เท่าที่ผมเข้าใจคือ
1. การที่เรามองเห็นสีของวัตถุ เป็นเพราะว่าวัตถุชนิดนั้นดูดกลืนแสงทุกสียกเว้นสีที่มันสะท้อนออกมา
เช่นเดียวกับสีน้ำในถัง หรือสีไม้ต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้นับเป็นวัตถุชนิดหนึ่งที่ดูดกลืนแสงและสะท้อนแสงที่มันไม่ต้องการออกมา
ดังนั้นแล้วการผสมวัตุที่ดูดกลืนแสงแบบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน พอสะท้อนแสงที่ไม่ต้องการออกมาก็โดนวัตถุอื่นดูดกลืนอีก ผลที่ได้ก็คือดูดกลืนแสงไปซะทุกอย่างจนเรามองเห็นเป็นสีดำ แล้วเลยเป็นที่มาของระบบสีเครื่องพิมพ์แบบ CMYK (Cyan - Magenta - Yellow - Blak) หรือที่เข้าใจเป็นแม่สีกันว่า น้ำเงิน-แดง-เหลือง
2. แสงจากดวงอาทิตย์ หลอดไฟ หรือวัตถุที่สามารถสร้างแสงได้ด้วยตัวเอง สิ่งเหล่านี้คือสีของจริงเป็นพลังงานถูกมั้ยครับ มีสเปคตรัมคลื่นความถี่ ยิ่งมีพลังงานมากก็ยิ่งสว่างถูกใช่มั้ยครับ
อยากฟังความคิดเห็นของเพื่อน ๆ หรือผู้รู้มาอธิบายเผื่อเข้าใจผิดครับ
ทำไมสีนำมาผสมกันถึงดำแต่แสงยิ่งผสมกันยิ่งขาว?
1. การที่เรามองเห็นสีของวัตถุ เป็นเพราะว่าวัตถุชนิดนั้นดูดกลืนแสงทุกสียกเว้นสีที่มันสะท้อนออกมา
เช่นเดียวกับสีน้ำในถัง หรือสีไม้ต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้นับเป็นวัตถุชนิดหนึ่งที่ดูดกลืนแสงและสะท้อนแสงที่มันไม่ต้องการออกมา
ดังนั้นแล้วการผสมวัตุที่ดูดกลืนแสงแบบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน พอสะท้อนแสงที่ไม่ต้องการออกมาก็โดนวัตถุอื่นดูดกลืนอีก ผลที่ได้ก็คือดูดกลืนแสงไปซะทุกอย่างจนเรามองเห็นเป็นสีดำ แล้วเลยเป็นที่มาของระบบสีเครื่องพิมพ์แบบ CMYK (Cyan - Magenta - Yellow - Blak) หรือที่เข้าใจเป็นแม่สีกันว่า น้ำเงิน-แดง-เหลือง
2. แสงจากดวงอาทิตย์ หลอดไฟ หรือวัตถุที่สามารถสร้างแสงได้ด้วยตัวเอง สิ่งเหล่านี้คือสีของจริงเป็นพลังงานถูกมั้ยครับ มีสเปคตรัมคลื่นความถี่ ยิ่งมีพลังงานมากก็ยิ่งสว่างถูกใช่มั้ยครับ
อยากฟังความคิดเห็นของเพื่อน ๆ หรือผู้รู้มาอธิบายเผื่อเข้าใจผิดครับ