบจ.
“ผมไม่เคยที่จะลบลู่อดีตนายกทักษิณ แม้แต่นิดเดียว ยังเคารพรักพี่เขาเหมือนเดิม อย่างคำพูดนักเรียนนายร้อยตำรวจเรา ยศถาบรรดาศักดิ์มันตามกันทัน แต่รุ่นพี่รุ่นน้องมันตามกันไม่ทัน รุ่นน้องคือรุ่นน้อง รุ่นพี่คือรุ่นพี่ คนที่ไม่รู้จริงแล้ว คุณไปเขียนข่าว คุณเป็นนักข่าวเป็นสื่อมวลชนเป็นกระจกเงาสะท้อนความจริง เมื่อคุณไม่สะท้อนความจริง แต่สะท้อนมโนความคิดของคุณ ตนว่าแบบนี้ใช่ไม่ได้นักข่าว ตนจึงให้รวบรวมเอกสารทั้งหมดที่ว่า สะบั้นกับทักษิณ หากเข้าข่ายตนฟ้องแน่นอน”