โลกโซเชียลมาเลเซียตอนนี้กำลังตื่นตาตื่นใจกับกระแส "มัตกิเลา" (Mat Kilau) หนังประวัติศาสตร์เรื่องล่าสุดของมาเลเซียที่กำลังกวาดรายได้ในโรงอยู่
อันที่จริง นี้ไม่ใช่ครั้งที่บุคคลในประวัติศาสตร์เป็นกระแส เพราะ 18 ปีก่อน "ฮังตูวะห์" (Hang Tuah) ก็ได้เป็นกระแสไวรัลของมาเลเซียไปช่วงหนึ่งใหญ่ๆ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับโซเชียลมาเลเซีย คือ การนำเสนอมัตกิเลาในฐานะ "วีรบุรุษผู้ต่อต้านอังกฤษ" ซึ่งปรากฎน้อยมากในมาเลเซีย
มาเลเซียเป็นไม่กี่ชาติในเอเชียที่แทบไม่เคยทำสงครามอย่างเป็นทางการกับเจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษเหมือนประเทศอื่นๆ เพราะยอมให้เข้ามาเอง
ว่าแต่ใครคือ "มัตกิเลา" นั้น ทำไมถึงเป็นวีรบุรุษท้องถิ่น และทำไมถึงเป็นไวรัลในโซเชียลมาเลเซียได้ เราปูเรื่องราวจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาหลายปีก่อน
มัตกิเลา หรือชื่อเต็มคือ มัตกิเลา บิน อิหม่ามราซุ เกิดในช่วงปี 1866-67 เป็นบุตรชายของอิหม่ามราซุ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ โต๊ะกายะห์ (หรือโต๊ะช้าง)
โต๊ะกายะห์ (หรือโต๊ะช้าง) นอกจากจะเป็นครูสอนศาสนาแล้ว เขายังเป็นนักรบข้างกายของตุนอะหมัด หรือต่อมาก็คือ สุลต่านอะหมัดแห่งปะหัง อีกด้วย
ว่ากันว่า สาเหตุที่อิหม่ามราซุได้รับฉายาว่า โต๊ะช้าง นั้น เพราะเชื่อกันว่า โต๊ะกายะห์ มีพละกำลังที่มหาศาลจนสามารถยกบ้านหลังหนึ่งได้เลยทีเดียว
แน่นอนว่า ในฐานะที่เกิดในครอบครัวของโต๊ะช้าง มัตกิเลา จึงมีความสามารถในการอ่าน ท่องจำ และร่ายกุรอาน (อนาชีด) รวมถึงสามารถสิกิร์ได้ด้วย
ชีวิตเขาก็เหมือนชาวมลายูทั่วไปในเวลานั้น เรียนศาสนา เรียนการต่อสู้ วิชาทางศาสนาต่างๆ และมีครอบครัวกับลูกสาวอิหม่ามอีกคนเมื่อเติบโตขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ด้วยการกดขี่ของอังกฤษซึ่งครองเมืองปะหังในเวลานั้น ทำให้มัตกิเลาตัดสินใจที่จะปลดปล่อยปะหังออกจากการปกครองของอังกฤษ
มัตกิเลาได้เข้าร่วมก่อกบฏเพื่อต่อต้านอังกฤษพร้อมผู้ติดตามอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งนอกจากเขาแล้ว ยังมีดาโต๊ะบาฮะมันเป็นผู้นำกลุ่มต่อต้านอังกฤษด้วย
น่าเศร้า กลุ่มกบฏต่อต้านอังกฤษไม่ไหว อีกทั้งสุลต่านปะหังเองก็ยังไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออะไรต่อกลุ่มกบฏเลย แถมยังช่วยอังกฤษปราบปรามอีก
สุดท้ายกลุ่มกบฏแตกสลาย ขณะที่ตัวมัตกิเลาก็เชื่อกันว่าเขาตายไปแล้วโดยฝีมืออังกฤษเอง บ้างก็เชื่อว่าเขาหนีไปกลันตันและถูกทหารสยามฆ่าตาย
ถึงกระนั้น เรื่องราวของมัตกิเลา และกลุ่มกบฏ ก็กลายเป็นเรื่องเล่าขานของเหล่าผู้คนในรัฐปะหังมาจนถึงทุกวันนี้ ในฐานะกลุ่มวีรบุรุษผู้ต่อต้านอังกฤษ
หลังจากนั้นหลายสิบปีจนถึงช่วงที่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษแล้ว เรื่องราวของเขาก็ถูกพูดถึงอีกครั้งเมื่อมีชายแก่คนหนึ่งอ้างตัวว่าเป็นมัตกิเลา
โดยชายคนหนึ่งชื่อว่า โมฮัมหมัด บิน อิบราฮีม ตัดสินใจประกาศตัวเอง แต่เพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจของสาธารณชนนัก จึงเลือกประกาศที่มัสยิดใกล้บ้าน
วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 1969 วันที่มุสลิมไปมัสยิดกันเพื่อละหมาดรวม หลังจากละหมาดเสร็จ เขาจึงอ่านกุรอานพร้อมกับประกาศตัวว่า เขาคือมัตกิเลา
การประกาศตัวดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้กับผู้คนมาก จนรัฐบาลปะหังต้องจัดการสืบสวนอย่างเป็นทางการเพื่อพิสูจน์ว่าเขาคือมัตกิเลาจริงหรือไม่
หลังจากที่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันตัวตนจากรัฐบาล ในที่สุด ชายแก่วัยใกล้ 100 ปีตังกล่าว ก็ได้ถูกประกาศยืนยันว่าเป็นมัตกิเลา วีรบุรุษในตำนานจริง
น่าเศร้า หลังจากได้รับกการยืนยันตัวตนและรับรองจากรัฐบาลไปไม่นาน มัตกิเลาก็เสียชีวิตลงในเช้าวันที่ 16 ตุลาคม 1970 ด้วยอายุประมาณ 104 ปี
ศพของเขาถูกนำไปฝังที่กุโบร์มัสยิดใกล้บ้านตามประเพณีอิสลามที่ทำกับชาวมลายูทั่วไป เหลือเป็นเพียงแค่ตำนานเล่าขานในช่วงหนึ่งประวัติศาสตร์
ว่ากันว่า ในช่วงที่เขาหลบซ่อนตัวจากอังกฤษนั้น เขาเคยใช้ชื่อหนึ่งว่า "มัตซียัม" (Mat Siam) ด้วย โดยไม่รู้ว่าจะเกี่ยวอะไรกับสยามหรือประเทศไทย
แต่สำหรับวันนี้ โซเชียลมาเลเซียพูดถึงกันมาก สำหรับเรื่องราววีรบุรุษที่ถูกตีแผ่ลงผ่านหนัง รับบทและแสดงนำโดย ดาโต๊ะ อะดิ ปุตรา (Adi Putra)
ใครที่อยู่ในมาเลเซีย และฟังเข้าใจภาษามลายูได้ ไม่ควรพลาด เพราะกำลังฉายอยู่ในโรงหนัง ว่ากันว่าเป็นไวรัลถึงขั้นมีคนอยากจะเรียนยาวีกันเลย
"มัตกิเลา" (Mat Kilau) ประวัติศาสตร์นอกตำราที่เป็นไวรัลในโซเชียลมาเลเซียตอนนี้
อันที่จริง นี้ไม่ใช่ครั้งที่บุคคลในประวัติศาสตร์เป็นกระแส เพราะ 18 ปีก่อน "ฮังตูวะห์" (Hang Tuah) ก็ได้เป็นกระแสไวรัลของมาเลเซียไปช่วงหนึ่งใหญ่ๆ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับโซเชียลมาเลเซีย คือ การนำเสนอมัตกิเลาในฐานะ "วีรบุรุษผู้ต่อต้านอังกฤษ" ซึ่งปรากฎน้อยมากในมาเลเซีย
มาเลเซียเป็นไม่กี่ชาติในเอเชียที่แทบไม่เคยทำสงครามอย่างเป็นทางการกับเจ้าอาณานิคมอย่างอังกฤษเหมือนประเทศอื่นๆ เพราะยอมให้เข้ามาเอง
ว่าแต่ใครคือ "มัตกิเลา" นั้น ทำไมถึงเป็นวีรบุรุษท้องถิ่น และทำไมถึงเป็นไวรัลในโซเชียลมาเลเซียได้ เราปูเรื่องราวจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้นมาหลายปีก่อน
มัตกิเลา หรือชื่อเต็มคือ มัตกิเลา บิน อิหม่ามราซุ เกิดในช่วงปี 1866-67 เป็นบุตรชายของอิหม่ามราซุ หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อ โต๊ะกายะห์ (หรือโต๊ะช้าง)
โต๊ะกายะห์ (หรือโต๊ะช้าง) นอกจากจะเป็นครูสอนศาสนาแล้ว เขายังเป็นนักรบข้างกายของตุนอะหมัด หรือต่อมาก็คือ สุลต่านอะหมัดแห่งปะหัง อีกด้วย
ว่ากันว่า สาเหตุที่อิหม่ามราซุได้รับฉายาว่า โต๊ะช้าง นั้น เพราะเชื่อกันว่า โต๊ะกายะห์ มีพละกำลังที่มหาศาลจนสามารถยกบ้านหลังหนึ่งได้เลยทีเดียว
แน่นอนว่า ในฐานะที่เกิดในครอบครัวของโต๊ะช้าง มัตกิเลา จึงมีความสามารถในการอ่าน ท่องจำ และร่ายกุรอาน (อนาชีด) รวมถึงสามารถสิกิร์ได้ด้วย
ชีวิตเขาก็เหมือนชาวมลายูทั่วไปในเวลานั้น เรียนศาสนา เรียนการต่อสู้ วิชาทางศาสนาต่างๆ และมีครอบครัวกับลูกสาวอิหม่ามอีกคนเมื่อเติบโตขึ้นมา
อย่างไรก็ตาม ด้วยการกดขี่ของอังกฤษซึ่งครองเมืองปะหังในเวลานั้น ทำให้มัตกิเลาตัดสินใจที่จะปลดปล่อยปะหังออกจากการปกครองของอังกฤษ
มัตกิเลาได้เข้าร่วมก่อกบฏเพื่อต่อต้านอังกฤษพร้อมผู้ติดตามอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งนอกจากเขาแล้ว ยังมีดาโต๊ะบาฮะมันเป็นผู้นำกลุ่มต่อต้านอังกฤษด้วย
น่าเศร้า กลุ่มกบฏต่อต้านอังกฤษไม่ไหว อีกทั้งสุลต่านปะหังเองก็ยังไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออะไรต่อกลุ่มกบฏเลย แถมยังช่วยอังกฤษปราบปรามอีก
สุดท้ายกลุ่มกบฏแตกสลาย ขณะที่ตัวมัตกิเลาก็เชื่อกันว่าเขาตายไปแล้วโดยฝีมืออังกฤษเอง บ้างก็เชื่อว่าเขาหนีไปกลันตันและถูกทหารสยามฆ่าตาย
ถึงกระนั้น เรื่องราวของมัตกิเลา และกลุ่มกบฏ ก็กลายเป็นเรื่องเล่าขานของเหล่าผู้คนในรัฐปะหังมาจนถึงทุกวันนี้ ในฐานะกลุ่มวีรบุรุษผู้ต่อต้านอังกฤษ
หลังจากนั้นหลายสิบปีจนถึงช่วงที่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษแล้ว เรื่องราวของเขาก็ถูกพูดถึงอีกครั้งเมื่อมีชายแก่คนหนึ่งอ้างตัวว่าเป็นมัตกิเลา
โดยชายคนหนึ่งชื่อว่า โมฮัมหมัด บิน อิบราฮีม ตัดสินใจประกาศตัวเอง แต่เพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจของสาธารณชนนัก จึงเลือกประกาศที่มัสยิดใกล้บ้าน
วันศุกร์ที่ 26 ธันวาคม 1969 วันที่มุสลิมไปมัสยิดกันเพื่อละหมาดรวม หลังจากละหมาดเสร็จ เขาจึงอ่านกุรอานพร้อมกับประกาศตัวว่า เขาคือมัตกิเลา
การประกาศตัวดังกล่าวสร้างความตกตะลึงให้กับผู้คนมาก จนรัฐบาลปะหังต้องจัดการสืบสวนอย่างเป็นทางการเพื่อพิสูจน์ว่าเขาคือมัตกิเลาจริงหรือไม่
หลังจากที่ได้รับการพิสูจน์ยืนยันตัวตนจากรัฐบาล ในที่สุด ชายแก่วัยใกล้ 100 ปีตังกล่าว ก็ได้ถูกประกาศยืนยันว่าเป็นมัตกิเลา วีรบุรุษในตำนานจริง
น่าเศร้า หลังจากได้รับกการยืนยันตัวตนและรับรองจากรัฐบาลไปไม่นาน มัตกิเลาก็เสียชีวิตลงในเช้าวันที่ 16 ตุลาคม 1970 ด้วยอายุประมาณ 104 ปี
ศพของเขาถูกนำไปฝังที่กุโบร์มัสยิดใกล้บ้านตามประเพณีอิสลามที่ทำกับชาวมลายูทั่วไป เหลือเป็นเพียงแค่ตำนานเล่าขานในช่วงหนึ่งประวัติศาสตร์
ว่ากันว่า ในช่วงที่เขาหลบซ่อนตัวจากอังกฤษนั้น เขาเคยใช้ชื่อหนึ่งว่า "มัตซียัม" (Mat Siam) ด้วย โดยไม่รู้ว่าจะเกี่ยวอะไรกับสยามหรือประเทศไทย
แต่สำหรับวันนี้ โซเชียลมาเลเซียพูดถึงกันมาก สำหรับเรื่องราววีรบุรุษที่ถูกตีแผ่ลงผ่านหนัง รับบทและแสดงนำโดย ดาโต๊ะ อะดิ ปุตรา (Adi Putra)
ใครที่อยู่ในมาเลเซีย และฟังเข้าใจภาษามลายูได้ ไม่ควรพลาด เพราะกำลังฉายอยู่ในโรงหนัง ว่ากันว่าเป็นไวรัลถึงขั้นมีคนอยากจะเรียนยาวีกันเลย