ผมเป็นโรคซึมเศร้ามา 8 ปี...
ตลอด 8 ปีที่ผมเป็นโรคนี้มา ปีนี้ดาวน์หนักสุดถึงขนาดไปปีนดาดฟ้าห้างมาแล้ว แล้วระหว่างที่มองลงไปก็คิดขึ้นได้ว่าถ้าไม่ตายแล้วพิการหละ ไม่ได้ๆ ต้องหาวิธีใหม่ ไม่ได้มีใครรู้นะครับ ไม่ได้ส่งข้อความลาตายอะไรแบบนั้นนะครับกลัวเค้าคิดว่าเรียกร้องความสนใจ
เพื่อนสนิทผม หลายคนพยายามที่จะทำความเข้าใจและให้กำลังใจ แต่ยิ่งปลอบยิ่งเหมือนไปกันใหญ่
เพื่อนสนิทผมคนนึงบอกว่าเค้าไม่มีทางเข้าใจได้เพราะเค้าไม่ได้เป็นและมันเป็นเรื่องnonsense (ผมพยายามเข้าใจเองว่าเค้าใช้ภาษาอังกฤษไม่ถูกต้องหรือไม่เข้าใจความหมายของมันจริงๆ)
ส่วนแม่ผมนี่ยิ่งหนัก เรียกว่าไม่สนใจเลยดีกว่า (ห่างกันซักพักแล้วตอนนี้)
สุดท้ายผมตัดสินใจหนีออกจากทุกคนครับ อยู่กับตัวเองแล้วก็คุยกับหมอ หมอให้แอดไลน์หมอเอาไว้ กับแมว ไปกินข้าวกับเพื่อนที่เข้าใจเรามากที่สุดคนนึงเป็นระยะๆ ครับ เพราะเค้าเป็นกังวลที่เราอยู่คนเดียว เลยอยากให้ไปอยู่ด้วย ผมก็ไปๆมาๆ เพราะต้องการspace ด้วย คิดถึงแมวด้วยเลยไปๆกลับๆ
ทุกวันนี้เป็นปลิงเกาะเพื่อนครับแล้วก็กำลังอยู่ในระยะรอส่งตัวเข้าไปเป็นผู้ป่วยในของรพ.จิตเวชครับ เพราะคุยกับหมอแล้วว่าอยู่แบบนี้ชีวิตยิ่งพัง ถ้าจะเอาผมไปขังอีกครั้งแล้วหายผมก็จะยอมจำนน
งานฟรีแลนซ์ที่ทำตอนนี้รับไม่ได้เลยหัวไม่แล่นเลยมันไม่มีสมาธิมันว่างเปล่าไปหมด เลยตัดสินใจคุยกับผู้ประกอบการว่าเราไม่ไหวกลัวทำงานออกมาให้เค้าไม่ดี เค้าบอกว่าถ้าออกจากรพ.แล้วให้โทรหาเค้านะเค้าจะรอ หรือถ้าไม่ได้แอดมิทก็ทำแบบเท่าที่ไหวก็ได้เค้าดูแลเราได้
ส่วนเพื่อนผมเค้าไม่ได้มองว่าผมเป็นปลิงหรอกครับ มันเป็นเรื่องที่ผมคิดเอง เพื่อนผมบอกว่าทุกคนควรได้รับโอกาสและเค้ากำลังลงทุนเพื่อให้ผมมีชีวิตต่อ
หมอเคยบอกกับผมว่าคุณเหนื่อยมั้ยที่คุณต้องวิ่งไปรอบๆคนอื่น คอยคิดว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไงกับคุณ คอยสร้างเสียงหัวเราะ คอยเป็นตัวตลกที่คุณไม่ได้อยากเป็น ลองเอาตัวเองมาเป็นจุดศูนย์กลางแล้วยืนนิ่งๆดูบ้าง คุณจะได้มีจุดได้พัก ....ปัจจุบันนี้ผมได้ลองทำตามคุณหมอแล้วบางทีเพื่อนชวนไปดื่มก็บอกเลยว่าไม่ไป วันนี้ไม่อยู่ในmood นั้นเดี๋ยวทำบรรยากาศพัง เพื่อนบอกเธอไม่จำเป็นต้องแสดงว่าตัวเองมีความสุขตลอดเวลาต่อหน้าพวกชั้นก็ได้นะ นั่งกินเหล้ากับไปคุยกัน ถ้าเทอดาวน์เทอแค่บอกแล้วออกไปหลบมุมทุกคนก็เข้าใจไม่ได้มีใครต้องการให้เทอเป็นเด็กเอน มันก็ดีเหมือนกันนะครับเหมือนเราได้ถอดหน้ากากออก ร้องไห้ได้ถ้าอยากร้อง แต่มันอาจจะฝังมานานจนมันขุดยากมากๆ
หมอคนนี้รักษาผมมา 8 ปีแล้วครับ หายมั้ยไม่หาย 5555+ จนท้อแล้ว แต่หมอดีมากนะครับลองรักษาให้ผมทุกวิธีเลย ตั้งแต่เริ่มกินยา แล้วก็มาช๊อตไฟฟ้าสมอง ล่าสุดก็ให้เคตามีน การให้เคตามีนนี่คุณหมอสำรองเงินจ่ายให้ทุกรอบเลยครับแล้วคุณหมอไปทำเรื่องเบิกประกันสังคมให้(ผมกระเป๋าแฟ่บแว้ว) เพราะส่งไปให้ในรพ.นอกสิทธิ์ แต่คุณหมอรักษาในรพ.นั้น แต่มันก็ไม่ดีขึ้น ตอนให้เคตามีทางเส้นเลือด 1 ชม.นี่ผมรู้สึกเหมือนหลุดโลกจะว่าสุขก็ไม่ใช้เศร้าก็บอกไม่ถูก แต่ที่แปลกคือทุกๆครั้งที่ให้เสร็จผมจะนอนร้องไห้ หมอถามบอกว่าเป็นอะไร ผมก็บอกหมอว่า พอให้เสร็จผมก็ไม่รู้สึกว่ามันดีขึ้น แล้วมันก็เหมือนเสียไป 1 โดสจาก 6 โดส เหมือนความหวังที่ผมจะหายมันค่อยๆหายไปผมเลยรู้สึกแย่ ตอนนี้ก็ให้ครบ 6 โดสแล้ว ก็นะไม่ดีขึ้น หมอเลยบอกงั้นพักก่อน
ผมเสนอกับคุณหมอว่ามี 2 ทางเลือกแล้ว
1.ผมต้องไปบำบัดในรพ.ตามสิทธิ์ ซึ่งเคยไปมาแล้ว แล้วตอนเสนอข้อนี้กับคุณหมอผม panic หนักมากตัวสั่นไปหมดเพราะมันฝังใจมาก จนต้องฉีดยาคลายกังวล หมอก็ปลอบไปด้วยว่าหมอเห็นด้วยนะ ถ้าคุณบอกว่ามีแค่2ทางเลือก เดี๋ยวหมอจะเขียนในใบส่งตัวแบบละเอียดเลยว่าคราวที่แล้วคุณเจออะไรมาบ้างที่ทำให้คุณกลัวแล้วแย่กว่าเดิมคือถ้าเลี่ยงได้คุณหมอก็ไม่ส่งผมไปที่นี่เพราะผมฝังใจไปแล้ว แต่ผมก็สงสารหมอที่จะต้องมาสำรองเงินให้ทุกรอบ แล้วก็ถือว่าเป็นการลองเปลี่ยนหมอไปด้วยในตัว
2.ยอมจบชีวิตตัวเองด้วยทางใดก็ทางนึงเพราะไม่อาจทนอยู่กับโรคนี้ได้แล้ว(ซึ่งคุณหมอก็ยอมรับการตัดสินใจของผม)
ตอนนี้กำลังรอใบส่งตัวครับ ผมยังหวังว่าผมจะได้ออกมาแล้วได้เห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้าที่สดใส และกลับไปเป็นผมคนเดิมก่อนที่จะเป็นโรคนี้ได้ โรคนี้กินเวลาและหลายๆอย่างในชีวิตผมไปมาก นี่คงจะเป็นแรงเฮือกสุดท้ายที่จะสู้กับมันแล้วครับ จริงๆก็สุดท้ายมาหลายรอบแล้ว ยังไงฝากเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ ตอนนี้ผมต้องการกำลังใจมากจริงๆ ...เพราะผมกลัวรพ.นี้มากเลย คราวที่แล้วแทนที่จะดีขึ้นผมทรุดหนักไปเลยแหละ จนแบบฝังชนิดที่ยอมตายดีกว่าเข้ารพ.นี้ แต่ตอนนี้มันเป็นความรู้สึกแบบก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่ เงินไม่มี งานไม่ดี ถ้าจะตายก็ลองดูอีกซักหน่อยแล้วกัน เผื่อสิ่งที่เรากลัวมันจะทำให้เราดีขึ้นแบบได้ยาแรง 55555+ ^^
แด่โรซึมเศร้าที่เป็นมา 8 ปี
ตลอด 8 ปีที่ผมเป็นโรคนี้มา ปีนี้ดาวน์หนักสุดถึงขนาดไปปีนดาดฟ้าห้างมาแล้ว แล้วระหว่างที่มองลงไปก็คิดขึ้นได้ว่าถ้าไม่ตายแล้วพิการหละ ไม่ได้ๆ ต้องหาวิธีใหม่ ไม่ได้มีใครรู้นะครับ ไม่ได้ส่งข้อความลาตายอะไรแบบนั้นนะครับกลัวเค้าคิดว่าเรียกร้องความสนใจ
เพื่อนสนิทผม หลายคนพยายามที่จะทำความเข้าใจและให้กำลังใจ แต่ยิ่งปลอบยิ่งเหมือนไปกันใหญ่
เพื่อนสนิทผมคนนึงบอกว่าเค้าไม่มีทางเข้าใจได้เพราะเค้าไม่ได้เป็นและมันเป็นเรื่องnonsense (ผมพยายามเข้าใจเองว่าเค้าใช้ภาษาอังกฤษไม่ถูกต้องหรือไม่เข้าใจความหมายของมันจริงๆ)
ส่วนแม่ผมนี่ยิ่งหนัก เรียกว่าไม่สนใจเลยดีกว่า (ห่างกันซักพักแล้วตอนนี้)
สุดท้ายผมตัดสินใจหนีออกจากทุกคนครับ อยู่กับตัวเองแล้วก็คุยกับหมอ หมอให้แอดไลน์หมอเอาไว้ กับแมว ไปกินข้าวกับเพื่อนที่เข้าใจเรามากที่สุดคนนึงเป็นระยะๆ ครับ เพราะเค้าเป็นกังวลที่เราอยู่คนเดียว เลยอยากให้ไปอยู่ด้วย ผมก็ไปๆมาๆ เพราะต้องการspace ด้วย คิดถึงแมวด้วยเลยไปๆกลับๆ
ทุกวันนี้เป็นปลิงเกาะเพื่อนครับแล้วก็กำลังอยู่ในระยะรอส่งตัวเข้าไปเป็นผู้ป่วยในของรพ.จิตเวชครับ เพราะคุยกับหมอแล้วว่าอยู่แบบนี้ชีวิตยิ่งพัง ถ้าจะเอาผมไปขังอีกครั้งแล้วหายผมก็จะยอมจำนน
งานฟรีแลนซ์ที่ทำตอนนี้รับไม่ได้เลยหัวไม่แล่นเลยมันไม่มีสมาธิมันว่างเปล่าไปหมด เลยตัดสินใจคุยกับผู้ประกอบการว่าเราไม่ไหวกลัวทำงานออกมาให้เค้าไม่ดี เค้าบอกว่าถ้าออกจากรพ.แล้วให้โทรหาเค้านะเค้าจะรอ หรือถ้าไม่ได้แอดมิทก็ทำแบบเท่าที่ไหวก็ได้เค้าดูแลเราได้
ส่วนเพื่อนผมเค้าไม่ได้มองว่าผมเป็นปลิงหรอกครับ มันเป็นเรื่องที่ผมคิดเอง เพื่อนผมบอกว่าทุกคนควรได้รับโอกาสและเค้ากำลังลงทุนเพื่อให้ผมมีชีวิตต่อ
หมอเคยบอกกับผมว่าคุณเหนื่อยมั้ยที่คุณต้องวิ่งไปรอบๆคนอื่น คอยคิดว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไงกับคุณ คอยสร้างเสียงหัวเราะ คอยเป็นตัวตลกที่คุณไม่ได้อยากเป็น ลองเอาตัวเองมาเป็นจุดศูนย์กลางแล้วยืนนิ่งๆดูบ้าง คุณจะได้มีจุดได้พัก ....ปัจจุบันนี้ผมได้ลองทำตามคุณหมอแล้วบางทีเพื่อนชวนไปดื่มก็บอกเลยว่าไม่ไป วันนี้ไม่อยู่ในmood นั้นเดี๋ยวทำบรรยากาศพัง เพื่อนบอกเธอไม่จำเป็นต้องแสดงว่าตัวเองมีความสุขตลอดเวลาต่อหน้าพวกชั้นก็ได้นะ นั่งกินเหล้ากับไปคุยกัน ถ้าเทอดาวน์เทอแค่บอกแล้วออกไปหลบมุมทุกคนก็เข้าใจไม่ได้มีใครต้องการให้เทอเป็นเด็กเอน มันก็ดีเหมือนกันนะครับเหมือนเราได้ถอดหน้ากากออก ร้องไห้ได้ถ้าอยากร้อง แต่มันอาจจะฝังมานานจนมันขุดยากมากๆ
หมอคนนี้รักษาผมมา 8 ปีแล้วครับ หายมั้ยไม่หาย 5555+ จนท้อแล้ว แต่หมอดีมากนะครับลองรักษาให้ผมทุกวิธีเลย ตั้งแต่เริ่มกินยา แล้วก็มาช๊อตไฟฟ้าสมอง ล่าสุดก็ให้เคตามีน การให้เคตามีนนี่คุณหมอสำรองเงินจ่ายให้ทุกรอบเลยครับแล้วคุณหมอไปทำเรื่องเบิกประกันสังคมให้(ผมกระเป๋าแฟ่บแว้ว) เพราะส่งไปให้ในรพ.นอกสิทธิ์ แต่คุณหมอรักษาในรพ.นั้น แต่มันก็ไม่ดีขึ้น ตอนให้เคตามีทางเส้นเลือด 1 ชม.นี่ผมรู้สึกเหมือนหลุดโลกจะว่าสุขก็ไม่ใช้เศร้าก็บอกไม่ถูก แต่ที่แปลกคือทุกๆครั้งที่ให้เสร็จผมจะนอนร้องไห้ หมอถามบอกว่าเป็นอะไร ผมก็บอกหมอว่า พอให้เสร็จผมก็ไม่รู้สึกว่ามันดีขึ้น แล้วมันก็เหมือนเสียไป 1 โดสจาก 6 โดส เหมือนความหวังที่ผมจะหายมันค่อยๆหายไปผมเลยรู้สึกแย่ ตอนนี้ก็ให้ครบ 6 โดสแล้ว ก็นะไม่ดีขึ้น หมอเลยบอกงั้นพักก่อน
ผมเสนอกับคุณหมอว่ามี 2 ทางเลือกแล้ว
1.ผมต้องไปบำบัดในรพ.ตามสิทธิ์ ซึ่งเคยไปมาแล้ว แล้วตอนเสนอข้อนี้กับคุณหมอผม panic หนักมากตัวสั่นไปหมดเพราะมันฝังใจมาก จนต้องฉีดยาคลายกังวล หมอก็ปลอบไปด้วยว่าหมอเห็นด้วยนะ ถ้าคุณบอกว่ามีแค่2ทางเลือก เดี๋ยวหมอจะเขียนในใบส่งตัวแบบละเอียดเลยว่าคราวที่แล้วคุณเจออะไรมาบ้างที่ทำให้คุณกลัวแล้วแย่กว่าเดิมคือถ้าเลี่ยงได้คุณหมอก็ไม่ส่งผมไปที่นี่เพราะผมฝังใจไปแล้ว แต่ผมก็สงสารหมอที่จะต้องมาสำรองเงินให้ทุกรอบ แล้วก็ถือว่าเป็นการลองเปลี่ยนหมอไปด้วยในตัว
2.ยอมจบชีวิตตัวเองด้วยทางใดก็ทางนึงเพราะไม่อาจทนอยู่กับโรคนี้ได้แล้ว(ซึ่งคุณหมอก็ยอมรับการตัดสินใจของผม)
ตอนนี้กำลังรอใบส่งตัวครับ ผมยังหวังว่าผมจะได้ออกมาแล้วได้เห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้าที่สดใส และกลับไปเป็นผมคนเดิมก่อนที่จะเป็นโรคนี้ได้ โรคนี้กินเวลาและหลายๆอย่างในชีวิตผมไปมาก นี่คงจะเป็นแรงเฮือกสุดท้ายที่จะสู้กับมันแล้วครับ จริงๆก็สุดท้ายมาหลายรอบแล้ว ยังไงฝากเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ ตอนนี้ผมต้องการกำลังใจมากจริงๆ ...เพราะผมกลัวรพ.นี้มากเลย คราวที่แล้วแทนที่จะดีขึ้นผมทรุดหนักไปเลยแหละ จนแบบฝังชนิดที่ยอมตายดีกว่าเข้ารพ.นี้ แต่ตอนนี้มันเป็นความรู้สึกแบบก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้วนี่ เงินไม่มี งานไม่ดี ถ้าจะตายก็ลองดูอีกซักหน่อยแล้วกัน เผื่อสิ่งที่เรากลัวมันจะทำให้เราดีขึ้นแบบได้ยาแรง 55555+ ^^