ตั้งใจว่าจะตั้งกระทู้เกี่ยว กระบวนการ Islamization ในมาเลเซียในชื่อกระทุ้ว่า " ฮิญาบ ขบวนการพลังนักศึกษา การฟื้นฟูอิสลามจากอียิปต์ สู่ Islamization ในมาเลเซียตั้งแต่ต้น 1970s และผลกระทบถึงไทย "
แต่เนื่องจากว่าเนื้อหามีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพรรคอิสลามมาเลเซีย ซึ่งเป็นพรรคที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องเกี่ยวกับ Islamization ในมาเลเซียนั้น พรรคนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เพราะก่อตั้งในปี 1951 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง รายละเอียดพัฒนาการของพรรคนี้จึงมีมาก
ประจวบกับวันนี้ เห็นข่าวพรรคประชาชาติ ฟ้องหมิ่นประมาท ‘ผู้กองปูเค็ม ’ร.อ. ทรงกลด ชื่นชูผล ที่โพส ข้อความในเฟสบุ๊ค พาดพิง ถึงพรรคปาส หรือ พรรคอิสลามมาเลเซีย อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุรุนแรงในจังหวัดภาคใต้มาตลอด 15 ปี
ผมคิดว่า คนไทยที่ไม่ได้อยู่ติดกับชายแดนมาเลเซีย น้อยคนนักที่จะรู้จักว่าพรรคปาส นั้น มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร จึงอยากนำ จุดกำเนิดของพรรคปาส และ อุดมการณ์ ก่อตั้ง "รัฐอิสลาม" ของพรรคนี้
ในเรื่องเกี่ยวกับพรรคนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การก่อการร้ายนั้น ก็ขอท้าวความไปหน่อยว่า
-ปี 1999 เลือกตั้ง พรรคปาส ชนะเป็นฝ่ายค้านอันดับหนึ่ง ทิ้งพรรคคนจีน DAP ไปเป็นอันดับสอง
-พรรคอัมโน เริ่มปราบปรามเครือข่ายมุสลิมก่อการร้าย ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลมาเลเซีย และเปลี่ยนมาเลเซียเป็นรัฐอิสลาม สื่อบางสำนักตีพิมพ์ว่าพรรคปาสมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้
-การโจมตีสหรัฐอเมริกาเมื่อ 11 กันยายน 2001 นั้น ได้พลิกชะตาการเมืองจากชนะเลือกตั้ง จากดีกลายเป็นร้าย ทั่วโลกกลัว "กองกำลังติดอาวุธอิสลามมิสต์" รัฐบาลหลายประเทศทำให้การเคลื่อนไหวอิสลามในประเทศตัวเองเป็นผุ้ร้าย ซึ่งพรรคปาสก็ติดอยู่ในร่างแหด้วย
-จากนั้นอเมริกาได้โจมตีอัฟกานิสถาน พรรคปาสตอบสนองด้วยการเรียกร้องให้ญิฮาดกับชาติตะวันตก ผู้นำพรรคบางคนไปไกลถึงขนาดกล่าวว่า จะไม่หยุดยั้งสมาชิกพรรคปาสที่จะไปอัฟกานิสถานเพื่อต่อสู้เคียงข้างกับ ตอลิบัน เพื่อต่อต้านสหรัฐอเมริกา
-ปาส สนับสนุน อุสามะฮฺ บิน ลาเดน . อัลกออิดะห์ . และ ตอเลบัน ได้สร้างความเสียหายต่อภาพทางการทางการเมืองทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก เป็นการยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกันคนส่วนใหญ่ของโลก และ มาเลเซีย เอง
-มหาธีร์ มูฮัมมัด ถือโอกาสนี้มีความชอบธรรมในการปราบ กลุ่มอิสลามมิสต์ ฝ่ายตรงข้าม การปราบปรามของรัฐบาล ไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งภายในและจากต่างประเทศมาก โดยที่มหาธีร์ นำเสนอตัวเองเป็น มุสลิมสายกลาง หัวก้าวหน้า ซึ่งการปราบปรามก็ประสบผลสำเร็จมาก
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พรรค Pan-Malaysian Islamic Party (PAS)
๑.แนวคิดอิสลามแบบ "อิควาน" ได้แพร่เข้าสู่คาบสมุทรมลายูได้อย่างไร และตั้งแต่เมื่อไหร่
ขบวนการปฏิรูปและฟื้นฟูอิสลามในมาเลเซียได้ก่อตัวขึ้น แล้วตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 จากการกลับมาของผู้ที่ไปเรียนศาสนาที่ซาอุดิอารเบีย และอียิปต์ ซึ่งได้รับการปลูกฝังศาสนาอิสลามจากผู้นำทางความคิด นักปฏิรูปอิสลามสมัยใหม่ ชาวอียิปต์อย่าง Muhammad Abduh และ Rashid Rida ซึ่งมีแนวคิดต่อต้านเจ้าอาณานิคมชาติตะวันตกด้วยอุดมการณ์ก่อตั้ง Pan-Islamism หรือ รัฐอิสลาม ขึ้นมา เพื่อต่อต้านจักรวรรดินิยมที่เป็นเจ้าอาณานิคม ซึ่งคนที่เป็นเจ้าของแนวความคิดนี้คือ Jamal al-Din al-Afghani และ al-Afghani ก็เป็นครูที่สอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัย Al-Azhar ในอียิปต์อยู่แล้ว
ผู้นำพรรคอิสลามมาเลเซีย(PAS) บางคนเช่นคนที่สามคือ Dr. Burhanuddin al-Helmy ก็ได้รับการศึกษาเรื่องศาสนาอิสลามจากโรงเรียนสอนศาสนา al-Mashoor ของ Syed Sheikh al-Hadi ทำให้ al-Helmy ได้รับแนวคิดของ Sheikh Tahir ซึ่งเป็นกลุ่มสลัฟ ที่เคลื่อนไหวภายใต้สมาคมฟื้นฟูอาหรับก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง มาตั้งแต่เด็ก ๆ
ผู้ที่จบการศึกษาศาสนาอิสลามจาก ซาอุฯ และ อียิปต์ นั้นมีหลายคน ในบรรดาชาวมาเลเซียนักปฏิรูปที่ได้รับการศึกษาจากอียิปต์นั้น Syed Sheikh al-Hadi ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญ มีโรงเรียนสอนศาสนาหลายแห่ง เขาเป็นผู้ออกวารสารรายเดือน al-Ikhwan เมื่อ 1926 ส่วน Haji Abbas Mohamad Tahar ก็เริ่มออกวารสารแนวปฏิรูปชื่อ al-Imam ที่สิงคโปร์ ในปี 1906
เครื่องมือที่สำคัญของนักปฏิรูปอิสลามที่จบการศึกษาจากอียิปต์ และ ซาอุฯ คือ เครือข่ายโรงเรียนสอนศาสนา วารสาร หนังสือพิมพ์ ที่พวกเขาเป็นผู้พิมพ์ โดยมีวารสารที่ได้รับความนิยมมาหลายเล่ม เป็นต้นว่า al-Ikhwan ที่พิมพ์โดย Syed Sheikh al-Hadi เป็นต้น สิ่งตีพิมพ์เหล่านี้ได้รับความนิยมจากเยาวชนคนหนุ่มสาวเป็นจำนวนมาก ซึ่งคนหนุ่มสาวเหล่านี้เองที่เป็นผุ้ผลักดันให้เกิดการปฏิรูป และฟื้นฟู อิสลามในมาเลเซียในอนาคตต่อไป
แต่ว่าในขณะนั้น การสอนเหล่านี้ไม่เป็นที่พอใจของผู้นำทางศาสนา Mufti ของมาเลเซียแต่อย่างใด ผู้นำทางศาสนาของแต่ละรัฐออกฟัตวา ประณามการสอนของพวกปฏิรูป ว่าไม่ใช่เป็นคำสอนของอิสลาม และได้รับอิทธิพลจาก วะฮาบีย์ มากเกินไป จุดอ่อนอีกอย่างของผู้นำกลุ่มปฏิรูปคือ ส่วนมากไม่ได้เป็นคนเชื้อสายมาเลย์แท้ เป็นมุสลิมที่ไม่ได้มีบรรพบุรุษเป็นมาเลย์ ส่วนมากเป็นลูกผสมอาหรับ หรือ เป็นอาหรับแท้ ๆ รวมถึงเป็นพวกอินเดีย ในมาเลเซียขณะนั้นเรียกพวกนี้ว่า Peranakan Muslims (บริบทในมาเลเซียสมัยนั้นต่างกับของไทยสมัยนี้ที่ "เปอรานากัน" หมายถึงลูกครึ่ง มลายู-จีน มีวัฒนธรรมผสมผสาน)
เรื่องนี้ทำให้มุสลิมมาเลย์ต้องการหาทางใหม่ ที่จะสร้าง อัตลักษณ์ของตนจากชุมชนของตนเอง สืบเนื่องจากได้รับการเลือกปฏิบัติเฉกเช่นคนชั้นสอง จากพวกอาหรับและอินเดีย ส่งผลทำให้คนมาเลย์มุสลิมหันมารวมกลุ่มกันเอง ส่วนมากอยู่แถวรัฐ กลันตัน ใน กลันตันนั้นกลุ่มมุสลิมที่ก่อตั้งขึ้นมา ได้เข้าควบคุมกิจการศาสนาเพราะเรื่องภาษีและรายได้ ต้องการเก็บซะกาต แล้วนำเงินบางส่วนไปสร้าง มัสยิด สุเหร่า โรงเรียนสอนศาสนา จากสิ่งนี้เองส่งผลทำให้ชาวกลันตันหันไปสนับสุนนผู้รู้ทางศาสนา หรือ อุลามะฮฺ และลัทธิชาตินิยมรุนแรง และในปี 1926 เกิดพรรคการเมืองของมาเลย์มุสลิมขึ้นมาชื่อ Malay Union of Singapore (KMS)
ผนวกกับเหตุการณ์มุสลิมโลกในช่วงนั้นที่ ออตโตมันล่มสลาย ในปี 1924 Mustafa Kemal Ataturk ได้ขับไล่สุลต่านองค์สุดท้ายของออตโตมันออกจากตำแหน่ง เป็นการสิ้นสุดอย่างเป็นทางการของ รัฐอิสลามออตโตมัน ซึ่งเป็นราชวงศ์ของอิสลามที่ยาวนานที่สุดในประวิติศาสตร์อาระยะธรรมอิสลาม เป็นการสิ้นสุดการปกครองด้วยรัฐศาสนาอิสลาม
ผู้นำประเทศอิสลามที่ขึ้นมาในยุคนั้นเป็นผู้นำแนว รัฐทางโลก (secular) เช่น Mustafa Kemal Ataturk ของตุรกี Shah Pahlevi ของอิหร่าน กษัตริย์อัลดุลเลาะฮฺ ของอัฟกานิสถาน แม้ว่าในโลกอาหรับจะมีผุ้พยายามฟื้นฟู รัฐอิสลาม แบบ "คอลิฟะห์" ขึ้นมาใหม่ก็ตาม
ผลจากการล่มสลายของ คอลิฟะห์ นั่นเอง ทำให้ชาวมาเลเซียเปิดใจรับเอาแนวความคิดชาตินิยม ที่ อินโดนีเซียนั้น ซูการ์โน ตั้งพรรค Nationalist Party of Indonesia เมื่อปี 1927
ในช่วงทศวรรษ 1920s ที่มาเลย์มุสลิมตั้งพรรคขึ้นมานั้น ในช่วงนั้นก็เกิดพรรคคอมมิวนิสต์ก่อตั้งขึ้นมาเช่นเดียวกัน ได้แก่ SSCP ที่ก่อตั้งในสิงคโปร์ในปี 1928 และ Malayan Communist Party (MCP) ที่ก่อตั้งอย่างผิดกฎหมายในปี 1930 ซึ่งเจ้าอาณานิคมอังกฤษตอบโต้กลุ่มที่เกิดใหม่เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและอำมหิต
ปี 1938 มีการก่อตั้งกลุ่ม Yong Malays Association (KMM) โดยกลุ่มคนหนุ่มที่มีความคิดชาตินิยม โดยที่ Dr. Burhanuddin al-Helmy เข้าร่วมในปี 1939 การก่อตั้งกลุ่มนี้ไม่มีสมาชิกผู้ก่อตั้งคนใดอายุเกิน 30 ปี Dr. Burhanuddin al-Helmy ในขณะนั้นอายุเพียง 27 ปี กลุ่ม KMM เป็นองค์กรใต้ดินมีเป้าหมายมุ่งโค่นล้มอาณานิคมอังกฤษจากภายใน กลุ่มนี้ร่วมมือกับกลุ่มชาตินิยมในอินโดนีเซีย และ ทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ในขณะนั้นผู้ที่ต่อต้านญี่ปุ่นคือกลุ่ม MPAJA ซึ่งเป็นกลุ่มคนจีนนิยมซ้าย และพวกคอมมิวนิสต์ ที่ทำสงครามกองโจรสู้กับญี่ปุ่น
หลังจากญี่ปุ่นพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง อังกฤษก็เข้ามาปกครองมาเลเซียอีกครั้ง มาเลเซียไม่มีกองทัพและอาวุธเพียงพอที่จะต่อต้านอังกฤษเหมือนอินโดนีเซีย ที่อินโดนีเซียนั้นญี่ปุ่นสร้างกองทัพและอาวุธให้คนท้องถิ่นต่อสู้กับพวกดัชท์ ทำให้แม้ญี่ปุ่นแพ้สงคราม คนอินโดนีเซียยังมีอาวุธต่อสู้กับเจ้าอาณานิคมที่ต้องการกลับมาปกครองต่อ ในขณะที่มาเลเซียญี่ปุ่นไม่ได้สนับสนุนให้สร้างกองกำลังและอาวุธ ทำให้อังกฤษจึงกลับเข้าได้ง่าย ยากจะมีแรงต่อต้านขัดขืน
ต่อมามีการตั้งพรรคชาตินิยมมาเลย์เป็นครั้งแรกชื่อ PKMM เมื่อปี 1945 ในวันเดียวกันกับที่อินโดนีเซียประกาศเอกราช โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งหลายคนรวมถึง Dr. Burhanuddin al-Helmy ซึ่งได้เป็นประธานพรรค PKMM คนที่สอง (ต่อมาเป็นประธานพรรค PAS คนที่สาม) และ อุซตาซ Sheikh Abu Bakar al-Baqir (คนนี้ต่อไปคือ ผู้ก่อตั้งพรรค Hizbul Muslimin (HAMIM) พรรคการเมืองอิสลาม พรรคแรกของมาเลเซีย ) โดยที่ PKMM มีกองกำลังติดอาวุธทั้งชายและหญิง มีฝ่ายหนังสือพิมพ์ที่มีบรรณาธิการชื่อ Mohammad Asri Muda (ต่อมาคนนี้เป็นประธานพรรค PAS คนที่สี่)
จากการที่อังกฤษพบว่า มีแผนการต่อต้านอังกฤษด้วยการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ (ญิฮาด) ของกลุ่ม PKMM นั่นเอง ทำให้รัฐสภาอังกฤษต้องการให้มาเลเซียกลับไปเป็นอาณานิคมเต็มรูปแบบอีกครั้งที่เรียกว่า Malayan Union ส่งผลให้เกิดการต่อต้านในหมู่ชาวมาเลเซีย และมีการตั้งองค์กรขึ้นมาอีกหลายกลุ่มเพื่อคานอำนาจกับ PKMM ทำให้เกิดมีการประชุมของตัวแทนจากทุกพรรคการเมืองแล้วก็ได้ตั้งพรรค UMNO ขึ้นมาเมื่อปี 1946 ซึ่ง PKMM ก็อยู่ในนั้น
แต่ต่อมาในปีเดียวกัน PKMM ก็ออกจากพรรคอัมโน ทำให้ผู้นำของ PKMM เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ และ Dr. Burhanuddin al-Helmy และ Ustaz Abu Bakar ได้ระดมกำลังสนับสนุนทั้งจากฝ่ายซ้าย และกลุ่มชาตินิยมเคร่งศาสนาอิสลาม เป็นการพยายามสร้างฝ่ายซ้ายและอิสลาม เพื่อต่อสู้กับพรรคอัมโน ที่มีผู้นำเป็นพวกอนุรักษ์นิยม ซึ่งกำลังมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อย ๆ
ด้านกลุ่มที่ไม่ใช่มุสลิม และไมใช่เชื้อสายมาเลย์ ได้ก่อตั้งสภาความร่วมมือในปลายปี 1946 แล้วได้ขยายไปเป็น AMCJA ในปี 1947 แม้ว่าตอนแรกกลุ่มชาตินิยมเคร่งศาสนาสนใจจะร่วมมือกับกลุ่มนี้ แต่รับไม่ได้กับการให้สัญชาติมาเลเซียแก่คนที่ไม่ใช่เชื้อสายมาเลย์ ทำให้กลุ่มเคร่งศาสนาและนิยมซ้ายหลายกลุ่มไปรวมกลุ่มกันเองกลายเป็น PUTERA ซึ่งก็เอาอย่างมาจากซูการ์โนของอินโดนีเซีย ในเวลาถัดมาจึงเกิดพันธมิตร PUTERA - AMCJA ทั้งพวกมาเลย์และฝ่ายซ้าย ยืนข้อเรียกร้องต่ออังกฤษ เป็นท้าทายสถานะของพรรคอัมโน
(ต่อ 2/5)
จุดกำเนิดพรรค Pan-Malaysian Islamic Party (PAS)
แต่เนื่องจากว่าเนื้อหามีเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะพรรคอิสลามมาเลเซีย ซึ่งเป็นพรรคที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องเกี่ยวกับ Islamization ในมาเลเซียนั้น พรรคนี้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เพราะก่อตั้งในปี 1951 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง รายละเอียดพัฒนาการของพรรคนี้จึงมีมาก
ประจวบกับวันนี้ เห็นข่าวพรรคประชาชาติ ฟ้องหมิ่นประมาท ‘ผู้กองปูเค็ม ’ร.อ. ทรงกลด ชื่นชูผล ที่โพส ข้อความในเฟสบุ๊ค พาดพิง ถึงพรรคปาส หรือ พรรคอิสลามมาเลเซีย อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุรุนแรงในจังหวัดภาคใต้มาตลอด 15 ปี
ผมคิดว่า คนไทยที่ไม่ได้อยู่ติดกับชายแดนมาเลเซีย น้อยคนนักที่จะรู้จักว่าพรรคปาส นั้น มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร จึงอยากนำ จุดกำเนิดของพรรคปาส และ อุดมการณ์ ก่อตั้ง "รัฐอิสลาม" ของพรรคนี้
ในเรื่องเกี่ยวกับพรรคนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การก่อการร้ายนั้น ก็ขอท้าวความไปหน่อยว่า
-ปี 1999 เลือกตั้ง พรรคปาส ชนะเป็นฝ่ายค้านอันดับหนึ่ง ทิ้งพรรคคนจีน DAP ไปเป็นอันดับสอง
-พรรคอัมโน เริ่มปราบปรามเครือข่ายมุสลิมก่อการร้าย ที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาลมาเลเซีย และเปลี่ยนมาเลเซียเป็นรัฐอิสลาม สื่อบางสำนักตีพิมพ์ว่าพรรคปาสมีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้ายเหล่านี้
-การโจมตีสหรัฐอเมริกาเมื่อ 11 กันยายน 2001 นั้น ได้พลิกชะตาการเมืองจากชนะเลือกตั้ง จากดีกลายเป็นร้าย ทั่วโลกกลัว "กองกำลังติดอาวุธอิสลามมิสต์" รัฐบาลหลายประเทศทำให้การเคลื่อนไหวอิสลามในประเทศตัวเองเป็นผุ้ร้าย ซึ่งพรรคปาสก็ติดอยู่ในร่างแหด้วย
-จากนั้นอเมริกาได้โจมตีอัฟกานิสถาน พรรคปาสตอบสนองด้วยการเรียกร้องให้ญิฮาดกับชาติตะวันตก ผู้นำพรรคบางคนไปไกลถึงขนาดกล่าวว่า จะไม่หยุดยั้งสมาชิกพรรคปาสที่จะไปอัฟกานิสถานเพื่อต่อสู้เคียงข้างกับ ตอลิบัน เพื่อต่อต้านสหรัฐอเมริกา
-ปาส สนับสนุน อุสามะฮฺ บิน ลาเดน . อัลกออิดะห์ . และ ตอเลบัน ได้สร้างความเสียหายต่อภาพทางการทางการเมืองทั้งในและต่างประเทศเป็นอย่างมาก เป็นการยืนอยู่ฝ่ายตรงข้ามกันคนส่วนใหญ่ของโลก และ มาเลเซีย เอง
-มหาธีร์ มูฮัมมัด ถือโอกาสนี้มีความชอบธรรมในการปราบ กลุ่มอิสลามมิสต์ ฝ่ายตรงข้าม การปราบปรามของรัฐบาล ไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ ทั้งภายในและจากต่างประเทศมาก โดยที่มหาธีร์ นำเสนอตัวเองเป็น มุสลิมสายกลาง หัวก้าวหน้า ซึ่งการปราบปรามก็ประสบผลสำเร็จมาก
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พรรค Pan-Malaysian Islamic Party (PAS)
๑.แนวคิดอิสลามแบบ "อิควาน" ได้แพร่เข้าสู่คาบสมุทรมลายูได้อย่างไร และตั้งแต่เมื่อไหร่
ขบวนการปฏิรูปและฟื้นฟูอิสลามในมาเลเซียได้ก่อตัวขึ้น แล้วตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 จากการกลับมาของผู้ที่ไปเรียนศาสนาที่ซาอุดิอารเบีย และอียิปต์ ซึ่งได้รับการปลูกฝังศาสนาอิสลามจากผู้นำทางความคิด นักปฏิรูปอิสลามสมัยใหม่ ชาวอียิปต์อย่าง Muhammad Abduh และ Rashid Rida ซึ่งมีแนวคิดต่อต้านเจ้าอาณานิคมชาติตะวันตกด้วยอุดมการณ์ก่อตั้ง Pan-Islamism หรือ รัฐอิสลาม ขึ้นมา เพื่อต่อต้านจักรวรรดินิยมที่เป็นเจ้าอาณานิคม ซึ่งคนที่เป็นเจ้าของแนวความคิดนี้คือ Jamal al-Din al-Afghani และ al-Afghani ก็เป็นครูที่สอนหนังสืออยู่ที่มหาวิทยาลัย Al-Azhar ในอียิปต์อยู่แล้ว
ผู้นำพรรคอิสลามมาเลเซีย(PAS) บางคนเช่นคนที่สามคือ Dr. Burhanuddin al-Helmy ก็ได้รับการศึกษาเรื่องศาสนาอิสลามจากโรงเรียนสอนศาสนา al-Mashoor ของ Syed Sheikh al-Hadi ทำให้ al-Helmy ได้รับแนวคิดของ Sheikh Tahir ซึ่งเป็นกลุ่มสลัฟ ที่เคลื่อนไหวภายใต้สมาคมฟื้นฟูอาหรับก่อนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง มาตั้งแต่เด็ก ๆ
ผู้ที่จบการศึกษาศาสนาอิสลามจาก ซาอุฯ และ อียิปต์ นั้นมีหลายคน ในบรรดาชาวมาเลเซียนักปฏิรูปที่ได้รับการศึกษาจากอียิปต์นั้น Syed Sheikh al-Hadi ถือว่าเป็นคนหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญ มีโรงเรียนสอนศาสนาหลายแห่ง เขาเป็นผู้ออกวารสารรายเดือน al-Ikhwan เมื่อ 1926 ส่วน Haji Abbas Mohamad Tahar ก็เริ่มออกวารสารแนวปฏิรูปชื่อ al-Imam ที่สิงคโปร์ ในปี 1906
เครื่องมือที่สำคัญของนักปฏิรูปอิสลามที่จบการศึกษาจากอียิปต์ และ ซาอุฯ คือ เครือข่ายโรงเรียนสอนศาสนา วารสาร หนังสือพิมพ์ ที่พวกเขาเป็นผู้พิมพ์ โดยมีวารสารที่ได้รับความนิยมมาหลายเล่ม เป็นต้นว่า al-Ikhwan ที่พิมพ์โดย Syed Sheikh al-Hadi เป็นต้น สิ่งตีพิมพ์เหล่านี้ได้รับความนิยมจากเยาวชนคนหนุ่มสาวเป็นจำนวนมาก ซึ่งคนหนุ่มสาวเหล่านี้เองที่เป็นผุ้ผลักดันให้เกิดการปฏิรูป และฟื้นฟู อิสลามในมาเลเซียในอนาคตต่อไป
แต่ว่าในขณะนั้น การสอนเหล่านี้ไม่เป็นที่พอใจของผู้นำทางศาสนา Mufti ของมาเลเซียแต่อย่างใด ผู้นำทางศาสนาของแต่ละรัฐออกฟัตวา ประณามการสอนของพวกปฏิรูป ว่าไม่ใช่เป็นคำสอนของอิสลาม และได้รับอิทธิพลจาก วะฮาบีย์ มากเกินไป จุดอ่อนอีกอย่างของผู้นำกลุ่มปฏิรูปคือ ส่วนมากไม่ได้เป็นคนเชื้อสายมาเลย์แท้ เป็นมุสลิมที่ไม่ได้มีบรรพบุรุษเป็นมาเลย์ ส่วนมากเป็นลูกผสมอาหรับ หรือ เป็นอาหรับแท้ ๆ รวมถึงเป็นพวกอินเดีย ในมาเลเซียขณะนั้นเรียกพวกนี้ว่า Peranakan Muslims (บริบทในมาเลเซียสมัยนั้นต่างกับของไทยสมัยนี้ที่ "เปอรานากัน" หมายถึงลูกครึ่ง มลายู-จีน มีวัฒนธรรมผสมผสาน)
เรื่องนี้ทำให้มุสลิมมาเลย์ต้องการหาทางใหม่ ที่จะสร้าง อัตลักษณ์ของตนจากชุมชนของตนเอง สืบเนื่องจากได้รับการเลือกปฏิบัติเฉกเช่นคนชั้นสอง จากพวกอาหรับและอินเดีย ส่งผลทำให้คนมาเลย์มุสลิมหันมารวมกลุ่มกันเอง ส่วนมากอยู่แถวรัฐ กลันตัน ใน กลันตันนั้นกลุ่มมุสลิมที่ก่อตั้งขึ้นมา ได้เข้าควบคุมกิจการศาสนาเพราะเรื่องภาษีและรายได้ ต้องการเก็บซะกาต แล้วนำเงินบางส่วนไปสร้าง มัสยิด สุเหร่า โรงเรียนสอนศาสนา จากสิ่งนี้เองส่งผลทำให้ชาวกลันตันหันไปสนับสุนนผู้รู้ทางศาสนา หรือ อุลามะฮฺ และลัทธิชาตินิยมรุนแรง และในปี 1926 เกิดพรรคการเมืองของมาเลย์มุสลิมขึ้นมาชื่อ Malay Union of Singapore (KMS)
ผนวกกับเหตุการณ์มุสลิมโลกในช่วงนั้นที่ ออตโตมันล่มสลาย ในปี 1924 Mustafa Kemal Ataturk ได้ขับไล่สุลต่านองค์สุดท้ายของออตโตมันออกจากตำแหน่ง เป็นการสิ้นสุดอย่างเป็นทางการของ รัฐอิสลามออตโตมัน ซึ่งเป็นราชวงศ์ของอิสลามที่ยาวนานที่สุดในประวิติศาสตร์อาระยะธรรมอิสลาม เป็นการสิ้นสุดการปกครองด้วยรัฐศาสนาอิสลาม
ผู้นำประเทศอิสลามที่ขึ้นมาในยุคนั้นเป็นผู้นำแนว รัฐทางโลก (secular) เช่น Mustafa Kemal Ataturk ของตุรกี Shah Pahlevi ของอิหร่าน กษัตริย์อัลดุลเลาะฮฺ ของอัฟกานิสถาน แม้ว่าในโลกอาหรับจะมีผุ้พยายามฟื้นฟู รัฐอิสลาม แบบ "คอลิฟะห์" ขึ้นมาใหม่ก็ตาม
ผลจากการล่มสลายของ คอลิฟะห์ นั่นเอง ทำให้ชาวมาเลเซียเปิดใจรับเอาแนวความคิดชาตินิยม ที่ อินโดนีเซียนั้น ซูการ์โน ตั้งพรรค Nationalist Party of Indonesia เมื่อปี 1927
ในช่วงทศวรรษ 1920s ที่มาเลย์มุสลิมตั้งพรรคขึ้นมานั้น ในช่วงนั้นก็เกิดพรรคคอมมิวนิสต์ก่อตั้งขึ้นมาเช่นเดียวกัน ได้แก่ SSCP ที่ก่อตั้งในสิงคโปร์ในปี 1928 และ Malayan Communist Party (MCP) ที่ก่อตั้งอย่างผิดกฎหมายในปี 1930 ซึ่งเจ้าอาณานิคมอังกฤษตอบโต้กลุ่มที่เกิดใหม่เหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและอำมหิต
ปี 1938 มีการก่อตั้งกลุ่ม Yong Malays Association (KMM) โดยกลุ่มคนหนุ่มที่มีความคิดชาตินิยม โดยที่ Dr. Burhanuddin al-Helmy เข้าร่วมในปี 1939 การก่อตั้งกลุ่มนี้ไม่มีสมาชิกผู้ก่อตั้งคนใดอายุเกิน 30 ปี Dr. Burhanuddin al-Helmy ในขณะนั้นอายุเพียง 27 ปี กลุ่ม KMM เป็นองค์กรใต้ดินมีเป้าหมายมุ่งโค่นล้มอาณานิคมอังกฤษจากภายใน กลุ่มนี้ร่วมมือกับกลุ่มชาตินิยมในอินโดนีเซีย และ ทหารญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ในขณะนั้นผู้ที่ต่อต้านญี่ปุ่นคือกลุ่ม MPAJA ซึ่งเป็นกลุ่มคนจีนนิยมซ้าย และพวกคอมมิวนิสต์ ที่ทำสงครามกองโจรสู้กับญี่ปุ่น
หลังจากญี่ปุ่นพ่ายแพ้ในสงครามโลกครั้งที่สอง อังกฤษก็เข้ามาปกครองมาเลเซียอีกครั้ง มาเลเซียไม่มีกองทัพและอาวุธเพียงพอที่จะต่อต้านอังกฤษเหมือนอินโดนีเซีย ที่อินโดนีเซียนั้นญี่ปุ่นสร้างกองทัพและอาวุธให้คนท้องถิ่นต่อสู้กับพวกดัชท์ ทำให้แม้ญี่ปุ่นแพ้สงคราม คนอินโดนีเซียยังมีอาวุธต่อสู้กับเจ้าอาณานิคมที่ต้องการกลับมาปกครองต่อ ในขณะที่มาเลเซียญี่ปุ่นไม่ได้สนับสนุนให้สร้างกองกำลังและอาวุธ ทำให้อังกฤษจึงกลับเข้าได้ง่าย ยากจะมีแรงต่อต้านขัดขืน
ต่อมามีการตั้งพรรคชาตินิยมมาเลย์เป็นครั้งแรกชื่อ PKMM เมื่อปี 1945 ในวันเดียวกันกับที่อินโดนีเซียประกาศเอกราช โดยมีผู้ร่วมก่อตั้งหลายคนรวมถึง Dr. Burhanuddin al-Helmy ซึ่งได้เป็นประธานพรรค PKMM คนที่สอง (ต่อมาเป็นประธานพรรค PAS คนที่สาม) และ อุซตาซ Sheikh Abu Bakar al-Baqir (คนนี้ต่อไปคือ ผู้ก่อตั้งพรรค Hizbul Muslimin (HAMIM) พรรคการเมืองอิสลาม พรรคแรกของมาเลเซีย ) โดยที่ PKMM มีกองกำลังติดอาวุธทั้งชายและหญิง มีฝ่ายหนังสือพิมพ์ที่มีบรรณาธิการชื่อ Mohammad Asri Muda (ต่อมาคนนี้เป็นประธานพรรค PAS คนที่สี่)
จากการที่อังกฤษพบว่า มีแผนการต่อต้านอังกฤษด้วยการทำสงครามศักดิ์สิทธิ์ (ญิฮาด) ของกลุ่ม PKMM นั่นเอง ทำให้รัฐสภาอังกฤษต้องการให้มาเลเซียกลับไปเป็นอาณานิคมเต็มรูปแบบอีกครั้งที่เรียกว่า Malayan Union ส่งผลให้เกิดการต่อต้านในหมู่ชาวมาเลเซีย และมีการตั้งองค์กรขึ้นมาอีกหลายกลุ่มเพื่อคานอำนาจกับ PKMM ทำให้เกิดมีการประชุมของตัวแทนจากทุกพรรคการเมืองแล้วก็ได้ตั้งพรรค UMNO ขึ้นมาเมื่อปี 1946 ซึ่ง PKMM ก็อยู่ในนั้น
แต่ต่อมาในปีเดียวกัน PKMM ก็ออกจากพรรคอัมโน ทำให้ผู้นำของ PKMM เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ และ Dr. Burhanuddin al-Helmy และ Ustaz Abu Bakar ได้ระดมกำลังสนับสนุนทั้งจากฝ่ายซ้าย และกลุ่มชาตินิยมเคร่งศาสนาอิสลาม เป็นการพยายามสร้างฝ่ายซ้ายและอิสลาม เพื่อต่อสู้กับพรรคอัมโน ที่มีผู้นำเป็นพวกอนุรักษ์นิยม ซึ่งกำลังมีอิทธิพลมากขึ้นเรื่อย ๆ
ด้านกลุ่มที่ไม่ใช่มุสลิม และไมใช่เชื้อสายมาเลย์ ได้ก่อตั้งสภาความร่วมมือในปลายปี 1946 แล้วได้ขยายไปเป็น AMCJA ในปี 1947 แม้ว่าตอนแรกกลุ่มชาตินิยมเคร่งศาสนาสนใจจะร่วมมือกับกลุ่มนี้ แต่รับไม่ได้กับการให้สัญชาติมาเลเซียแก่คนที่ไม่ใช่เชื้อสายมาเลย์ ทำให้กลุ่มเคร่งศาสนาและนิยมซ้ายหลายกลุ่มไปรวมกลุ่มกันเองกลายเป็น PUTERA ซึ่งก็เอาอย่างมาจากซูการ์โนของอินโดนีเซีย ในเวลาถัดมาจึงเกิดพันธมิตร PUTERA - AMCJA ทั้งพวกมาเลย์และฝ่ายซ้าย ยืนข้อเรียกร้องต่ออังกฤษ เป็นท้าทายสถานะของพรรคอัมโน
(ต่อ 2/5)