


สวัสดีค่ะ น้องชื่อโมจินะคะ เป็นแมวที่เราเลี้ยงมา12ปี แข็งแรงปกติฉีดวัคซีนครบตลอด
ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 64 ประมาณเดือนตุลาคม เจ้าของได้สังเกต ว่าน้องนอนเยอะผิดปกติ นอนซึมๆ กินน้ำเก่งจัง ปกติไม่เห็นกินเยอะแบบนี้ หิวบ่อย และฉี่บ่อยและนาน จับตัวลูบแล้วรู้สึกเอะใจว่าทำไมน้องเหมือนผอมลงทั้งๆๆที่กินปกติ ทุกอย่างจับไปเจอกระดูกโผล่ เลยจับมาชั่งน้ำหนัก เหลือแค่ 4 โล จากปกติเกือบ 6 โล สุดท้ายเจ้าของตัดสินใจพาน้องไปหาหมอและตรวจพบว่า 'น้องเป็นเบาหวาน"
- ต้องทำการแอดมิทเพื่อทำCurve น้ำตาลและฉีดอินซูลิน โดยได้คำตอบว่าถ้าไม่ทำการรักษาน้องจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงปี เพราะน้องจะผอมลงไปเรื่อยๆๆสุดท้ายเจ้าของเลยต้องให้น้องแอดมิท ระยะเวลา การแอดมิทจะอยู่ที่เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ โดย ทางโรงพยาบาลจะเจาะวัดน้ำตาลตรวจเช็คทุก 2 ชม แต่ค่าน้ำตาลน้องสูงมาก ประมาณ 600-700 ตลอด ไม่ลงซักที คุณหมอเลยให้เจ้าของรับน้องกลับบ้านและเจาะน้ำตาลเองโดยใช้เครื่องตรวจน้ำตาลของสัตว์ ยี่ห้อ "AlphaTRAK2" โดยเจาะที่ปลายหูน้องและจดค่าน้ำตาลแล้วนำมาให้คุณหมอดูทุก1สัปดาห์ ควบคู่กับการให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังทุกวัน ( ความจำเป็นของการให้น้ำเกลือคือ ช่วยให้อินซุลินทำงานได้เต็มที่ เพราะน้องฉี่เยอะทำให้มีภาวะขาดน้ำ) รักษาที่เดิมควบคู่กับการให้น้ำเกลือ ทุกวันๆ
- เจ้าของพาน้องมาให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลแถวบ้าน แต่ค่าน้ำตาลก็สูงปรี้ดไม่ลงเลย ตอนแรกที่รักษา คุณหมอใช้ อินซูลินระยะยาว ชื่อ Glargine เป็นแบบปากกาฉีดวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น เป็นเวลาเดิมๆๆ ทุกวัน ควบคู่กับการทานอาหารเบาหวาน ในปริมาณที่จำกัดและเท่าเดิมทุกๆวัน แต่วัดค่าน้ำตาลแต่ละครั้งก็ยังสูงถึง 600-700อยู่แบบนี้ตลอด
- เจ้าของตัดสินใจย้ายพาน้องมารักษาที่โรงพยาบาลเกษตร แรกๆๆก็ไปเฝ้าอยู่ทั้งวันเช้าจนเย็นเป็นสัปดาห์เพื่อให้คุณหมอทำกราฟน้ำตาลให้ใหม่ โดยคุณหมอตัดสินใจเปลี่ยนชนิดอินซูลินเป็น Can insulin ที่ออกฤทธิ์กลางๆ ( การให้อินซูลินแต่ละชนิด ก็ต้องปรับตารางการให้อาหาร อย่างCan insulin จะให้อาหารแค่ 2 มื้อ เช่น สมมุติน้องทานปกติ ที่60 g/ วัน แบ่ง2 มื้อ คือ 30g /มื้อ และกินต้องหมดภายในครึ่งชม ไม่หมดก็ต้องป้อน เพื่อจะได้ทันฉีดอินซูลินแล้วน้ำตาลจะไม่ต่ำ แต่ถ้า ให้อินซุลิน Glargine เราก็ยังให้ที่ปริมาณ 60 เท่ากัน โดยน้องสามารถมากินได้เรื่อยๆ ค่อยๆๆกินได้ตลอดแต่ก็ต้องให้หมดภายในวันต่อวัน ซึ่งน้องแมวส่วนใหญ่จะใช้ตัวนี้เพราะส่วนใหญ่ปกติจะเดินมากินเรื่อยๆกินทีละนิดทั้งวันอยู่แล้ว ) แต่น้องแมวเราเจ้าของฝึกน้องกินแบบเป็นมื้อมาโดยตลอด Glargine ก็เลยอาจไม่ค่อยตอบโจทย์นัก
- ตอนหลังเปลี่ยนมาใช้ Can insulin มาได้ซักพักค่าน้ำตาลก็เริ่มลดลงเห็นเลข300ปลายๆๆบ้างเวลาเจาะน้ำตาล และน้ำหนักน้อก็งเริ่มขึ้นมาถึง 5.4 โล โดยตอนหลังคุณหมอก็จะนัดอาทิตย์ละ 1 ครั้งบ้าง 2 อาทิตย์ครั้งบ้าง ไม่จำเป็นต้องไปทุกวัน โดยทุกครั้งก็จะมีการเจาะเลือดตรวจดูน้ำตาลและ ค่าอื่นๆตลอด แต่น้องก็ยังมีอาการถ่ายเหลวตลอด เป็นน้ำ เจ้าของต้องคอยหิ้วกะบะทรายไปทุกวันตอนพาไปทำกราฟน้ำตาลที่เกษตร เพราะน้องก็จะถ่ายลักษณะแบบนี้ตลอด คุณหมอคอยปรับยาฆ่าเชื้อให้อยู่เรื่อยๆๆก็ยังไม่หาย ถ่ายลักษณะแบบนี้มาเป็นเดือนๆ แต่ถ่ายไม่บ่อยนะคะ วันนึง1-2 ครั้งได้ จนคุณหมอว่าถ้าไม่หายก็อาจจะต้องไปใช้ยาสเตรียรอยส์ หรือ ยากดภูมิ ช่วยแทนเพราะถ้าปล่อยไปนานๆมันก็ไม่ดีเพราะหมายความว่าอาหารมันไม่ดูดซึม แต่ถ้าใช้ยาแบบนี้ก็มีผลต่อค่าน้ำตาลที่จะสวิงและผลข้างเคียงได้เจ้าของจะลองหรือไม่ หรือจะปรับอาหารมาลองใช้สูตรแมวแพ้อาหาร Hypoallerginic ดูเผื่อจะดีขึ้น แต่สุดท้ายน้องก็ยังท้องเสียถ่ายเหลวเหมือนเดิม ก็เลยขอหมอลองเป็น สูตร Gastro instestinal สำหรับแมวท้องเสียถ่ายเหลว ควบคู่กับการให้ Synbiotic แทน Probiotic ที่คุณหมอจ่ายให้ทุกครั้ง ปรากฏ น้องถ่ายไม่เหลว เริ่มอึมีก้อนสวยงาม คือน้องแพ้อาหารเบาหวาน ดังนั้น หมอก็เลยใช้ให้กินสูตร Gastro intestinal ไปแทนอาหารเบาหวานเลย แล้วมาปรับอินซูลินแทน
- แรกๆก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอใช้มาซักพัก เหมือนอินซูลิน โดสปริมาณเดิมเริ่มเอาไม่อยู่ก็ต้องเริ่มปรับปริมาณยาให้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนหมอว่าคงจะต้องเปลี่ยนชนิดอินซูลินอีกครั้ง เพราะตอนนี้โดสมันสูงมาก ถ้าวันนึงน้ำตาลน้องตกจะเป็นอันตราย ส่วนนึ่งเจ้าของว่าก็น่าจะมาจากร่างกายของน้องและสูตรอาหารที่ให้มันอาจไม่เหมือนกับอาหารเบาหวานที่มีปรับคำนวณสัดส่วนและปริมาณมาให้พอเหมาะแล้ว โดยสุดท้ายเปลี่ยนมาใช้อินซูลินระยะสั้น ฉีด 3 เวลา แทน ยี่ห้อ Winsulin-R ทุก8 ชม. พึ่งเปลื่ยนมาใช้ได้ประมาณ 1 เดือน น้องก็มาจากไปด้วยโรคเลือดเม็ดเลือดแดงต่ำไปซะก่อน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อาการของโรคเลือดจางหรือเม็ดเลือดแดงต่ำ
-หลังจากตรวจพบค่าเม็ดเลือดแดง ลดลง เหลือ 22% คุณหมอจ่ายยาฮอร์โมน ยี่ห้อ Epoxine โดยฉีดวันเว้นวัน ไปได้3-4 สัปดาห์ ค่าเม็ดเลือดแดงก็เริ่มเพิ่มขึ้นมาเกือบถึง30%
-หมอก็เลยปรับลงเหลือฉีด สัปดาห์ละ 2 ครั้ง แทน ฉีดไปได้ซักพักค่าเม็ดเลือดแดงตกลงมาอีกครั้ง คุณหมอก็เลยปรับไปให้ฉีดวันเว้นวันเหมือนเดิม รอบนี้ฉีดไปก็ไม่ขึ้น หมอเลยแพลนให้เปลี่ยนไปฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแทน ชื่อNesp
-แต่แล้ววันนึง น้องก็มีอาการร้อง เดินโซเซ น้ำลายยืด ฉี่ราด อึแตก เจ้าของรีบเจาะน้ำตาลดูทันทีแต่ค่าน้ำตาลก็ประมาณ 200 เองทำไมมีอาการแบบนี้ เลยพาน้องมาแอดมิทที่โรงพยาบาลศรีวราเนื่องจากโรงพยาบาลเกษตรไม่มีเตียง ดังนัน้ถ้าฉุกเฉินต้องหาโรงพยาบาลที่สามารถดูแลน้อง 24 ชม ได้
-หลังพาน้องแอดมิทอยู่ประมาณ 4-5 วันก็พากลับบ้านน้องก็ยังดูปกติดี กลับมาบ้านได้ 1 สัปดาห์ น้องเริ่มมีอาการ แขนขาอ่อนแรงอีกครั้ง คราวนี้มาด้วยน้ำตาลสูง ขึ้น Hi
-เลยพามาแอดมิทอีกครั้ง เนื่องจากกลัวน้ำตาลเป็นพิษ แล้ว ก็ตรวจพบว่าเม็ดเลือดแดงเหลืออยุ่ที่ 14% เมื่อวันที่ 20/06/65 ทำให้ต้องได้รับการถ่ายเลือดโดยด่วน เราโชคดีรอบแรกได้โดเนอร์น้องแมว มาทันทำให้ถ่ายได้ไปอย่างรวดเร็ว น้องได้รับเลือด40 cc หลังจากถ่ายเลือดเสร็จ วันที่ 21/06/65 หมอว่าค่าเลือดเพิ่มมาแค่2 %เป็น16% หลังจากนั้นอีก2 วัน คือวันที่ 23/06/65 ค่าเลือดก็ลดลงเหลือแค่ 10% เจ้าของเลยทำการถ่ายเลือดซ้ำ เป็นครั้งที่ 2
-รอบนี้ซื้อเลือดเลย เพราะคุณหมอว่าถ้าไม่ถ่ายเลือดคืนนี้น้องอาจจะไปแล้วก็ได้ สรุปเราติดต่อโรงพยาบาลเอพลัส เพื่อให้ช่วยหาเลือดให้หน่อย โชคดีที่ทางโรงพยาบาลหาน้องมาช่วยให้เลือดได้อย่างรวดเร็วในคืนนัน้ โดยทางโรงพยาบาลเค้าก็รับเลือดน้องไปทำCrossmatch และแจ้งมาตอนกลางดึกว่า ค่าเลือดน้องจริงๆตอนนี้เหลือแค่8% เราลุ้นตลอดขอให้เลือดมาทันช่วยน้องได้
-หลังจากได้รับการถ่ายเลือดรอบ 2 น้องได้รับเลือดไป 60cc ค่าเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นมาที่ 18% ในวันที่ 24/06/65 เจ้าของให้ทางโรงพยาบาลศรีวราที่น้องแอดมิท อัลตราซาวน์ในช่องท้องหาสาเหตุเรื่องโลหิตจางมันมาจากสาเหตุอะไร ก็ไม่เจอว่ามีก้อนหรือมีเลือดออกในช่องท้อง
-วันที่ 25/06/65 รับน้องกลับมาพักฟื้นที่บ้าน เพื่อจะไปตามหมอเกษตรที่นัดไว้ในวันที่ 27/06/65 อีกครั้ง วันนี้เลยให้หมอเจาะดูลิวคีเมีย และตรวจดูค่าเลือดอื่นๆๆเพิ่มเติมที่สงสัย ผลค่าเลือดทุกอย่างปกติดี ยกเว้นค่าเลือดลดลง อีกครั้งเหลือแค่ 14% หมอว่าอาจจะมาจากไขกระดูกไม่ผลิตเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดแดงมีวันหมดอายุถ้ามันไม่มีการสร้างเราก็ต้องคอยเติม เหมือนการเติมน้ำมัน ถ้าหมดก็เติม แต่สุดท้ายเค้าก็แพ้เลือดและก็เสียชีวิตอยู่ดี
-เราเลยตัดสินใจไม่ถ่ายเลือดรอบที่ 3 แต่มาลุ้นจากการฉีดฮอร์โมนตัวใหม่ Nesp เมื่อวันที่ 21/06/65 ที่ฉีดได้แค่อาทิตย์ละ 1 ครั้งว่าจะช่วยสร้างเม็ดเลือดได้หรือไม่ ควบคู่กับการให้น้องอยุ่ในตู้ออกซิเจน บ่อยขึ้น วันที่ 30/06/65 เช็คเลือดอีกครั้ง ค่าเม็ดเลือดแดงลดลงเหลือ 12%
-หลังจากรับน้องกลับมาจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่25/06/65 เจ้าของป้อนข้าวให้ตลอดเพราะน้องไม่ทานเองเลย โดยเราจะปั่นอาหารเม็ดเป็นผงผสมน้ำแล้วป้อนน้องเป็นมื้อๆ โดยตอนนี้แบ่งเป็น 3 มื้อ และฉีดอินซูลิน หลังทานทุกมื้อเนื่องจากป้อนไม่ได้เยอะน้องไม่ค่อยทานเราเลยเอาแพลนตามที่โรงพยาบาลศรีวราดูแลมา
-วันที่ 8/7/65 ค่าน้ำตาลน้องขึ้น Hi อีกครั้งคือสูงเกิน 700 น้องมีอาการแขนขาอ่อนแรง น้องยังไม่ทานข้าว ทำให้ยังไม่ได้ฉีดอินซูลิน เจ้าของรีบพาน้องมาแอดมิทที่ศรีวราเหมือนเดิม เพื่อตรวจดูอาการ คุณหมอเลยเช็คเลือดไปแล้วพบว่าค่าเม็ดเลือดเหลือแค่ 8% หมอว่า ถ้าจะแอดมิทหมอจะให้น้ำเกลือเข้าเส้นไป และเนื่องจากค่าน้ำตาลสูงมากถึงแม้ยังไม่ได้ทานอะไร หมอเค้าจะฉีดอินซูลินไปให้เลย แต่หมอก็บอกว่าถ้าจะให้แอดมิท น้องก็อาจจะไปได้ทุกเมื่อเนื่องจากค่าเม็ดเลือดแดงเค้าเหลือน้อย
-สรุป ยาฮอร์โมนไม่ช่วยให้ค่าเม็ดเลือดแดงน้องเพิ่มขึ้นมาได้ เราเริ่มไม่สบายใจถ้าฝากไว้แล้วน้องจากไปจะทำยังไง เราคงไม่ทันได้ดูใจเค้า ดังนัน้เราตัดสินใจไปรับน้องกลับหลังเที่ยงคืนในวันเดียวกัน แล้วพาน้องกลับมาอยู่บ้านให้อยู่ในตู้ออกซิเจน24 ชม ถ้าน้องออกมาไหวยังอยากออกมาก็พาเค้าออกมา แต่ถ้าไม่ไหวก็อยู่ในตู้ออกซิเจนไปเลย เราก็คอยเฝ้าดูให้อยู่หน้าตู้ออกซิเจนตลอด24ชม.
-จนคืนวันที่12/07/65 น้องมีอาการลุกไม่ขึ้น หรือลุกแล้วก็ล้มตลอดเราเนื่องจากเลือดต่ำทำให้ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆในร่างกายไม่เพียงพอถึงแม้จะอยู่ในตู้ออกซิเจนตลอดเวลาแล้วก็ตาม โดยเวลาเค้าล้มทีเค้าจะค้างอยู่ในท่าแปลกๆเพราะเค้าไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัวทำให้ต้องคอยช่วยเค้าประคองจับเปลี่ยนท่าทางให้ แล้วน้องก็จากไปในเวลา24:35 น. ของคืนวันที่ 13/07/65 ซึ่งตรงกับวันพระใหญ่ พอดี
-เราเชื่อว่าน้องไปสบายแล้วและเราก็ทำดีที่สุด เราส่งน้องไปถึงสุดปลายทางแล้ว เราอยู่กับน้องเค้าตลอดให้เค้ารู้ว่าเราจะอยู่กับเค้าข้างๆเค้าจนนาทีสุดท้าย หลังจากน้องเสียกลางดึกเราได้พาน้องไปเป็นอาจารย์ใหญ่ต่อที่โรงพยาบาลจุฬา ให้ร่างกายเค้าได้ทำประโยชน์ครั้งสุดท้ายให้ว่าที่คุณหมอเค้าจะได้มารักษาเพื่อนๆสัตว์เลี้ยงทุกตัวให้มีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวมากขึ้น และ การที่เราอยากแชร์ข้อมูลการรักษาและดูแลนี้ก็เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจหรือการดูแล ไม่มากก็น้อยนะคะ เพราะยอมรับเลยว่าตอนที่รู้ว่าน้องป่วยเราเคว้งมาก ข้อมูล มันน้อย เราอยากให้รู้ว่าการดูแลมันไม่ยากและก็ไม่ง่าย แต่สุดท้ายเราก็จะปรับตัวได้ เป็นกำลังใจให้เจ้าของและน้องสัตว์เลี้ยงทุกตัวที่กำลังป่วยนะคะ ถ้าเราดูแลเค้าเต็มที่ไม่ว่าผลมันจะเป็นอย่างไร น้องเค้ารับรู้ได้ค่ะ ว่าเรารักเค้าสุดหัวใจและจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่เจ้าของคนนึงจะสามารถทำได้ค่ะ
ขอแชร์ประสบการณ์ การดูแลเบาหวานในน้องแมวไปจนถึงอาการของโรคเลือดจางเม็ดเลือดแดงต่ำที่มาจากไขกระดูกไม่ผลิตเม็ดเลือด
สวัสดีค่ะ น้องชื่อโมจินะคะ เป็นแมวที่เราเลี้ยงมา12ปี แข็งแรงปกติฉีดวัคซีนครบตลอด
ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 64 ประมาณเดือนตุลาคม เจ้าของได้สังเกต ว่าน้องนอนเยอะผิดปกติ นอนซึมๆ กินน้ำเก่งจัง ปกติไม่เห็นกินเยอะแบบนี้ หิวบ่อย และฉี่บ่อยและนาน จับตัวลูบแล้วรู้สึกเอะใจว่าทำไมน้องเหมือนผอมลงทั้งๆๆที่กินปกติ ทุกอย่างจับไปเจอกระดูกโผล่ เลยจับมาชั่งน้ำหนัก เหลือแค่ 4 โล จากปกติเกือบ 6 โล สุดท้ายเจ้าของตัดสินใจพาน้องไปหาหมอและตรวจพบว่า 'น้องเป็นเบาหวาน"
- ต้องทำการแอดมิทเพื่อทำCurve น้ำตาลและฉีดอินซูลิน โดยได้คำตอบว่าถ้าไม่ทำการรักษาน้องจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่ถึงปี เพราะน้องจะผอมลงไปเรื่อยๆๆสุดท้ายเจ้าของเลยต้องให้น้องแอดมิท ระยะเวลา การแอดมิทจะอยู่ที่เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ โดย ทางโรงพยาบาลจะเจาะวัดน้ำตาลตรวจเช็คทุก 2 ชม แต่ค่าน้ำตาลน้องสูงมาก ประมาณ 600-700 ตลอด ไม่ลงซักที คุณหมอเลยให้เจ้าของรับน้องกลับบ้านและเจาะน้ำตาลเองโดยใช้เครื่องตรวจน้ำตาลของสัตว์ ยี่ห้อ "AlphaTRAK2" โดยเจาะที่ปลายหูน้องและจดค่าน้ำตาลแล้วนำมาให้คุณหมอดูทุก1สัปดาห์ ควบคู่กับการให้น้ำเกลือใต้ผิวหนังทุกวัน ( ความจำเป็นของการให้น้ำเกลือคือ ช่วยให้อินซุลินทำงานได้เต็มที่ เพราะน้องฉี่เยอะทำให้มีภาวะขาดน้ำ) รักษาที่เดิมควบคู่กับการให้น้ำเกลือ ทุกวันๆ
- เจ้าของพาน้องมาให้น้ำเกลือที่โรงพยาบาลแถวบ้าน แต่ค่าน้ำตาลก็สูงปรี้ดไม่ลงเลย ตอนแรกที่รักษา คุณหมอใช้ อินซูลินระยะยาว ชื่อ Glargine เป็นแบบปากกาฉีดวันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น เป็นเวลาเดิมๆๆ ทุกวัน ควบคู่กับการทานอาหารเบาหวาน ในปริมาณที่จำกัดและเท่าเดิมทุกๆวัน แต่วัดค่าน้ำตาลแต่ละครั้งก็ยังสูงถึง 600-700อยู่แบบนี้ตลอด
- เจ้าของตัดสินใจย้ายพาน้องมารักษาที่โรงพยาบาลเกษตร แรกๆๆก็ไปเฝ้าอยู่ทั้งวันเช้าจนเย็นเป็นสัปดาห์เพื่อให้คุณหมอทำกราฟน้ำตาลให้ใหม่ โดยคุณหมอตัดสินใจเปลี่ยนชนิดอินซูลินเป็น Can insulin ที่ออกฤทธิ์กลางๆ ( การให้อินซูลินแต่ละชนิด ก็ต้องปรับตารางการให้อาหาร อย่างCan insulin จะให้อาหารแค่ 2 มื้อ เช่น สมมุติน้องทานปกติ ที่60 g/ วัน แบ่ง2 มื้อ คือ 30g /มื้อ และกินต้องหมดภายในครึ่งชม ไม่หมดก็ต้องป้อน เพื่อจะได้ทันฉีดอินซูลินแล้วน้ำตาลจะไม่ต่ำ แต่ถ้า ให้อินซุลิน Glargine เราก็ยังให้ที่ปริมาณ 60 เท่ากัน โดยน้องสามารถมากินได้เรื่อยๆ ค่อยๆๆกินได้ตลอดแต่ก็ต้องให้หมดภายในวันต่อวัน ซึ่งน้องแมวส่วนใหญ่จะใช้ตัวนี้เพราะส่วนใหญ่ปกติจะเดินมากินเรื่อยๆกินทีละนิดทั้งวันอยู่แล้ว ) แต่น้องแมวเราเจ้าของฝึกน้องกินแบบเป็นมื้อมาโดยตลอด Glargine ก็เลยอาจไม่ค่อยตอบโจทย์นัก
- ตอนหลังเปลี่ยนมาใช้ Can insulin มาได้ซักพักค่าน้ำตาลก็เริ่มลดลงเห็นเลข300ปลายๆๆบ้างเวลาเจาะน้ำตาล และน้ำหนักน้อก็งเริ่มขึ้นมาถึง 5.4 โล โดยตอนหลังคุณหมอก็จะนัดอาทิตย์ละ 1 ครั้งบ้าง 2 อาทิตย์ครั้งบ้าง ไม่จำเป็นต้องไปทุกวัน โดยทุกครั้งก็จะมีการเจาะเลือดตรวจดูน้ำตาลและ ค่าอื่นๆตลอด แต่น้องก็ยังมีอาการถ่ายเหลวตลอด เป็นน้ำ เจ้าของต้องคอยหิ้วกะบะทรายไปทุกวันตอนพาไปทำกราฟน้ำตาลที่เกษตร เพราะน้องก็จะถ่ายลักษณะแบบนี้ตลอด คุณหมอคอยปรับยาฆ่าเชื้อให้อยู่เรื่อยๆๆก็ยังไม่หาย ถ่ายลักษณะแบบนี้มาเป็นเดือนๆ แต่ถ่ายไม่บ่อยนะคะ วันนึง1-2 ครั้งได้ จนคุณหมอว่าถ้าไม่หายก็อาจจะต้องไปใช้ยาสเตรียรอยส์ หรือ ยากดภูมิ ช่วยแทนเพราะถ้าปล่อยไปนานๆมันก็ไม่ดีเพราะหมายความว่าอาหารมันไม่ดูดซึม แต่ถ้าใช้ยาแบบนี้ก็มีผลต่อค่าน้ำตาลที่จะสวิงและผลข้างเคียงได้เจ้าของจะลองหรือไม่ หรือจะปรับอาหารมาลองใช้สูตรแมวแพ้อาหาร Hypoallerginic ดูเผื่อจะดีขึ้น แต่สุดท้ายน้องก็ยังท้องเสียถ่ายเหลวเหมือนเดิม ก็เลยขอหมอลองเป็น สูตร Gastro instestinal สำหรับแมวท้องเสียถ่ายเหลว ควบคู่กับการให้ Synbiotic แทน Probiotic ที่คุณหมอจ่ายให้ทุกครั้ง ปรากฏ น้องถ่ายไม่เหลว เริ่มอึมีก้อนสวยงาม คือน้องแพ้อาหารเบาหวาน ดังนั้น หมอก็เลยใช้ให้กินสูตร Gastro intestinal ไปแทนอาหารเบาหวานเลย แล้วมาปรับอินซูลินแทน
- แรกๆก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่พอใช้มาซักพัก เหมือนอินซูลิน โดสปริมาณเดิมเริ่มเอาไม่อยู่ก็ต้องเริ่มปรับปริมาณยาให้สูงขึ้นเรื่อยๆ จนหมอว่าคงจะต้องเปลี่ยนชนิดอินซูลินอีกครั้ง เพราะตอนนี้โดสมันสูงมาก ถ้าวันนึงน้ำตาลน้องตกจะเป็นอันตราย ส่วนนึ่งเจ้าของว่าก็น่าจะมาจากร่างกายของน้องและสูตรอาหารที่ให้มันอาจไม่เหมือนกับอาหารเบาหวานที่มีปรับคำนวณสัดส่วนและปริมาณมาให้พอเหมาะแล้ว โดยสุดท้ายเปลี่ยนมาใช้อินซูลินระยะสั้น ฉีด 3 เวลา แทน ยี่ห้อ Winsulin-R ทุก8 ชม. พึ่งเปลื่ยนมาใช้ได้ประมาณ 1 เดือน น้องก็มาจากไปด้วยโรคเลือดเม็ดเลือดแดงต่ำไปซะก่อน
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อาการของโรคเลือดจางหรือเม็ดเลือดแดงต่ำ
-หลังจากตรวจพบค่าเม็ดเลือดแดง ลดลง เหลือ 22% คุณหมอจ่ายยาฮอร์โมน ยี่ห้อ Epoxine โดยฉีดวันเว้นวัน ไปได้3-4 สัปดาห์ ค่าเม็ดเลือดแดงก็เริ่มเพิ่มขึ้นมาเกือบถึง30%
-หมอก็เลยปรับลงเหลือฉีด สัปดาห์ละ 2 ครั้ง แทน ฉีดไปได้ซักพักค่าเม็ดเลือดแดงตกลงมาอีกครั้ง คุณหมอก็เลยปรับไปให้ฉีดวันเว้นวันเหมือนเดิม รอบนี้ฉีดไปก็ไม่ขึ้น หมอเลยแพลนให้เปลี่ยนไปฉีดฮอร์โมนกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแทน ชื่อNesp
-แต่แล้ววันนึง น้องก็มีอาการร้อง เดินโซเซ น้ำลายยืด ฉี่ราด อึแตก เจ้าของรีบเจาะน้ำตาลดูทันทีแต่ค่าน้ำตาลก็ประมาณ 200 เองทำไมมีอาการแบบนี้ เลยพาน้องมาแอดมิทที่โรงพยาบาลศรีวราเนื่องจากโรงพยาบาลเกษตรไม่มีเตียง ดังนัน้ถ้าฉุกเฉินต้องหาโรงพยาบาลที่สามารถดูแลน้อง 24 ชม ได้
-หลังพาน้องแอดมิทอยู่ประมาณ 4-5 วันก็พากลับบ้านน้องก็ยังดูปกติดี กลับมาบ้านได้ 1 สัปดาห์ น้องเริ่มมีอาการ แขนขาอ่อนแรงอีกครั้ง คราวนี้มาด้วยน้ำตาลสูง ขึ้น Hi
-เลยพามาแอดมิทอีกครั้ง เนื่องจากกลัวน้ำตาลเป็นพิษ แล้ว ก็ตรวจพบว่าเม็ดเลือดแดงเหลืออยุ่ที่ 14% เมื่อวันที่ 20/06/65 ทำให้ต้องได้รับการถ่ายเลือดโดยด่วน เราโชคดีรอบแรกได้โดเนอร์น้องแมว มาทันทำให้ถ่ายได้ไปอย่างรวดเร็ว น้องได้รับเลือด40 cc หลังจากถ่ายเลือดเสร็จ วันที่ 21/06/65 หมอว่าค่าเลือดเพิ่มมาแค่2 %เป็น16% หลังจากนั้นอีก2 วัน คือวันที่ 23/06/65 ค่าเลือดก็ลดลงเหลือแค่ 10% เจ้าของเลยทำการถ่ายเลือดซ้ำ เป็นครั้งที่ 2
-รอบนี้ซื้อเลือดเลย เพราะคุณหมอว่าถ้าไม่ถ่ายเลือดคืนนี้น้องอาจจะไปแล้วก็ได้ สรุปเราติดต่อโรงพยาบาลเอพลัส เพื่อให้ช่วยหาเลือดให้หน่อย โชคดีที่ทางโรงพยาบาลหาน้องมาช่วยให้เลือดได้อย่างรวดเร็วในคืนนัน้ โดยทางโรงพยาบาลเค้าก็รับเลือดน้องไปทำCrossmatch และแจ้งมาตอนกลางดึกว่า ค่าเลือดน้องจริงๆตอนนี้เหลือแค่8% เราลุ้นตลอดขอให้เลือดมาทันช่วยน้องได้
-หลังจากได้รับการถ่ายเลือดรอบ 2 น้องได้รับเลือดไป 60cc ค่าเม็ดเลือดแดงเพิ่มขึ้นมาที่ 18% ในวันที่ 24/06/65 เจ้าของให้ทางโรงพยาบาลศรีวราที่น้องแอดมิท อัลตราซาวน์ในช่องท้องหาสาเหตุเรื่องโลหิตจางมันมาจากสาเหตุอะไร ก็ไม่เจอว่ามีก้อนหรือมีเลือดออกในช่องท้อง
-วันที่ 25/06/65 รับน้องกลับมาพักฟื้นที่บ้าน เพื่อจะไปตามหมอเกษตรที่นัดไว้ในวันที่ 27/06/65 อีกครั้ง วันนี้เลยให้หมอเจาะดูลิวคีเมีย และตรวจดูค่าเลือดอื่นๆๆเพิ่มเติมที่สงสัย ผลค่าเลือดทุกอย่างปกติดี ยกเว้นค่าเลือดลดลง อีกครั้งเหลือแค่ 14% หมอว่าอาจจะมาจากไขกระดูกไม่ผลิตเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดแดงมีวันหมดอายุถ้ามันไม่มีการสร้างเราก็ต้องคอยเติม เหมือนการเติมน้ำมัน ถ้าหมดก็เติม แต่สุดท้ายเค้าก็แพ้เลือดและก็เสียชีวิตอยู่ดี
-เราเลยตัดสินใจไม่ถ่ายเลือดรอบที่ 3 แต่มาลุ้นจากการฉีดฮอร์โมนตัวใหม่ Nesp เมื่อวันที่ 21/06/65 ที่ฉีดได้แค่อาทิตย์ละ 1 ครั้งว่าจะช่วยสร้างเม็ดเลือดได้หรือไม่ ควบคู่กับการให้น้องอยุ่ในตู้ออกซิเจน บ่อยขึ้น วันที่ 30/06/65 เช็คเลือดอีกครั้ง ค่าเม็ดเลือดแดงลดลงเหลือ 12%
-หลังจากรับน้องกลับมาจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่25/06/65 เจ้าของป้อนข้าวให้ตลอดเพราะน้องไม่ทานเองเลย โดยเราจะปั่นอาหารเม็ดเป็นผงผสมน้ำแล้วป้อนน้องเป็นมื้อๆ โดยตอนนี้แบ่งเป็น 3 มื้อ และฉีดอินซูลิน หลังทานทุกมื้อเนื่องจากป้อนไม่ได้เยอะน้องไม่ค่อยทานเราเลยเอาแพลนตามที่โรงพยาบาลศรีวราดูแลมา
-วันที่ 8/7/65 ค่าน้ำตาลน้องขึ้น Hi อีกครั้งคือสูงเกิน 700 น้องมีอาการแขนขาอ่อนแรง น้องยังไม่ทานข้าว ทำให้ยังไม่ได้ฉีดอินซูลิน เจ้าของรีบพาน้องมาแอดมิทที่ศรีวราเหมือนเดิม เพื่อตรวจดูอาการ คุณหมอเลยเช็คเลือดไปแล้วพบว่าค่าเม็ดเลือดเหลือแค่ 8% หมอว่า ถ้าจะแอดมิทหมอจะให้น้ำเกลือเข้าเส้นไป และเนื่องจากค่าน้ำตาลสูงมากถึงแม้ยังไม่ได้ทานอะไร หมอเค้าจะฉีดอินซูลินไปให้เลย แต่หมอก็บอกว่าถ้าจะให้แอดมิท น้องก็อาจจะไปได้ทุกเมื่อเนื่องจากค่าเม็ดเลือดแดงเค้าเหลือน้อย
-สรุป ยาฮอร์โมนไม่ช่วยให้ค่าเม็ดเลือดแดงน้องเพิ่มขึ้นมาได้ เราเริ่มไม่สบายใจถ้าฝากไว้แล้วน้องจากไปจะทำยังไง เราคงไม่ทันได้ดูใจเค้า ดังนัน้เราตัดสินใจไปรับน้องกลับหลังเที่ยงคืนในวันเดียวกัน แล้วพาน้องกลับมาอยู่บ้านให้อยู่ในตู้ออกซิเจน24 ชม ถ้าน้องออกมาไหวยังอยากออกมาก็พาเค้าออกมา แต่ถ้าไม่ไหวก็อยู่ในตู้ออกซิเจนไปเลย เราก็คอยเฝ้าดูให้อยู่หน้าตู้ออกซิเจนตลอด24ชม.
-จนคืนวันที่12/07/65 น้องมีอาการลุกไม่ขึ้น หรือลุกแล้วก็ล้มตลอดเราเนื่องจากเลือดต่ำทำให้ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆในร่างกายไม่เพียงพอถึงแม้จะอยู่ในตู้ออกซิเจนตลอดเวลาแล้วก็ตาม โดยเวลาเค้าล้มทีเค้าจะค้างอยู่ในท่าแปลกๆเพราะเค้าไม่มีแรงแม้แต่จะขยับตัวทำให้ต้องคอยช่วยเค้าประคองจับเปลี่ยนท่าทางให้ แล้วน้องก็จากไปในเวลา24:35 น. ของคืนวันที่ 13/07/65 ซึ่งตรงกับวันพระใหญ่ พอดี
-เราเชื่อว่าน้องไปสบายแล้วและเราก็ทำดีที่สุด เราส่งน้องไปถึงสุดปลายทางแล้ว เราอยู่กับน้องเค้าตลอดให้เค้ารู้ว่าเราจะอยู่กับเค้าข้างๆเค้าจนนาทีสุดท้าย หลังจากน้องเสียกลางดึกเราได้พาน้องไปเป็นอาจารย์ใหญ่ต่อที่โรงพยาบาลจุฬา ให้ร่างกายเค้าได้ทำประโยชน์ครั้งสุดท้ายให้ว่าที่คุณหมอเค้าจะได้มารักษาเพื่อนๆสัตว์เลี้ยงทุกตัวให้มีชีวิตอยู่ได้ยืนยาวมากขึ้น และ การที่เราอยากแชร์ข้อมูลการรักษาและดูแลนี้ก็เผื่อจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจหรือการดูแล ไม่มากก็น้อยนะคะ เพราะยอมรับเลยว่าตอนที่รู้ว่าน้องป่วยเราเคว้งมาก ข้อมูล มันน้อย เราอยากให้รู้ว่าการดูแลมันไม่ยากและก็ไม่ง่าย แต่สุดท้ายเราก็จะปรับตัวได้ เป็นกำลังใจให้เจ้าของและน้องสัตว์เลี้ยงทุกตัวที่กำลังป่วยนะคะ ถ้าเราดูแลเค้าเต็มที่ไม่ว่าผลมันจะเป็นอย่างไร น้องเค้ารับรู้ได้ค่ะ ว่าเรารักเค้าสุดหัวใจและจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่เจ้าของคนนึงจะสามารถทำได้ค่ะ