ผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม โอด อั้นราคาไม่ไหวแล้ว จี้ รัฐให้ปล่อยตามกลไก
https://ch3plus.com/news/economy/morning/293753
นาย
ศุภชัย จินตนาเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุขสมบูรณ์ น้ำมันปาล์ม จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาในช่วงโควิดมีปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มลดลง จึงเปลี่ยเป็นส่งออกแทน บวกกับการลดสูตรน้ำมันไบโอดีเซล แต่หลังจากนี้เป็นต้นไปทุกเดือน คาดว่าจะมีปริมาณผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม เพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ
จึงเสนอให้รัฐบาล บริหารจัดปริมาณส่งออกให้สมดุล และควรดูแลใกล้ชิด โดยคณะอนุกรรมการฯ ที่ รัฐบาลตั้งขึ้นมา โดยเฉพาะการพยากรณ์ ปริมาณผลปาล์มในอนาคต และการตรวจสอบสต๊อกน้ำมันปาล์ม ซึ่งจะต้องมีปริมาณสต๊อกอย่างน้อย 1.5 เท่า ของปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศ หรือต้องมีสต๊อกใช้ได้ภายใน 1 เดือนครึ่ง เพื่อป้องกันการขาดแคลน
อย่างไรก็ตามขณะนี้ ไทยไม่ได้ขาดแคลนน้ำมันปาล์ม แต่เป็นเรื่องราคาแพง จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจว่านานๆ เกษตรกรจะได้ราคาดีแบบนี้สักครั้ง
ทั้งนี้ปัจจุบันไทยมีสต๊อกน้ำมันปาล์ม 1.8 แสนตัน ขณะที่ปริมาณการใช้ น้ำมันปาล์มในประเทศ อยู่ที่ราว 1.5-1.7 แสนตัน หรือใช้ผลปาล์มราวเดือนละ 1 ล้านตัน ซึ่งไม่ถึง 1.5 เท่าตามหลักการที่ควรเป็น และเกิดการตึงตัวในช่วงที่อินโดนีเซียงดส่งออก ทำให้ปริมาณน้ำมันปาล์มในตลาดโลกลดลง แต่ขณะนี้เริ่มผ่อนคลายแล้ว เพราะอินโดนีเซียกลับมาส่งออกได้แล้ว และมีแรงงานออกมาเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ซึ่งรวมไปถึงมาเลเซียด้วย
ทั้งนี้ ยอมรับว่าผู้ประกอบการน้ำมันปาล์มขวดกำลังจะตรึงราคาไม่ไหว และทำได้ลำบาก การควบคุมราคานั้นทำได้เพียงระยะสั่น เช่นเดียวกับราคาน้ำมันเพื่อการขนส่งที่อั้นไม่ไหว เพราะสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงจากปัญหาสงคราม ดังนั้นรัฐควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดแบบดูแลค่อยๆ ปรับขึ้นเป็นระยะ เรียกว่าเปิดปลายทางบ้างบางครั้งอย่างเป็นระบบ เพราะเชื่อว่าคนไทยปรับตัวได้ในที่สุด พร้อมเตือนหากรัฐควบคุมอย่างเดียวเสี่ยงทำให้อุตสาหกรรมปลายน้ำหลายอุตสาหกรรมหนีจากเมืองไทยไป หากอุตสาหกรรมขาดความเชื่อมั่นในปริมาณสต๊อกวัตถุดิบในไทย ซึ่งปกติธุรกิจจะบริหารจัดการสต๊อกในช่วง 2-3 เดือน
ส่วนแนวทางการอุดหนุน เช่น ทุ่มงบประมาณมาซื้อน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขายภายใต้ราคาที่ควบคุมเพื่อขายให้ผู้บริโภค มองว่าการแทรกแซงเช่นนั้นจะเกิดการบิดเบือนตลาด กลไกตลาดจะผิดเพี้ยน
ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันขวดนั้นขึ้นอยู่กับว่ารัสเซียจะกลับมาปลูกพืชพลังงานได้เมื่อใด ซึ่งอาจอยู่ในระดับสูงถึงต้นปีหน้า
ด้านนาย วโรภาส กิมชูวาณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพาณิชยกิจ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC บอกว่า แนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มตลาดโลกค่อนข้างผันผวน ขึ้นอยู่กับนโยบายของประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มในต่างประเทศ ธุรกิจยังไม่มีปัญหาสต๊อก และกลายเป็นส่งออกมากขึ้นแทน ปกติปีหนึ่งส่งออกไม่เกิน 4-5 แสนตัน แต่ปีนี้คาดว่าทั้งปีจะเพิ่มเป็นล้านตัน และคาดว่าราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกจะทรงตัวในระดับสูง และโอกาสที่ราคาจะสูงขึ้นมากนั้นไม่รุนแรง แต่ก็คงไม่อ่อนตัวลงมากนัก
ส่วนการส่งเสริมการผลิตน้ำมันปาล์มคุณภาพสูงตามมาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นเทรนด์โลกนั้น จะช่วยให้เกษตรกรได้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ต้นทุนลด โดยความร่วมมือกับเยอรมันล่าสุดจะเห็นเป็นรูปธรรมในอีก 2 ปีข้างหน้า
ไปต่อลำบาก! แม่ค้ากล้วยแขกโอด น้ำมันปาล์ม-ก๊าซหุงต้ม พาเหรดขึ้นราคา รัฐเมินช่วยเหลือ
https://www.matichon.co.th/region/news_3375084
ไปต่อลำบาก! แม่ค้ากล้วยแขกโอด น้ำมันปาล์ม-ก๊าซหุงต้ม พาเหรดขึ้นราคา รัฐเมินช่วยเหลือ
วันนี้ (31 พฤษภาคม) นางสาว
ธนพร ยินดี แม่ค้าขายกล้วยแขก บริเวณริมถนนสายมหาสารคาม-กมลาไสย ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ตอนนี้ราคาวัตถุดิบที่ใช้ประกอบในการทำกล้วยแขก ทั้งกล้วย มัน เผือก ฟักทอง สัปปะรด แป้ง กะทิ น้ำตาล น้ำมัน ขึ้นราคาหมดทุกอย่าง ทางร้านใช้น้ำมันเมล็ดในปาล์ม เป็นน้ำมันปาล์มผสมกับน้ำมันมะพร้าว ตอนนี้ราคาลังละ 996 บาท อีก 4 บาทก็จะครบลังละพัน หนึ่งลังมี 12 ลิตร ตกถุงละ 83 บาท ก๊าซหุงต้มก็ขึ้นราคาถังละ 10 บาท เคยซื้อถังละ 360 มา 370 ตอนนี้เป็น 380 และจะปรับขึ้นอีกในวันที่ 1 มิถุนายนนี้อีกถังละ 15 บาท ตอนนี้บอกได้คำเดียวว่าไม่ไหวแล้ว รัฐบาลก็ไม่ได้มาช่วยรับรองประชาชน มีแต่ขึ้นกับขึ้น รัฐไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ตอนนี้ประชาชนไม่เหลือกำลังซื้อแล้ว การค้าการขายเงียบไปหมด ขนาดตอนนี้ได้ลดปริมาณของที่จะทอดขายในแต่ละวันลง 50% อย่างเช่น กล้วยจากวันละ 10 หวี เหลือ 5 หวี มันจาก 5 โล เหลือ 2 โลครึ่ง สัปปะรดจาก 4 ลูกเหลือ 2 ลูก ฟักทองจาก 5 โล ก็เหลือ 2 โล ยังขายไม่ค่อยจะหมด ซึ่งทางร้านยังคงขายราคาเดิมให้กับลูกค้าโดยไม่ลดปริมาณ 8 ชิ้น 20 บาทเหมือนเดิม
ตอนนี้มีภาระค่าใช้จ่ายที่หนัก ๆ คือ ต้องผ่อนรถ เดือนละหมื่นกว่าบาท ไม่รู้ว่าจะทนอยู่ได้อีกแค่ไหน ที่กังวลก็คือกลัวว่าจะไม่มีเงินผ่อนรถ หากสินค้ายังขึ้นราคาต่อเนื่องและยังค้าขายไม่ค่อยจะได้แบบนี้ ถ้าเศรษฐกิจยังเป็นแบบนี้ไม่มีเงินส่งรถแน่นอน
รถบรรทุก จ่อขึ้นค่าขนส่งอีก 3% หลังราคาดีเซลแตะ 33 บาท/ลิตร
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/293776
รถบรรทุก เตรียมขึ้นค่าขนส่ง อีก 3% หลังวันนี้ (1 มิ.ย.) ราคาดีเซลแตะ 33 บาทต่อลิตร
นาย
อภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดีเซลที่ขึ้นอีกลิตรละ 1 บาทในวันนี้ (31 พ.ค.) ทางสหพันธ์ฯ จำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นค่าขนส่ง เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้นทุก 1 บาท ค่าขนส่งจะขึ้นอีก 3 % จากปัจจุบันคิดอัตราค่าขนส่งที่ 10-12% ขึ้นเป็น 13-15% ซึ่งราคาน้ำมันดีเซลในวันนี้ถือว่าวิกฤตแล้ว ขณะที่รัฐบาลเลือกปล่อยให้ราคาลอยตัว ซึ่งก็จะเป็นตัวเร่งให้สินค้าปรับขึ้นราคาเร็วขึ้น ล่าสุดสิาค้าหลายตัว เช่น ครีมเทียม กาแฟ สบู่ ครีมอาบ ปลากระป๋อง นมถั่วเหลือง และข้าวถุง แจ้งขึ้นราคาขายส่งแล้ว
ขณะที่ร้านข้าวแกง และอาหารตามสั่ง ส่งสัญญาณปรับราคาขึ้นราคาอาหารอีกรอบ หลังวันพรุ่งนี้ 1 มิถุนายน ราคาก๊าซหุงต้ม จะขึ้นรอบ 3 อีก 15 บาท ขึ้นไปอยู่ที่ 363 บาท ต่อถัง 15 กิโลกรัม เท่ากับ 3 รอบ ปรับขึ้นมาถึง 45 บาทต่อถัง ยังไม่รวมค่าขนส่ง ซึ่งเมื่อบวกกับต้นทุนอื่น โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มขวด ที่ราคาทะลุ 70 บาทต่อขวดไปแล้ว ทำให้แบกรับต้นทุนต่ออีกไม่ไหว
รับชมผ่านยูทูบ :
https://youtu.be/3z9hF36qABU
อ่วม! พรุ่งนี้น้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ขึ้นอีก 50-80 สตางค์/ลิตร
https://www.nationtv.tv/news/378874911
อ่วมซ้ำ! พรุ่งนี้น้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ปรับขึ้นราคาอีก 50 - 80 สตางค์/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงราคาเดิม
วันนี้ (31 พ.ค. 65) โออาร์ และ บางจาก แจ้งปรับขึ้นราคาน้ำมันในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์อีก 80 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น E85 ปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงราคาเดิม
มีผลวันที่ 1 มิ.ย. 65 ตั้งแต่เวลา 05:00 เป็นต้นไป
*ราคาที่ประกาศเป็นราคาขายปลีกในกรุงเทพมหานคร ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น
น้ำมันในกลุ่มเบนซิน
- เบนซิน อยู่ที่ 52.06 บาท
- แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 44.65 บาท
- แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 44.38 บาท
- E20 อยู่ที่ 43.54 บาท
- E85 อยู่ที่ 37.24 บาท
น้ำมันในกลุ่มดีเซล
- ดีเซลพรีเมียม B7 อยู่ที่ 42.36 บาท
- ดีเซล B7 อยู่ที่ 32.94 บาท
- ดีเซล อยู่ที่ 32.94 บาท
- ดีเซล B20 อยู่ที่ 32.94 บาท
ทั้งนี้สำหรับราคาน้ำมันในกลุ่มดีเซลวันนี้ (31 พ.ค.) เพิ่งมีการปรับขึ้นตามมติ กบน. วานนี้ หลังราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น โดย กบน. จะพิจารณาอีกครั้งวันที่ 6 มิ.ย.2565 ซึ่งยืนยันว่าภายในช่วงสัปดาห์นี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงอุ้มราคาดีเซลไว้ที่ลิตรละ 33 บาท แต่หากราคาน้ำมันยังสูงจะพิจารณาอีกครั้งสัปดาห์หน้า โดยยืนยันว่าราคาดีเซลในช่วงนี้จะไม่มีต่ำกว่าลิตรละ 33 บาท (
อ่านข่าว)
“จุลพันธ์” อัด รัฐบาล หมดสภาพสร้างแต่หนี้
https://www.innnews.co.th/news/news_348758/
“จุลพันธ์” อัดรัฐบาลหมดสภาพสร้างหนี้สาธารณะเพิ่ม 10ล้านล้าน เกือบทะลุเพดาน ทำคนจนเพิ่ม
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท วาระแรก ในวันแรก พบว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ได้ลุกอภิปรายสนับสนุนร่างพ.ร.บ.งบฯ 66 และตอบโต้การอภิปรายและการตั้งฉายาให้กับร่างพ.ร.บ.งบฯ ของพรรคฝ่ายค้านอยู่เป็นระยะๆ
ขณะที่ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ได้อภิปรายแสดงเหตุผลที่จะลงมติไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.งบฯ 66 ตามลำดับการอภิปราย ทั้งนี้ ในการอภิปรายช่วงหนึ่งของนาย
จุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย
ชี้ ให้เห็นว่า รัฐบาลสร้างหนี้สาธารณะให้ประเทศไทย กว่า 10 ล้านล้านบาท แม้จะไม่เกินกรอบ แต่เชื่อว่า หากรัฐบาลปัจจุบันบริหารประเทศต่อ 4 ปี อาจทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นและปรับเพดานสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้น ยังอภิปรายว่ารัฐบาลปัจจุบันหมดสภาพ ติดบ่วงหนี้สาธารณะ และพบว่ามีสถิติคนจนเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ การที่นายกรัฐมนตรี ตัดพ้อว่า ทำไมคนไทยหาเรื่องนายกฯ ทุกคน ข้อเท็จจริงคนไทยไม่ได้หาเรื่อง แต่เห็นอย่างไรพูดไปแบบนั้น สะท้อนว่าคนไทยไม่เชื่อมั่นผู้นำจะแก้ปัญหาให้ได้ หรือนำพาประเทศต่อไปได้ ขณะที่ภาพรวมของงบประมาณ
พบว่า ไม่ตอบโจทย์ ติดกับดัก จัดสรรงบแบบผิดฝาผิดตัว และโกหกหลอกหลวง โดย 3 ปีที่ผ่านมา ได้ถามถึงนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน ทั้ง ค่าแรงขั้นต่ำ นโยบายมารดาประชารัฐ แต่ในหนังสืองบประมาณที่รัฐบาลเสนอต่อสภาฯ
นั้นไม่มี ทั้งที่เป็นงบประมาณปีสุดท้าย อีกทั้ง นายกฯ เคยพูดในเวทีหาเสียงของพรรคการเมืองด้วย จึงยืนยันได้ว่า จงใจโกหกประชาชนเพื่อหวังคะแนนเสียง ซึ่งไม่ต้องลบนโยบายออก เพราะประชาชนจำได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ นาย
จุลพันธุ์ อภิปรายพร้อมแสดงภาพของนายกฯ ที่ขึ้นเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ และป้ายนโยบายของพรรคพลังประชารัฐประกอบด้วย
ทำให้ นาย
นิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ลุกประท้วง พร้อมอภิปรายว่า การกล่าวหาพรรคพลังประชารัฐโกหกประชาชน ไม่ทำตามสิ่งที่หาเสียง
เช่น นโยบายมารดาประชารัฐ ทั้งที่พรรคต้องการออกนโยบายเพื่อดูแลประชาชน เด็กตั้งแต่แรก เกิด แต่เมื่อเลือกตั้งเสร็จพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ดูแลกระทรวงที่เกี่ยวข้อง จึงไม่สามารถผลักดันนโยบายเพื่อดูแลประชาชน
ทั้งนี้พรรคไม่เคยลบข้อความและเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่สร้างข่าวเท็จแล้ว
JJNY : 6in1 น้ำมันปาล์มโอด│แม่ค้ากล้วยแขกโอด│จ่อขึ้นค่าขนส่ง│เบนซินโซฮอล์ขึ้นอีก│จุลพันธ์อัดรบ.│ชาวโลกสะดุ้งทีวีรัสเซีย
https://ch3plus.com/news/economy/morning/293753
นายศุภชัย จินตนาเลิศ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุขสมบูรณ์ น้ำมันปาล์ม จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมาในช่วงโควิดมีปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มลดลง จึงเปลี่ยเป็นส่งออกแทน บวกกับการลดสูตรน้ำมันไบโอดีเซล แต่หลังจากนี้เป็นต้นไปทุกเดือน คาดว่าจะมีปริมาณผลปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม เพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ
จึงเสนอให้รัฐบาล บริหารจัดปริมาณส่งออกให้สมดุล และควรดูแลใกล้ชิด โดยคณะอนุกรรมการฯ ที่ รัฐบาลตั้งขึ้นมา โดยเฉพาะการพยากรณ์ ปริมาณผลปาล์มในอนาคต และการตรวจสอบสต๊อกน้ำมันปาล์ม ซึ่งจะต้องมีปริมาณสต๊อกอย่างน้อย 1.5 เท่า ของปริมาณการใช้น้ำมันปาล์มในประเทศ หรือต้องมีสต๊อกใช้ได้ภายใน 1 เดือนครึ่ง เพื่อป้องกันการขาดแคลน
อย่างไรก็ตามขณะนี้ ไทยไม่ได้ขาดแคลนน้ำมันปาล์ม แต่เป็นเรื่องราคาแพง จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจว่านานๆ เกษตรกรจะได้ราคาดีแบบนี้สักครั้ง
ทั้งนี้ปัจจุบันไทยมีสต๊อกน้ำมันปาล์ม 1.8 แสนตัน ขณะที่ปริมาณการใช้ น้ำมันปาล์มในประเทศ อยู่ที่ราว 1.5-1.7 แสนตัน หรือใช้ผลปาล์มราวเดือนละ 1 ล้านตัน ซึ่งไม่ถึง 1.5 เท่าตามหลักการที่ควรเป็น และเกิดการตึงตัวในช่วงที่อินโดนีเซียงดส่งออก ทำให้ปริมาณน้ำมันปาล์มในตลาดโลกลดลง แต่ขณะนี้เริ่มผ่อนคลายแล้ว เพราะอินโดนีเซียกลับมาส่งออกได้แล้ว และมีแรงงานออกมาเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว ซึ่งรวมไปถึงมาเลเซียด้วย
ทั้งนี้ ยอมรับว่าผู้ประกอบการน้ำมันปาล์มขวดกำลังจะตรึงราคาไม่ไหว และทำได้ลำบาก การควบคุมราคานั้นทำได้เพียงระยะสั่น เช่นเดียวกับราคาน้ำมันเพื่อการขนส่งที่อั้นไม่ไหว เพราะสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลงจากปัญหาสงคราม ดังนั้นรัฐควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาดแบบดูแลค่อยๆ ปรับขึ้นเป็นระยะ เรียกว่าเปิดปลายทางบ้างบางครั้งอย่างเป็นระบบ เพราะเชื่อว่าคนไทยปรับตัวได้ในที่สุด พร้อมเตือนหากรัฐควบคุมอย่างเดียวเสี่ยงทำให้อุตสาหกรรมปลายน้ำหลายอุตสาหกรรมหนีจากเมืองไทยไป หากอุตสาหกรรมขาดความเชื่อมั่นในปริมาณสต๊อกวัตถุดิบในไทย ซึ่งปกติธุรกิจจะบริหารจัดการสต๊อกในช่วง 2-3 เดือน
ส่วนแนวทางการอุดหนุน เช่น ทุ่มงบประมาณมาซื้อน้ำมันปาล์มบรรจุขวดขายภายใต้ราคาที่ควบคุมเพื่อขายให้ผู้บริโภค มองว่าการแทรกแซงเช่นนั้นจะเกิดการบิดเบือนตลาด กลไกตลาดจะผิดเพี้ยน
ส่วนแนวโน้มราคาน้ำมันขวดนั้นขึ้นอยู่กับว่ารัสเซียจะกลับมาปลูกพืชพลังงานได้เมื่อใด ซึ่งอาจอยู่ในระดับสูงถึงต้นปีหน้า
ด้านนาย วโรภาส กิมชูวาณิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานพาณิชยกิจ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC บอกว่า แนวโน้มราคาน้ำมันปาล์มตลาดโลกค่อนข้างผันผวน ขึ้นอยู่กับนโยบายของประเทศผู้ผลิตน้ำมันปาล์มในต่างประเทศ ธุรกิจยังไม่มีปัญหาสต๊อก และกลายเป็นส่งออกมากขึ้นแทน ปกติปีหนึ่งส่งออกไม่เกิน 4-5 แสนตัน แต่ปีนี้คาดว่าทั้งปีจะเพิ่มเป็นล้านตัน และคาดว่าราคาน้ำมันปาล์มในตลาดโลกจะทรงตัวในระดับสูง และโอกาสที่ราคาจะสูงขึ้นมากนั้นไม่รุนแรง แต่ก็คงไม่อ่อนตัวลงมากนัก
ส่วนการส่งเสริมการผลิตน้ำมันปาล์มคุณภาพสูงตามมาตรฐานการผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นเทรนด์โลกนั้น จะช่วยให้เกษตรกรได้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ต้นทุนลด โดยความร่วมมือกับเยอรมันล่าสุดจะเห็นเป็นรูปธรรมในอีก 2 ปีข้างหน้า
ไปต่อลำบาก! แม่ค้ากล้วยแขกโอด น้ำมันปาล์ม-ก๊าซหุงต้ม พาเหรดขึ้นราคา รัฐเมินช่วยเหลือ
https://www.matichon.co.th/region/news_3375084
ไปต่อลำบาก! แม่ค้ากล้วยแขกโอด น้ำมันปาล์ม-ก๊าซหุงต้ม พาเหรดขึ้นราคา รัฐเมินช่วยเหลือ
วันนี้ (31 พฤษภาคม) นางสาวธนพร ยินดี แม่ค้าขายกล้วยแขก บริเวณริมถนนสายมหาสารคาม-กมลาไสย ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม กล่าวว่า ตอนนี้ราคาวัตถุดิบที่ใช้ประกอบในการทำกล้วยแขก ทั้งกล้วย มัน เผือก ฟักทอง สัปปะรด แป้ง กะทิ น้ำตาล น้ำมัน ขึ้นราคาหมดทุกอย่าง ทางร้านใช้น้ำมันเมล็ดในปาล์ม เป็นน้ำมันปาล์มผสมกับน้ำมันมะพร้าว ตอนนี้ราคาลังละ 996 บาท อีก 4 บาทก็จะครบลังละพัน หนึ่งลังมี 12 ลิตร ตกถุงละ 83 บาท ก๊าซหุงต้มก็ขึ้นราคาถังละ 10 บาท เคยซื้อถังละ 360 มา 370 ตอนนี้เป็น 380 และจะปรับขึ้นอีกในวันที่ 1 มิถุนายนนี้อีกถังละ 15 บาท ตอนนี้บอกได้คำเดียวว่าไม่ไหวแล้ว รัฐบาลก็ไม่ได้มาช่วยรับรองประชาชน มีแต่ขึ้นกับขึ้น รัฐไม่ได้ช่วยอะไรเลย
ตอนนี้ประชาชนไม่เหลือกำลังซื้อแล้ว การค้าการขายเงียบไปหมด ขนาดตอนนี้ได้ลดปริมาณของที่จะทอดขายในแต่ละวันลง 50% อย่างเช่น กล้วยจากวันละ 10 หวี เหลือ 5 หวี มันจาก 5 โล เหลือ 2 โลครึ่ง สัปปะรดจาก 4 ลูกเหลือ 2 ลูก ฟักทองจาก 5 โล ก็เหลือ 2 โล ยังขายไม่ค่อยจะหมด ซึ่งทางร้านยังคงขายราคาเดิมให้กับลูกค้าโดยไม่ลดปริมาณ 8 ชิ้น 20 บาทเหมือนเดิม
ตอนนี้มีภาระค่าใช้จ่ายที่หนัก ๆ คือ ต้องผ่อนรถ เดือนละหมื่นกว่าบาท ไม่รู้ว่าจะทนอยู่ได้อีกแค่ไหน ที่กังวลก็คือกลัวว่าจะไม่มีเงินผ่อนรถ หากสินค้ายังขึ้นราคาต่อเนื่องและยังค้าขายไม่ค่อยจะได้แบบนี้ ถ้าเศรษฐกิจยังเป็นแบบนี้ไม่มีเงินส่งรถแน่นอน
รถบรรทุก จ่อขึ้นค่าขนส่งอีก 3% หลังราคาดีเซลแตะ 33 บาท/ลิตร
https://ch3plus.com/news/economy/ruangden/293776
รถบรรทุก เตรียมขึ้นค่าขนส่ง อีก 3% หลังวันนี้ (1 มิ.ย.) ราคาดีเซลแตะ 33 บาทต่อลิตร
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ราคาน้ำมันดีเซลที่ขึ้นอีกลิตรละ 1 บาทในวันนี้ (31 พ.ค.) ทางสหพันธ์ฯ จำเป็นที่จะต้องปรับขึ้นค่าขนส่ง เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับขึ้นทุก 1 บาท ค่าขนส่งจะขึ้นอีก 3 % จากปัจจุบันคิดอัตราค่าขนส่งที่ 10-12% ขึ้นเป็น 13-15% ซึ่งราคาน้ำมันดีเซลในวันนี้ถือว่าวิกฤตแล้ว ขณะที่รัฐบาลเลือกปล่อยให้ราคาลอยตัว ซึ่งก็จะเป็นตัวเร่งให้สินค้าปรับขึ้นราคาเร็วขึ้น ล่าสุดสิาค้าหลายตัว เช่น ครีมเทียม กาแฟ สบู่ ครีมอาบ ปลากระป๋อง นมถั่วเหลือง และข้าวถุง แจ้งขึ้นราคาขายส่งแล้ว
ขณะที่ร้านข้าวแกง และอาหารตามสั่ง ส่งสัญญาณปรับราคาขึ้นราคาอาหารอีกรอบ หลังวันพรุ่งนี้ 1 มิถุนายน ราคาก๊าซหุงต้ม จะขึ้นรอบ 3 อีก 15 บาท ขึ้นไปอยู่ที่ 363 บาท ต่อถัง 15 กิโลกรัม เท่ากับ 3 รอบ ปรับขึ้นมาถึง 45 บาทต่อถัง ยังไม่รวมค่าขนส่ง ซึ่งเมื่อบวกกับต้นทุนอื่น โดยเฉพาะน้ำมันปาล์มขวด ที่ราคาทะลุ 70 บาทต่อขวดไปแล้ว ทำให้แบกรับต้นทุนต่ออีกไม่ไหว
รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/3z9hF36qABU
อ่วม! พรุ่งนี้น้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ขึ้นอีก 50-80 สตางค์/ลิตร
https://www.nationtv.tv/news/378874911
อ่วมซ้ำ! พรุ่งนี้น้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ปรับขึ้นราคาอีก 50 - 80 สตางค์/ลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงราคาเดิม
วันนี้ (31 พ.ค. 65) โออาร์ และ บางจาก แจ้งปรับขึ้นราคาน้ำมันในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์อีก 80 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น E85 ปรับขึ้น 50 สตางค์ต่อลิตร ส่วนกลุ่มดีเซลคงราคาเดิม
มีผลวันที่ 1 มิ.ย. 65 ตั้งแต่เวลา 05:00 เป็นต้นไป
*ราคาที่ประกาศเป็นราคาขายปลีกในกรุงเทพมหานคร ที่ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่น
น้ำมันในกลุ่มเบนซิน
- เบนซิน อยู่ที่ 52.06 บาท
- แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 44.65 บาท
- แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 44.38 บาท
- E20 อยู่ที่ 43.54 บาท
- E85 อยู่ที่ 37.24 บาท
น้ำมันในกลุ่มดีเซล
- ดีเซลพรีเมียม B7 อยู่ที่ 42.36 บาท
- ดีเซล B7 อยู่ที่ 32.94 บาท
- ดีเซล อยู่ที่ 32.94 บาท
- ดีเซล B20 อยู่ที่ 32.94 บาท
ทั้งนี้สำหรับราคาน้ำมันในกลุ่มดีเซลวันนี้ (31 พ.ค.) เพิ่งมีการปรับขึ้นตามมติ กบน. วานนี้ หลังราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น โดย กบน. จะพิจารณาอีกครั้งวันที่ 6 มิ.ย.2565 ซึ่งยืนยันว่าภายในช่วงสัปดาห์นี้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงอุ้มราคาดีเซลไว้ที่ลิตรละ 33 บาท แต่หากราคาน้ำมันยังสูงจะพิจารณาอีกครั้งสัปดาห์หน้า โดยยืนยันว่าราคาดีเซลในช่วงนี้จะไม่มีต่ำกว่าลิตรละ 33 บาท (อ่านข่าว)
“จุลพันธ์” อัด รัฐบาล หมดสภาพสร้างแต่หนี้
https://www.innnews.co.th/news/news_348758/
“จุลพันธ์” อัดรัฐบาลหมดสภาพสร้างหนี้สาธารณะเพิ่ม 10ล้านล้าน เกือบทะลุเพดาน ทำคนจนเพิ่ม
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 วงเงิน 3.185 ล้านล้านบาท วาระแรก ในวันแรก พบว่า ส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล ได้ลุกอภิปรายสนับสนุนร่างพ.ร.บ.งบฯ 66 และตอบโต้การอภิปรายและการตั้งฉายาให้กับร่างพ.ร.บ.งบฯ ของพรรคฝ่ายค้านอยู่เป็นระยะๆ
ขณะที่ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน ได้อภิปรายแสดงเหตุผลที่จะลงมติไม่รับหลักการร่างพ.ร.บ.งบฯ 66 ตามลำดับการอภิปราย ทั้งนี้ ในการอภิปรายช่วงหนึ่งของนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย
ชี้ ให้เห็นว่า รัฐบาลสร้างหนี้สาธารณะให้ประเทศไทย กว่า 10 ล้านล้านบาท แม้จะไม่เกินกรอบ แต่เชื่อว่า หากรัฐบาลปัจจุบันบริหารประเทศต่อ 4 ปี อาจทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นและปรับเพดานสูงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนั้น ยังอภิปรายว่ารัฐบาลปัจจุบันหมดสภาพ ติดบ่วงหนี้สาธารณะ และพบว่ามีสถิติคนจนเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ การที่นายกรัฐมนตรี ตัดพ้อว่า ทำไมคนไทยหาเรื่องนายกฯ ทุกคน ข้อเท็จจริงคนไทยไม่ได้หาเรื่อง แต่เห็นอย่างไรพูดไปแบบนั้น สะท้อนว่าคนไทยไม่เชื่อมั่นผู้นำจะแก้ปัญหาให้ได้ หรือนำพาประเทศต่อไปได้ ขณะที่ภาพรวมของงบประมาณ
พบว่า ไม่ตอบโจทย์ ติดกับดัก จัดสรรงบแบบผิดฝาผิดตัว และโกหกหลอกหลวง โดย 3 ปีที่ผ่านมา ได้ถามถึงนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชน ทั้ง ค่าแรงขั้นต่ำ นโยบายมารดาประชารัฐ แต่ในหนังสืองบประมาณที่รัฐบาลเสนอต่อสภาฯ
นั้นไม่มี ทั้งที่เป็นงบประมาณปีสุดท้าย อีกทั้ง นายกฯ เคยพูดในเวทีหาเสียงของพรรคการเมืองด้วย จึงยืนยันได้ว่า จงใจโกหกประชาชนเพื่อหวังคะแนนเสียง ซึ่งไม่ต้องลบนโยบายออก เพราะประชาชนจำได้ทั้งหมด
ทั้งนี้ นายจุลพันธุ์ อภิปรายพร้อมแสดงภาพของนายกฯ ที่ขึ้นเวทีปราศรัยของพรรคพลังประชารัฐ และป้ายนโยบายของพรรคพลังประชารัฐประกอบด้วย
ทำให้ นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ลุกประท้วง พร้อมอภิปรายว่า การกล่าวหาพรรคพลังประชารัฐโกหกประชาชน ไม่ทำตามสิ่งที่หาเสียง
เช่น นโยบายมารดาประชารัฐ ทั้งที่พรรคต้องการออกนโยบายเพื่อดูแลประชาชน เด็กตั้งแต่แรก เกิด แต่เมื่อเลือกตั้งเสร็จพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ดูแลกระทรวงที่เกี่ยวข้อง จึงไม่สามารถผลักดันนโยบายเพื่อดูแลประชาชน
ทั้งนี้พรรคไม่เคยลบข้อความและเตรียมแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่สร้างข่าวเท็จแล้ว