แม้จะจบไปแล้ว แต่เรื่องราวของซีรีย์แห่งปีของมาเลเซียอย่าง "บิดอะห์" (Bidaah) ยังถูกพูดถึงในสังคมโซเชียลทั้งในมาเลเซียและอินโดนีเซียไม่เสื่อมคลาย เหตุผลเพราะความกล้าตีแผ่เรื่องราวทางศาสนาและวิถีชีวิตทางศาสนาของมาเลเซียอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อาจจะผิดธรรมเนียมเล็กน้อยที่ไม่ใช่หนังศาสนาแบบสยองขวัญอย่างที่หนังอินโดนีเซียในไทยตอนนี้นิยมฉายกัน แต่ถือว่าเป็นซีรีย์ที่น่าสนใจและจับตามองเป็นอย่างมาก

ซีรีย์บิดอะห์ กำกับโดย ปะลี ยะห์ยา (Pali Yahya) มีทั้งหมด 15 ตอน เป็นเรื่องราวของ "ญิฮาดอุมมะห์" ลัทธิประหลาดในคราบศาสนา อันมีเจ้าลัทธินามว่า วาลิด มุฮัมหมัด มะฮ์ดี อิมาน (รับบทโดย ไฟซาล ฮุสเซน) เป็นผู้นำลัทธิ และอ้างว่าจะนำพาทุกคนไปสู่ทางสวรรค์ โดยมีการทำสิ่งที่ขัดแย้งต่อหลักศาสนา เช่น การบังคับแต่งงานกับผู้นำลัทธิ การเชื่อฟังคำสั่งสอนโดยไม่มีข้อโต้แย้ง รวมไปถึงพิธีกรรมต่างๆ ที่ขัดแย้งกับศาสนาอิสลามอย่างชัดเจน โดยจุดกลางของเรื่องอยู่ที่ ไบดูรี (รับบทโดย ริเยนา ไดอาน่า) ซึ่งแม่ของเธอ กัลซัม (รับบทโดย ฟัซลีนา อาหมัด ดาวุด) ดึงเธอเข้าร่วมลัทธินี้ พร้อมๆ กับการมาของฮัมบะลี (รับบทโดย ฟัตตะห์ อามิน) ลูกชายของอะบี ไซฟุลละฮ์ (รับบทโดย ฮัซนุล ระฮ์มัต) สาวกของวาลิด กลับมาจากเยเมน เขาจึงรับรู้ความจริงของลัทธินี้และเผชิญหน้าพร้อมกับไบดูนีในการเปิดโปงลัทธินี้แม้รู้ว่าจะมีอันตรายเข้ามาหาตัวพวกเขา

ซีรีย์บิดอะห์ ได้รับเสียงตอบรับแตกต่างในมาเลเซียและอินโดนีเซีย ผู้ชมบางส่วนบอกว่าทำให้เกิดการตื่นรู้และรับรู้ความจริงต่อศาสนา ขณะที่ผู้ชมบางส่วนบอกว่าอาจจะทำให้ผู้ชมจากต่างประเทศเข้าใจผิดเกี่ยวกับศาสนาอิสลาม โดยได้มีการเรียกร้องให้ตรวจสอบเนื้อหาของซีรีย์ในแต่ละตอนก่อนที่จะออกแพร่เผยด้วย แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทำให้กลายเป็นซีรีย์ไวรัลแห่งปีไปในที่สุด

แม้ไม่มีการยอมรับโดยตรงจากผู้สร้าง แต่เชื่อกันว่านำเค้าโครงเรื่องจริงมาจากอาเยาะห์ปิน (Ayah Pin) หรือ อะริฟฟิน มุฮัมหมัด ผู้นำลัทธิอาณาจักรฟ้า (Kerajaan Langit) ซึ่งอยู่ในรัฐตรังกานู และประกาศตนว่าเป็นทั้งอิหม่ามมะฮ์ดี และผู้นำศาสนาอื่นๆ อีก โดยสิ่งก่อสร้างสำคัญของลัทธิคือกาน้ำชาจนสื่อมาเลเซียตั้งชื่อให้ว่า "ลัทธิกาน้ำชา" ภายหลังในปี 2005 (พ.ศ.2548) อาเยาะห์ปินและสาวกถูกออกหมายจับข้อหาหมิ่นศาสนาอิสลาม สิ่งก่อสร้างของลัทธิถูกทำลาย และอาเยาะห์ปินได้หนีมาทางแถวชายแดนใต้ประเทศไทยแต่ภายหลังก็แอบกลับไปมาเลเซียและเสียชีวิตในปี 2016 (พ.ศ. 2559) ที่รัฐกลันตัน

นอกจากนี้ ซีรีย์เรื่องนี้ ยังทำหน้าที่ตีแผ่การหากินกับศาสนา โดยชาวเน็ตมาเลย์และอินโดมีการพูดถึงเหล่าบรรดานักเทศน์บางคนที่หากินกับศาสนาอย่างผิดหลักธรรมศาสนา และทำให้เกิดการถกเถียงกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการหากินทางศาสนา โดยมุ่งไปที่กลุ่มอุลามะฮ์หรือนักเทศน์บางกลุ่มที่ใช้ศาสนาหากินมากกวาการมุ่งให้ผู้คนเข้าถึงหลักธรรมและปฏิบัติตามหลักศาสนาอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะพื้นที่ชายฝั่งตะวันออก (Pantai Timur) ของมาเลเซีย อันเป็นดินแดนที่ผู้คนเคร่งศาสนากันอย่างมากถึงมากที่สุดในมาเลเซีย โดยเฉพาะรัฐกลันตัน อันเป็นรัฐไกลปืนเที่ยงของมาเลเซียและอยู่ติดกับจังหวัดนราธิวาส ทั้งยังมีความผูกพันกับพื้นที่ชายแดนใต้เป็นพิเศษ

ซีรีย์ฉายตอนแรกในวันที่ 6 มีนาคม และตอนสุดท้ายฉายในวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา ผู้ชม Viu ในเมืองไทยไม่แน่ใจว่าชมได้หรือไม่ แต่ผู้ชมในมาเลเซียและอินโดนีเซียสามารถรับชมได้ในแพลตฟอร์ม Viu