ทำไมคนเก่งบางคนถึงไม่ทะเยอทะยาน ไม่ไขว่คว้าความสำเร็จให้สมความสามารถตัวเอง

เมื่อประมาณซักเกือบสี่ปีที่แล้ว ออฟฟิศเรามีน้องคนนึงเข้ามาทำงานใหม่ เป็นคนที่เก่งเลย เรียนเก่งจบจากมหาวิทยาลัยท็อปของประเทศ ซึ่งออฟฟิศเรานานๆจะมีเด็กม.ท็อปขนาดนี้โผล่มาสมัครงาน พอมาทำงานน้องก็เก่งโดดเด่นเลย หัวดี เรียนรู้ไว เก่งกว่าเด็กคนอื่นที่เข้ามาพร้อมกันชัดเจน แถมเก่งกว่าพนักงานบางคนที่อยู่มาหลายปีอีก อัธยาศัยดียิ้มแย้ม นิสัยดี

   แต่พอรู้จักสนิทกันได้ซักพักเรารู้สึกว่าน้องเค้าดูไม่ค่อยทะเยอทะยานไม่มีเป้าหมายอะไรเท่าไหร่ คือพนักงานคนอื่นๆถ้าเป็นเด็กรุ่นๆเดียวกับน้องเค้าจะขวนขวายพยายามสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างอนาคต บางคนก็ทำงานเสริม บางคนก็ไปเรียนทักษะเกี่ยวกับงานเพิ่มเติม บางคนไปหาที่ต่อป.โท บางคนพอเริ่มเก่งมีประสบการณ์ก็ย้ายงานไปเอาเงินเดือนที่สูงกว่า แต่น้องคนนี้กลับไม่ทำอะไรเลยนอกจากงานในที่ทำงานเท่านั้น น้องบอกว่าทำงานในเวลางานก็เหนื่อยแล้ว เวลาอื่นเอาไปพักดีกว่า และไม่ได้คิดจะย้ายงานด้วย แต่คือน้องก็เก่งขึ้นเรื่อยๆนั่นแหละมีพัฒนาการตลอดจากประสบการณ์ในงานที่ทำประจำ เก่งกว่าคนอื่นที่ไปเรียนต่อป.โทหรือเรียนทักษะเพิ่มด้วย คือคนอื่นจะไปเรียนเพิ่มไปฝึกยังไงก็ไม่เก่งแซงน้องคนนี้ซะที เหมือนน้องคนนี้ความสามารถจะนำเด็กคนอื่นอยู่ก้าวนึงตลอด งานอะไรที่น้องเป็นคนคิดออกไอเดียคือขายได้ลูกค้าชอบตลอด
ที่เราสงสัยเพราะความสามารถระดับน้องคนนี้คือสามารถย้ายไปทำงานในที่ๆเงินเดือนสูงกว่านี้ได้สบายๆ หลายคนที่เก่งไม่เท่าน้องยังย้ายไปแล้วได้เงินเดือนสูงขึ้นเยอะ แต่น้องกลับไม่คิดไปไหน ตอนรับน้องเข้ามา เรากับหัวหน้ายังคุยกันเลยว่าเด็กคนนี้อยู่ไม่นานแน่ เพราะโปรไฟล์ดีเกินไป ดีโดดออกจากผู้สมัครคนอื่นเลย มาทำรอบริษัทใหญ่เรียกแน่เลย แต่ไปๆมาๆน้องกลับอยู่ที่นี่มานานมากจะเข้าปีที่สี่แล้ว หลายคนที่เข้ามาพร้อมน้อง แถมไม่เก่งเท่าน้องด้วย ออกไปทำงานที่อื่นอัพเงินเดือนกันหลายคนแล้ว

   เราเคยถามน้องด้วยหลายๆคำถามเช่น
1. ไม่คิดจะซื้อบ้านซื้อรถเป็นของตัวเองเหรอ : น้องก็บอกว่าทุกวันนี้ขึ้นรถไฟฟ้าสบายกว่า ถ้าจะใช้รถเก๋งก็เอาของพ่อมาขับได้ ไม่ต้องผ่อน ไม่ต้องจ่ายประกัน บ้านก็อยู่กับพ่อกับแม่ค่าไฟค่าน้ำก็ไม่ต้องจ่าย กับข้าวก็มีพ่อทำให้กินเช้า-เย็นไม่ต้องซื้อ
2. ไม่คิดจะมีแฟนเหรอ หน้าตาก็ดี(น้องถือว่าหน้าตาใช้ได้) : น้องบอกว่าไม่คิด ถ้าจังหวะมันจะมีก็คงเดี๋ยวมีเอง ถ้าไม่มีก็อยู่กับพ่อ-แม่ ไม่ได้สนใจเรื่องนี้เท่าไร
3. เป้าหมายในชีวิตคืออะไร : น้องบอกไม่มี แค่ได้กลับบ้านไปกินข้าว นั่งคุยกับพ่อแม่ก็โอเคแล้ว
4. เป้าหมายในอาชีพเป็นยังไง อยากโด่งดังในสายอาชีพมั้ย ชอบอาชีพนี้มั้ย : น้องตอบคล้ายๆข้อที่แล้วคือยังไม่มีเป้าหมาย ไม่ได้อยากโด่งดัง อยากเป็นคนทำงานธรรมดาตื่นเช้ามาทำงาน เย็นกลับบ้านไปพัก ทุกวันนี้ตื่นมาทำงานก็มีความสุขดีมีเบื่อบ้างบางครั้ง แต่รวมๆแล้วก็มีความสุขดี

   คือน้องเค้าดูเป็นคนลอยๆไม่มีเป้าหมายอะไรชัดเจนน่ะค่ะ แล้วก็ดูไม่ทะเยอทะยาน ด้วยความสามารถระดับน้องเค้า ถ้ามีเป้าหมายและทะเยอทะยานกว่านี้หน่อย จะไปได้ไกลกว่านี้เยอะ พูดตรงๆ ก็เสียดายความสามารถ จากประวัติน้อง ตอนแรกเราเดาว่าน่าจะรักการแข่งขัน ชอบความก้าวหน้าเพราะประวัติการเรียนคือเรียนในที่ระดับท๊อปการแข่งขันสูงปรี๊ดตั้งแต่ประถมถึงมหาวิทยาลัยเลย แต่น้องกลับเป็นคนดูชิลๆลอยๆซะอย่างงั้น เห็นกรณีนี้น่าสนใจ เลยอยากทราบความคิดเห็นของหลายๆคนต่อน้องคนนี้ว่ามองเค้าเป็นเด็กยังไง สำหรับเราเราว่าแปลกดีแต่ไม่ได้เสียหาย แล้วอีกคำถามทุกท่านว่าทำไมคนเก่งบางคนถึงไม่ทะเยอทะยานไขว่คว้าหาความสำเร็จ ใช้ชีวิตแค่ให้อยู่ได้ไม่เดือดร้อนคนอื่นก็พอแล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ชีวิตจะมีความสุข เมื่อรู้จัก"หยุด"ในจุดที่ตัวเองพอใจครับ บางคนใช้ทั้งชีวิตไขว้คว้าทะเยอทะยาน เพื่อหาความสุข แต่ดันหยุดไม่เป็น

คนที่คุณรู้จัก เขาก็แค่หยุด แค่นั้นเอง ชีวิตดีมีความสุขแล้ว ไม่อยากไขว่คว้าอะไร ไม่ต้องหาอะไรมาเติมเต็ม พอใจกับสิ่งที่มี ยินดีกับสิ่งที่ได้ เขาพอแล้วครับ
ความคิดเห็นที่ 4
คนเก่งๆเขารู้ว่าตัวเองมีความสุขที่ตรงไหนครับ และคนเก่งเขาไม่เอาตัวเองไปยึดติดกับคนอื่นครับ
บางคนมีความสุขได้โดยที่ยังไม่ต้องมีบ้านเป็นของตัวเองก็ได้
แต่กลับกันมีคนหลายๆคน เอาตัวเองไปยึดติดอยู่กับคนที่เขาประสบความสำเร็จ
แล้วก็มานั่งน้อยใจว่าทำไมตัวเองยังไม่มีแบบเขา และก็หาความสุขให้ตัวเองไม่เจอ
ความคิดเห็นที่ 11
เคยมีคนรู้จักมีอาการคล้ายน้องคนนี้

ทำงานเก่ง เจ้านายชอบมาก ก้าวหน้าทุกปี ดูทำงานไปเรื่อย ๆ ไม่ค่อยเที่ยว ไม่ค่อยใช้จ่าย

คนนอกมองก็คิดว่าเป็นคนไม่ทะเยอทะยาน หรือไม่มีพัชชั่นชีวิต (ทั้งที่ทำงานเก่ง) ใครถามเรื่องอนาคตก็ไม่หือไม่อือ

จู่ ๆ วันหนึ่ง เดินไปหานายพร้อมใบลาออก

หลายคนตกใจ ไม่มีสัญญาณล่วงหน้า เพราะทำงานปกติมาก ไม่เคยพูดบ่นว่าจะลาออก

สอบถามจึงพบว่าน้องคนนั้นสร้างธุรกิจรองรับไว้แล้วเป็นปี ๆ พอธุรกิจเริ่มรันจนมั่นใจ ก็ตัดสินลาออกทันที ฯลฯ

แม้จะไม่ได้บอกว่ากรณีของคุณจะเป็นเหมือนกัน แต่แค่บอกว่าโลกนี้มีคนที่ฉลาดวางตัว

อย่างกรณีคุณน้องของกระทู้นี้ ก็ดูเขาน่าจะเป็นฉลาดตอบ

เผลอ ๆ อาจดูคนออก รู้ว่ากับใครควรสนทนายังไง ควรรับรู้อะไรแค่ไหน
ความคิดเห็นที่ 14
เป็นแค่เพื่อน/พี่ทำงาน คงไม่จำเป็นต้องบอกอะไรหมดก็ได้นะครับ หลายเรื่องที่น้องบอกมาเราว่าเป็นคำตอบกลาง ๆ ไม่ให้เสียมารยาทนะครับ

จขกท.คงจะไปตัดสินเค้าจากแค่นี้ไม่ได้นะครับ
ความคิดเห็นที่ 10
เรารู้สึกว่าคนที่ จขกท เล่ามานั้นเหมือนเรามาก 555 แต่เราไม่ได้เป็นคนเรียนจบหรือเก่งอะไรนักหนาหรอก แค่อาจจะเป็นคนที่รู้เรื่องงานเยอะกว่าเพื่อนรวมงานนิดหนึ่ง เพราะเราเป็นคนที่ชอบเรียนรู้สิงใหม่ๆเสมอ และชอบค้นหาความรู้ข้อมูลต่างๆแบบไม่ให้ใครรู้

มีเพื่อนหลายคนเคยถามเราอยู่ว่า
ทำไมเธอก็ดูเป็นคนฉลาดเก่งอยู่ แต่เธอกลับไม่ทำอะไรเพื่อตัวเองเลยทำงานนานแล้วก็อยู่ตำแหน่งเดิม แบบชอบทำตัวนิ่งๆ เงียบๆ ไม่สนคนอื่น ไม่คิดจะทำอะไรเพื่ออนาคดของตัวเองบางเลยหรอ แฟนก็ไม่มี ของหรูๆดีๆก็ไม่มีใช้ ชีวิตเหมือนอยู่ไปวันๆแบบไร้ความหมายอ่ะ


เราก็ตอบกลับไปสั้นๆว่า เราไม่อยากได้อะไรมาก อยู่แบบนี้มันก็มีความสุขดีเป็นตัวของตัวเราเอง คนอื่นจะว่าเรายังไงก็ช่างเราไม่สนหรอก

แต่ที่จริงแล้วคนพวกนั้นเขาไม่รู้หรอกว่า ในหัวเราอ่ะ เราคิดไว้หมดทุกอย่างแล้ว ในอนาคดเราจะใช้ชีวิตแบบไหน ต้องเก็บเงินให้ได้เท่าไร ต้องทำงานให้เขาอีกกี่ปี ต้องมีแฟนแต่งงานตอนอายุเท่าไร อนาคดจะทำอาชีพอะไร อีกมากมาย เพียงแค่เราไม่อยากบอกหรือแสดงให้ใครรู้ อาจจะเรียกได้ว่าคนประเภทอย่างเรา คือคนโลกส่วนตัวสูงก็ได้นะ อิอิ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่