JJNY : 5in1 สินค้าแห่ปรับราคา│ร้านอาหารจ่อขึ้น│'แพทย์ชนบท'แฉกัญชาเสรี│‘ชูศักดิ์’ชี้หาร500ขัดรธน.│รร.ลำปางพบติดโควิดพุ่ง

เดือดร้อนถ้วนหน้า! สินค้าแห่ปรับราคาสูงลิ่ว
https://www.nationtv.tv/news/378878633
 
 
 
กลุ่มแม่ค้าอาหารตามสั่งใน อ.เบตง จ.ยะลา ยังไม่ขึ้นราคาหวั่นลูกค้าไทย ต่างชาติ หายแต่หันมาปรับใช้พริกแห้งผสมพริกสด กระเทียม ผสมเพิ่มเพื่อให้เกิดความเผ็ดถูกใจลูกค้าตามเดิม วอนรัฐเร่งแก้ ไม่อยากให้เป็นการมาซ้ำเติมประชาชน

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจตลาดในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลาซึ่งเป็นอีกอำเภอหนึ่งของจังหวัดยะลาที่ภายหลังเกิดภาวะราคาพริกแห้ง กระเทียม มีราคาสูงขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งบรรดา พ่อค้า แม่ค้า และประชาชน ชาวเบตง ส่วนใหญ่บอกว่าแพงเป็นประวัติการณ์ในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา ที่จากเดิมเคยซื้อพริกแห้งมาประกอบอาหารตามสั่งขายหรือใช้แกงที่บ้าน ในราคาไม่เกินกิโลกรัมละ 150 บาท แต่ปัจจุบันมีราคาพุ่งสูงขึ้น โดยพริกกระเหรี่ยงราคากิโลกรัมละ 200 บาท ส่วนพริกอินเดียกิโลกรัมละ 170 บาท โดยพริกกระเหรี่ยงและพริกอินเดีย พึ่งปรับราคาขึ้นโดยเดือนที่ผ่านมา
 
ขณะที่เปรียบราคาพริกในตลาดส่วนกลาง เช่น พริกขี้หนูสวน 150.00 บาท/กก. พริกยอดสน 60.00 บาท/กก. พริกยำแดง 60.00 บาท/กก. พริกกะเหรี่ยง 140.00 บาท/กก. พริกจินดาแดง 65.00 บาท/กก. พริกจินดาเขียว 57.50 บาท/กก. พริกเหลือง 80.00 บาท/กก. พริกหยวก 50.00 บาท/กก. พริกหวาน 120.00 บาท/กก. พริกไทยอ่อน 120.00 บาท/กก. พริกชี้ฟ้า 60.00 บาท/กก. โดยแม่ค้าร้านอาหารตามสั่ง ตั้งอยู่ในเขตเทศบาล เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ถือว่าราคาพริกแห้ง และกระเทียมมีราคาสูงมากเป็นประวัติการณ์ จากเดิมราคาไม่เกิน 150 บาทต่อกิโลกรัม แต่ปัจจุบันมีราคาสูงกว่า 170 – 200 บาท/กก.ส่วนกระเทียมจัมโบ้ จากเดิมราคากิโลกรัมละ 60 ปรับขึ้นเป็น 70 บาท/กก.กระเทียมหัวเล็กจากเดิมราคากิโลกรัมละ 50บาทปรับขึ้นเป็น 60 – 65 บาท/กก.ส่วนราคากระเทียมไทย ราคากิโลกรัมละ 80-100 ปรับขึ้นเป็น 120 บาท/กก. ซึ่งก็ทำให้พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ที่เป็นร้านอาหารตามสั่งนับสิบแห่ง ต้องได้รับผลกระทบเพราะมีรายจ่ายต้นทุนที่สูงขึ้น แต่ก็ต้องจำใจรักษาลูกค้าไว้ ที่จะปรับราคาขึ้นไม่ได้ ยังต้องขายราคาเดิม และเมนูไหนที่ต้องใช้พริกแห้งก็ต้องหันมาปรับเปลี่ยนใช้พริกสดประกอบอาหารแทน และใช้พริกแห้งมาผสมเพิ่มเพื่อให้เกิดความเผ็ดถูกใจลูกค้าตามเดิม
 
และภายหลังจากการระบาดของโควิด-19 ลดลงและทางรัฐบาลได้มีการยกเลิกมาตรการต่างๆในการควบคุมการระบาดโควิด-19 ก็ทำให้ลูกค้าเพิ่มขึ้น แต่ในพื้นที่อำเภอเบตงเอง ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ทันฟื้นตัวจากผลกระทบทางเศรษฐกิจยังคงมีรายได้น้อยอยู่แล้ว ก็จะเป็นการซ้ำเติมประชาชนที่หาเช้ากินค่ำอีก รวมทั้งปัญหาต่อมาก็คือราคาน้ำมันพืช น้ำปลา เครื่องปรุงชนิดต่างๆที่นำมาใช้ประกอบอาหารปัจจุบันก็เริ่มมีราคาปรับสูงขึ้นตามมาซ้ำอีก จากเดิมขวดละไม่เกิน 55 บาท แต่ปัจจุบันขึ้นราคาสูงไปอยู่ที่ 6 7 บาทต่อขวดอีก จึงอยากให้ภาครัฐที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาในจุดนี้เพิ่มเติมตามมาอีกด้วย
 
ขณะที่ประชาชน รายหนึ่ง กล่าวว่า ภายหลังจากการที่โควิด-19 ระบาดมากว่า 2 ปี ประชาชนส่วนใหญ่ก็หนักพอแล้ว และหากมีการขึ้นราคาข้าวของเครื่องใช้ อาหารบริโภค ตามมาสูงขึ้นอีก ก็เห็นใจพ่อค้า แม่ค้า ที่ต้องซื้อของมาขายที่ต้นทุนแพงขึ้น ตนเองขอบบอกว่าของแพงทุกอย่าง แต่ก็จำเป็นต้องซื้อไปกิน ไปขาย จึงอยากให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาเพื่อเป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมตามที่มีมาตรการหลายๆ มาตรการออกมาในช่วงที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นคนละครึ่ง เราชนะ อะไรต่างๆในลักษณะนี้ให้เพิ่มมากขึ้นตามมา ให้เหมาะสมตามภาวะเศรษฐกิจที่สินค้าเกือบทุกอย่างปรับราคาขึ้นแพงในขณะนี้ตามมาด้วย
 

 
ร้านอาหารจ่อขึ้นราคาหลังแบกต้นทุนหลังแอ่น
https://www.nationtv.tv/news/378878635
 
จากสถานการณ์ราคาน้ำมัน วัตถุดิบประกอบอาหาร ก๊าซหุงต้ม ที่ขึ้นราคาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบอย่างมากกับบรรดาร้านอาหาร บางรายต้องทนแบกรับต้นทุน บางรายเตรียมขึ้นค่าอาหารเพราะแบกรับต้นทุนไม่ไหว
 
จากสถานการณ์ราคาพลังงานและราคาสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต้นทุนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น เช่น เนื้อหมู ไก่ ไข่ ผัก น้ำมันปาล์ม เครื่องปรุงรส รวมถึงก๊าซหุงต้มที่ปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กำลังซื้อของผู้บริโภคยังไม่ฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด-19
 
ด้านสมาคมภัตตาคารไทย ระบุว่า จากสถานการณ์เงินเฟ้อและราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น ประเมินว่าเดือนกรกฎาคมนี้ร้านอาหารน่าจะพิจารณาปรับขึ้นราคาโดยเฉพาะร้านสตรีทฟู้ดริมทาง เนื่องจากแบกรับต้นทุน วัตถุดิบและค่าขนส่งไม่ไหว
 
ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านอาหารพบว่า ขณะนี้ได้รับผลกระทบจากราคาวัตถุดิบปรับตัวขึ้นทุกอย่าง แต่ไม่สามารถขึ้นราคาอาหารได้เพราะเห็นใจลูกค้า แต่จะใช้วิธีลดปริมาณลงเล็กน้อยเพื่อให้ร้านพออยู่ได้ ขณะที่บางร้านบอกว่าหากต้นทุนสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องต่อไปอีก ก็จำเป็นต้องปรับขึ้นราคาบ้าง แต่ยังกังวลว่าหากขึ้นราคาลูกค้าก็จะลดลงไปอีกจากเดิมที่น้อยอยู่แล้ว อยากให้ภาครัฐควบคุมดูแลราคาสินค้าต่างๆไม่ให้สูงขึ้นอีก ต้องลงมาดูแลอย่างใกล้ชิดกว่าที่ผ่านมา
 
ธนาคารโลกระบุว่า อัตราเงินเฟ้อที่สูงถือเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงที่น่ากังวลของเศรษฐกิจไทย ซึ่งกระทบต่อคนที่มีรายได้น้อยและแรงงานที่รับเงินรายวัน นอกจากนั้น ผลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ที่ทำให้ราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ปัญหาความยากจนในประเทศไทยมีความรุนแรงขึ้น ขณะที่การใช้มาตรการในการคุมราคาสินค้าเพื่อชะลอการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อและลดภาระของประชาชนของรัฐบาลนั้นเป็นนโยบายที่ได้ผลในระยะสั้น แต่ไม่ใช่มาตรการที่จะเกิดขึ้นได้ถาวร
 

 
'แพทย์ชนบท' แฉ นโยบายกัญชาเสรี อ้างใช้ทางการแพทย์ หมากเกมนี้เพื่อใคร นายทุนใหญ่ ปลูกเป็นแสน
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_7143848
 
‘แพทย์ชนบท’ แฉ นโยบายกัญชาเสรี อ้างใช้ทางการแพทย์ หมากเกมนี้เพื่อใคร นายทุนใหญ่ ปลูกในโรงเรือนใหญ่เป็นแสนต้น ราชการมีข้อมูล แต่ไม่บอกสังคม
 
ชมรมแพทย์ชนบท โพสต์ข้อความ ตั้งคำถามถึงนโยบายกัญชา ความว่า 
 
อ้างกัญชาทางการแพทย์ หมากเกมหลายชั้นเพื่อใคร????
 
กัญชาสามารถใช้ได้ดีในหลายความเจ็บป่วยของผู้ป่วย ทั้งยาแผนไทยและสารสกัด THC CBD เข้มข้นที่ใช้โดยแพทย์แผนปัจจุบัน ซึ่งก่อนการปลดล็อกเป็นกัญชาเสรี การมีส่วนสกัดหรือกัญชาสดก็มีเพียงพออยู่ กับกัญชาเพื่อการแพทย์
 
ครั้นจะเปิดนโยบายปลูกใช้ขายกัญชาได้โดยเสรี ก็ต้องอ้างกัญชาทางการแพทย์นี่แหละ และบัดนี้พิสูจน์ชัดแล้วว่า กัญชาทางการแพทย์คือเครื่องมือที่ถูกอ้างเป็นเหตุผลเพื่อนโยบายกัญชาเสรี
 
ทำไมต้องเปิดนโยบายกัญชาเสรี จากเดิมแค่ปลูกกัญชาคนละ 6 ต้น แต่นั่นคือเกมอ้างให้ทุกคนปลูกได้ แต่แท้จริงเพื่อให้นายทุนใหญ่ปลูก บัดนี้มีคนปลูกกัญชาเป็นฟาร์ม เป็นโรงเรือนใหญ่ ปลูกเป็นหมื่นแสนล้านต้น ตุนเป็นกระสุนทุนร่ำรวยจากนโยบายนี้ ราชการก็มีข้อมูล แต่ไม่ยอมบอกกับสังคม
 
หมากเกมนี้ชัดเจนแล้วว่า อ้างกัญชาทางการแพทย์ เพื่อให้ขาวบ้านได้ปลูกกันบ้านละ 6 ต้น ชาวบ้านดีใจได้ปลูก 6 ต้น แต่แท้จริงก็เป็นการปลดล็อคเพื่อให้คนใหญ่คนมีทุนปลูกกันเป็นฟาร์มต่างหาก กะจะรวยแต่ไม่สนใจผลกระทบต่อสังคม
 
นี่คือกลเกมแห่งกัญชาเสรี ดังนั้น จึงขอเชิญชวนผู้คนในสังคมไทย เรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนนโยบายกัญชาเสรี ให้กัญชากลับเป็นยาเสพติด และให้ใช้สำหรับกัญชาทางการแพทย์เท่านั้น
 
หมายเหตุ : การใช้กัญชาทางการแพทย์ก็สามารถเปิดกว้างสำหรับทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แผนไทย และให้ผู้ป่วยปลูกและใช้ดูแลตนเองก็ได้ เราสามารถวางระบบที่รัดกุมได้
 
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=pfbid02LR3BmY2euCJu9CB4LkfkEJWkA64znGHZJCDJutRY1HaqctzrvGDjKVfXmaCod2S8l&id=142436575783508
 

  
‘ชูศักดิ์’ ชี้สูตรหาปาร์ตี้ลิสต์หาร 500 ขัด รธน. สร้างปัญหา ทำ กม.ลูกสะดุด
https://www.matichon.co.th/politics/news_3435269
  
‘ชูศักดิ์’ ชี้สูตรหาปาร์ตี้ลิสต์หาร 500 ขัด รธน. สร้างปัญหา ทำ กม.ลูกสะดุด
  
เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และพรรคการเมือง กล่าวถึงกรณีที่มีความพยายามผลักดันการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยใช้สูตรหารด้วย 500 ว่า กมธ.เสียงข้างน้อย รวมถึง ส.ว.บางส่วนได้เสนอคำแปรญัตติและสงวนความเห็นไว้ประมาณ 5-6 ญัตติด้วยกัน ซึ่งคงต้องไปพิจารณากันในรัฐสภา เหตุผลที่ กมธ.เสียงข้างมากเห็นว่าต้องหารด้วย 100 นั้น มีหลายเหตุผลคือร่าง พ.ร.บ.ทั้งสี่ร่าง โดยเฉพาะร่างของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ใช้เป็นร่างหลักในการพิจารณา และร่างที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอก็ใช้ 100 หารด้วยกันทั้งสิ้น ไม่มีร่างใดเลยที่ใช้ 500 หาร เป็นหลักการคำนวณสัดส่วนเพื่อหาผู้ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อในระบบคู่ขนานบัตรสองใบ แบบแยกกันนับ ซึ่งรัฐสภาให้ความเห็นชอบในวาระที่ 1 ไปแล้ว จึงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหลักการกลับไปใช้วิธีคำนวณแบบจัดสรรปันส่วนผสมที่ใช้บัตรเลือกตั้งแบบใบเดียวได้
  
นายชูศักดิ์กล่าวต่อว่า สูตรคำนวณโดยใช้ 100 หาร เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ.2564 มาตรา 91 ที่กำหนดวิธีการคำนวณโดยเอาคะแนนที่แต่ละพรรคการเมืองได้รับมารวมกันทั้งประเทศแล้ว แบ่งจำนวนผู้ที่ได้รับเลือกของแต่ละพรรคเป็นสัดส่วนสัมพันธ์กันโดยตรง กับจำนวนคะแนนรวมของพรรคการเมืองทั้งประเทศนั้น ถ้อยคำเช่นนี้เคยใช้มาแล้วในการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2550 โดยรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมปี 2554 และกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ปี 2554 ซึ่งเป็นบัตรสองใบ คือแบบแบ่งเขตและบัญชีรายชื่อ เพียงแต่มีการนำเอา 10 ไปหาร เนื่องจากครั้งแรกแบ่งเป็นกลุ่มจังหวัด มี ส.ส.บัญชีรายชื่อกลุ่มละ 10 คน ต่อมาเอา 125 ไปหาร เพราะแบ่ง ส.ส.เป็นเขต 375 บัญชีรายชื่อ 125 ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้มี ส.ส.เขต 400 คน และบัญชีรายชื่อ 100 คน จึงต้องเอา 100 ไปหาร หากเอา 500 ไปหารจะขัดต่อรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 91 อย่างแน่นอน
 
นายชูศักดิ์กล่าวด้วยว่า เหตุผลที่อ้างว่ารัฐธรรมนูญยังคงมี ส.ส.พึงมีไว้ในมาตรา 93 และ 94 นั้น เป็นบทบัญญัติที่คิดคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อใหม่ เนื่องจากมีการเลือกตั้ง ส.ส.เขตใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องของการใช้บัตรใบเดียวโดยเอาคะแนน ส.ส.เขตมาคำนวณ แต่เมื่อเป็นบัตรเลือกตั้งสองใบ ต้องแยกกันนับ ไม่มีกรณีที่เอาคะแนน ส.ส.เขตมาคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จึงไม่มีกรณี ส.ส.พึงมีตามมาตรา 93 และ 94 แล้ว ซึ่งตนเห็นว่าสิ่งที่ดำเนินการไปนั้น ยืนอยู่บนฐานของรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 91 ในหลักการของร่างแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งทั้ง 4 ร่าง เรื่องการคิดคำนวณคะแนนในระบบคู่ขนานที่เคยใช้มาแล้ว ทั้งการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญ 2540, 2550 และ 2554 โดยลำดับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่