โภชนาการที่เหมาะสมสำหรับภาวะเบาหวาน ต้องกินยังไงกันแน่ ? 🤔

📚 งานนี้เป็นเอกสารเผยแพร่สรุปรายงานอย่างเป็นฉันทมติระหว่าง สมาคมโรคเบาหวานแห่งสหรัฐอเมริกา (American Diabetes Association, ADA) และ สมาคมเพื่อการศึกษาโรคเบาหวานแห่งยุโรป (European Association for the Study of Diabetes, EASD) ปี 2022 [1] ซึ่งก็คือปีนี้นี่แหละนะครับ เขาเผยแพร่รายงานการศึกษาเกี่ยวกับโรคเบาหวานประเภท 2 (หลังจากนี้ในบทความจะกล่าวถึง เบาหวานประเภท 2 ว่าเบาหวานสั้นๆนะครับ) ประจำปีนี้ออกมา เป็นการศึกษาจากหลักฐานจากงานวิจัยต่างๆ  (Evidence based)  ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุม รวมไปถึงการรักษาโรค ในช่วงตั้งแต่ปี 2006 ถึงปี 2019 


😎 ซึ่งเนื้อหาในเอกสารฉบับนี้ยาวถึง 34 หน้านะครับ อย่างไรก็ตามผมคงไม่นำมากล่าวถึงทั้งหมด เพราะว่ายาว เยอะ และละเอียดมาก ท่านที่สนใจในรายละเอียดแนะนำให้ไปอ่านต่อตามแหล่งอ้างอิงท้ายบทความนี้นะครับ 

📌 การสื่อสาร การใช้คำนั้นสำคัญ (Language Matters)

🗣 ประเด็นความสำคัญของโรค ผลกระทบจากโรค อะไรต่างๆเหล่านี้ เราก็มักจะทราบกันอยู่แล้วว่ามีผลกระทบอะไรกับทั้งตัวผู้ป่วย คนรอบข้าง สังคม และประเทศ กันไปแล้ว จุดนึงที่อยากนำมากล่าวถึง คือเขาบอกไว้ว่า เวลาสื่อสารเรื่องนี้ ระหว่างผู้ป่วยกับผู้ให้การรักษา เขาบอกว่าผู้ให้การรักษาพึงระลึกไว้เสมอว่า การใช้คำพูดการสื่อสารนั้นมีความสำคัญ ให้ใช้คำที่เป็นกลาง (Neutral) ไม่ทำให้เกิดตราบาป หรือความรู้สึกผิดกับผู้ป่วย (Free of stigma) และให้อยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง (based on facts) ควรแสวงหาความร่วมมือในการจัดการกับภาวะความเจ็บป่วย ให้ความสำคัญกับบุคคลเป็นที่ตั้ง ไม่ควรโทษภาวะสุขภาพของเขา ไม่ควรโทษว่าเป็นเพราะเขาไม่ทำตามอย่างนั้นอย่างนี้ ทำนองนี้นะครับ

📌 การจัดการเบาหวาน

😎 ในบทความกล่าวถึงว่า การจัดการเบาหวานนั้น ควรให้ความสำคัญกับการให้ความรู้ และการสนับสนุน ให้ผู้ป่วยจัดการตัวเอง ไม่น้อยไปกว่าการเลือกว่าจะต้องให้การรักษาด้วยการใช้ยาตัวไหน การรักษาเบาหวานนั้น ต้องใช้วิธีการที่เหมาะสมกับบุคคลแต่ละคน ที่มีความแตกต่างกัน (Individualized and Personalized) 

🎯 การลดน้ำหนักคือเป้าหมายสำคัญในการทำให้ระดับน้ำตาลในเลือด (HbA1c) ดีขึ้น การลดน้ำหนักในเบื้องต้นควรตั้งเป้าไว้ที่อย่างน้อย 5-15% เพื่อนำไปสู่การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดในระยะเวลา 3 เดือนได้ตามเกณฑ์การหายเบาหวาน (Remission) ต่อจากนั้นก็เป็นเรื่องของการรักษาระดับน้ำตาลในเลือด เครื่องมือที่ใช้วัดระดับน้ำตาลในเลือดรูปแบบต่างๆ ก็อาจจะนำมาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ได้นะครับ

😎 และเป้าหมายสำคัญอีกอย่างที่เขากล่าวถึงก็คือ ควรทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ที่ยั่งยืนและต่อเนื่อง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิต (Lifestyle) 

📌 โภชนาการที่เหมาะสม

🍛 เรื่องต่างๆที่กล่าวมาข้างต้น หลักๆจะเป็นสิ่งที่เขาสื่อสารไปยังผู้ให้การรักษาผู้ป่วย แต่ในหัวข้อนี้ เป็นจุดนี้เป็นจุดสำคัญที่ผมคิดว่า ผู้ป่วยเองควรทราบ เพราะข้อมูลต่างๆในเน็ต ในปัจจุบันนั้น โอ้ โห มันเต็มไปด้วย bias เต็มไปด้วยความเชื่อ ความศรัทธา ลัทธิครูบาอาจารย์ต่างๆ เต็มไปหมด 

📌 ในด้านการโภชนบำบัด (Nutrition Therapy) นั้นเขากล่าวไว้ว่า มันไม่มีรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ของสัดส่วนสารอาหารหลัก คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ที่ใช้ได้กับทุกคน ย้ำนะครับ ว่าไม่มีรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง รูปแบบเดียว ไม่ได้บอกว่ารูปแบบไหนไม่ดี แต่ไม่มีรูปแบบใดที่ดีเหนือรูปแบบอื่น จนสามารถใช้ได้กับทุกคน และทุกคนจำเป็นต้องทานแบบนี้แบบเดียวเท่านั้น 

😎 เราสามารถที่จะทานอาหารในรูปแบบ ที่มีสัดส่วนของคาร์บ 50% ไขมัน 30% โปรตีน 20% หรือ คาร์บ 10% ไขมัน 70% โปรตีน 20% หรืออื่นๆ อะไรก็ได้ที่สะดวก ประเด็นสำคัญคือ ให้ภาพรวมของการรับพลังงานอาหารนั้น เกิดภาวะพลังงานติดลบ (Calories deficit) เพื่อให้เกิดการลดน้ำหนักได้

📌 ที่ผมให้ความสำคัญกับเรื่องตรงนี้ เพราะในปัจจุบันข้อมูลจากหลายแหล่ง มักจะบอกเราว่า เป็นเบาหวาน ต้องทาน Keto เท่านั้น ต้องทาน Low carb เท่านั้น ซึ่งจริงๆในรายงานฉบับนี้ก็ย้ำชัดว่าจะทานแบบไหนก็ได้ และพบว่าการทานแบบ Mediterranean diet นั้นก็ให้ผลในการรักษาที่ดี Low carb เองก็ให้ผลที่ดีในช่วง 3-6 เดือนแรก แต่เมื่อศึกษากันยาวๆ ในระยะเวลามากกว่า 6 เดือนขึ้นไป การทานแบบอื่น ก็ให้ผลที่ดีไม่แตกต่างกัน การทานแบบ Vegan และ Vegataian ก็สามารถที่จะทำให้หายจากเบาหวานได้

👉🏼 จุดสำคัญอยู่ที่ทานแล้วเกิดพลังงานติดลบ Calories deficit จนลดน้ำหนักได้นั่นเอง

📌 จำเป็นต้องทำ IF มั้ย ?

📚 ในรายงานได้กล่าวถึง ประเด็นของ IF หรือ Intermittent fasting หรือการทานแบบจำกัดเวลา (Tim-restriced eating) รูปแบบต่างๆ ไว้ด้วยนะครับ ว่าจากการศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และมีการเปรียบเทียบกับการทานจำกัดพลังงานที่เท่าๆกัน พบว่าไม่ได้มีประโยชน์อะไรที่แตกต่างกัน

😎 ที่นำสองเรื่องนี้มานำเสนอเน้นๆ เพราะปัจจุบันมันเลยจุดที่เป็นเรื่องของความรู้ไปแล้วนะครับ สำหรับสองสิ่งนี้ มันกลายเป็นความเชื่อ จนกลายเป็นลัทธิกันไปแล้วว่าต้องทำ IF/Lowcarb หรือ Keto ผสมกัน จนมีการเคลมในหลายครั้ง ว่าถ้าไม่ทำแบบนี้จะไม่มีวันหาย

😎 ผู้นำทางความคิดของคนกลุ่มนี้ มักจะใช้แนวทางทฤษฎีสมคบคิด ว่าแพทย์ที่จ่ายยา สักแต่จ่ายยาเพราะมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับบริษัทยา ทั้งๆที่ไม่ได้มีหลักฐานอะไรเลย (แนวคิดนี้ก็ลอกเลียนมาจากผู้นำทางความคิดของกลุ่มนี้ในเมืองนอกอีกที) ซึ่งเรื่องที่น่าขำคือ บางคนที่เผยแพร่ความคิดนี้ ก็หาผลประโยชน์อยู่กับ การทำ IF ทานแบบ Low carb , Ketogenic ในรูปแบบต่างๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม

📌 ทั้งนี้ไม่ได้บอกว่าการทำหรือการทานแบบนั้น ไม่ได้ผล หรือไม่ดีนะครับ ได้ผล และสามารถทำได้ และดีด้วยถ้าเราทำแล้วมันได้ผล แต่ที่อยากจะย้ำชัดๆก็คือว่า มันไม่ได้เป็นสิ่ง "จำเป็นต้องทำ" หรือ "จำเป็นต้องทาน" แบบนั้นอย่างเดียว รูปแบบอื่น หรือการทำอย่างอื่น ก็ให้ผลที่เป็นประโยชน์ได้เช่นกัน ถ้าทำแล้วเราลดน้ำหนักได้

📌 กิจกรรมทางกาย การออกกำลังกาย
🏃 เรื่องของกิจกรรมทางกาย (Physical activity) และการออกกำลังกาย (Exercise) ก็มีคำแนะนำว่าเกิดผลดีอย่างมีนัยสำคัญนะครับ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งเป้าพยายามขยับตัว เดิน หยิบยกสิ่งของในชีวิตประจำวัที่มากขึ้น การออกกำลังกายแบบแอโรบิค การออกกำลังกายแบบใช้แรงต้าน ไม่ว่าจะเป็นแบบใช้น้ำหนักตัวของเราเอง (Body weight) หรือใช้อุปกรณ์ ล้วนให้ผลดี

😴 การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็ส่งผลดีต่อการการจัดการและรักษาเบาหวานเช่นเดียวกันนะครับ คำว่าเพียงพอไม่ใช่ว่าต้องนอนเยอะๆ การนอนที่นานเกินกว่า 8 ชั่วโมง ก็เพิ่มความเสี่ยง เช่นเดียวกับการนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง การนอนน้อยในวัน จ-ศ แล้วไปนอนเยอะๆ ชดเชยในวันหยุด ส-อา นั้นไม่เพียงพอนะครับ

💊 นอกจากนี้ก็จะเป็นการกล่าวถึงหัวข้อต่างๆ เช่นการใช้ยารักษา หรือเรื่องของข้อมูลกลุ่มคนแต่ละกลุ่ม ซึ่งจะเป็นข้อมูลอันเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องให้การรักษาผู้ป่วย ใครสนใจก็อย่างที่บอกนะครับ ไปอ่านเพิ่มเติมในลิงค์อ้างอิงท้ายบทความได้เลย

📌 สรุป ในเรื่องของโภชนาการ จะทานแบบไหน ก็ได้นะครับ ขอแค่ทำให้เกิดภาวะพลังงานติดลบ (Calories deficit) จนลดน้ำหนักได้ ดีทั้งนั้น การทำ IF ไม่ได้มีประโยชน์มากกว่าไม่ได้ทำ ดังนั้นจะทำหรือไม่ทำก็ไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่สมดุลย์พลังงานอาหารและกิจกรรม ที่ทำให้เกิดภาวะพลังงานติดลบ (Calories deficit) 

😎 กิจกรรมทางกาย การออกกำลังกาย และการนอนหลับพักผ่อนที่ดีจะช่วยส่งผลดีต่อการจัดการและรักษาเบาหวาน

ที่มาและแหล่งอ้างอิง
https://www.fatfighting.net/article-2022-09-27-management-of-hyperglycemia-in-type-2-diabetes-2022/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่