🇹🇭มาลาริน💜16ก.ค.โควิดไทยอันดับ27โลก/ป่วย2,025คน หายป่วย2,181คน เสียชีวิต20คน/ไม่ใส่หน้ากากอนามัย เสี่ยงกระจายเชื้อ


https://www.sanook.com/news/8592686/

https://www.bangkokbiznews.com/social/1015691

https://www.bangkokbiznews.com/social/1015704

เพี้ยนแคปเจอร์ไม่ใส่หน้ากากอนามัย เสี่ยงกระจายเชื้อมากที่สุด

แม้ว่าในช่วงต้นเดือนนี้นั้น ในเรื่องของโรคโควิด-19 ในบ้านเรา จะเริ่มมีมาตรการผ่อนคลายไปบ้าง หนึ่งในนั้นก็คือการที่ไม่ต้องใส่หน้ากากอนามัยในบางพื้นที่บางจุด ซึ่งดูเผิน ๆ อาจจะเป็นการคลี่คลายไปบ้าง แต่ในช่วงนี้ก็มีกระแสว่า โรคโควิดสายพันธุ์โอมิครอน ประเภท บี 4 บี 5 ได้เข้ามาแพร่ระบาดในเมืองไทยอีกครั้ง นั่นจึงมีการเตือนว่า “หน้ากากอนามัย” ยังคงจำเป็นในช่วงนี้เหมือนเดิม

เรื่องนี้ ทางนายแพทย์มนูญ ลีเชวงวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้โพสต์ข้อความ ผ่านทางแฟนเพจ “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมา ในภาพรวมว่า ในระยะนี้มีการแพร่กระจายเชื้อไปในวงกว้างอย่างมาก โดยต่อให้ได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วนแล้ว ก็ยังสามารถติดเชื้อได้อยู่ดี ซึ่งทางคุณหมอมนูญ ได้ให้ความเห็นว่าส่วนตัวว่า การใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะนั้น ยังคงจำเป็นอย่างยิ่งต่อไป
โดยข้อความที่โพสต์ทั้งหมด ของคุณหมอมนูญนั้น มีดังนี้
“คนที่ติดโรคโควิดระลอกใหม่นี้ เท่าที่ผมสังเกตส่วนใหญ่ เป็นคนที่ระมัดระวังตัวป้องกันตัวเองเต็มที่ และเป็นคนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิดที่มีประสิทธิภาพสูงครบโดส รวมทั้งได้เข็มกระตุ้น เช่นได้รับวัคซีนไฟเซอร์ 3 เข็ม วัคซีนแอสตร้าเซเนกา 2 เข็มตามด้วยวัคซีน mRNA 2 เข็ม หรือวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ตามด้วยแอสตร้าเซเนกา 1 เข็มและโมเดอร์นาอีก 2 เข็ม แต่ก็ยังติดเชื้อ แสดงว่าเชื้อนี้แพร่กระจายเร็ว และหลบหลีกภูมิคุ้มกันที่เกิดจากการฉีดวัคซีนได้มากกว่าสายพันธุ์เดิมก่อนหน้านี้ แต่โชคดีคนกลุ่มที่ได้รับวัคซีนที่มีประสิทธิภาพดี และได้รับเข็มกระตุ้น จะมีอาการน้อยมาก หายได้เอง และส่วนใหญ่ไม่มีอาการของลองโควิด
เราไม่สามารถพึ่งวัคซีนรุ่นปัจจุบันในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด จำเป็นต้องพึ่งมาตรการส่วนบุคคลโดยเฉพาะหน้ากากอนามัย

ถ้าคนติดเชื้อไม่ใส่หน้ากากอนามัย คนปกติใส่หน้ากาก จะลดการรับเชื้อได้ร้อยละ 30

ถ้าคนติดเชื้อใส่หน้ากากอนามัย คนปกติไม่ได้ใส่หน้ากาก จะลดการรับเชื้อได้ร้อยละ 95

ถ้าทั้งคนติดเชื้อ และคนปกติ ต่างใส่หน้ากากอนามัย จะลดการรับเชื้อได้ร้อยละ 98.5
 
ขณะนี้เป็นเรื่องจำเป็นที่ทุกคนควรใส่หน้ากากอนามัยเวลาอยู่ในที่สาธารณะผู้คนแออัด อากาศปิด ถ่ายเทไม่ดี ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ

ในอนาคตอันใกล้เมื่อเรามีวัคซีนรุ่นใหม่ที่สามารถครอบคลุมไวรัสโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.4, BA.5 เราอาจจะพึ่งวัคซีนรุ่นใหม่ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19”

ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊คแฟนเพจ หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC

https://mgronline.com/goodhealth/detail/9650000064545
 
 ติดตามข่าวโควิดวันนี้ค่ะ

วันนี้หายป่วยมากกว่าป่วยใหม่อีกวันแล้วนะคะ

การใส่หน้กากอนามัยยังจำเป็นในการป้องกันโควิด 

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันเสาร์ที่ 16 กรกฎาคม 2565
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid034fwR4ofYeAEQdWrspvELMTPHKW9qhoX4T4YZBJjx1ssB67CkEKon6N2PVvqwn9vel


จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. 2564 - 15 ก.ค. 2565)
รวม 140,674,938 โดส ใน 77 จังหวัด

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 15 กรกฎาคม 2565
ยอดฉีดทั่วประเทศ 23,699 โดส

เข็มที่ 1 : 1,548 ราย
เข็มที่ 2 : 2,497 ราย
เข็มที่ 3 : 19,654 ราย

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 57,057,622 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 53,329,863 ราย
จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 30,287,453 ราย

แหล่งข้อมูล : MOPH-IC
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02o7D2oZ2UjvAQxKhNN9TwtohpZCSQ3Wax81HyBrV9bqqzjycm4tsEHEneyyypZBoDl


พร้อมสู้ พร้อมป้องกันโควิด
เว้นระยะห่าง-เพราะโรคทางเดินหายใจ เช่น โควิดแพร่เชื้อเมื่ออยู่ใกล้ชิดกัน
ช่วงนี้มีผู้ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์โอมิครอนมากขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในเด็ก แม้จะไม่มีอาการรุนแรง แต่ก็นำเชื้อมาติดต่อคนในครอบครัวที่อาจมีความเสี่ยง
"การเว้นระยะห่าง" ยังคงเป็นวิธีป้องกันที่สำคัญและได้ผลที่ดี

ที่มา : สสส. (สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ) : ThaiHealth
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0d8HYbCSF3YD4XWE7t9DYA3afukj1gcLndjvjhXyKQ7rrhfzdzuZB8j74t5NmoK9Wl


หยุดยาวนี้เที่ยวเต็มที่แต่อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะ

วันหยุดยาวต่อเนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา อยากให้ทุกคนเตรียมการล่วงหน้า ศึกษาเส้นทางที่จะใช้ เตรียมยาให้พร้อมเมื่อมีอาการป่วย

สำหรับผู้ที่ทำหน้าที่ขับรถ ควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนเดินทาง งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คาดเข็มขัดนิรภัย/สวมหมวกกันน็อคทุกครั้งที่ขับขี่

อย่าลืมสังเกตอาการตนเองก่อนเดินทาง หากป่วย มีไข้ ไอ เจ็บคอ ให้ตรวจ ATK

ทั้งนี้ ขอให้ใช้มาตรการ 2U คือ Universal Prevention มาตรการป้องกันโรคส่วนบุคคล เว้นระยะห่าง ล้างมือ หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด สวมหน้ากากตลอดเวลา ตรวจ ATK ทันที เมื่อมีอาการป่วย และ Universal Vaccination ฉีดวัคซีนโควิด 19  ให้ครบ 3 เข็ม และฉีดเข็มกระตุ้นทุก 4 เดือน เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดอาการป่วยรุนแรงและลดการเสียชีวิต

ที่มา : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02fb2Ht6ccqKYkxh2P5gwCiwv5WT48UArMbadMvFLq91cjom7mn2PEHk3stboAWmDol


กรมอนามัยย้ำ ‘วัด–ศาสนสถาน’
คุมเข้มความสะอาด 7 จุดเสี่ยง สัมผัสร่วมบ่อยในส้วม

นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ช่วงวันหยุดยาวประชาชนนิยมท่องเที่ยวและไปทำบุญที่วัดและศาสนสถานต่าง ๆ ขอความร่วมมือให้เจ้าหน้าที่ของวัดและศาสนสถานทุกแห่ง ร่วมกันล้างส้วมสาธารณะให้สะอาดเพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้บริการ โดยเน้นการทำความสะอาดบริเวณผิวสัมผัสร่วม 7 จุดเสี่ยง ได้แก่ สายฉีดชำระ ที่กดโถส้วม โถปัสสาวะ ลูกบิดหรือกลอนประตู ที่รองนั่งโถส้วม พื้นห้องส้วม และที่เปิดก๊อก เพื่อเป็นการสร้างสุขอนามัยที่ดี และลดความเสี่ยงโรคโควิด-19 ส่วนผู้ใช้บริการต้องช่วยกันรักษาความสะอาด และมีพฤติกรรมในการใช้ส้วมอย่างถูกต้องโดยปิดฝาโถส้วมก่อนกดชักโครกทุกครั้ง เพื่อป้องกันการฟุ้งกระจายของเชื้อโรค เว้นระยะห่างขณะรอใช้ส้วม 1-2 เมตร ไม่ขึ้นไปเหยียบบนโถส้วมแบบนั่งราบเช็ดฆ่าเชื้อก่อนนั่งลงบนโถส้วม ไม่ทิ้งวัสดุใด ๆ ลงในโถส้วม และล้างมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาดอย่างน้อย 20 วินาที ทุกครั้งหลังใช้ส้วม เป็นการสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับตนเองป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรคไปยังส่วนรวมด้วยนอกจากนี้ ขอให้ประชาชนเฝ้าระวังและป้องกันตนเองตามหลัก UP–DMHTA โดยเน้นย้ำการสวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือ เพื่อป้องกันโรค

ที่มา : กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02gHdcdCYMx8uUcV4YPtfD2tN2XH3MQBH9LG4HHjANez1aMKxQN5YvzyWpNRFxVH6l


กลุ่ม 608 เข้าวัดทำบุญ
สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือบ่อยๆ เพื่อความปลอดภัย

608 คือกลุ่มเปราะบางโควิด ได้แก่
● กลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
● กลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคอ้วน โรคมะเร็ง และโรคเบาหวาน
● กลุ่มหญิงตั้งครรภ์

หากมีความเสี่ยง ให้ตรวจคัดกรองด้วย ATK และเข้ารับวัคซีนตามเกณฑ์ที่กำหนด

ที่มา : กรุงเทพมหานคร โดยสำนักงานประชาสัมพันธ์
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02hQJSuUBMnJ88ZVvVD7zzGJtwb8nUZuJ9uP9XBdrkgGiPW3ysp9ashCgF8joKuFJTl


สธ. เตือนแนวโน้มสถานการณ์โควิดกำลังเพิ่มขึ้น
- ทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด
- ผู้ติดเชื้อโควิดร่วมรับผิดชอบสังคม กักตัวอย่างน้อย 10 วัน
ลดการแพร่เชื้อและการเกิดโรคระลอกใหม่

นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ หัวหน้าที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้แนวโน้มสถานการณ์โรคโควิด 19 กำลังเพิ่มขึ้น สิ่งสำคัญคือทุกคนต้องช่วยกันเข้มมาตรการป้องกันโรค เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่เชื้อและรับเชื้อ จะช่วยให้การติดเชื้อลดลงและไม่เกิดเป็นระลอกใหญ่ขึ้นมาอีก โดยเฉพาะขอความร่วมมือผู้ที่ติดเชื้อโควิดแล้ว ทั้งที่เข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยนอกและแยกกักตนเองที่บ้าน หรือ เจอ แจก จบ ซึ่งจะได้รับยากลับมารับประทานที่บ้าน หรือโทรศัพท์เข้าระบบเพื่อให้จัดส่งยามาที่บ้าน หรือผู้ที่เข้ารักษาในโรงพยาบาลแล้วให้กลับมาบ้านก่อนครบ 10 วัน ขอย้ำว่า ให้กักตัวเองอย่างน้อย 10 วัน หากมีความจำเป็นจริงๆ ต้องออกจากบ้าน เช่น การเดินทางไปโรงพยาบาลให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างเคร่งครัดจนครบ 10 วันนับจากวันที่เริ่มมีอาการ เนื่องจากขณะนี้พบว่า ผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่งไม่ได้กักตัวจนครบตามกำหนด แต่ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านตามปกติ ทำให้เกิดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อต่อได้ ส่งผลให้เกิดการระบาดโควิด 19 อย่างต่อเนื่องเป็นวงกว้าง และแพร่เชื้อไปยังกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว

ที่มา : กระทรวงสาธารณสุข
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid02XKot8nqZ9ZHurp2hDy2cnSHHgbUbi5soupv2Lq6YYdjPNJpNXCpUAMZTg9Hx7pEwl


สปสช. ยัน !! ไม่ได้ยกเลิกระบบ Home Isolation
ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแพทย์ หากแพทย์เห็นควรพร้อมจ่ายค่าบริการให้เหมือนเดิม

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า หลังจากที่ สปสช. ประกาศปรับหลักเกณฑ์แนวทางการจ่ายชดเชยบริการโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมา ปรากฎว่ามีประชาชนจำนวนหนึ่งเกิดความเข้าใจผิดว่า สปสช. จะไม่จ่ายค่าบริการ หรือ จะยกเลิกบริการที่เกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิด การปรับหลักเกณฑ์แนวทางการจ่ายชดเชยบริการโควิด-19 ไม่ใช่การยกเลิกบริการ สปสช. ขอยืนยันว่าประชาชนจะยังได้รับการดูแลที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 เช่นเดิมสาระสำคัญของการปรับหลักเกณฑ์ฯ ดังกล่าว เป็นเพียงการเปลี่ยนแหล่งที่มาของงบประมาณที่ใช้เพื่อดูแลเกี่ยวกับโควิด-19 เท่านั้น จากเดิมที่ใช้เงินจาก พ.ร.ก. กู้เงิน มาเป็นการใช้เงินจากแหล่งงบประมาณตามระบบปกติ เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับโรคโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่น กล่าวคือ หากผู้ป่วยใช้สิทธิบัตรทอง โรงพยาบาลหรือหน่วยบริการที่ให้บริการเกี่ยวกับโควิด-19 ก็จะเบิกเงินตามระบบปกติของ สปสช. เหมือนโรคอื่นๆ หากเป็นผู้ป่วยในก็คือการจ่ายแบบ DRG หากเป็นผู้ป่วยนอกก็จะจ่ายแบบเหมาจ่ายรายหัว ส่วนโรงพยาบาลเอกชนที่ไม่ได้อยู่ในระบบบัตรทองก็จะสามารถเข้าไปรับบริการได้ในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นกระบวนการเบิกจ่ายเงินระหว่าง สปสช. และหน่วยบริการ ไม่เกี่ยวกับการให้บริการประชาชนแต่อย่างใด

ที่มา : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
https://web.facebook.com/informationcovid19/posts/pfbid0tWRYA2WGjgULME45vtb7S7ZYKrQZK5NdLLj7S3MXHdrHcgB5bMNC2uECJ7BRKX7sl


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กทม.เปิดจองฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งในและนอกสถานพยาบาลมากกว่า 100 แห่ง ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

● เปิดจองฉีดวัคซีนผ่านแอป QueQ ด้วยวิธีง่ายๆแค่ 7 ขั้นตอน สามารถเลือกสถานที่ฉีด และวันเวลาได้
● และที่ศูนย์ฉีดวัคซีน อาคารกีฬาเวสน์ 1 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น )เขตดินแดง ก็เปิดรับ Walk In ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 16.00 น.

โดยให้บริการฉีดวัคซีนตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด หรือตามที่ได้รับการจัดสรร

เน้นย้ำว่า ขอให้มาตรงกับวันเวลาที่นัดหมาย เตรียมบัตรประชาชน/Passport ปากกาส่วนตัว  พร้อมหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 มาด้วยนะคะ

สำหรับผู้ที่ต้องการเยียวยาเกี่ยวกับการแพ้วัคซีนโควิด-19 สามารถยื่นคำร้องได้ที่ สปสช. เขต 13 หรือสอบถามได้ที่ 1330
https://web.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid035ZhpWsQih7QYakSYLzXMDbXjjiyo6fc4uqn8iCgDKnpJCzmeFmJMYoTScF3zVFyVl&id=100068069971811


เมื่อไหร่ที่ต้องสวมแมสก์
https://web.facebook.com/fanmoph/posts/pfbid037azjeXzfm2cN9V3VibGwddq77w8xNz23AW4YL5eZv5HuZwVVrP4JbpHUePLCk7UBl
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่