แม่เราเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ต้องยอมรับว่าเค้าเก่งมากที่เลี้ยงเรากับน้องให้โตมาจนเราเรียนจบ ตอนนี้เราอายุ 24 ทำงานแล้วมีรายได้เป็นของตัวเอง เลี้ยงดูตัวเองได้ ทั้งผ่อนรถ และค่าใช้จ่ายส่วนตัว น้องเรากำลังจะจบม.6 ซึ่งเราแพลนไว้ว่าค่าเทอมน้องเราจะเป็นคนออกเอง เพื่อแบ่งเบาที่บ้าน
ที่บ้านเราค้าขาย ซึ่งค่อนข้างเป็นงานหนัก ต้องยกของและกลับบ้านดึก ตื่นเช้า ซึ่งมันเป็นงานที่เราทำตั้งแต่ประถมจนเรียนจบมหาลัย เราช่วยแม่มาตลอด น้องเราไม่ค่อยเอาไหน เคยเกเร ติด ร. ติด0 แต่ก็เริ่มดีขึ้นตอนอยู่ม.ปลาย หลังจากที่เราเรียนจบมา ช่วงนี้เรามีงานหลังเลิกงานเพื่อมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ไม่ค่อยได้ช่วยงานที่บ้าน พยายามบอกให้น้องช่วยแทน ผลักภาระออกจากตัวเองบ้าง เพราะเราอยากมีอิสระ อยากให้แม่พึ่งพาน้องบ้าง แต่เรากับโดนด่าว่าอยากสบายและให้แม่ลำบาก ต้องบอกก่อนว่าชีวิตตอนเรียนเราแทบไม่ได้ไปเที่ยวไหนกับเพื่อนเลยจะไปค้างคืนที่ไหน หรือกลับบ้านเย็นต้องมีคนยืนยันขออนุญาต จะไปไหนมาไหนแม่ก็จะอ้างว่าไม่มีคนช่วยขายของ หรือแม่จะกลับ ตจว. เราก้ต้องลางานขับรถไปรับ-ส่ง ให้นั่งรถทัวร์ก้ไม่อยากนั่ง ไม่ว่าจะธุระกรรมด้านการเงิน หรือทุกอย่างเราต้องจัดการให้ แต่กลับไม่เคยฟังความคิดเห็นเรา ทุกครั้งที่เราพูดอะไรที่ไม่ตรงกับความคิดเค้า เค้าก้จะโวยวายแล้วทะเลาะกัน แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ แค่เราอยากมีเงินเก็บมากขึ้นเลยจะปรับโครงสร้างค่างวดรถ ก้โดนด่าว่าไปทำให้หนี้มันยาวขึ้นไม่ว่าจะเรื่องอะไรที่เราคิดไม่เหมือนเค้า คือทะเลาะกันเลย และคำพูดเค้าค่อนข้างรุนแรง เรารู้ว่าเค้าต้องการเอาชนะด้วยการพูดให้เราเจ็บ แต่มันเจ็บบ่อยๆจนเราไม่อยากเจอเค้า ไม่อยากรับรู้ปัญหา เวลาเค้าโทรมาให้เราช่วยนั่นช่วยนี่คือเราไม่อยากทำ ต่อให้เราบอกว่าเราไม่ว่างเค้าก็จะบอกว่าเธอต้องหาเวลาให้ได้ ล่าสุดคือ เรามีแฟน แต่ เราไม่ได้ทำอะไรที่มันเกินไป หรือไม่ดี วันแรกที่ตัดสินใจคบกับแฟน แฟนเราก็มาขออนุญาตแม่เราเลย แล้วก็ไปไหนมาไหน แม่บอกให้เราบอกเค้า เราก้บอกเค้าทุกอย่าง พื้นฐานเราเป็นคนโกหกไม่เก่งเอามากๆ เราจะรนรานเวลาถูกจี้ ทำให้เราไม่ชอบโกหกอยู่แล้ว แต่พอเราบอกแม่ว่า วันนี้จะออกไปกินข้าวกับแฟนนะ เราก็โดนด่าว่าจะไปอะไรนักหนาไม่มีเกียรติไม่มีศักดิ์ศรี ทั้งที่เราไม่ได้ไปบ่อยเลย แล้วก็ไม่มีอะไรที่มันเกินไป เพราะเราทำงานทุกวัน เสาร์อาทิตย์ เราเรียนป.โทต่อ ในส่วนของค่าเทอม แม่ออกให้ในเทอมแรก เพราะเรายังไม่ได้เก็บตังไว้ เทอมต่อมาเราก็ออกเอง เราจะมีไปเจอกับแฟน คือตอนเย็นหลังเลิกงาน แต่แค่ออกไป ไม่ถึง2 ชม.ก็โดนโทรตาม พอกลับบ้านดึกก็โดนว่า เราสงสารแฟน เคยอยากเลิก เพราะสงสาร ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้กับเรา ทุกวันนี้คือเจอกับแฟนอาทิตย์ละครั้ง บางอาทิตย์ไม่เจอด้วยซ้ำ เจอกันน้อยมาก ด้วยต่างคนต่างงานเยอะกันทั้งคู่ เราว่าเราเป็นคนค่อนข้างเก็บทุกคำพูดและทุกอย่างมาคิด มันมีคำถามว่าทำไมๆเต็มไปหมดเลย มีช่วงนึงเราออกจากงานมา เค้าก้บอกว่าดีละมาช่วยงานที่บ้าน แต่เราอ่ะคือมีรายได้อีกทางอยู่แล้ว เราไม่ได้ทำงานหน้าเดียว เราก็มีงานเราอย่างอื่นต้องทำไม่ได้ตกงานมาละมาเกาะที่บ้านกิน แต่พอเค้าเห็นเราช่วยเค้าไม่เต็มที่ เค้าก็ว่าเราว่าไม่ทำอะไรเลย เราเลยอ่ะ งั้นจะไปหางานทำเพราะพออยู่บ้านก็หาว่าสบายไม่ช่วยงาน กลายเป็นพอเห็นเราออกจากงานมาก็ถาโถมทุกอย่างมาให้เรา ต้องให้เราตื่นเช้าไปนั่นไปนี่ ทำนั่นทำนี่พอเราบอกไม่ว่างก็หาว่าเราไม่ปลีกตัวช่วยเค้า
เราพยายามมองแม่ในแบบที่พยายามจะเข้าใจ ว่าเค้าอ่ะเลี้ยงเรามาคนเดียวละเค้าตัดสินใจทุกอย่างในชีวิตเองมาตลอด จนเค้ามีวันนี้ได้ เค้าจะพูดว่าเค้าทำแบบนี้มาถึงเลี้ยงเรามาโตได้ เค้าจะรู้สึกว่าความคิดเค้าการตัดสินใจของเค้ามันอยู่เหนือเราตลอด ละเราต้องทำตามเท่านั้นถึงจะถูก แต่เราก็ไม่เคยปล่อยให้เค้าทำงานคนเดียวเลยนะ กล้าพูดได้ว่า เรากับแม่ลำบากมาด้วยกัน และเค้าค่อนข้างคาดหวังในตัวเรา
สิ่งที่เราต้องการคือ เราไม่อยากได้บรรยากาศการทะเลาะกัน และเราอยากมีชีวิตอิสระมากๆ เราเหมือนคนอกหักที่คิดว่าตัวเองเรียนจบมา ทำให้แม่ภูมิใจ หาเงินเลี้ยงตัวเองได้แล้วแม่คงปล่อยเอง แต่มันไม่ใช่เลย มันยังคงเป็นแบบเดิม จะไปกับเพื่อนก้ต้องมีคนโทรยืนยัน ไปกับแฟนยิ่งหนักก็คอยโทรตาม หรือต้องทะเลาะกัน จริงๆเค้าห้ามเลยแหละแต่เราดื้อออกมา ละเค้าก้ไม่คุยกับเรา แต่2-3วันเค้าจะคุยเองเพราะเค้าไม่คุยกับเรา คนที่เดือดร้อนน่าจะเป็นเค้ามากกว่า เราเสียสุขภาพจิตกับการทะเลาะกันกับเค้า เราอยากให้เค้าทิ้งการขายของ ละบอกเราว่าแม่จะไม่ทำงานแล้วนะ ให้เราดูแลน้องรับผิดชอบกันเอง แบบนี้ก้ได้ แต่เค้าสู้ชีวิตมาก ไม่หยุดทำงานง่ายๆ วางแผนจะทำนั่นเพิ่มทำนี่เพิ่ม แต่มันเป็นแผนที่เค้าทำเองไม่ไหวหรอก เรามองแล้ว มีแต่แผนที่ต้องมีเราช่วย เราแค่อยากทำอะไรที่เราอยากทำเดินไปตามทางที่เราอยากเดิน เราไม่ได้อยากขายของแบบเค้าหนิ เพราะมันเหนื่อย แต่ก่อนตอนเด็กๆเราอาจจะสู้ได้ เพราะเราไม่มีทางเลือก เราต้องช่วยแม่เท่านั้น แม่ถึงจะมีเงินส่งเราเรียน แต่ตอนนี้เรามีทางเลือกแล้ว เราเคยอยากไปอยู่หอ และเราคิดว่าเราจ่ายไหว แต่เรารู้ว่าเค้าไม่ยอมแน่ๆ และมันจะดูใจร้ายไปไหม ถ้าเอารอดคนเดียวแบบนั้น เราอดทนมาสักพักแล้วคิดว่าดื้อไปเรื่อยๆ เค้าคงชินและยอมไปเอง แต่เค้าชอบเอาชนะที่สุด เอาชนะแบบไม่ต้องมีเหตุผลอะไรก้ได้ ยิ่งเราถามหาเหตุผลยิ่งโวยวายเป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้เรามีอาการเครียดแม้กระทั่งแม่กับน้องทะเลาะกัน เราจะเก็บมานอนร้องไห้ และแค่แม่ขอให้ทำอะไรช่วยเราจะไม่อยากทำเลย
เรารู้นะว่าที่ผ่านมาเค้าทุ่มเทเพื่อเราเหมือนกัน แต่เค้าเป็นคนนิสัยแบบนี้ พอวันนึงที่เราจะสู้เพื่อตัวเอง มันเหมือนเราเคยยอมเค้ามาตลอด เราจะทำยังไงดี จะแก้ปัญหายังไง
อยากมีอิสระในชีวิตจากครอบครัว
ที่บ้านเราค้าขาย ซึ่งค่อนข้างเป็นงานหนัก ต้องยกของและกลับบ้านดึก ตื่นเช้า ซึ่งมันเป็นงานที่เราทำตั้งแต่ประถมจนเรียนจบมหาลัย เราช่วยแม่มาตลอด น้องเราไม่ค่อยเอาไหน เคยเกเร ติด ร. ติด0 แต่ก็เริ่มดีขึ้นตอนอยู่ม.ปลาย หลังจากที่เราเรียนจบมา ช่วงนี้เรามีงานหลังเลิกงานเพื่อมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ไม่ค่อยได้ช่วยงานที่บ้าน พยายามบอกให้น้องช่วยแทน ผลักภาระออกจากตัวเองบ้าง เพราะเราอยากมีอิสระ อยากให้แม่พึ่งพาน้องบ้าง แต่เรากับโดนด่าว่าอยากสบายและให้แม่ลำบาก ต้องบอกก่อนว่าชีวิตตอนเรียนเราแทบไม่ได้ไปเที่ยวไหนกับเพื่อนเลยจะไปค้างคืนที่ไหน หรือกลับบ้านเย็นต้องมีคนยืนยันขออนุญาต จะไปไหนมาไหนแม่ก็จะอ้างว่าไม่มีคนช่วยขายของ หรือแม่จะกลับ ตจว. เราก้ต้องลางานขับรถไปรับ-ส่ง ให้นั่งรถทัวร์ก้ไม่อยากนั่ง ไม่ว่าจะธุระกรรมด้านการเงิน หรือทุกอย่างเราต้องจัดการให้ แต่กลับไม่เคยฟังความคิดเห็นเรา ทุกครั้งที่เราพูดอะไรที่ไม่ตรงกับความคิดเค้า เค้าก้จะโวยวายแล้วทะเลาะกัน แม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ แค่เราอยากมีเงินเก็บมากขึ้นเลยจะปรับโครงสร้างค่างวดรถ ก้โดนด่าว่าไปทำให้หนี้มันยาวขึ้นไม่ว่าจะเรื่องอะไรที่เราคิดไม่เหมือนเค้า คือทะเลาะกันเลย และคำพูดเค้าค่อนข้างรุนแรง เรารู้ว่าเค้าต้องการเอาชนะด้วยการพูดให้เราเจ็บ แต่มันเจ็บบ่อยๆจนเราไม่อยากเจอเค้า ไม่อยากรับรู้ปัญหา เวลาเค้าโทรมาให้เราช่วยนั่นช่วยนี่คือเราไม่อยากทำ ต่อให้เราบอกว่าเราไม่ว่างเค้าก็จะบอกว่าเธอต้องหาเวลาให้ได้ ล่าสุดคือ เรามีแฟน แต่ เราไม่ได้ทำอะไรที่มันเกินไป หรือไม่ดี วันแรกที่ตัดสินใจคบกับแฟน แฟนเราก็มาขออนุญาตแม่เราเลย แล้วก็ไปไหนมาไหน แม่บอกให้เราบอกเค้า เราก้บอกเค้าทุกอย่าง พื้นฐานเราเป็นคนโกหกไม่เก่งเอามากๆ เราจะรนรานเวลาถูกจี้ ทำให้เราไม่ชอบโกหกอยู่แล้ว แต่พอเราบอกแม่ว่า วันนี้จะออกไปกินข้าวกับแฟนนะ เราก็โดนด่าว่าจะไปอะไรนักหนาไม่มีเกียรติไม่มีศักดิ์ศรี ทั้งที่เราไม่ได้ไปบ่อยเลย แล้วก็ไม่มีอะไรที่มันเกินไป เพราะเราทำงานทุกวัน เสาร์อาทิตย์ เราเรียนป.โทต่อ ในส่วนของค่าเทอม แม่ออกให้ในเทอมแรก เพราะเรายังไม่ได้เก็บตังไว้ เทอมต่อมาเราก็ออกเอง เราจะมีไปเจอกับแฟน คือตอนเย็นหลังเลิกงาน แต่แค่ออกไป ไม่ถึง2 ชม.ก็โดนโทรตาม พอกลับบ้านดึกก็โดนว่า เราสงสารแฟน เคยอยากเลิก เพราะสงสาร ที่ต้องมาเจออะไรแบบนี้กับเรา ทุกวันนี้คือเจอกับแฟนอาทิตย์ละครั้ง บางอาทิตย์ไม่เจอด้วยซ้ำ เจอกันน้อยมาก ด้วยต่างคนต่างงานเยอะกันทั้งคู่ เราว่าเราเป็นคนค่อนข้างเก็บทุกคำพูดและทุกอย่างมาคิด มันมีคำถามว่าทำไมๆเต็มไปหมดเลย มีช่วงนึงเราออกจากงานมา เค้าก้บอกว่าดีละมาช่วยงานที่บ้าน แต่เราอ่ะคือมีรายได้อีกทางอยู่แล้ว เราไม่ได้ทำงานหน้าเดียว เราก็มีงานเราอย่างอื่นต้องทำไม่ได้ตกงานมาละมาเกาะที่บ้านกิน แต่พอเค้าเห็นเราช่วยเค้าไม่เต็มที่ เค้าก็ว่าเราว่าไม่ทำอะไรเลย เราเลยอ่ะ งั้นจะไปหางานทำเพราะพออยู่บ้านก็หาว่าสบายไม่ช่วยงาน กลายเป็นพอเห็นเราออกจากงานมาก็ถาโถมทุกอย่างมาให้เรา ต้องให้เราตื่นเช้าไปนั่นไปนี่ ทำนั่นทำนี่พอเราบอกไม่ว่างก็หาว่าเราไม่ปลีกตัวช่วยเค้า
เราพยายามมองแม่ในแบบที่พยายามจะเข้าใจ ว่าเค้าอ่ะเลี้ยงเรามาคนเดียวละเค้าตัดสินใจทุกอย่างในชีวิตเองมาตลอด จนเค้ามีวันนี้ได้ เค้าจะพูดว่าเค้าทำแบบนี้มาถึงเลี้ยงเรามาโตได้ เค้าจะรู้สึกว่าความคิดเค้าการตัดสินใจของเค้ามันอยู่เหนือเราตลอด ละเราต้องทำตามเท่านั้นถึงจะถูก แต่เราก็ไม่เคยปล่อยให้เค้าทำงานคนเดียวเลยนะ กล้าพูดได้ว่า เรากับแม่ลำบากมาด้วยกัน และเค้าค่อนข้างคาดหวังในตัวเรา
สิ่งที่เราต้องการคือ เราไม่อยากได้บรรยากาศการทะเลาะกัน และเราอยากมีชีวิตอิสระมากๆ เราเหมือนคนอกหักที่คิดว่าตัวเองเรียนจบมา ทำให้แม่ภูมิใจ หาเงินเลี้ยงตัวเองได้แล้วแม่คงปล่อยเอง แต่มันไม่ใช่เลย มันยังคงเป็นแบบเดิม จะไปกับเพื่อนก้ต้องมีคนโทรยืนยัน ไปกับแฟนยิ่งหนักก็คอยโทรตาม หรือต้องทะเลาะกัน จริงๆเค้าห้ามเลยแหละแต่เราดื้อออกมา ละเค้าก้ไม่คุยกับเรา แต่2-3วันเค้าจะคุยเองเพราะเค้าไม่คุยกับเรา คนที่เดือดร้อนน่าจะเป็นเค้ามากกว่า เราเสียสุขภาพจิตกับการทะเลาะกันกับเค้า เราอยากให้เค้าทิ้งการขายของ ละบอกเราว่าแม่จะไม่ทำงานแล้วนะ ให้เราดูแลน้องรับผิดชอบกันเอง แบบนี้ก้ได้ แต่เค้าสู้ชีวิตมาก ไม่หยุดทำงานง่ายๆ วางแผนจะทำนั่นเพิ่มทำนี่เพิ่ม แต่มันเป็นแผนที่เค้าทำเองไม่ไหวหรอก เรามองแล้ว มีแต่แผนที่ต้องมีเราช่วย เราแค่อยากทำอะไรที่เราอยากทำเดินไปตามทางที่เราอยากเดิน เราไม่ได้อยากขายของแบบเค้าหนิ เพราะมันเหนื่อย แต่ก่อนตอนเด็กๆเราอาจจะสู้ได้ เพราะเราไม่มีทางเลือก เราต้องช่วยแม่เท่านั้น แม่ถึงจะมีเงินส่งเราเรียน แต่ตอนนี้เรามีทางเลือกแล้ว เราเคยอยากไปอยู่หอ และเราคิดว่าเราจ่ายไหว แต่เรารู้ว่าเค้าไม่ยอมแน่ๆ และมันจะดูใจร้ายไปไหม ถ้าเอารอดคนเดียวแบบนั้น เราอดทนมาสักพักแล้วคิดว่าดื้อไปเรื่อยๆ เค้าคงชินและยอมไปเอง แต่เค้าชอบเอาชนะที่สุด เอาชนะแบบไม่ต้องมีเหตุผลอะไรก้ได้ ยิ่งเราถามหาเหตุผลยิ่งโวยวายเป็นเรื่องใหญ่ ตอนนี้เรามีอาการเครียดแม้กระทั่งแม่กับน้องทะเลาะกัน เราจะเก็บมานอนร้องไห้ และแค่แม่ขอให้ทำอะไรช่วยเราจะไม่อยากทำเลย
เรารู้นะว่าที่ผ่านมาเค้าทุ่มเทเพื่อเราเหมือนกัน แต่เค้าเป็นคนนิสัยแบบนี้ พอวันนึงที่เราจะสู้เพื่อตัวเอง มันเหมือนเราเคยยอมเค้ามาตลอด เราจะทำยังไงดี จะแก้ปัญหายังไง