JJNY : อิ๊ง เว่าอีสานอ้อนชาว ‘อุบลฯ’│ชี้ตร. เข้าสู่ยุคเสื่อมทรุดที่สุด│สมชัย ชี้โทษยุบพรรค ติดเทอร์โบแน่│จับตา อะไรขึ้น

อิ๊ง เว่าอีสานอ้อนชาว ‘อุบลฯ’ ถาม ‘คิดถึงพ่อใหญ่บ่’ เล็งดันเป็นศูนย์กลางคมนาคม
https://www.matichon.co.th/politics/news_3829422

‘เพื่อไทย’ ย้ำไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง มั่นใจ คะแนนนิยมพุ่งทั่วประเทศแลนด์สไลด์แน่ ด้าน ‘เกรียง’ ชู ‘อิ๊งค์’ เป็นคนตุ้มโฮมคน พท.
 
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 17 กุมภาพันธ์ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และคณะเดินทางมาถึง เวทีปราศรัยโรงเรียนมัธยมเดชอุดม อ.เดชอุดม โดยมีประชาชนรอฟังปราศรัยจนเต็มพื้นที่ลานอเนกประสงค์ ทันทีที่ น.ส.แพทองธารเดินทางมาถึง ประชาชนได้ปรบมือต้อนรับดังลั่นและแห่รุมเข้าไปมอบดอกไม้ให้กำลังใจ
 
โดย น.ส.แพทองธารปราศรัยว่า เสียดายประเทศโดนรัฐประหารทำให้ถอยหลัง หนี้สินที่รัฐบาลทำไว้ชั่วลูกชั่วหลานก็ใช้หนี้หมดยาก หากไม่ได้รัฐบาลที่ดีเข้ามาบริหาร ล่าสุดมี ส.ว.ออกมาบอกว่าถึง พท.จะได้ ส.ส. 300 กว่าก็จัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ เสียงของประชาชนจะไม่มีความหมายไม่ได้ ถ้าประชาชนเลือกใครคนนั้นต้องได้รับใช้ประชาชน ยืนยันพรรค พท.ไม่มีพรรคพี่พรรคน้อง ใครมาบอกอย่าเชื่อขอให้เลือก พท.พรรคเดียว เลือกทั้งคนทั้งพรรคให้แลนด์สไลด์ไปเลย
 
จากนั้นเวลา 18.00 น. น.ส.แพทองธาร และ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายประเสริฐ จันทรรวงทอง   ส.ส.นครราชสีมา และเลขาธิการพรรค และคณะผู้บริหารพรรค รวมถึง ส.ส.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พื้นที่ใกล้เคียง เดินทางมายังหน้าศาลากลางเก่า อ.เมือง โดยมีประชาชนชาว จ.อุบลราชธานี มารอฟังการปราศรัยจนล้นสนามหน้าศาลากลางเก่า

โดย นายเกรียง กัลป์ตินันท์ ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ปีที่แล้วได้คุยกับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ คุณแม่ของ น.ส.แพทองธาร ถึงบ้าน เพื่อไปชวนคุณหญิงพจมานมาเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค พท. แต่ช่วงนั้นท่านปฏิเสธ
 
ตนจึงเรียนกับท่านตรงๆ ว่า ไม่มีใครที่จะมีความรู้ความสามารถที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯในยุคนี้ได้ ซึ่งพรรค พท.รวมบุคคลหลายสาขาทั้งการเมือง สังคม เศรษฐกิจ ทุกคนต่างให้การยอมรับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ถ้าเอาคนอื่นที่ไม่ใช่ชินวัตรเข้ามาเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกฯของพรรคก็ไม่มีทางรวมพวกเราไว้ได้
 
วันนี้ พท.โชคดีที่ น.ส.แพทองธารตัดสินใจลงเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกฯของเรา ที่ผ่านมาที่เป็นพรรคพลังประชาชน จนมาเป็นพรรค พท.ทุกวันนี้ เคยเอาคนที่ไม่ใช่ตระกูลชินวัตรมาอยู่ แต่ก็ไม่สามารถตุ้มโฮมพวกเราชาวเพื่อไทยได้” นายเกรียงกล่าว
 
ด้าน นพ.ชลน่าน ปราศรัยว่า ทุกวันนี้ประชาชนเกิดมาแล้วเป็นหนี้ ถ้าทุกครัวเรือนรวมกันเป็นหนี้ 14 ล้านล้านบาท หนี้สาธารณะ 10 ล้านล้าน เป็นทุกข์อันยิ่งใหญ่ ถ้าต้องการแก้หนี้เข้าคูหากา พท.ทั้ง 2 ใบ พรรค พท.อาสามาแก้ความทุกข์ที่พอกพูนมากว่า 8 ปี ถ้าเราไม่แลนด์สไลด์ทุกข์เหล่านี้ก็ไม่หาย มั่นใจว่าพรรค พท.จะแลนด์สไลด์ นอกจากอุบลราชธานีแล้ว ในพื้นที่ทั่วประเทศรวมถึงภาคใต้ ที่มีการสำรวจความคิดเห็นเขาสนับสนุนพรรค พท.นี่คือความมั่นใจของเรา
 
ขณะที่ น.ส.แพทองธาร ปราศรัยเป็นภาษาอีสานตอนหนึ่งว่า “มื้อนี้ดีใจหลายได้มาเยี่ยมชาวอุบลฯ คิดฮอดพ่อใหญ่บ่ คิดฮอดคุณอาบ่ เขาฝากมาบอกว่าคิดฮอดชาวอุบลฯหลายแท้” และกล่าวต่อว่า วันนี้มากำลังใจล้นหลาม อุบลราชธานีเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ อยู่ติดทั้งลาว กัมพูชา ไปจีนไปเวียดนามได้ แต่มีการรัฐประหารทำให้หาโอกาสค้าขายกับต่างประเทศยาก อีกทั้งการจัดการเรื่องโควิดล้มเหลว ทำให้พี่น้องมีแต่หนี้สิน
 
น.ส.แพทองธารกล่าวต่อว่า พรรค พท.มาแล้ว เราต้องการทำให้ชีวิตประชาชนดีขึ้น เราอยากให้อุบลราชธานีเป็นศูนย์กลางคมนาคมทั้งรถไฟและการบิน ต้องมีรถไฟความเร็วสูง ลดเวลาครึ่งลงราคาถูกกว่าเดิมเท่าตัว และสินค้าการเกษตรกระจายไปทั่วโลก พรรค พท.จะเป็นผู้นำสินค้าเกษตรไปขาย และต้องมีสนามบินที่ดีมีเทคโนโลยีที่ดีทันสมัยใหญ่โตรับนักท่องเที่ยวให้รองรับนักท่องเที่ยวได้อีกเท่าตัว
 
การแก้ปัญหารวดเร็วจะกลับมาอีกครั้งหาก พท.ได้เป็นรัฐบาล เราต้องการทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อประชาชน ขอให้เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค ขอให้เลือก ส.ส.เพื่อไทยทั้งจังหวัด
 


อดีตเลขาฯสมช. ชี้ตร. เข้าสู่ยุคเสื่อมทรุดที่สุด เพราะมีนายกฯ ชอบตะแบง-ไร้ภาวะผู้นำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3829721

อดีตเลขาฯสมช. ชี้ตร. เข้าสู่ยุคเสื่อมทรุดที่สุด เพราะมีนายกฯ ชอบตะแบง-ไร้ภาวะผู้นำ 
 
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทยอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ  (สมช.) กล่าวว่า การอภิปรายของพรรคร่วมฝ่ายค้านในสภาฯสองวันที่ออกอากาศไปทั่ว เป็นการตอกย้ำกระชากหน้ากาก ”รัฐบาลหน้ากากผู้ดี” และ ”นายกฯแปดเปื้อน” นั้น มันเป็นความจริงตามฉายาที่สื่อมวลชนตั้ง เฉพาะแค่ประเด็นทุนสีเทาจีน-ไทยการอภิปรายได้แสดงให้เห็นถึงความเสื่อมทรามของตำรวจไทยได้กระจ่างแจ้ง อธิบายความเทียบเคียงให้เห็นภาพง่ายๆว่าทุนมาเฟียจีนสีเทา(แก๊ง1)มีทีมตำรวจสีเทา (ทีม1) คุ้มครอง ต่อมาก็มาถูกทีมตำรวจสีเทา(ทีม2)มาโค่นล้มให้แก๊งมาเฟียจีนสีเทา(แก๊ง2)เข้ามาแทนที่ เป็นการเวียนวนของวงจรอุบาทว์ของทีมและแก๊งสีเทาชั่วๆหลากสายพันธุ์วนมาเสียบแทนที่กันแบบไม่รู้จบ ครั้นพอจะไปตั้งทีมเฉพาะกิจมากวาดล้าง เมื่อกวาดตามองหาเจ้าหน้าที่ก็เจอแต่มือปราบสีเทาอีกก็เลยไม่รู้จะหยิบใครมาปฏิบัติการดังกล่าว
 
“มันเป็นยุคแห่งความเสื่อมทรุดที่สุดของวงการตำรวจไทย การอภิปรายครั้งนี้จบลงอย่างกระจ่างชัดว่าขบวนการมาเฟียสีเทาจีน-ไทยเกิดขึ้นได้ก็เพราะความเฮงซวยไร้ภาวะผู้นำของนายกฯสืบทอดอำนาจที่เป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) นั่นเอง ดีแต่ตะแบงตีฝีปากแก้ตัวว่าเรื่องนี้มีมาตั้งแต่รัฐบาลก่อน ประชาชนเขาไม่สนเรื่องเดิมเขาสนใจแต่ว่าแล้ว 8 ปี 8เ ปื้อนมัวไปเป็นอีแอบหดหัวอยู่ไหนปัญหามาเฟียนี้มันถึงแผ่อิทธิพลกว้างขวางเละเทะอย่างนี้ เชื่อได้ว่า เมื่อการเลือกตั้งใหญ่ส.ส.เกิดขึ้นประชาชนจะนำประเด็นนี้ไปพิจารณาสู่การตกลงใจเลือกพรรคการเมืองปีกประชาธิปไตยให้ได้ชัยชนะแบบแลนด์สไลด์มาเป็นรัฐบาล เพื่อมาปฏิรูปชำระล้างความโสมมของวงการตำรวจไทยภายใต้การนำของนายกฯสืบทอดอำนาจที่จะตกเก้าอี้กลับบ้านไปรอรับคดีความที่ตัวเองสร้างปัญหาหมกเม็ดทิ้งไว้” พล.ท.ภราดร กล่าว



สมชัย ชี้โทษยุบพรรค ติดเทอร์โบแน่ หลังกกต.รื้อระเบียบใหม่ คดีล้มล้าง-คนนอกครอบงำ
https://www.matichon.co.th/politics/news_3829731
 
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทยและ อดีตกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์ข้อเขียนผ่านเฟซบุ๊กว่า
 
“แก้ระเบียบใหม่ กกต. ต่อจากนี้ยุบพรรคติดเทอร์โบ
 
15 กุมภาพันธ์ 2566 กกต.ออกระเบียบใหม่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาอีกฉบับ คือ ระเบียบว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง พ.ศ. 2566 มีสาระสำคัญ คือ
 
1. ยกเลิกระเบียบเก่า ของ ปี 2564
2. พรรคไหนถูกร้องหรือพบว่าทำผิด มาตรา 92 ของ พ.ร.ป.พรรคการเมือง (ล้มล้างการปกครอง ปฏิปักษ์ต่อประชาธิปไตย แสวงหากำไร ยอมให้คนนอกครอบงำ รับบริจาคจากบุคคลเพื่อบ่อนทำลายความมั่นคง สนับสนุนคุกคามความสงบเรียบร้อย เรียกรับเพื่อให้ได้ตำแหน่งทางการเมือง รับเงินจากแหล่งมิชอบด้วยกฎหมาย รับเงินจากคนไม่มีสัญชาติไทย) ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อรับหรือไม่รับเรื่องใน 7 วัน
3. การรวบรวมข้อเท็จจริง ให้เสร็จใน 30 วัน ขอขยายได้ครั้งละ 30 วัน
4. เมื่อเสนอ กกต. ลงมติยุบพรรค ให้ กกต. พิจารณาให้เสร็จภายใน 30 วัน เพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญเพื่อยุบพรรค
5. ระเบียบนี้ ไม่ใช้กับ คำร้องเก่าก่อนประกาศ เว้ยเฮ้ย
 
ฤทธิเดชจริงจริง”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่