Eternal Zero (2013): การบอกรักไปยังคนรุ่นต่อไปอย่างทรงเกียรติและงดงาม

กระทู้สนทนา
เคยสนทนากับเพื่อนที่เรียนปริญญาโทด้านสังคมศาสตร์ที่ญี่ปุ่นในประเด็นความเป็นชาติของคนญี่ปุ่นหลังแพ้สงครามโลกครั้งที่สองจนถึงปัจจุบัน เริ่มจากทำไมญี่ปุ่นถึงกลายเป็นลูกไล่และเป็นอเมริกันนิยม ทั้งที่โดนอเมริกาโจมตีด้วยอาวุธน่าสะพรึงที่สุดในประวัติศาสตร์โลกถึงสองครั้ง ถูกทำลายสิ่งยึดเหนี่ยวความเป็นชาติตั้งแต่ระบอบกษัตริย์ กองทัพ ศาสนา ผ่านการร่างรัฐธรรมนูญโดยต่างชาติ จนความทะนงในชาติพันธุ์ถูกเลือนไปเหลือเพียงการดำเนินการเมือง เศรษฐกิจ ไปถึงการดำเนินชีวิตแบบไม่เหลือจุดหมายและความฝัน (จนต้องสะท้อนเรื่องเหล่านี้ผ่านทาง Soft Culture แบบผิวเผิน)

เป็นความไม่ตั้งใจและเป็นจังหวะพอดีอีกครั้ง ที่ได้เปิดดูหนังเรื่องนี้จากการสุ่ม โดยไม่รู้ที่มาที่ไปใดของหนัง เพียงเปิดร่วมไปพร้อมการทำงานอื่นโดยไม่ตั้งใจดู เพราะคิดว่าคงเป็นหนังแอคชั่นของญี่ปุ่นที่มีความเป็นอนิเมะเจืออยู่ไม่ต่างจากที่เคยดูเรื่องอื่น แต่เมื่อถึงองค์สุดท้ายของเรื่อง กลับทำให้ผมต้องกลับไปย้อนดูแต่ต้นอย่างตั้งใจอีกครั้ง ถึงหนังจะยาวกว่าสองชั่วโมงครึ่ง

ไม่ใช่เพราะความเป็นญี่ปุ่น ไม่ใช่เพราะเป็นเรื่องของการบิน ไม่ใช่เป็นเพราะฉากหลังของสงคราม แต่เป็นเพราะสิ่งที่หนังสื่อถึง "ความเป็นมนุษย์" ผ่านตัวละครในเรื่อง

Eternal Zero หรือ Eien no Zero เป็นชื่อนิยายตั้งตามชื่อเครื่องบินของญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกที่ได้ชื่อว่ามีประสิทธิภาพและเป็นความภูมิใจของชาติ เล่าเรื่องของหลานไม่เอาถ่านที่ออกตามสืบเรื่องราวคุณตาที่แท้จริงของตน ซึ่งเป็นนักบินเก่งที่สุดคนหนึ่งของกองทัพ แต่ถูกกล่าวหาว่าขี้ขลาดเพราะรักตัวกลัวตาย แต่กลับอาสาเป็นนักบินกามิกาเซพลีชีพ

อะไรที่ทำให้คนรักและเห็นคุณค่าของชีวิต กลับตัดสินใจขับเครื่องบินออกไปทั้งที่รู้ว่าตายเปล่า และจะไม่ได้กลับไปหาครอบครัวอีกต่อไป?

หลังชมจบด้วยความตั้งใจอีกรอบ พร้อมน้ำตาท่วมจอตั้งแต่ต้นจนจบ เมื่อย้อนกลับไปดูสารที่แทรกอยู่ในเรื่องหลังจากเข้าใจเหตุผลทั้งหมดของตัวเอก เมื่อกลับมาค้นคว้าจึงทราบว่าเป็นผลงานกำกับของ Takashi Yamazaki ที่สร้างไตรภาค Always: Sunset on Third Street (2005) ที่เป็นหนังอันดับต้น ๆ ในดวงใจ จึงไม่แปลกใจที่ Eternal Zero มีแบบแผนการเล่าเรื่องสามารถสร้างอารมณ์ร่วมให้คนดูตั้งแต่ต้นจนจบได้ไม่ต่างกัน โดยเฉพาะฉากเปิดเรื่องและปิดเรื่องที่เกี่ยวเนื่อง และเป็นฉากจบที่ตราตรึงที่สุดเรื่องหนึ่งในรอบหลายปี

Junichi Okada แสดงเป็นนักบินตัวเอกของเรื่องได้อย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะสีหน้าแววตาของคนที่ตั้งใจขึ้นบินเที่ยวสุดท้ายโดยรู้ว่าจะไม่ได้กลับมา หนังเล่าเรื่องแบ่งองค์ตามลำดับการสัมภาษณ์เพื่อนร่วมฝูงบินและลูกศิษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ตั้งแต่มุมมองของผู้ที่มองว่าเขาเป็นคนขี้ขลาด มุมมองของผู้มองว่าเขาเป็นผู้กล้าหาญ และจุดเปลี่ยนของชีวิตที่ทำให้เขากลายเป็นกามิกาเซ ตัดกับภาพความคิดของคนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ที่มองว่ากามิกาเซเป็นเรื่องลัทธิ ล้างสมอง ผ่านบทสนทนาของเพื่อนตัวเอกรุ่นหลาน

เมื่อได้กลับมาดูซ้ำอีกรอบ ผมจึงไม่แปลกใจที่หนังเรื่องนี้จะยืนฉายในโรงญี่ปุ่นเป็นอันดับหนึ่งร่วมสองเดือน เพราะเมื่อผู้ชมเข้าใจสิ่งที่ตัวเอกตัดสินใจทำไป ในองค์สุดท้ายที่คลายปมแล้ว เมื่อย้อนกลับไปดูตั้งแต่ต้นจนจบ จะทำให้เห็นภาพหลักการและความเสียสละของตัวเอกตลอดทั้งเรื่องได้อย่างซาบซึ้งใจเหลือเกิน

แม้ไม่ใช่คนญี่ปุ่นในรุ่นสงคราม หรือรุ่นใหม่ที่ไร้สิ่งยึดเหนี่ยวในชีวิต จากการถูกทำลายเสาหลักของชาติจากอเมริกาหลังแพ้สงครามตามที่กล่าวไป แต่ในฐานะมนุษย์คนหนึ่งที่มีหัวใจและสำนึก เราย่อมเข้าใจพลังของสารที่ตัวหนังสื่อออกมาได้ไม่ยาก และผู้กำกับ Takashi สามารถถ่ายทอดจังหวะของหนังให้น่าจดจำ ไม่ต่างจากครั้งทำ Always ภาคแรกเลย

แม้ผมจะไม่ได้บทสรุปจากการสนทนาครั้งนั้นว่า สังคมญี่ปุ่นจะสามารถสร้างความรักชาติในฐานะประชาชน หรือเป้าหมายในการดำเนินชีวิตในฐานะปักเจก เพราะไร้สถาบันหลักในสังคมยึดเหนี่ยวจิตได้อีกครั้งหรือไม่ แต่หนังเรื่องนี้อาจช่วยเป็นคำตอบบางอย่างให้คนรุ่นใหม่ไม่ว่าจะเป็นชนชาติใด ได้ตระหนักว่า ชีวิตเราที่มีโอกาสเกิดมาทุกข์สุขในปัจจุบันนั้น เคยมีคนรุ่นก่อนแผ้วถางเส้นทางเดินนี้โดยแลกกับเลือดเนื้อชีวิตมาไม่มากก็น้อย

หากฉาก "แหวนที่มองไม่เห็น" ใน Always ยังตราตรึงในความทรงจำการชมภาพยนตร์ของผมและอีกหลายคนอยู่ "การบอกรัก" ที่เหล่านักบินผู้กล้าแสดงออกมาในเรื่องนี้ ก็คงเป็นการบอกรักที่ยิ่งใหญ่และตรึงในความรู้สึกของเราไปอีกนาน

10/10 กับงานที่ถ่ายทอดประเด็นได้อย่างหนักแน่นและละเอียดอ่อนไปพร้อมกัน

ขอบคุณที่โลกนี้มีภาพยนตร์


ป.ล. วันพรุ่งนี้จะเดินทางไปงานเกษียณครูระทิน ซึ่งเปรียบเป็นครูและพ่อทางการบินของผม งานเขียนนี้ขออุทิศให้ครูผู้รักและทุ่มเทให้ศิษย์ได้บินเป็นและเป็นนักบินที่ดี นึกถึงผู้อื่นไม่ต่างจากครูการบินในภาพยนตร์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่