ในคดีอาญานั้น หากเกิดเหตุ ณ ที่ใด ก็ต้องไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจ ณ ท้องที่นั้น จากนั้นเมื่อพนักงานสอบสวนได้ทำการสืบสวน สอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จสิ้นแล้ว ก็จะส่งสำนวนคดีไปให้พนักงานอัยการของท้องที่นั้น เพื่อพิจารณาสั่งฟ้องต่อศาลในท้องที่นั้นต่อไป
แต่หากสมมุติว่า คดีเกิดที่เชียงใหม่ แต่เราเดินทางกลับมากรุงเทพฯ แล้ว เราจะต้องไปแจ้งความที่เชียงใหม่ เนื่องจากเป็นท้องที่เกิดเหตุ เราเลยคิดว่าหากเราสามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจที่กรุงเทพฯ หรือต่างท้องที่ ได้คงดี โดยให้พนักงานสอบสวนรับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหาย จากนั้นก็ให้ส่งบันทึกการแจ้งความร้องทุกข์ไปยังสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ หากเห็นว่าบันทึกมีการแจ้งความร้องทุกข์มีความชัดเจนแล้ว ก็ให้พนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจท้องที่เรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำหรือออกหมายเรียกหมายจับตามขั้นตอน แต่ถ้าเห็นว่าการบันทึกการแจ้งความร้องทุกข์ยังไม่ชัดเจน พนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุสามารถสั่งให้พนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจที่รับแจ้งความทำการสอบปากคำรวมถึงเรียกพยานหลักฐานเพิ่มได้
การที่เราไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจแล้วคดีก็ผ่านอัยการเพื่อไปยังศาล คือคดีอาญาโดยรัฐ อัยการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่ออัยการฟ้องศาลก็จะเท่ากับอัยการเป็นโจทก์แทนผู้เสียหาย ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เสมือนทนายความของผู้เสียหายในการซักพยาน เอาล่ะ ตรงนี้เป็นขั้นตอนทางศาลแล้ว ไม่ขอก้าวล่วง
*** ปิดโหวต วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ.2565 เวลา 11:10:30 น.
1. เห็นด้วยหรือหากสามารถแจ้งความกับตำรวจต่างท้องที่ที่ไม่ใช่ท้องที่เกิดเหตุได้
คุณลืมตอบคำถามที่ * จำเป็นต้องตอบ
ผู้เสียหายสามารถแจ้งความได้ทุกท้องที่สถานีตำรวจ
แต่หากสมมุติว่า คดีเกิดที่เชียงใหม่ แต่เราเดินทางกลับมากรุงเทพฯ แล้ว เราจะต้องไปแจ้งความที่เชียงใหม่ เนื่องจากเป็นท้องที่เกิดเหตุ เราเลยคิดว่าหากเราสามารถแจ้งความได้ที่สถานีตำรวจที่กรุงเทพฯ หรือต่างท้องที่ ได้คงดี โดยให้พนักงานสอบสวนรับแจ้งความร้องทุกข์จากผู้เสียหาย จากนั้นก็ให้ส่งบันทึกการแจ้งความร้องทุกข์ไปยังสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุ หากเห็นว่าบันทึกมีการแจ้งความร้องทุกข์มีความชัดเจนแล้ว ก็ให้พนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจท้องที่เรียกผู้ถูกกล่าวหามาให้ปากคำหรือออกหมายเรียกหมายจับตามขั้นตอน แต่ถ้าเห็นว่าการบันทึกการแจ้งความร้องทุกข์ยังไม่ชัดเจน พนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจท้องที่เกิดเหตุสามารถสั่งให้พนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจที่รับแจ้งความทำการสอบปากคำรวมถึงเรียกพยานหลักฐานเพิ่มได้
การที่เราไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจแล้วคดีก็ผ่านอัยการเพื่อไปยังศาล คือคดีอาญาโดยรัฐ อัยการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เมื่ออัยการฟ้องศาลก็จะเท่ากับอัยการเป็นโจทก์แทนผู้เสียหาย ในขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เสมือนทนายความของผู้เสียหายในการซักพยาน เอาล่ะ ตรงนี้เป็นขั้นตอนทางศาลแล้ว ไม่ขอก้าวล่วง