เลขาฯกกต. ชี้ ‘ธนาธร’ ทำได้ชวนลงชิงส.ว. ขู่จับตาเข้มผู้สมัครผิดระเบียบ ย้ำสื่อจัดเวทีได้
https://www.matichon.co.th/politics/news_4555871
‘เลขาฯกกต.’ เผย หลังมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ว.ไม่ห้ามสื่อเสนอข่าว-จัดเวที แนะให้ระวังผิดกม.อื่น ชี้ ผู้สมัคร-ปชช.ดูประวัติผู้สมัคร ผ่านแอพพ์สมาร์ทโหวต-เว็บกกต. ขู่จับตาผู้สมัคร ทำผิดระเบียบ แย้มมีมาตรการป้องกันฮั้วเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 2 พฤษภาคม ที่ทำรัฐบาล นาย
แสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อวิจารณ์รูปแบบของการเลือกตั้ง ส.ว. ว่า รูปแบบการเลือกอยู่ในกฎหมายไม่ใช่ของ กกต.ไปแก้อะไรไม่ได้แน่นอน ส่วนการแนะนำตัว ความจริงมาจากกฎหมาย เราไม่ได้ทำอะไรเกินกฎหมาย โดยกฎหมายให้แนะนำตัว คือการแนะนำตัวกับผู้มีสิทธิเลือกคือผู้สมัคร ส่วน กกต.ตระหนักถึงความสำคัญของประชาชน เพราะสุดท้ายแม้จะไม่ได้เลือกโดยตรงจากประชาชน แต่เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย ดังนั้นประชาชนมีสิทธิติดตาม ตรวจสอบ สังเกตการณ์ตั้งแต่หลังปิดสมัคร โดย กกต.จะนำชื่อผู้สมัคร ส.ว.ทุกคน เผยแพร่ลงในแอพพลิเคชั่น สมาร์ท โหวต และในเว็บไซต์ของสำนักงาน กกต. เพื่อให้ประชาชนทราบรายชื่อ ประวัติ การทำงาน ประสบการณ์ของผู้สมัคร ขณะที่ผู้สมัคร ส.ว.สามารถติดต่อกันได้ทางอีเมล์ หรือแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อแนะนำตัวเอง คิดว่าระบบนี้เพียงพอที่จะทำให้ประชาชนและผู้สมัคร ส.ว. มีข้อมูลในการพิจารณาเลือกผู้สมัครด้วยกันเองได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีบุคคลออกมาเปิดเผยตัว ว่าจะลงเป็นผู้สมัครสามารถทำได้หรือไม่ นาย
แสวงกล่าวว่า ไม่ผิดกฎหมายอะไร การเปิดตัวและการเชิญชวน สามารถทำได้
เมื่อถามกรณีที่ นาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาเชิญชวนให้สมัคร สามารถทำได้หรือไม่ นาย
แสวงกล่าวว่า สามารถทำได้ไม่ว่าใครก็ทำได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงไทม์ไลน์วันสมัครที่ชัดเจน เนื่องจาก กกต.ยังไม่ได้มีการประกาศออกมา เลขาฯกกต.กล่าวว่า กรณีเลือก ส.ว.ไม่เหมือน ส.ส.ที่จะบอกได้ว่าเลือกตั้งวันไหน และภายในกี่วัน แต่ ส.ว.จะเริ่มดำเนินการนับหนึ่งได้เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาประกาศ ตอนนี้ยังไม่ได้โปรดเกล้าฯลงมา หลังจากโปรดเกล้าฯลงมาแล้ว จึงมีกระบวนการชัดเจน รวมเวลาแล้วไม่เกิน 60 วัน
เมื่อถามว่าหากมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ออกมาแล้ว ส.ว.สามารถเผยแพร่ประวัติหรือข้อมูลผ่าน โซเชียล มีเดียได้หรือไม่ นาย
แสวงกล่าวว่า ในระเบียบแนะนำตัวให้สามารถทำผ่านอิเล็กทรอนิกส์หรือโซเชียลมีเดียได้ และให้แนะนำตัวกับผู้สมัครด้วยกันเอง และในวันเลือกตั้ง กกต.จะถ่ายทอดผ่านวงจรปิดทุกที่เพื่อให้ผู้สื่อข่าวและประชาชนได้สังเกตการณ์ ทั้งในระดับอำเภอ จังหวัดประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อปฏิบัติของสื่อ หลังมี พ.ร.ฎ.เลือก ส.ว.การสัมภาษณ์ผู้สมัครไปก่อนหน้านี้ จะต้องลบคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้หรือไม่ เลขาฯกกต.กล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่เห็นอะไรที่ผิดกฎหมาย กกต.ได้ดูพฤติการณ์ทั้งสื่อและกลุ่มคนที่จะสมัครหรืออาจไม่สมัครได้รวบรวมไว้หมดแล้ว แต่ยังไม่เห็นอะไรที่ล่อแหลมจะผิดกฎหมาย สำหรับกรณีของสื่อ ระเบียบการแนะนำตัวออกมาใช้บังคับกับผู้สมัครเท่านั้น ไม่ได้บังคับสื่อ
“
สื่อสามารถรายงานหรือเสนอข่าว หรือวิเคราะห์ข่าว ให้ความเห็น จัดเวทีได้หมด แต่ให้พึงระวังเรื่องของกฎหมายอื่น เพราะอาจไปหมิ่นประมาทผู้สมัครอื่น แต่หากเป็นข้อเท็จจริงสามารถนำเสนอได้ เพราะไม่ได้มีข้อห้ามแต่อย่างใด เราอาจห้ามผู้สมัคร โดยผู้สมัครจะต้องระวังตัวในการแนะนำตัวและปฏิบัติตามคำแนะนำของกกต.”
เมื่อถามว่า กกต.มีกลไกป้องกันการทุจริต หรือฮั้ว ในการเลือก ส.ว.หรือไม่ เลขาฯกกต.กล่าวว่า โดยตัวระบบกฎหมายที่ออกมาป้องกันการฮั้วอยู่แล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าคนจะไม่คิดฮั้ว และจากนี้ไปคือ มาตรการของ กกต. ทั้งนี้ จำนวนผู้สมัครประมาณ 4 แสนคน อาจจะมองดูเยอะ แต่ที่จริงแล้วแบ่งเป็นกลุ่มอาชีพเมื่อเลือกแล้วจะเหลือไม่กี่คนในสาขาอาชีพ โดยมาตรการฮั้ว จะมี 2 รูปแบบ คือแลกคะแนนกัน โดย กกต.จะมีมาตรการจัดการไม่ว่าผู้สมัครจะทำบนดินหรือใต้ดิน และการจัดตั้ง เอาผู้สมัครมาเลือกคนที่จะให้เป็น ส.ว. คือไม่ได้สมัครเพื่อที่จะเป็น ส.ว.แต่จะมาเป็นเสียงเพื่อเลือก ส.ว.ให้ สิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ และ กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ
สภาอุตฯ เชียงใหม่ ค้านขึ้นค่าจ้าง 400 บ. บอกมากไป ทำต้นทุนพุ่ง 10% เอสเอ็มอีไปต่อไม่ได้ แนะทยอยปรับตามทักษะฝีมือ
https://www.matichon.co.th/region/news_4555693
สภาอุตฯ เชียงใหม่ ค้านขึ้นค่าจ้าง 400 บ. บอกมากไป ทำต้นทุนพุ่ง 10% เอสเอ็มอีไปต่อไม่ได้ แนะทยอยปรับตามทักษะฝีมือ วอนหามาตรการชดเชยเยียวยา ขอเจรจา ต่อรองไตรภาคี ก่อนประกาศเป็นทางการ
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นาย
จักริน วังวิวัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ เผยกระทรวงแรงงาน เลื่อนปรับค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท ทั่วประเทศ จากวันที่ 1 พ.ค. เป็น 1 ต.ค.67 ว่า ไม่เห็นด้วย เพราะไม่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่มีมูลค่าลงทุนไม่สูงมากนัก โดยปัจจุบันเชียงใหม่ มีค่าแรงขั้นต่ำ 352 บาท/วัน ถ้าปรับค่าแรง เป็นวันละ 400 บาท ส่งผลให้ต้นทุนผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น 10% และต้องจ่ายค่าประกันสังคมสมทบมากขึ้น ประกอบกับราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต ทำให้ค่าครองชีพของพนักงาน หรือลูกจ้างสูงตามไปด้วย
ปัจจุบันผู้ประกอบการ ได้ปรับค่าจ้าง สำหรับแรงงานทักษะฝีมือ มากกว่า 400 บาท/วันอยู่แล้ว อาทิ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบสื่อสาร อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปที่เพิ่มมูลค่าส่งออก ถ้าปรับ ค่าจ้างแรงงานทั่วไป เป็นวันละ 400 บาท เชื่อว่าธุรกิจเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบมากที่สุด อาจถึงขั้นหยุดกิจการชั่วคราว หรือปิดกิจการ เนื่องจากแบกรับต้นทุนไม่ไหวเพราะขาดสภาพคล่อง
นาย
จักรินกล่าวว่า หากรัฐบาลต้องการปรับค่าจ้าง ควรทยอยปรับเป็นรอบๆ เช่น เชียงใหม่ ค่าจ้างวันละ 352 บาท ปรับเป็น 355-360 บาท พร้อมหามาตรการชดเชยหรือเยียวยาผู้ประกอบการ อาทิ ลดค่าสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ลดภาษีนิติบุคคล และจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเสริมสภาพคล่องดังกล่าว เพื่อทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีขับเคลื่อนไปได้ ที่สำคัญรัฐต้องควบคุมค่าจ้างแรงงานในระบบ กับนอกระบบ หรือแรงงานต่างด้าว ที่ไม่มีทักษะฝีมืออย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่ได้ค่าจ้างเท่ากับแรงงานที่อยู่ในระบบ และเสียภาษีให้ประเทศด้วย
“
รัฐบาลต้องควบคุมการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนจีน ที่เข้ามาตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบสื่อสารในประเทศ ที่มีราคาถูก เพราะต้นทุนต่ำกว่า แต่ไม่มีเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือ มอก.รับรอง ทำให้ผู้บริโภคหรือลูกค้ารับความเสี่ยงใช้ผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพและมาตรฐานมากขึ้น ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ต้องส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ให้มีศักยภาพสามารถแข่งขันกับเพื่อนบ้าน ทั้งคุณภาพมาตรฐาน และราคาที่จับต้องได้”
นาย
จักรินกล่าวว่า สุดท้าย การปรับค่าจ้าง ต้องดูความพร้อมเศรษฐกิจ และศักยภาพแข่งขันกับต่างชาติ
ในเวทีโลก ว่ามีความแข็งแกร่ง หรือยืดหยุ่นได้มากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญต้องพูดคุยและเจรจาในไตรภาคี ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล ก่อนประกาศเป็นทางการว่าค่าจ้างขั้นต่ำควรอยู่ในระดับใดที่เหมาะสม ไม่กระทบเศรษฐกิจในวงกว้างมากเกินไป เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไปข้างหน้าพร้อมกัน และเติบโตอย่างมั่นคงด้วย
ฟิลิปปินส์ขยายเวลาปิดเรียนในกรุงมะนิลา เหตุสภาพอากาศยังร้อนจัด
https://www.dailynews.co.th/news/3394231/
โรงเรียนในเมืองหลวงของฟิลิปปินส์จำเป็นต้องปิดต่ออีกอย่างน้อยสองวัน เนื่องจากสภาพอากาศที่ยังคงร้อนจัด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ว่านาง
ฮันนี ลากูนา นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา ลงนามในคำสั่ง ขยายระยะเวลาการปิดโรงเรียนทุกระดับในพื้นที่ออกไปอีกอย่างน้อยสองวัน คือระหว่างวันพฤหัสบดี จนถึงวันศุกร์ที่ 3 พ.ค. นี้ “
เนื่องจากแนวโน้มสภาพอากาศที่ร้อนจัดจนเป็นอันตราย”
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการฟิลิปปินส์สั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ระหว่างวันที่ 29-30 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่วนวันพุธที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันแรงงาน ถือเป็นวันหยุดสำหรับโรงเรียนในฟิลิปปินส์ด้วย
ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติฟิลิปปินส์คาดการณ์ ดัชนีความร้อนในประเทศมีแนวโน้มสูงถึง 47 องศาเซลเซียส ในวันพฤหัสบดีที่ 2 พ.ค. หลังทำสถิติสูงถึง 53 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา
ด้านประธานาธิบดี
เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์ แสดงความวิตกกังวล เกี่ยวกับการใช้กระแสไฟฟาในประเทศ ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วย.
ฝนตกหนักถล่มซาอุฯ ทำน้ำท่วมถนนหลายสาย-ทางการสั่งปิดโรงเรียน
https://www.dailynews.co.th/news/3394205/
ทางการซาอุดีอาระเบีย สั่งปิดโรงเรียนในหลายภูมิภาค เนื่องจากถนนหลายสายถูกน้ำท่วมฉับพลัน นับเป็นเหตุการณ์ฝนตกหนักครั้งล่าสุดที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประเทศ
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ว่า คลิปวิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์ เผยให้เห็นรถยนต์ที่จมน้ำบางส่วน พยายามขับฝ่าน้ำท่วมในตอนกลางของภูมิภาคอัล-กอซิม ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในชั่วข้ามคืน
“ฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลา 7 ชั่วโมง ตั้งแต่ช่วงบ่าย จนถึงเกือบเที่ยงคืน” นายโมฮัมเหม็ด ชาวอียิปต์ในเมืองบูเรดาห์ เมืองเอกของจังหวัดอัล-กอซิม กล่าวเพิ่มเติมว่า ชาวเมืองไม่สามารถออกไปที่ถนนได้ เนื่องจากน้ำท่วมสูงกว่า 10 เซนติเมตร
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย ประกาศเตือนภัยระดับสีแดง ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ในจังหวัดอัล-กอซิม และพื้นที่อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดทางตะวันออกของประเทศ, กรุงริยาด และจังหวัดเมดินาที่ติดกับทะเลแดง โดยระบุว่าจะมีฝนตกหนัก, ลมกระโชกแรง, ทัศนวิสัยไม่ชัดเจน, ลูกเห็บ และฟ้าผ่า
ขณะเดียวกัน โรงเรียนหลายแห่งในจังหวัดทางตะวันออก และกรุงริยาด ต่างยกเลิกการเรียนการสอนในชั้นเรียน และเปลี่ยนจัดการเรียนทางออนไลน์แทน
อนึ่ง พายุฝนและอุทกภัย คือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำในซาอุดีอาระเบีย โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว อีกทั้งเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น ก็ประสบปัญหาเรื่องการระบายน้ำท่วมขังด้วย
เหตุฝนตกหนักที่ซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์นี้ เกิดขึ้นหลังฝนตกหนัก ถล่มหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ในช่วงกลางเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในโอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อย่างน้อย 21 ราย และ 4 ราย ตามลำดับ ซึ่งกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ภาวะโลกร้อนมีส่วนอย่างมาก ที่ทำให้เหตุการณ์ฝนตกเหล่านี้รุนแรงยิ่งขึ้น.
JJNY : ชี้ ‘ธนาธร’ทำได้│สภาอุตฯเชียงใหม่ค้านขึ้นค่าจ้าง│ฟิลิปปินส์ขยายเวลาปิดเรียน│ฝนตกหนักถล่มซาอุฯ│สหรัฐกล่าวหารัสเซีย
https://www.matichon.co.th/politics/news_4555871
‘เลขาฯกกต.’ เผย หลังมี พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ส.ว.ไม่ห้ามสื่อเสนอข่าว-จัดเวที แนะให้ระวังผิดกม.อื่น ชี้ ผู้สมัคร-ปชช.ดูประวัติผู้สมัคร ผ่านแอพพ์สมาร์ทโหวต-เว็บกกต. ขู่จับตาผู้สมัคร ทำผิดระเบียบ แย้มมีมาตรการป้องกันฮั้วเลือกตั้ง
เมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 2 พฤษภาคม ที่ทำรัฐบาล นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อวิจารณ์รูปแบบของการเลือกตั้ง ส.ว. ว่า รูปแบบการเลือกอยู่ในกฎหมายไม่ใช่ของ กกต.ไปแก้อะไรไม่ได้แน่นอน ส่วนการแนะนำตัว ความจริงมาจากกฎหมาย เราไม่ได้ทำอะไรเกินกฎหมาย โดยกฎหมายให้แนะนำตัว คือการแนะนำตัวกับผู้มีสิทธิเลือกคือผู้สมัคร ส่วน กกต.ตระหนักถึงความสำคัญของประชาชน เพราะสุดท้ายแม้จะไม่ได้เลือกโดยตรงจากประชาชน แต่เป็นตัวแทนปวงชนชาวไทย ดังนั้นประชาชนมีสิทธิติดตาม ตรวจสอบ สังเกตการณ์ตั้งแต่หลังปิดสมัคร โดย กกต.จะนำชื่อผู้สมัคร ส.ว.ทุกคน เผยแพร่ลงในแอพพลิเคชั่น สมาร์ท โหวต และในเว็บไซต์ของสำนักงาน กกต. เพื่อให้ประชาชนทราบรายชื่อ ประวัติ การทำงาน ประสบการณ์ของผู้สมัคร ขณะที่ผู้สมัคร ส.ว.สามารถติดต่อกันได้ทางอีเมล์ หรือแอพพลิเคชั่นไลน์ เพื่อแนะนำตัวเอง คิดว่าระบบนี้เพียงพอที่จะทำให้ประชาชนและผู้สมัคร ส.ว. มีข้อมูลในการพิจารณาเลือกผู้สมัครด้วยกันเองได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าขณะนี้มีบุคคลออกมาเปิดเผยตัว ว่าจะลงเป็นผู้สมัครสามารถทำได้หรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า ไม่ผิดกฎหมายอะไร การเปิดตัวและการเชิญชวน สามารถทำได้
เมื่อถามกรณีที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ออกมาเชิญชวนให้สมัคร สามารถทำได้หรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า สามารถทำได้ไม่ว่าใครก็ทำได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงไทม์ไลน์วันสมัครที่ชัดเจน เนื่องจาก กกต.ยังไม่ได้มีการประกาศออกมา เลขาฯกกต.กล่าวว่า กรณีเลือก ส.ว.ไม่เหมือน ส.ส.ที่จะบอกได้ว่าเลือกตั้งวันไหน และภายในกี่วัน แต่ ส.ว.จะเริ่มดำเนินการนับหนึ่งได้เมื่อมีพระราชกฤษฎีกาประกาศ ตอนนี้ยังไม่ได้โปรดเกล้าฯลงมา หลังจากโปรดเกล้าฯลงมาแล้ว จึงมีกระบวนการชัดเจน รวมเวลาแล้วไม่เกิน 60 วัน
เมื่อถามว่าหากมีพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ออกมาแล้ว ส.ว.สามารถเผยแพร่ประวัติหรือข้อมูลผ่าน โซเชียล มีเดียได้หรือไม่ นายแสวงกล่าวว่า ในระเบียบแนะนำตัวให้สามารถทำผ่านอิเล็กทรอนิกส์หรือโซเชียลมีเดียได้ และให้แนะนำตัวกับผู้สมัครด้วยกันเอง และในวันเลือกตั้ง กกต.จะถ่ายทอดผ่านวงจรปิดทุกที่เพื่อให้ผู้สื่อข่าวและประชาชนได้สังเกตการณ์ ทั้งในระดับอำเภอ จังหวัดประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ข้อปฏิบัติของสื่อ หลังมี พ.ร.ฎ.เลือก ส.ว.การสัมภาษณ์ผู้สมัครไปก่อนหน้านี้ จะต้องลบคลิปวิดีโอที่มีการเผยแพร่ไปก่อนหน้านี้หรือไม่ เลขาฯกกต.กล่าวว่า ที่ผ่านมายังไม่เห็นอะไรที่ผิดกฎหมาย กกต.ได้ดูพฤติการณ์ทั้งสื่อและกลุ่มคนที่จะสมัครหรืออาจไม่สมัครได้รวบรวมไว้หมดแล้ว แต่ยังไม่เห็นอะไรที่ล่อแหลมจะผิดกฎหมาย สำหรับกรณีของสื่อ ระเบียบการแนะนำตัวออกมาใช้บังคับกับผู้สมัครเท่านั้น ไม่ได้บังคับสื่อ
“สื่อสามารถรายงานหรือเสนอข่าว หรือวิเคราะห์ข่าว ให้ความเห็น จัดเวทีได้หมด แต่ให้พึงระวังเรื่องของกฎหมายอื่น เพราะอาจไปหมิ่นประมาทผู้สมัครอื่น แต่หากเป็นข้อเท็จจริงสามารถนำเสนอได้ เพราะไม่ได้มีข้อห้ามแต่อย่างใด เราอาจห้ามผู้สมัคร โดยผู้สมัครจะต้องระวังตัวในการแนะนำตัวและปฏิบัติตามคำแนะนำของกกต.”
เมื่อถามว่า กกต.มีกลไกป้องกันการทุจริต หรือฮั้ว ในการเลือก ส.ว.หรือไม่ เลขาฯกกต.กล่าวว่า โดยตัวระบบกฎหมายที่ออกมาป้องกันการฮั้วอยู่แล้ว แต่ไม่ได้บอกว่าคนจะไม่คิดฮั้ว และจากนี้ไปคือ มาตรการของ กกต. ทั้งนี้ จำนวนผู้สมัครประมาณ 4 แสนคน อาจจะมองดูเยอะ แต่ที่จริงแล้วแบ่งเป็นกลุ่มอาชีพเมื่อเลือกแล้วจะเหลือไม่กี่คนในสาขาอาชีพ โดยมาตรการฮั้ว จะมี 2 รูปแบบ คือแลกคะแนนกัน โดย กกต.จะมีมาตรการจัดการไม่ว่าผู้สมัครจะทำบนดินหรือใต้ดิน และการจัดตั้ง เอาผู้สมัครมาเลือกคนที่จะให้เป็น ส.ว. คือไม่ได้สมัครเพื่อที่จะเป็น ส.ว.แต่จะมาเป็นเสียงเพื่อเลือก ส.ว.ให้ สิ่งเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้ และ กกต.ไม่ได้นิ่งนอนใจ
สภาอุตฯ เชียงใหม่ ค้านขึ้นค่าจ้าง 400 บ. บอกมากไป ทำต้นทุนพุ่ง 10% เอสเอ็มอีไปต่อไม่ได้ แนะทยอยปรับตามทักษะฝีมือ
https://www.matichon.co.th/region/news_4555693
สภาอุตฯ เชียงใหม่ ค้านขึ้นค่าจ้าง 400 บ. บอกมากไป ทำต้นทุนพุ่ง 10% เอสเอ็มอีไปต่อไม่ได้ แนะทยอยปรับตามทักษะฝีมือ วอนหามาตรการชดเชยเยียวยา ขอเจรจา ต่อรองไตรภาคี ก่อนประกาศเป็นทางการ
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม นายจักริน วังวิวัฒน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดเชียงใหม่ เผยกระทรวงแรงงาน เลื่อนปรับค่าแรงขั้นต่ำวันละ 400 บาท ทั่วประเทศ จากวันที่ 1 พ.ค. เป็น 1 ต.ค.67 ว่า ไม่เห็นด้วย เพราะไม่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี ที่มีมูลค่าลงทุนไม่สูงมากนัก โดยปัจจุบันเชียงใหม่ มีค่าแรงขั้นต่ำ 352 บาท/วัน ถ้าปรับค่าแรง เป็นวันละ 400 บาท ส่งผลให้ต้นทุนผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น 10% และต้องจ่ายค่าประกันสังคมสมทบมากขึ้น ประกอบกับราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นตามต้นทุนการผลิต ทำให้ค่าครองชีพของพนักงาน หรือลูกจ้างสูงตามไปด้วย
ปัจจุบันผู้ประกอบการ ได้ปรับค่าจ้าง สำหรับแรงงานทักษะฝีมือ มากกว่า 400 บาท/วันอยู่แล้ว อาทิ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบสื่อสาร อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปที่เพิ่มมูลค่าส่งออก ถ้าปรับ ค่าจ้างแรงงานทั่วไป เป็นวันละ 400 บาท เชื่อว่าธุรกิจเอสเอ็มอีได้รับผลกระทบมากที่สุด อาจถึงขั้นหยุดกิจการชั่วคราว หรือปิดกิจการ เนื่องจากแบกรับต้นทุนไม่ไหวเพราะขาดสภาพคล่อง
นายจักรินกล่าวว่า หากรัฐบาลต้องการปรับค่าจ้าง ควรทยอยปรับเป็นรอบๆ เช่น เชียงใหม่ ค่าจ้างวันละ 352 บาท ปรับเป็น 355-360 บาท พร้อมหามาตรการชดเชยหรือเยียวยาผู้ประกอบการ อาทิ ลดค่าสาธารณูปโภค ไฟฟ้า ประปา โทรศัพท์ ลดภาษีนิติบุคคล และจัดหาแหล่งเงินทุนดอกเบี้ยต่ำ เพื่อเสริมสภาพคล่องดังกล่าว เพื่อทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีขับเคลื่อนไปได้ ที่สำคัญรัฐต้องควบคุมค่าจ้างแรงงานในระบบ กับนอกระบบ หรือแรงงานต่างด้าว ที่ไม่มีทักษะฝีมืออย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่ได้ค่าจ้างเท่ากับแรงงานที่อยู่ในระบบ และเสียภาษีให้ประเทศด้วย
“รัฐบาลต้องควบคุมการลงทุนจากต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนจีน ที่เข้ามาตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ระบบสื่อสารในประเทศ ที่มีราคาถูก เพราะต้นทุนต่ำกว่า แต่ไม่มีเครื่องหมายมาตรฐานอุตสาหกรรมหรือ มอก.รับรอง ทำให้ผู้บริโภคหรือลูกค้ารับความเสี่ยงใช้ผลิตภัณฑ์ไม่มีคุณภาพและมาตรฐานมากขึ้น ดังนั้นสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ต้องส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอี ให้มีศักยภาพสามารถแข่งขันกับเพื่อนบ้าน ทั้งคุณภาพมาตรฐาน และราคาที่จับต้องได้”
นายจักรินกล่าวว่า สุดท้าย การปรับค่าจ้าง ต้องดูความพร้อมเศรษฐกิจ และศักยภาพแข่งขันกับต่างชาติ
ในเวทีโลก ว่ามีความแข็งแกร่ง หรือยืดหยุ่นได้มากน้อยแค่ไหน ที่สำคัญต้องพูดคุยและเจรจาในไตรภาคี ทั้งนายจ้าง ลูกจ้าง และรัฐบาล ก่อนประกาศเป็นทางการว่าค่าจ้างขั้นต่ำควรอยู่ในระดับใดที่เหมาะสม ไม่กระทบเศรษฐกิจในวงกว้างมากเกินไป เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศไปข้างหน้าพร้อมกัน และเติบโตอย่างมั่นคงด้วย
ฟิลิปปินส์ขยายเวลาปิดเรียนในกรุงมะนิลา เหตุสภาพอากาศยังร้อนจัด
https://www.dailynews.co.th/news/3394231/
โรงเรียนในเมืองหลวงของฟิลิปปินส์จำเป็นต้องปิดต่ออีกอย่างน้อยสองวัน เนื่องจากสภาพอากาศที่ยังคงร้อนจัด
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ว่านางฮันนี ลากูนา นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา ลงนามในคำสั่ง ขยายระยะเวลาการปิดโรงเรียนทุกระดับในพื้นที่ออกไปอีกอย่างน้อยสองวัน คือระหว่างวันพฤหัสบดี จนถึงวันศุกร์ที่ 3 พ.ค. นี้ “เนื่องจากแนวโน้มสภาพอากาศที่ร้อนจัดจนเป็นอันตราย”
ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการฟิลิปปินส์สั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศ เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัด ระหว่างวันที่ 29-30 เม.ย. ที่ผ่านมา ส่วนวันพุธที่ผ่านมาซึ่งตรงกับวันแรงงาน ถือเป็นวันหยุดสำหรับโรงเรียนในฟิลิปปินส์ด้วย
ขณะที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติฟิลิปปินส์คาดการณ์ ดัชนีความร้อนในประเทศมีแนวโน้มสูงถึง 47 องศาเซลเซียส ในวันพฤหัสบดีที่ 2 พ.ค. หลังทำสถิติสูงถึง 53 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา
ด้านประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ผู้นำฟิลิปปินส์ แสดงความวิตกกังวล เกี่ยวกับการใช้กระแสไฟฟาในประเทศ ซึ่งอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วย.
ฝนตกหนักถล่มซาอุฯ ทำน้ำท่วมถนนหลายสาย-ทางการสั่งปิดโรงเรียน
https://www.dailynews.co.th/news/3394205/
ทางการซาอุดีอาระเบีย สั่งปิดโรงเรียนในหลายภูมิภาค เนื่องจากถนนหลายสายถูกน้ำท่วมฉับพลัน นับเป็นเหตุการณ์ฝนตกหนักครั้งล่าสุดที่ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อประเทศ
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ว่า คลิปวิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์ เผยให้เห็นรถยนต์ที่จมน้ำบางส่วน พยายามขับฝ่าน้ำท่วมในตอนกลางของภูมิภาคอัล-กอซิม ซึ่งเป็นหนึ่งในพื้นที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดในชั่วข้ามคืน
“ฝนตกหนักต่อเนื่องเป็นเวลา 7 ชั่วโมง ตั้งแต่ช่วงบ่าย จนถึงเกือบเที่ยงคืน” นายโมฮัมเหม็ด ชาวอียิปต์ในเมืองบูเรดาห์ เมืองเอกของจังหวัดอัล-กอซิม กล่าวเพิ่มเติมว่า ชาวเมืองไม่สามารถออกไปที่ถนนได้ เนื่องจากน้ำท่วมสูงกว่า 10 เซนติเมตร
ด้านศูนย์อุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย ประกาศเตือนภัยระดับสีแดง ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ในจังหวัดอัล-กอซิม และพื้นที่อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดทางตะวันออกของประเทศ, กรุงริยาด และจังหวัดเมดินาที่ติดกับทะเลแดง โดยระบุว่าจะมีฝนตกหนัก, ลมกระโชกแรง, ทัศนวิสัยไม่ชัดเจน, ลูกเห็บ และฟ้าผ่า
ขณะเดียวกัน โรงเรียนหลายแห่งในจังหวัดทางตะวันออก และกรุงริยาด ต่างยกเลิกการเรียนการสอนในชั้นเรียน และเปลี่ยนจัดการเรียนทางออนไลน์แทน
อนึ่ง พายุฝนและอุทกภัย คือสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำในซาอุดีอาระเบีย โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว อีกทั้งเมืองใหญ่ที่มีประชากรหนาแน่น ก็ประสบปัญหาเรื่องการระบายน้ำท่วมขังด้วย
เหตุฝนตกหนักที่ซาอุดีอาระเบียในสัปดาห์นี้ เกิดขึ้นหลังฝนตกหนัก ถล่มหลายประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง ในช่วงกลางเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในโอมาน และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อย่างน้อย 21 ราย และ 4 ราย ตามลำดับ ซึ่งกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า ภาวะโลกร้อนมีส่วนอย่างมาก ที่ทำให้เหตุการณ์ฝนตกเหล่านี้รุนแรงยิ่งขึ้น.