กำเนิด ธรรมยุติกนิกาย พุทธศาสนาแนวสัจนิยม สมัยร.4 นำมาสู่อะไรบ้าง

..
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยกับสมเด็จพระศรีสุริเยนทรา บรมราชินี เสด็จพระราชสมภพในปีพ.ศ. 2347 ครั้นพระชนมายุ 20 พรรษา ได้ทรงผนวช ทรงพระนามว่า พระวชิรญาณเถระ และเสด็จไปจำพรรษา ณ วัดสมอราย (วัดราชาธิวาส) แต่เมื่อทรงผนวชได้ 15 วัน พระบรมชนกนาถเสด็จสวรรคต พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงขึ้นครองราชย์ พระองค์จึงทรงอยู่ในสมณเพศต่อมาถึง 27 พรรษา
ในระหว่างที่ทรงผนวชอยู่นั้น ได้ทรงเรียนรู้ภาษา และวิทยาการสมัยใหม่ทางตะวันตกจากมิชชันนารีชาวตะวันตกผู้เข้ามาเพื่อเผยแพร่คริสตศาสนาแก่ประชาชนในโลกตะวันออก เช่น ทรงเรียนภาษาละตินกับสังฆราชปาลเลอกัวซ์ ประมุขมิซซังสยามตะวันออก และยังได้ทรงศึกษาวิทยาการตะวันตกเช่น ภูมิศาสตร์ ดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ รวมทั้งภาษาอังกฤษจากหมอสอนศาสนาชาวอเมริกัน 3 คน ได้แก่ หมอแคสเวลล์ (Jesse Caswell) หมอบลัดเลย์ (Dan Beach Bradley) และหมอเฮาส์ (Samuel Reynolds House) อันเป็นมิตรที่ดีของพระองค์ยิ่งนัก
ด้วยความที่ทรงสนิทสนมกับหมอสอนศาสนาชาวตะวันตกนั้น ทำให้พระองค์ได้รับอิทธิพลทางความคิดมาจากชาวตะวันตก รวมถึงโลกทัศน์ทางวิทยาศาสตร์ ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาและสามารถพิสูจน์ได้ หรือคือแนวคิดสัจนิยมนั่นเอง
ประกอบกับได้ทรงเห็นถึงความหย่อนยานทางพระวินัยของพระภิกษุสงฆ์ในขณะนั้น เมื่อทรงพบกับพระสุเมธมุนี (ซาย พุทธวํโส) พระเถระแห่งรามัญนิกายที่มีข้อวัตรปฏิบัติที่น่าเลื่อมใส จึงก่อให้เกิดธรรมยุติกนิกาย อันได้รับแรงบันดาลใจมาจากรามัญนิกาย และสีหลนิกาย ที่ทรงเชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของคณะสงฆ์นิกายเถรวาททั้งปวง ก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงตามแนวความคิดของพระองค์ขึ้น ดังจะกล่าวถึงต่อไปนี้คือ

การตีความพุทธธรรมใหม่
พระวชิรญาณเถระได้ทรงตีความพุทธธรรม พุทธวจนะใหม่ด้วยทัศนะแบบวิทยาศาสตร์ คือมองโลกด้วยความจริงที่เน้นการใช้เหตุผลและสิ่งที่สามารถประจักษ์ได้ด้วยตนเอง ให้ความสำคัญกับโลกนี้ และผลที่จะเกิดขึ้นในโลกนื้ จึงทรงเน้นคำสอนที่เป็นโลกิยธรรม เช่น ทาน ศีล เมตตา ซึ่งทำให้เกิดความสำเร็จทางโลกอันได้แก่ อายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณะ รวมทั้งทรัพย์สมบัติ ที่จะให้ประโยชน์สุขแก่เราในภพภูมินี้

ทำให้โลกุตตรธรรม ซึ่งเป็นธรรมขั้นที่เลยการรับรู้ได้ของปุถุชนธรรมดาทั่วไป เช่นการตั้งจิตปรารถนาพระนิพพาน ปรารภพุทธภูมิ ที่พระมหากษัตริย์ในอดีตทรงเห็นว่าเป็นสิ่งที่ปุถุชนทั่วไปควรหวัง และสามารถเข้าถึงได้ค่อยๆ หายไปจากคำสอนของพระองค์ที่ทรงมีต่อพุทธศาสนิกชนทั่วไป ดังจะเห็นตัวอย่างหลักคำสอนด้านโลกุตตรธรรมของสมเด็จพระบูรพมหากษัตริย์ไทยได้จาก พุทธศาสนาไทยในอนาคต แนวโน้มและทางออกจากวิกฤต โดย พระไพศาล วิสาโล ความว่า
“…ยังมีอิทธิพลในความคิดของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แม้ในหมายรับสั่งประกาศสงกรานต์ ซึ่งทรงมีถึงประชาชนทั่วไป ก็ทรงแนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรว่า
“ผู้มีปัญญาให้รำพึงดูสิ่งใดเปนฝักฝ่าย บาปกำม์แลอกุศลกำม์ละวางเสีย สิ่งใดที่เปนกุศลให้อุสาหะ ปรนิบัติไปตามสติปัญญา กว่าวาศนาบารมีจแก่ขึ้น ก็จะปลงลงเห็นพระไตรลักษณญาณ คือทุกขัง อนิจจัง อนัตตา แล้วก็บ่ายหน้าไปสู่พระนิพพาน” (จาก พุทธธรรมที่เป็นรากฐานสังคมไทย ก่อนสมัยสุโขทัยถึงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง โดย สุภาพรรณ ณ บางช้าง)
และการใช้ทัศนะและการให้เหตุผลทางวิทยาศาสตร์นี่เอง ที่ทำให้อิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ถูกตัดไปจากพุทธศาสนาด้วย ทั้งยังดึงพระพุทธเจ้าให้ทรงใกล้ชิดกับมนุษย์มากขึ้น อันเป็นมูลเหตุให้เกิดพุทธศิลป์แนวใหม่ขึ้น
ก่อกำเนิดพุทธศิลป์แนวใหม่
อีกสิ่งหนึ่งที่นับได้ว่าเห็นความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนได้แก่พุทธลักษณะของพระพุทธรูป อันพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังยังทรงเป็นพระวชิรญาณเถระได้ทรงค้นคว้าพระอรรถกถาบาลีเพื่อหาพุทธลักษณะและขนาดพระวรกายของพระพุทธเจ้าที่แท้จริง ทำให้พระวชิรญาณเถระได้ทรงสร้างพระพุทธปริตรจากไม้ไผ่สาน ซึ่งเชื่อกันว่ามีขนาดของพระวรกายที่คล้ายคลึงกับพระพุทธเจ้า และพระสัมพุทธพรรณีขึ้นในปีพ.ศ. 2373 ให้มีริ้วจีวรเป็นริ้วผ้าตามธรรมชาติ ตามแนวคิดสัจนิยมอันได้รับอิทธิพลจากตะวันตกและที่สำคัญคือไม่มีพระเกตุมาลา แต่ก็ยังคงรักษามหาปุริสลักษณะ 32 ประการไว้อย่างครบถ้วน
จนเมื่อพระวชิรญาณเถระทรงขึ้นเถลิงราชสมบัติเป็นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ก็ได้ทรงสร้างพระพุทธรูปในธรรมยุติกนิกายอีกหลายองค์ แต่องค์ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีที่สุดคือ พระนิรันตราย อันทรงสร้างครอบพระกริ่งทองคำที่ทรงได้มาจากดงพระศรีมหาโพธิ เมืองปราจีนบุรี ซึ่งเป็นการปรับแก้พุทธลักษณะในธรรมยุติกนิกายครั้งสุดท้ายในช่วงพระชนมชีพของพระองค์ กล่าวคือ ปลายพระกรรณของพระพุทธองค์เริ่มสั้นเท่ามนุษย์ปกติ และจีวรยังดูเป็นธรรมชาติมากกว่าที่ปรากฏในพระพุทธสัมพรรณี

อ่านต่อทั้งหมดhttps://www.msn.com/th-th/news/other/กำเนิด-ธรรมยุติกนิกาย-พุทธศาสนาแนวสัจนิยม-สมัยร-4-นำมาสู่อะไรบ้าง/ar-AA111wwE?li=BBr8Cnp
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่