JJNY : 5in1 ดร.สิริพรรณมองรบ.| ‘ธนาธร’ชี้‘ก้าวไกล’| "หมอระวี"ชี้สูตร"หาร100"| รปภ.หนุ่มเสียชีวิต| ชาวจีนประท้วงล็อคดาว์น

ดร.สิริพรรณ มองรัฐบาลหลังเลือกตั้ง เป็นรัฐบาลผสม พรรคเพื่อไทย-ก้าวไกล ร่วมมือกัน
https://www.matichon.co.th/clips/news_3696937
 
 
รศ.ดร.สิริพรรณ นกสวน สวัสดี ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุ รัฐบาลชุดต่อไปจะยังเป็นรัฐบาลผสม ฉายภาพหากพรรคเพื่อไทย-ก้าวไกล ร่วมมือกัน ชมคลิปด้านล่าง

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



 
‘ธนาธร’ ชี้ ‘ก้าวไกล’ เป็นพรรคเดียว ที่ต่อสู้กับกลุ่มทุนผูกขาด ไม่กลัวยืนข้างปชช.
https://www.matichon.co.th/politics/news_3697236

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน ที่อาคารอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) จัดงานสมาชิกสัมพันธ์ “ส่งเสริมความรู้ที่ก้าวหน้า” นำโดยนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค ก.ก. และนายศรายุทธ ใจหลัก ผู้อำนวยการพรรค ก.ก. เข้าร่วมพูดคุยถึงเป้าหมายและอุดมการณ์ของพรรค ก.ก. โดยผู้เข้าร่วมประกอบด้วยสมาชิกพรรค ก.ก. ที่มาจากในพื้นที่กทม. และปริมณฑล
 
นายศรายุทธกล่าวว่า สิ่งที่พรรค ก.ก. ต้องการทำไม่ใช่แค่ทำงานเพื่อแสวงหาอำนาจทางการเมือง แต่เราเริ่มต้นด้วยความเชื่อร่วมกัน 4 อย่าง คือ เราเชื่อว่าสังคมที่ดีกว่านี้เป็นไปได้ เชื่อว่ามนุษย์มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลง เราสามารถเปลี่ยนความคิดคนอื่นได้ด้วยเหตุผล เราเชื่อว่าประเทศนี้อำนาจสูงสุดของประชาชน และความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ ต้องร่วมกันทำ ไม่ใช่แค่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง
 
ด้านนายชัยธวัชกล่าวว่า สถาบันต่างๆ ในประเทศไทยถูกออกแบบมาเพื่อรวมศูนย์อำนาจ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรับใช้ประชาชน ตัวอย่างเช่น กองทัพสมัยใหม่ที่ตั้งขึ้นเพื่อรวบรวมดินแดนหัวเมืองต่างๆ พื้นที่ที่บอกว่าเป็นเขตแดนสยาม ปราบปรามกบฏต่างๆ ในดินแดน ซึ่งเป้าหมายของกองทัพถึงแม้ผ่านไปกว่า 100 ปี ก็ยังคงแทบไม่เปลี่ยนแปลง ยังเก่งเฉพาะกับประชาชนเหมือนเดิม การเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะเป็นครั้งแรกที่สถาปนาอำนาจสูงสุดของประชาชนขึ้นมา
 
ขณะที่นายธนาธรกล่าวว่า โจทย์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยมี 2 เรื่องคือ 1.ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจน และคนรวย และ 2.การเพิ่มขีดความสามารถของไทยในการแข่งขันกับโลกาภิวัตน์ ทำอย่างไรให้เราสามารถรักษาระดับการเติบโตได้โดยเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ ตามรายงานของเครดิต สวิส ระบุว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีช่องว่างคนรวยและคนจน อีกประการคือ คือเด็กเกิดใหม่ของประเทศไทยที่น้อยลงอย่างต่อเนื่อง จากเมื่อ 20 ปีที่แล้วอยู่ที่ปีละ 1,000,000 คน ปัจจุบันเหลือแค่ 500,000 คน นั่นทำให้เกิดสังคมคนสูงวัย (Aging Society)
 

 
"หมอระวี" ชี้สูตร "หาร100" หนุน "เพื่อไทย" มาแน่ เตือน "บิ๊กตู่-บิ๊กป้อม" แตกคอกันจริง "3ป."สูญพันธุ์แน่
https://siamrath.co.th/n/402936

วันที่ 27 พ.ย.2565 นพ.ระวี มาศฉมาดล  ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่  ในฐานะแกนนำสมาชิกรัฐสภาที่ร่วมกันยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยร่างพรบ.การเลือกตั้งส.ส.ฯ ที่ให้ใช้ระบบหาร 100 คำนวณจำนวนที่นั่งส.ส.บัญชีรายชื่อในสภาฯ มีเนื้อหาขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ วิเคราะห์ถึงผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญต่อร่างพรบ.การเลือกตั้งส.ส. ที่จะมีขึ้นในวันที่  30 พ.ย.นี้ว่า หากสุดท้ายถ้าศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้อง โดยวินิจฉัยว่าร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งส.ส.ที่ใช้ระบบหาร 100 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ และระบบการเลือกตั้ง ส.ส. ใช้ระบบหาร 100  ประเมินว่าพรรคเพื่อไทยจะมีทั้งส.ส.เขตและปาร์ตี้ลิสต์ โดยจะได้คะแนนเสียงมาอันดับหนึ่ง จำนวน ส.ส.จะทิ้งพรรคการเมืองที่ได้เสียงอันดับสองแบบขาดลอย
 
นพ.ระวี กล่าว่า ที่บางฝ่ายไปมองว่าพล.อ.ประยุทธ์จะได้กลับมาเป็นนายกฯต่อ ตนขอมองตรงกันข้าม เพราะมองว่าอาจจะ50-50 โดยพรรคเพื่อไทยและพรรคการเมืองที่เป็นแนวร่วมเดียวกันอาจจะได้เป็นรัฐบาลในสมัยหน้า หากใช้หาร 100 แต่ในส่วนของพรรคก้าวไกล จะมีส.ส.น้อยลง เพราะคะแนนในบัญชีรายชื่อฐานจะอยู่ที่ประมาณ 370,000 คะแนนต่อส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์หนึ่งคน อีกทั้งส.ส.บัญชีรายชื่อเลือกตั้งรอบหน้าก็ลดลงจากตอนเลือกตั้งปี 2562 เพราะตอนนั้นมีส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 150คน แต่ครั้งหน้าเหลือ 100 คน 
 
ส่วนพรรคพลังประชารัฐ หากพล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.ประวิตร หากยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม มองว่าก็มีโอกาส 50-50 ที่จะได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกสมัย แต่หาก3 ป.แตกกัน บิ๊กตู่กับบิ๊กป้อม แยกกัน โดยพล.อ.ประยุทธ์ไปที่พรรครวมไทยสร้างชาติ บิ๊กป้อมอยู่พลังประชารัฐต่อ สิ่งที่จะเกิดขึ้นก็คือ ส.ส.ในพรรคก็จะแบ่งกัน โดยหากมองในแง่ดี พรรคบิ๊กตู่ อาจได้ห้าสิบเสียง พรรคพลังประชารัฐได้มาห้าสิบเสียง ผลคือพลังประชารัฐก็จะเป็นรัฐบาลแบบเดิม ภายใต้องค์ประกอบคือพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลปัจจุบันอย่าง ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ชาติไทยพัฒนา เป็นต้น รวมเสียงกันแล้วมากกว่าฝ่ายเพื่อไทย ขั้วนี้ก็เป็นรัฐบาล แต่หากเพลี่ยงพล้ำ คือฝ่ายเพื่อไทยกับแนวร่วม ได้ส.ส.รวมกันแล้วเกือบจะเกิน 250 เสียง อาจเป็นไปได้ที่บิ๊กป้อมจะสวิงไปที่ฝั่งเพื่อไทย จนรวมตัวจัดตั้งรัฐบาลร่วม300 เสียง โดยบิ๊กป้อมอาจมีโอกาสเป็นนายกฯ จากการต่อรองตกลงกันอะไรหรือไม่ แต่เชื่อว่าบิ๊กป้อมจะเป็นรัฐบาลแน่นอน
 
“เกมนี้จะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะเบรกไม่ให้ส.ส.และกลุ่มต่างๆ ในพลังประชารัฐ ตามบิ๊กตู่ไปที่รวมไทยสร้างชาติ เช่น กลุ่มสุชาติ ชมกลิ่น ถึงเวลาจริงๆ จากที่บอกจะมีตามไปด้วยประมาณยี่สิบคน สุดท้ายแล้วอาจไปกับสุชาติแค่สิบคน ส่วนกลุ่มสามมิตร ก็ต้องคิดแล้วว่าจะไปรวมไทยสร้างชาติกับบิ๊กตู่ที่ไม่แน่นอนว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน หรือจะอยู่กับพลังประชารัฐต่อ ที่ก็มีโอกาสได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย คือ อยู่กับบิ๊กป้อม อย่างไร ก็ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน ทำให้สามมิตรก็อาจไม่ไปไหน ก็อยู่กับบิ๊กป้อมดีกว่า เพราะอยู่ด้วย ทุนก็ไม่ต้องออก กระสุนมีให้เพียบ เกมจะพลิกทันที ดังนั้นที่บอกจะมีกลุ่มต่างๆ ในพรรคพลังประชารัฐ อาจแยกตัวออกไปอยู่กับรวมไทยสร้างชาติ ตามบิ๊กตู่ออกไปด้วย  ถึงเวลาจริงๆ ก็ไม่อาจไม่ไป  เกมอาจพลิกได้ ไม่ใช่ว่ากระแสบิ๊กตู่ดี จะตามไปกับบิ๊กตู่ เพราะเหนืออื่นใด ส.ส.ส่วนใหญ่ต้องการอยู่ฝ่ายรัฐบาล
 
อย่างไรก็ตาม หากสุดท้าย ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าหาร 100 ขัดรัฐธรรมนูญ จนสุดท้ายกระบวนการหาทางออกของรัฐสภากลับมาเป็นว่าให้ใช้หาร 500  และให้มีส.ส.พึงมี ผลที่จะเกิดขึ้นคือ เพื่อไทย ส.ส.ก็จะหายไปจากเป้าหมายของพรรคอย่างน้อยก็ 25-30 เสียงที่หายไปจากส.ส.บัญชีรายชื่อที่เพื่อไทยเคยทำได้ ประมาณ 25-30% จากคะแนนในบัตรเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ แต่ที่หายไปจากเพื่อไทย ก็จะไปโป่งที่พรรคก้าวไกลแทน
 
มองว่าวันนี้เพื่อไทยกับบิ๊กป้อมคงไม่ห่วง เพราะวันนี้ก้าวไกลคงชิ่งไปรอเป็นฝ่ายค้านหลังเลือกตั้งอีกรอบ แต่สิ่งที่บิ๊กป้อมจะได้หากใช้หาร 500 คือพรรคพลังประชารัฐ ก็จะมีส.ส.เพิ่มขึ้นมาจากส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ที่จะทำให้ บิ๊กป้อมมีพลังไปต่อรองกับเพื่อไทย หากในอนาคตมีการจับมือกันระหว่างเพื่อไทยกับบิ๊กป้อม เทียบกับหากใช้หาร100 ส.ส.เพื่อไทยจะมีมากกว่าพลังประชารัฐแบบขาดลอย
 
แต่หากใช้หาร 500 ก็จะทำให้เพื่อไทยส.ส.หายไปร่วมๆ 30 คน แต่พลังประชารัฐ ก็ได้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่มขึ้นมา ขั้นต่ำก็ประมาณ 9-10 คน ทำให้บิ๊กป้อมมีพลังต่อรองในการขอเป็นนายกฯสมัยหน้า เมื่อไปจับมือกับเพื่อไทย  โดยหากกลับมาใช้ระบบหาร500 จะทำให้พรรคเล็ก รอดชีวิตเข้ามาในสภาฯ อาจจะประมาณ 7-8 พรรค คงไม่มากเหมือนตอนเลือกตั้งปี 2562 ที่พรรคเล็กเข้ามาร่วมๆ 13 พรรค เพราะเก้าอี้ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เหลือแค่ 100 คน จากเดิมตอนเลือกตั้งปี 2562 ที่มี 150 คน
 
นพ.ระวีกล่าวว่า ยังยืนยันอย่างที่เคยบอกไว้ หาก3 ป.แตกคอกัน ซึ่งบิ๊กป้อมกับบิ๊กตู่อาจไม่พอใจตน แต่ตนพูดความจริงก็คือถ้าแตกคอกัน  3 ป.สูญพันธุ์ เพราะโอกาสที่พรรคขั้วรัฐบาลตอนนี้จะกลับมาเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้งอีกครั้ง จะเหลือแค่ 40%  โดยฝ่ายเพื่อไทยมีโอกาสเป็นรัฐบาล 60% โดยหากเป็นแบบนี้ อนาคตของพล.อ.ประยุทธ์ที่ไปรวมไทยสร้างชาติ อาจจะเป็นฝ่ายค้าน แล้วตัวพล.อ.ประวิตร จะมั่นใจได้อย่างไรว่าถึงเวลาจริงๆ เพื่อไทยจะยอมให้บิ๊กป้อมเป็นนายกฯ ถ้าเพื่อไทย ส.ส.มาสัก 200 คน พรรคประชาชาติ มา10 เสียง พรรคเสรีรวมไทยมา 10 พรรคเพื่อชาติมาสัก 3 คน ส่วนพรรคพลังประชารัฐ หากได้ส.ส.มาไม่มากพอ พรรคเพื่อไทยอาจไปดึงพรรคชาติพัฒนากล้า พรรคชาติไทยพัฒนา ดึงพวกนี้มา ก็อาจได้สัก 275-280 เสียง ก็ตั้งรัฐบาลได้แล้ว  พล.อ.ประยุทธ์และ พล.อ.ประวิตร ทำให้พรรคทหาร จากเดิมที่พรรคทหาร อยู่ได้แค่สมัยเดียว ก็หายไปกันหมด แต่ตอนนี้อยู่มาได้หลายปี แต่ท้ายสุดอาจสูญพันธุ์ เพราะหากต้องไปเป็นฝ่ายค้านสักแค่สมัยเดียว สมัยหน้า หากหวังจะขึ้นมาเป็นรัฐบาลอีกน่าจะยากแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่