เคลียร์ชัดปม 'เหมืองทองอัครา' ประจาน ส.ส.เพื่อไทย บิดเบือนกลางสภาฯ
'บิ๊กตู่' เคลียร์ชัดปม 'เหมืองทองอัครา' ประจาน ส.ส.เพื่อไทย บิดเบือนกลางสภาฯ 18 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 15:22 น.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชี้แจงว่า รัฐบาลทุกสมัยมีหน้าที่ในการพิจารณาการนำทรัพยากรออกมาใช้อย่างเหมาะสม รัฐบาล ปี 2544 เห็นชอบตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการเหมืองแร่ เชิญชวนให้มีการลงทุนและทำเหมืองทองในจังหวัดพิจิตร
และปี 2554 รัฐบาลระงับการต่อใบอนุญาตประทานบัตรทำเหมือง จำนวน 1 แปลง ด้วยปัญหาความชัดเจนและมีการฟ้องร้องกันอยู่ในศาลปกครอง
และมีการร้องเรียนจากประชาชนมีปัญหาสุขภาพจากการทำเหมือง และมีข้อโต้แย้งเรื่องขั้นตอนการอนุญาตขาดความรัดกุมและปัญหาสิ่งแวดล้อม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต่อมา รัฐบาล คสช. เข้ามาช่วงที่มีปัญหาโต้แย้งกันอยู่แล้ว จึงมีความชอบธรรมในการดำเนินการ ตามความจำเป็น ประกอบกับปัญหาสิ่งแวดล้อม
รัฐบาลย่อมต้องพิจารณาหาแนวทางตามที่มีความจำเป็น และหลักการออก พ.ร.บ.แร่ ปี 2560 มีการออกนโยบายการทำเหมืองแร่ใหม่ เอกชนกว่า 100 ราย ก็มาขอใบอนุญาตใหม่ และต่อใบอนุญาตเก่า
เช่นเดียวกันกับ บริษัท อัครา ก็เป็นไปตามเงื่อนไขที่ให้ต่อใบอนุญาต
แม้ผู้บริหารของบริษัทจะยังมีคดีความอยู่กับรัฐ แต่ก็ยังสามารถเข้าร่วมประมูลได้ และบริษัท อัครา ก็ได้ยื่นหนังสือต่อใบอนุญาตตามกฎหมาย เหมือนบริษัทอื่นๆ และไม่ได้ต่อรองเพื่อแลกเปลี่ยนอะไรกับรัฐบาลทั้งสิ้น
เป็นการต่อใบอนุญาตแปลงเดิมปี 2536 และ 2543 เป็นข้ออนุญาตตามใบอนุญาตเดิมตั้งแต่รัฐบาลยุคก่อน และการอนุญาตการสำรวจก็เป็นไปตามหลักกฎหมาย
นายกฯ กล่าวว่า การเจรจาเกิดขึ้นตามคำแนะนำของอนุญาโตตุลาการ
ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายไปขอเจรจาก่อน
และการฟ้องร้องของบริษัท คิงส์เกต เป็นไปด้วยความที่ยังไม่เข้าใจ คิดว่ารัฐบาลต้องการยึดเหมืองของบริษัทลูก เพราะไม่มีการต่อใบอนุญาตมาตั้งแต่ปี 2554
เพราะบริษัทแม่อยู่ต่างประเทศ
ส่วนเรื่องการใช้มาตรา 44 เป็นความตั้งใจบิดเบือนของผู้อภิปรายที่อยากให้ตนเสียหาย เนื่องจากมาตรา 44 เป็นเรื่องของการตรวจสอบและแก้ไขให้เป็นไปตามกฎหมาย และหากแก้ไขแล้วก็สามารถขออนุญาตให้เกิดใหม่ได้ ไม่ใช่ความต้องการที่จะยึดเหมือง หลังจากนั้นรัฐบาลก็ให้ความเป็นธรรมในการขอต่อใบอนุญาต โดยเป็นไปตาม พ.ร.บ.แร่ ฉบับแก้ไขในปี 2560
และถ้าเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตคงไม่ใช่ตนคนเดียว คงต้องย้อนกลับไปยังรัฐบาลก่อนๆ ที่ให้อนุญาตด้วย
แต่ในรัฐบาลของตนต้องมาเป็นคนแก้ไข
ตอนนี้กรณีนี้ กำลังอยู่ในการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ
ขออย่าให้ทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ
และขอให้การอภิปรายไม่ใช่หวังตีรัฐบาล ล้มรัฐบาลอย่างเดียว แต่อยากให้มีการเสนอทางออกที่คิดว่าทำได้ด้วย" นายกฯ กล่าว
อ่าน.
https://www.thaipost.net/hi-light/88245/
เหมืองทองอัคราตั้งแต่ปี 2544 ถึง 2554 รัฐบาลยิ่งลักษณ์ สั่งระงับการต่อใบอนุญาติเพราะอะไร?
'บิ๊กตู่' เคลียร์ชัดปม 'เหมืองทองอัครา' ประจาน ส.ส.เพื่อไทย บิดเบือนกลางสภาฯ 18 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 15:22 น.
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ชี้แจงว่า รัฐบาลทุกสมัยมีหน้าที่ในการพิจารณาการนำทรัพยากรออกมาใช้อย่างเหมาะสม รัฐบาล ปี 2544 เห็นชอบตาม พ.ร.บ.การประกอบกิจการเหมืองแร่ เชิญชวนให้มีการลงทุนและทำเหมืองทองในจังหวัดพิจิตร
และปี 2554 รัฐบาลระงับการต่อใบอนุญาตประทานบัตรทำเหมือง จำนวน 1 แปลง ด้วยปัญหาความชัดเจนและมีการฟ้องร้องกันอยู่ในศาลปกครอง
และมีการร้องเรียนจากประชาชนมีปัญหาสุขภาพจากการทำเหมือง และมีข้อโต้แย้งเรื่องขั้นตอนการอนุญาตขาดความรัดกุมและปัญหาสิ่งแวดล้อม
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต่อมา รัฐบาล คสช. เข้ามาช่วงที่มีปัญหาโต้แย้งกันอยู่แล้ว จึงมีความชอบธรรมในการดำเนินการ ตามความจำเป็น ประกอบกับปัญหาสิ่งแวดล้อม
รัฐบาลย่อมต้องพิจารณาหาแนวทางตามที่มีความจำเป็น และหลักการออก พ.ร.บ.แร่ ปี 2560 มีการออกนโยบายการทำเหมืองแร่ใหม่ เอกชนกว่า 100 ราย ก็มาขอใบอนุญาตใหม่ และต่อใบอนุญาตเก่า
เช่นเดียวกันกับ บริษัท อัครา ก็เป็นไปตามเงื่อนไขที่ให้ต่อใบอนุญาต
แม้ผู้บริหารของบริษัทจะยังมีคดีความอยู่กับรัฐ แต่ก็ยังสามารถเข้าร่วมประมูลได้ และบริษัท อัครา ก็ได้ยื่นหนังสือต่อใบอนุญาตตามกฎหมาย เหมือนบริษัทอื่นๆ และไม่ได้ต่อรองเพื่อแลกเปลี่ยนอะไรกับรัฐบาลทั้งสิ้น
เป็นการต่อใบอนุญาตแปลงเดิมปี 2536 และ 2543 เป็นข้ออนุญาตตามใบอนุญาตเดิมตั้งแต่รัฐบาลยุคก่อน และการอนุญาตการสำรวจก็เป็นไปตามหลักกฎหมาย
นายกฯ กล่าวว่า การเจรจาเกิดขึ้นตามคำแนะนำของอนุญาโตตุลาการ
ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายไปขอเจรจาก่อน
และการฟ้องร้องของบริษัท คิงส์เกต เป็นไปด้วยความที่ยังไม่เข้าใจ คิดว่ารัฐบาลต้องการยึดเหมืองของบริษัทลูก เพราะไม่มีการต่อใบอนุญาตมาตั้งแต่ปี 2554
เพราะบริษัทแม่อยู่ต่างประเทศ
ส่วนเรื่องการใช้มาตรา 44 เป็นความตั้งใจบิดเบือนของผู้อภิปรายที่อยากให้ตนเสียหาย เนื่องจากมาตรา 44 เป็นเรื่องของการตรวจสอบและแก้ไขให้เป็นไปตามกฎหมาย และหากแก้ไขแล้วก็สามารถขออนุญาตให้เกิดใหม่ได้ ไม่ใช่ความต้องการที่จะยึดเหมือง หลังจากนั้นรัฐบาลก็ให้ความเป็นธรรมในการขอต่อใบอนุญาต โดยเป็นไปตาม พ.ร.บ.แร่ ฉบับแก้ไขในปี 2560
และถ้าเกิดปัญหาขึ้นในอนาคตคงไม่ใช่ตนคนเดียว คงต้องย้อนกลับไปยังรัฐบาลก่อนๆ ที่ให้อนุญาตด้วย
แต่ในรัฐบาลของตนต้องมาเป็นคนแก้ไข
ตอนนี้กรณีนี้ กำลังอยู่ในการพิจารณาของอนุญาโตตุลาการ
ขออย่าให้ทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศ
และขอให้การอภิปรายไม่ใช่หวังตีรัฐบาล ล้มรัฐบาลอย่างเดียว แต่อยากให้มีการเสนอทางออกที่คิดว่าทำได้ด้วย" นายกฯ กล่าว
อ่าน. https://www.thaipost.net/hi-light/88245/