หารีวิวยากเหมือนกันครับเพราะโรงแรมสไตล์ oriental จ๋าขนาดนี้มักจะไม่ค่อยถูกจริตคนไทยเท่าไร อย่างตอนที่ผมไปผมก็เป็น guest ไทยคนเดียวของรีสอร์ทเลยครับ วันนี้ขอแชร์ประสบการณ์จากการเข้าพักที่นี่ให้ฟังกันนะครับ

โรงแรมนภาใส เป็นโรงแรมในเครือ Belmond ซึ่งเป็น luxury boutique hotel chain จากยุโรป เครือโรงแรม Belmond แต่เดิมคือ Orient Express Hotel ครับ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อมาเป็น Belmond

กล่าวถึงชื่อบางคนอาจจะงงๆ เดิม Oreint Express เป็นชื่อรถไฟหรูหราที่ให้บริการในยุโรปมาร้อยกว่าปีครับ และหยุดให้บริการไปในปี 2009 มาเกี่ยวข้องกับ Belmond ก็คือ คุณ James Sherwood นักธุรกิจชาวอเมริกันได้เข้าซื้อโรงแรมหรูในเวนิส Hotel Cipriani เพื่อเริ่มธุรกิจโรงแรมตั้งแต่ปี 1976 และขยาย port โรงแรมไปอีกหลายเมืองท่องเที่ยวทั่วโลก หลังจากนั้นแกก็ได้ซื้อรถไฟเก่าของ Orient Express มาให้บริการรถไฟหรูอีกครั้งในสหรัฐอเมริกา และธุรกิจโรงแรมก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น Orient Express Hotel ด้วยครับ ธุรกิจทั้งหมดตอนนั้นของ Orient Express จึงมีทั้งโรงแรมหรู รถไฟหรู รวมถึงเรือยอร์ชด้วย

ปี 2014 ลุงแกก็เปลี่ยนชื่อ Orient Express ใหม่เป็น Belmond ครับ และชื่อ Orient Express ก็ไม่ถูกใช้อีกกับเชนแล้ว

ปี 2018 LVMH ได้เข้าซื้อ Belmond ltd. ทั้งเครือ ทำให้ปัจจุบัน Belmond จึงเป็นหนึ่งในธุรกิจโรงแรมหรูของ LVMH ไปแล้ว (อีกสองเครือโรงแรม LVMH ก็คือ Cheval Blanc ที่ซื้อมาเช่นกัน และ LV hotel ที่กำลังจะเป็นโรงแรมปั้นเองของ LVMH)

ปี 2019 Accor ได้ซื้อสิทธิแบรนด์ Orient Express และกลายเป็น 1 ใน luxury line ของ Accor ครับ ตอนแรกแบรนด์นี้จะมาลงตึกมหานคร ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็น the Standard แบบทุกวันนี้

กลับมาที่นภาใสบ้าง โรงแรมมีอายุอานามพอสมควร แต่การดูแลยังดีอยู่มาก ห้องสไตล์ oriental จ๋า ตกแต่งด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ ห้องพักทุกห้องเป็นวิลล่าส่วนตัว ห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำหินอ่อนให้ทุกห้อง ห้องเริ่มต้นแบบที่ผมพักก็มีพื้นที่กว้างขวางพอๆ กับวิลล่าของอีกหลายโรงแรม สภาพแวดล้อมโดยรวมร่มรื่นอย่างมาก ต้นไม้สูง หญ้าสีเขียว ทำให้บรรยากาศโดยรอบของโรงแรมไม่ร้อนเลย ยิ่งผมมาพักช่วงหลังคริสต์มาส ลมเย็นๆ พัดมาตลอด อากาศดีและฟ้าใสสมชื่อโรงแรมเลยทีเดียว



ห้องพักที่นี่มีเพียง 69 หลัง สร้างอยู่บนพื้นที่ร้อยกว่าไร่ ทำให้แม้อัตราการเข้าพักจะเกือบ 100% แต่แขกทุกคนก็จะยังมีพื้นที่ให้พักผ่อนแบบเต็มอิ่ม ไม่แออัด ไม่วุ่นวาย สระว่ายรูปกว้างขวาง มองเห็นวิวพระอาทิตย์ตกและขึ้นในทุกวัน ที่เด็ดสุดคงเป็นชายหาดส่วนตัวที่ทอดยาวเกิน 200 เดินเล่นได้อย่างสุขสบายทั้งเช้าและเย็น (ชายหาดสมุยหลายๆ หาดสั้นมาก แทบเล่นไม่ได้ ที่นี่หาดกว้างมาก) และใครที่ชอบกิจกรรมทางน้ำทั้ง paddle board หรือพายเรือคายัค ก็สามารถใช้บริการได้เต็มที่โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม



โรงแรมมี activity ให้ทำมากมาย ทั้งกิจกรรม cooking class, จัดดอกไม้ ปั่นจักรยาน ซึ่งต้องจองล่วงหน้าเล็กน้อย ส่วนพื้นที่ออกกำลังกายอื่นๆ มีให้ครบทั้งสนามเทนนิส คอร์ท badminton กลางแจ้ง ฟิตเนส จักรยาน ใครที่ชอบสปาที่นี่ก็มีสปาสุดหรูให้บริการเช่นกัน รวมถึงมี massage ริมทะเลด้วย
อาหารอาจจะเป็นจุดเดียวของโรงแรมที่ผมประทับใจน้อยที่สุด ด้วยความที่ต้องให้บริการลูกค้าต่างชาติเป็นส่วนใหญ่ ทำให้อาหารไทยที่นี่รสชาติจืดกว่าปกติ ส่วนขนม และอาหารนานาชาตินั้นดีงามตามมาตรฐาน



มาถึงจุดที่เป็นจุดมัดใจแขก การบริการของพนักงานที่นี่เรียกว่า บริการด้วยใจ และเป็นธรรมชาติสุดๆ ไม่เยิ่นเย้อ ไม่ได้ดูแลดุจเทวดา แต่รู้สึกอบอุ่นและสบายใจกับพนักงานทุกท่านจริงๆ ทั้งในส่วน front, concierge, ร้านอาหาร หรือริมหาดก็ตาม ชื่นชมมากๆ ณ จุดนี้



ราคาเริ่มต้นของที่นี่ ช่วง low อาจจะ 1 หมื่นนิดๆ ช่วง high อาจไปได้ถึงหมื่นห้าหรือสองหมื่น แต่หากในช่วง peak อย่างช่วงหลังคริสต์มาส อาจพุ่งไปถึง 25000 อัพได้เลยทีเดียว (ช่วง COVID ราคาที่นี่ต่ำเหลือแค่ 5500 ก็มีมาแล้ว อิจฉาคนเข้าพักช่วงนั้นมาก)

โดยสรุป ประทับใจที่นี่มากครับ ถ้าให้ไปอีก คงไปแน่นอน แต่ขอราคาเบาๆ นะ
9/10 ครับ