"พท." เย้ยรบ.หมดน้ำยา จนท.ปกครองถูกตบหน้าฉาดใหญ่ หลังกลุ่มยาบ้าปล้นของกลาง
https://siamrath.co.th/n/392561
วันที่ 20 ต.ค.65 น.ส.
ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าเกิดเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายราว 20 คนมีอาวุธครบมือ บุกชิงของกลางยาเสพติดและอาวุธจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นปฏิบัติการที่
‘ตบหน้า’ รัฐบาลอย่างแรง เพราะในอีกหนึ่งวันถัดมาคณะรัฐมนตรีเพิ่งมีมติเห็นชอบมาตรการป้องกันและปราบปรามอาวุธปืนและยาเสพติด ซึ่งการซ้อนแผนของแก๊งค้ายาครั้งนี้อุกอาจ และเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่สร้างความหวั่นไหวให้กับประชาชนอย่างมาก แสดงให้เห็นว่า ขบวนการค้าเสพติดไม่ได้ยำเกรงกฎหมาย ยาเสพติดยังเป็นสินค้าที่แพร่ระบาด รวมถึงอาวุธปืนที่สามารถหาซื้อได้ง่ายจากมาตรการควบคุมที่ยังหละหลวม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้สะท้อนภาพชัดในการกำกับนโยบายและความรับผิดชอบของ พล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากจะถามหาความจริงจังของรัฐบาลนี้ที่ดูเหมือนว่าจะจริงใจในการแก้ไขปัญหา จากการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 นโยบายเร่งด่วน 12 ข้อที่จะทำทันทีให้เห็นผลโดยเร็ว ในข้อ 9 เป็นเรื่อง
‘การเร่งรัดแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้’ แต่จนถึงวันนี้ผลงานทำงานที่
‘เร่งด่วน’ ของรัฐบาลพล.อ.
ประยุทธ์ เป็นอย่างไรก็สะท้อนออกมาจากข่าวสลดอดสูใจรายวัน เช่น พ่อยอมฆ่าลูกที่ขู่บังคับเอาเงินจากการหารายได้รายวันไปซื้อยาบ้า และไม่มีเงินเพียงพอจะไปเข้ารับการบำบัดยาเสพติด สิ่งที่เกิดขึ้นตามหน้าข่าวรายวันเป็นหลักฐานการบริหารประเทศในการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลนี้ หยุดเสียทีกระบวนการเอาผิดสั่งย้ายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ควบคุมพื้นที่ เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะเสพติดยังไม่ลดลงจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่ควรทำทันทีคือปฏิรูปตำรวจต้องเกิดขึ้นและดำเนินการจริงจังเสียที
"คนไทยจะอยู่กันอย่างไร 8 ปีกว่าแล้วที่พลเอกประยุทธ์เป็นผู้นำ ความยากจนก็แก้ไม่ได้ หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้น ยาเสพติดก็ป้องกันและปราบปรามเหยาะๆแหยะๆ เรื่องการครอบครองอาวุธปืนไม่จริงจัง ท่านยอมรับหรือไม่ว่าการแก้ปัญหาล้มเหลว หมดน้ำยา การอ้างอิงขยายผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดและค้าอาวุธที่ผ่านหรือการประกาศให้การปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติไม่มีพลังมากพอ ถ้าบริหารเก่งจริง ปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้งได้ผล คงไม่เกิดเหตุสลดหลายๆ เหตุการณ์ขึ้น ขอให้รัฐบาลเร่งติดตามคนร้ายในคดีนี้เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจสร้างความปลอดภัยต่อชีวิตให้กับประชาชน เพราะหากทุกอย่างเงียบหาย ยาเสพติดที่ถูกปล้นไปถูกกระจายส่งกลับมาสู่สังคม ประชาชนอยู่อย่างไร" น.ส.
ตรีชฎากล่าว
ขยะใต้พรมอีกเยอะ! ก้าวไกล ซัด บิ๊กบี้ โยนผิดทหารชั้นผู้น้อย ปมหักหัวคิวกู้ซื้อบ้าน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7325915
ก้าวไกล ซัด ผบ.ทบ. ปัดความรับผิดชอบ ยันทุจริตในกองทัพทำเป็นขบวนการ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ชี้ทางเดียวกู้ศักดิ์ศรีได้ คือต้องปฏิรูปกองทัพ
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2565 นาย
พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงพล.อ.
ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ระบุปัญหาการกู้เงินซื้อบ้านกับสวัสดิการกองทัพบกเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่เรื่องขององค์กรหรือหน่วยงานเป็นผู้กระทำว่า ผบ.ทบ.ชี้แจงแบบขอไปที แบบนี้ไม่ได้
ย้อนไปตั้งแต่ปี 2554-ปัจจุบัน ข้าราชการทหารที่เข้ามาดำรงตำแหน่งในกรมสวัสดิการทหารบกตั้งแต่ระดับเจ้ากรมจนถึงผู้ปฏิบัติงานรวมแล้วกี่นาย หากเป็นเรื่องส่วนตัว ใครย้ายออกหรือพ้นตำแหน่งก็น่าจะจบ ไม่พัวพันมาเป็น 10 ปีแบบนี้ แต่นี่ส่งต่อเป็นมรดก ทำต่อกันมาเป็นขบวนการ ที่สำคัญ สวัสดิการทหารไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เมื่อดำเนินการโดยองค์กร จะบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวได้อย่างไร เมื่อเปิดเผยเอกสาร ก็มีชื่อนายทหารที่เกี่ยวข้องกับขบวนการชัดเจน
นาย
พิจารณ์ กล่าวว่า แม้ในปี 2564 จะมีการเปลี่ยนกฎระเบียบบ้าง คือยกเลิกโครงการและให้ธนาคารพาณิชย์ เป็นผู้ปล่อยกู้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเอาคนผิดมาลงโทษ แต่กลับยังไม่มีการดำเนินการ ปล่อยให้กระบวนการนี้หากินเรื่อยมา กดขี่กดดันเอาเปรียบทหารชั้นผู้น้อย
“กี่ครั้งกี่เหตุการณ์แล้วที่มีการตีแผ่กระบวนการปรสิตในกองทัพ เรามักจะได้เห็น ได้ยินคำชี้แจงเอาตัวรอดของผบ.ทบ.เสมอ ผมไม่แน่ใจว่า ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงที่มีต้นเหตุจากการกดทับในกองทัพ ผบ.ทบ.รู้สึกอย่างไร ละอายหรือไม่ เชื่อเหลือเกินว่า ยังมีขยะใต้พรมอีกมากที่รอการเปิดเผย ทางรอดเดียว หากกองทัพจะกอบกู้ศักดิ์ศรีขึ้นมาได้ ต้องปฏิรูปกองทัพทันที แสดงความจริงใจให้สมกับเกียรติของทหารที่ท่านพล่ามบอกคนอื่น” นาย
พิจารณ์กล่าว
‘ชัชชาติ’ ถก ‘เสียวหมี่’ ดึงเทคโนโลยี แจ้งเตือนฝุ่น – กระตุ้นเด็กสนใจ ใฝ่เรียนรู้
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3629606
‘ชัชชาติ’ ถก ‘เสียวหมี่’ ดึงเทคโนโลยี แจ้งเตือนฝุ่น – กระตุ้นเด็กสนใจ ใฝ่เรียนรู้
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ห้องอัมรินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร นาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมหารือร่วมกับ บริษัท เสียวหมี่ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมของกรุงเทพมหานคร
สำหรับการหารือวันนี้ มี นาย
ภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นาย
จิรัฏฐ์ ม้าไว ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มร.
คามัล เหลียง (Mr. KM. Leong) ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสียวหมี่ อินเตอร์เนชั่นแนล (General Manager of South East Asia, Xiaomi International) พร้อมคณะ ผู้บริหารสำนักการศึกษา สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
สำหรับหารือวันนี้ นาย
ชัชชาติ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์กับคณะผู้บริหาร บริษัท เสียวหมี่ และหารือความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมที่ทันสมัย มาใช้กับนโยบายและโครงการต่างๆ เช่น การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างสรรค์นิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครทั้ง 2 แห่ง รวมทั้งศูนย์เรียนรู้ของกรุงเทพมหานคร เพื่อกระตุ้นให้เด็กสนใจและเกิดกระบวนการเรียนรู้ การใช้จอภาพหรือสมาร์ตวอตช์ ในการแสดงผลค่าฝุ่น PM 2.5 เพื่อแจ้งเตือนคุณภาพอากาศสำหรับประชาชน เป็นต้น โดยที่ผ่านมา บริษัท เสียวหมี่ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ในการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ทั้งในด้านการศึกษา และการพัฒนาชีวิตของประชาชน
‘เอเปคคลัง’ ออกแถลงร่วมไม่ได้ เหตุสงครามรัสเซีย-ยูเครน เตรียมเสนอผลหารือต่อ ‘เอเปค’ พ.ย.นี้
https://www.matichon.co.th/economy/news_3629596
ประชุมเอเปคคลังออกแถลงร่วมไม่ได้ จากประเด็นขัดแย้ง ‘รัสเซีย-ยูเครน’ เตรียมรวมผลประชุมด้าน ศก. เสนอประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นาย
อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 29 (The 29th APEC Finance Ministers’ Meeting : APEC FMM) ว่า ในการประชุมครั้งนี้ไม่สามารถออกเป็นแถลงการร่วมของที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปคได้ ออกได้เพียงแถลงการของประธานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปคครั้งที่ 29 เท่านั้น เนื่องจากในที่ประชุมมีความเห็นที่หลากหลายในเรื่องความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน
นาย
อาคมกล่าวว่า ส่วนผลการประชุมในประเด็นด้านเศรษฐกิจการบริหารการคลังนั้น ยังคงมีความเห็นในเรื่องการสร้างความยั่งยืนทางการคลัง ซึ่งจะมีการรวบรวมผลการหารือในครั้งนี้ เสนอต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่ พ.ล.อ.
ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกลาโหม เป็นประธาน และประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมในเดือนพฤศจิกายนนี้
“ประเด็นเศรษฐกิจ ได้แก่ 1.เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภูมิภาคเอเปค แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายลง แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเปค ได้แก่ ภาวะเงินเฟ้อที่มีผลต่อราคาพลังงานและราคาอาหารสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์สภาวะชะงักงันของอุปทาน รวมถึงภาวะทางการเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
“2. การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับทุกภาคส่วนเป็นสิ่งสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
3. การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการดำเนินนโยบายช่วยเหลือต่างๆ มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการในการเข้าถึงบริการของภาครัฐ อาทิ การจัดการด้านภาษี การระดมทุนผ่านระบบดิจิทัล” รมว.คลังกล่าว
นาย
อาคมกล่าววว่า 4.การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเซบูส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคในการเสนอนโยบายที่จะดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์การนำแผนปฏิบัติการเซบูสู่การปฏิบัติฉบับใหม่ โดยแต่ละเขตเศรษฐกิจได้เลือกประเด็นที่จะดำเนินการภายใต้เสาหลักของแผนปฏิบัติการเซบู ได้แก่ การส่งเสริมการรวมกลุ่มทางการเงิน การเร่งรัดการปฏิรูป และเพิ่มความโปร่งใสทางการคลัง การเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และการเร่งรัดการลงทุนและการระดมทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และ 5.ประเด็นอื่นๆ เช่น การบริหารความเสี่ยงและการประกันภัยเพื่อรองรับความเสี่ยงจากภัยพิบัติ การเพิ่มความร่วมมือกับภาคเอกชนในการดำเนินงานของเอเปค
JJNY : 5in1 "พท."เย้ยหมดน้ำยา│ก้าวไกลซัดบิ๊กบี้│‘ชัชชาติ’ถก‘เสียวหมี่’│‘เอเปคคลัง’แถลงร่วมไม่ได้│ยาบ้าไทยแทรกซึมเกาหลี
https://siamrath.co.th/n/392561
วันที่ 20 ต.ค.65 น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานข่าวว่าเกิดเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายราว 20 คนมีอาวุธครบมือ บุกชิงของกลางยาเสพติดและอาวุธจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมาว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นปฏิบัติการที่ ‘ตบหน้า’ รัฐบาลอย่างแรง เพราะในอีกหนึ่งวันถัดมาคณะรัฐมนตรีเพิ่งมีมติเห็นชอบมาตรการป้องกันและปราบปรามอาวุธปืนและยาเสพติด ซึ่งการซ้อนแผนของแก๊งค้ายาครั้งนี้อุกอาจ และเป็นคดีอุกฉกรรจ์ที่สร้างความหวั่นไหวให้กับประชาชนอย่างมาก แสดงให้เห็นว่า ขบวนการค้าเสพติดไม่ได้ยำเกรงกฎหมาย ยาเสพติดยังเป็นสินค้าที่แพร่ระบาด รวมถึงอาวุธปืนที่สามารถหาซื้อได้ง่ายจากมาตรการควบคุมที่ยังหละหลวม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้สะท้อนภาพชัดในการกำกับนโยบายและความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หากจะถามหาความจริงจังของรัฐบาลนี้ที่ดูเหมือนว่าจะจริงใจในการแก้ไขปัญหา จากการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2562 นโยบายเร่งด่วน 12 ข้อที่จะทำทันทีให้เห็นผลโดยเร็ว ในข้อ 9 เป็นเรื่อง ‘การเร่งรัดแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้’ แต่จนถึงวันนี้ผลงานทำงานที่ ‘เร่งด่วน’ ของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ เป็นอย่างไรก็สะท้อนออกมาจากข่าวสลดอดสูใจรายวัน เช่น พ่อยอมฆ่าลูกที่ขู่บังคับเอาเงินจากการหารายได้รายวันไปซื้อยาบ้า และไม่มีเงินเพียงพอจะไปเข้ารับการบำบัดยาเสพติด สิ่งที่เกิดขึ้นตามหน้าข่าวรายวันเป็นหลักฐานการบริหารประเทศในการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดที่ไร้ประสิทธิภาพของรัฐบาลนี้ หยุดเสียทีกระบวนการเอาผิดสั่งย้ายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่ควบคุมพื้นที่ เป็นเพียงการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ เพราะเสพติดยังไม่ลดลงจนถึงทุกวันนี้ สิ่งที่ควรทำทันทีคือปฏิรูปตำรวจต้องเกิดขึ้นและดำเนินการจริงจังเสียที
"คนไทยจะอยู่กันอย่างไร 8 ปีกว่าแล้วที่พลเอกประยุทธ์เป็นผู้นำ ความยากจนก็แก้ไม่ได้ หนี้สินครัวเรือนเพิ่มขึ้น ยาเสพติดก็ป้องกันและปราบปรามเหยาะๆแหยะๆ เรื่องการครอบครองอาวุธปืนไม่จริงจัง ท่านยอมรับหรือไม่ว่าการแก้ปัญหาล้มเหลว หมดน้ำยา การอ้างอิงขยายผลการจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดและค้าอาวุธที่ผ่านหรือการประกาศให้การปราบปรามยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติไม่มีพลังมากพอ ถ้าบริหารเก่งจริง ปฏิรูปประเทศก่อนเลือกตั้งได้ผล คงไม่เกิดเหตุสลดหลายๆ เหตุการณ์ขึ้น ขอให้รัฐบาลเร่งติดตามคนร้ายในคดีนี้เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจสร้างความปลอดภัยต่อชีวิตให้กับประชาชน เพราะหากทุกอย่างเงียบหาย ยาเสพติดที่ถูกปล้นไปถูกกระจายส่งกลับมาสู่สังคม ประชาชนอยู่อย่างไร" น.ส.ตรีชฎากล่าว
ขยะใต้พรมอีกเยอะ! ก้าวไกล ซัด บิ๊กบี้ โยนผิดทหารชั้นผู้น้อย ปมหักหัวคิวกู้ซื้อบ้าน
https://www.khaosod.co.th/politics/news_7325915
ก้าวไกล ซัด ผบ.ทบ. ปัดความรับผิดชอบ ยันทุจริตในกองทัพทำเป็นขบวนการ ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว ชี้ทางเดียวกู้ศักดิ์ศรีได้ คือต้องปฏิรูปกองทัพ
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2565 นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงพล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ระบุปัญหาการกู้เงินซื้อบ้านกับสวัสดิการกองทัพบกเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่เรื่องขององค์กรหรือหน่วยงานเป็นผู้กระทำว่า ผบ.ทบ.ชี้แจงแบบขอไปที แบบนี้ไม่ได้
ย้อนไปตั้งแต่ปี 2554-ปัจจุบัน ข้าราชการทหารที่เข้ามาดำรงตำแหน่งในกรมสวัสดิการทหารบกตั้งแต่ระดับเจ้ากรมจนถึงผู้ปฏิบัติงานรวมแล้วกี่นาย หากเป็นเรื่องส่วนตัว ใครย้ายออกหรือพ้นตำแหน่งก็น่าจะจบ ไม่พัวพันมาเป็น 10 ปีแบบนี้ แต่นี่ส่งต่อเป็นมรดก ทำต่อกันมาเป็นขบวนการ ที่สำคัญ สวัสดิการทหารไม่ใช่เรื่องส่วนตัว เมื่อดำเนินการโดยองค์กร จะบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวได้อย่างไร เมื่อเปิดเผยเอกสาร ก็มีชื่อนายทหารที่เกี่ยวข้องกับขบวนการชัดเจน
นายพิจารณ์ กล่าวว่า แม้ในปี 2564 จะมีการเปลี่ยนกฎระเบียบบ้าง คือยกเลิกโครงการและให้ธนาคารพาณิชย์ เป็นผู้ปล่อยกู้ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การเอาคนผิดมาลงโทษ แต่กลับยังไม่มีการดำเนินการ ปล่อยให้กระบวนการนี้หากินเรื่อยมา กดขี่กดดันเอาเปรียบทหารชั้นผู้น้อย
“กี่ครั้งกี่เหตุการณ์แล้วที่มีการตีแผ่กระบวนการปรสิตในกองทัพ เรามักจะได้เห็น ได้ยินคำชี้แจงเอาตัวรอดของผบ.ทบ.เสมอ ผมไม่แน่ใจว่า ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงที่มีต้นเหตุจากการกดทับในกองทัพ ผบ.ทบ.รู้สึกอย่างไร ละอายหรือไม่ เชื่อเหลือเกินว่า ยังมีขยะใต้พรมอีกมากที่รอการเปิดเผย ทางรอดเดียว หากกองทัพจะกอบกู้ศักดิ์ศรีขึ้นมาได้ ต้องปฏิรูปกองทัพทันที แสดงความจริงใจให้สมกับเกียรติของทหารที่ท่านพล่ามบอกคนอื่น” นายพิจารณ์กล่าว
‘ชัชชาติ’ ถก ‘เสียวหมี่’ ดึงเทคโนโลยี แจ้งเตือนฝุ่น – กระตุ้นเด็กสนใจ ใฝ่เรียนรู้
https://www.matichon.co.th/local/quality-life/news_3629606
‘ชัชชาติ’ ถก ‘เสียวหมี่’ ดึงเทคโนโลยี แจ้งเตือนฝุ่น – กระตุ้นเด็กสนใจ ใฝ่เรียนรู้
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม ที่ห้องอัมรินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) เขตพระนคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ประชุมหารือร่วมกับ บริษัท เสียวหมี่ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการสนับสนุนโครงการเพื่อสังคมของกรุงเทพมหานคร
สำหรับการหารือวันนี้ มี นายภิมุข สิมะโรจน์ เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายจิรัฏฐ์ ม้าไว ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มร.คามัล เหลียง (Mr. KM. Leong) ผู้จัดการทั่วไปประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เสียวหมี่ อินเตอร์เนชั่นแนล (General Manager of South East Asia, Xiaomi International) พร้อมคณะ ผู้บริหารสำนักการศึกษา สำนักยุทธศาสตร์และประเมินผล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม
สำหรับหารือวันนี้ นายชัชชาติ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์กับคณะผู้บริหาร บริษัท เสียวหมี่ และหารือความเป็นไปได้ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมที่ทันสมัย มาใช้กับนโยบายและโครงการต่างๆ เช่น การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการสร้างสรรค์นิทรรศการภายในพิพิธภัณฑ์เด็กกรุงเทพมหานครทั้ง 2 แห่ง รวมทั้งศูนย์เรียนรู้ของกรุงเทพมหานคร เพื่อกระตุ้นให้เด็กสนใจและเกิดกระบวนการเรียนรู้ การใช้จอภาพหรือสมาร์ตวอตช์ ในการแสดงผลค่าฝุ่น PM 2.5 เพื่อแจ้งเตือนคุณภาพอากาศสำหรับประชาชน เป็นต้น โดยที่ผ่านมา บริษัท เสียวหมี่ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ได้มีความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร ในการสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ ทั้งในด้านการศึกษา และการพัฒนาชีวิตของประชาชน
‘เอเปคคลัง’ ออกแถลงร่วมไม่ได้ เหตุสงครามรัสเซีย-ยูเครน เตรียมเสนอผลหารือต่อ ‘เอเปค’ พ.ย.นี้
https://www.matichon.co.th/economy/news_3629596
ประชุมเอเปคคลังออกแถลงร่วมไม่ได้ จากประเด็นขัดแย้ง ‘รัสเซีย-ยูเครน’ เตรียมรวมผลประชุมด้าน ศก. เสนอประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค พ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 29 (The 29th APEC Finance Ministers’ Meeting : APEC FMM) ว่า ในการประชุมครั้งนี้ไม่สามารถออกเป็นแถลงการร่วมของที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปคได้ ออกได้เพียงแถลงการของประธานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปคครั้งที่ 29 เท่านั้น เนื่องจากในที่ประชุมมีความเห็นที่หลากหลายในเรื่องความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน
นายอาคมกล่าวว่า ส่วนผลการประชุมในประเด็นด้านเศรษฐกิจการบริหารการคลังนั้น ยังคงมีความเห็นในเรื่องการสร้างความยั่งยืนทางการคลัง ซึ่งจะมีการรวบรวมผลการหารือในครั้งนี้ เสนอต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคที่ พ.ล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกลาโหม เป็นประธาน และประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมในเดือนพฤศจิกายนนี้
“ประเด็นเศรษฐกิจ ได้แก่ 1.เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจภูมิภาคเอเปค แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จะคลี่คลายลง แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลให้เกิดการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเปค ได้แก่ ภาวะเงินเฟ้อที่มีผลต่อราคาพลังงานและราคาอาหารสถานการณ์ด้านภูมิรัฐศาสตร์สภาวะชะงักงันของอุปทาน รวมถึงภาวะทางการเงินที่เข้มงวดยิ่งขึ้น
“2. การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน การเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับทุกภาคส่วนเป็นสิ่งสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
3. การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อมุ่งสู่การเป็นเศรษฐกิจดิจิทัล การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการดำเนินนโยบายช่วยเหลือต่างๆ มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการในการเข้าถึงบริการของภาครัฐ อาทิ การจัดการด้านภาษี การระดมทุนผ่านระบบดิจิทัล” รมว.คลังกล่าว
นายอาคมกล่าววว่า 4.การดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเซบูส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสมาชิกเขตเศรษฐกิจเอเปคในการเสนอนโยบายที่จะดำเนินการภายใต้ยุทธศาสตร์การนำแผนปฏิบัติการเซบูสู่การปฏิบัติฉบับใหม่ โดยแต่ละเขตเศรษฐกิจได้เลือกประเด็นที่จะดำเนินการภายใต้เสาหลักของแผนปฏิบัติการเซบู ได้แก่ การส่งเสริมการรวมกลุ่มทางการเงิน การเร่งรัดการปฏิรูป และเพิ่มความโปร่งใสทางการคลัง การเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และการเร่งรัดการลงทุนและการระดมทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และ 5.ประเด็นอื่นๆ เช่น การบริหารความเสี่ยงและการประกันภัยเพื่อรองรับความเสี่ยงจากภัยพิบัติ การเพิ่มความร่วมมือกับภาคเอกชนในการดำเนินงานของเอเปค