สวัสดีค่ะ เราพึ่งเล่นครั้งแรกกระทู้แรกเลยค่ะ ถามว่าตั้งทำไมใช่ไหมคะ วันนี้เราเหนื่อยค่ะแต่เราไม่รู้จะพูดกับใครพูดยังไง เราอยากมาแชร์เรื่องราวในชีวิต
เราอายุ 23 ปีค่ะ เราจะเกริ่นให้ฟังว่าชีวิตเราเป็นยังไง...
เราตั้งกระทู้ครั้งแรก เขียนผิดพลาดเขียนงงยังไงขออภัยด้วยนะคะ เรามีเจตนาอย่างแชร์เรื่องราวในชีวิต
ชีวิตวัยเด็ก
เราทำงานตั้งแต่ประถมค่ะ ทำงานในตลาดสด ทำงานค้าขายที่ต้องยกของหนักสิบโล สิบห้าโล ถึงยี่สิบโลด้วยแขนสองข้าง เราคิดเลขไม่เก่งค่ะมักจะโดนดุเสียงดังกลางตลาดเลยทำให้บางทีเรามีอาการผวาบ้างในการนอนเพราะเราจะโดนปลุกทุกๆตีสาม ของทุกวัน ชีวิตก็ปกติค่ะได้เรียนพิเศษเหมือนคนอื่นแต่ก็เข้าไปหลับทุกที เหมือนเปลี่ยนที่นอนมากกว่าไปเรียนเพราะต้องตื่นเช้ามืด (เราเคยโดนตีด้วยจานกิโลซึ่งสำหรับเด็กประถมก็คงยินร้องไห้และปาดน้ำตาทำงานต่อไปค่ะแต่เราไม่เคยโกรธคนทำนะคะเรารักเขามากค่ะเขาเคยดีกับเรามากแต่พอแม่เรากลับมาเขาก็ดูเปลี่ยนไปกับเรา)
ชีวิตวัยมัธยม
เรากับแม่ไม่ค่อยจะเข้ากันได้เลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น แม่คิดว่าเราชอบสามีใหม่เขา ก็เลยเลือกให้เราออกจากบ้าน แต่ก็ไม่เป็นไร เราไปอยู่กับยาย เราสอบติดที่มหาวิทยาลัยชื่อดังของภาคเหนือเพราะเราอยากไปไกลๆที่บ้านค่ะ แต่สุดท้าย ฝันดับ แม่ให้เราเรียนมหาลัยชื่อดังย่านบางนา แม่บอกอยากให้เราเรียนที่นี้เราก็ตามในแม่ค่ะ แม่คงหวังดีกับลูกเสมอทุกคนคิดว่าบ้านเรามีตังใช่ไหมคะ ทุกคนคงคิดว่าบ้านเรามีเงินใช่ไหมคะ ไม่เลยค่ะมีแต่หนี้ เราไม่เคยรู้จักมหาวิทยาลัยนี้มาก่อน เราเป็นเด็กธรรมดาค่ะ บ้านไม่ได้มีเงิน แต่แม่เราให้เราเข้าที่นี้เราเคยพูดแล้วว่าค่าเทอมมันแพง(มาก) แม่โอเคหรอ เราถามเขาบอกจะส่งเราปีเดียวให้เราซิ่วไปมอรัฐเราก็คิดว่าน่าจะโอเคเราบอกก่อนเลยนะคะเราไม่รู้ว่าที่นี้จะเรียนหนักและเข้มข้นมากเราเรียนไปอ่านหนังสือสอบซิ่วไปเราทำเต็มที่มาก คะแนนเราออกมาดีพอที่จะเข้าคณะแพทย์ได้แต่ฟ้าไม่เป็นใจกับคะแนนฟิสิกส์ที่ขาดไป 2 คะแนน ทำให้ไม่ผ่านเกณฑ์ เราเลยต้องเรียนต่อที่เดิมแต่ด้วยค่าเทอมที่แพงมากทำให้เรามีปัญหาค่าเทอมทุกเทอม ถ้าทุกคนสงสัยว่าทำไมไม่ขอทุนเราก็คงต้องเล่าย้อนว่าทุนต้องขอตั้งแต่แรกเข้าเลยค่ะ ซึ่งเราไม่สามารถขอย้อนไปได้ เราเลยทำงานค่ะเริ่มจาก ขายกล้วยบวชชี ขนมเปี๊ยะ บัวลอย นมสดสตอเบอร์รี่ ทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายของแม่ค่ะ จนปีสองเราได้ยืมเงินก้อนจากยายเพื่อมาจ่ายค่าเทอมที่ค่อนข้างแพงมากนี้แทนแม่ เพราะเรามีปัญหาค่าเทอมในทุกเทอมเรามีพี่น้องสามคนค่ะ เราพี่คนโตน้องเราก็เริ่มเข้ามหาวิทยาลัย เราเข้าใจค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นของแม่ จนเรามีหนี้ก้อนโตติดตัวอยู่ค่ะ จนเราตัดสินใจออกจากมหาลัยนั้นและเทียบโอนเครดิตออกมาในอีกมหาลัยนึงที่ค่าเทอมถูกกว่า
ช่วงชีวิตในตอนนี้
พอเราเริ่มมีเงินเก็บ เพราะทำงานหลายอย่างมาก ติวเตอร์ แม่ค้าออนไลน์ ขายอาหารในไลน์แมนเราทำมาตัวคนเดียว แม่ก็มีหยิบยืมเราบ้าง แต่แม่คืนเราทุกรอบนะคะ แต่สิ่งที่เราไม่เคยโอเคเลยคือการสาปแช่งของแม่เราค่ะ เราค่อนข้างถือมากเลย เช่น ขอให้ธุรกิจเจ๊ง นรกจะ-หัว อีคนชั้นสูง ทำสันดาร

ขอให้ลูกทำกับแบบนี้นรกจะ-หัว เราเป็นคนตรงพูดความจริงเสมอและชอบแคปหลักฐานไว้เสมอค่ะ อะไรประมาณนี้ค่ะเราจะยกตัวอย่างเศสให้ฟังนะคะ เรื่องมีอยู่ว่าเราได้แวะพักที่บ้านชั่วคราวเพราะเหตุผลจำเป็นของยายที่ต้องให้เราพักที่นั้นเราปิดแอร์(แอร์ห้องที่เราเคยอยู่เป็นเงินเราค่ะราคา15,000ติดตอนอายุ15ใช้เงินส่วนตัวเงินเก็บเรา) แต่ห้องยังเย็นอยู่ค่ะ แล้วเราล็อคห้องเพราะเราไม่อยู่เราติดชินการล็อคห้องนอนส่วนตัวเราค่ะเพราะที่บ้านจะมีเพื่อนของแฟนแม่มาบ้างใครไม่รู้มาบ้าง เรารีบออกไปพบลูกค้ามากแต่แม่เราโทรมาด่าไลน์มาด้วยคำพูดหยาบคายแล้วแม่เราเป็นสองรอบแล้วค่ะ เราบอกปิดแล้วจนเราต้องวนกลับมาเปิดห้องให้ดู เราอยู่ชั่วคราวที่บ้านของใช้เราแยกส่วนตัวไม่มีวางในห้องน้ำ ค่าไฟค่าน้ำเราช่วยออก เราถือของใช้เข้าออกห้องน้ำค่ะ เราก็เลยบอกยายว่าขอไม่อยู่แล้วค่ะเราขอกลับไปอยู่หอพักเดิม อาจจะไกลแต่สบายใจกว่าในระเวลาแค่ไม่กี่วัน
เราจะยกตัวอย่างอีกเคสให้ฟังนะคะเกี่ยวกับแม่ ปีใหม่นี้เราอยากไปเที่ยวกับน้องค่ะเลยจองที่พักใช้เงินส่วนตัวเราออก แต่แม่โทรไปห้ามทุกคนไม่ให้ไปกับเราค่ะ เราจะไปเข้าค้อกัน เราไม่สามารถขอเงินคืนจากที่พักได้ ความบังเอิญคือแฟนเก่าแม่เราอยู่เพชรบูรณ์ พี่ ๆ ที่เราสนิทตอนอยู่กัน
เขารู้เรื่องเลยบอกเองมากับข้า มาเลย คนเดียวก็มีพวกข้า เราก็ไปค่ะขึ้นไปคนเดียว พอหลังจากเราลงมาสองสามวันแม่เราพึ่งรู้ข่าวว่าเราไปกับพวกแฟนเก่าเขา เขาก็ว้อยไปหาแฟนเก่าเขาว่าอย่าไปยุ่งกับเรา เรามันสันดาร

สร้างแต่ปัญหาค่ะ แต่แฟนเก่าแม่เขาก็บอกว่าเขาไม่สนเขารู้ว่าใครเป็นยังไง ทุกคนสงสัยใช่ไหมคะแฟนเก่าแฟนใหม่ใช่ค่ะ แฟนเก่าคนที่แม่เคยคิดว่าเราชอบแล้วไล่เราออกจากบ้านคนนั้นค่ะ แต่เรากับเขาเรานับถือเขาเป้นพี่ชายและพวกเราไปกันหลายคนมากค่ะ สงสัยใช่ไหมคะว่าแม่มีแฟนใหม่แล้วทำไมยังนู้นนี้ แม่เรายังรักคนเก่าค่ะ ยังแอบนัดดูหนังรอบดึก เราเลยโดนชุดใหญ่ แม่เราไปฟ้องยายค่ะว่าเราไปกับแฟนเก่าเขาพอเรื่องใหญ่วันนัดเคลียกันแม่เราไปด่าแฟนเก่าว่า

ไม่ยุ่งแต่เราและคนทั้งหมดในวงรู้หมดค่ะว่าแม่เรางอแง มีงอน มีเซลฟี่ส่งมา แต่แม่เรามาโยนความผิดให้เราหมดค่ะ 555555
ต่อมาเรื่องล่าสุด
เราได้ทำแบรนด์สครับขึ้นมาและสบู่ด้วยเงินเก็บของเรา เราตั้งใจทำสบู่อย่างดีขึ้นสูตรเองลองเอง เทสเอง ศึกษาสารสกัดเองแต่เราพลาดมากค่ะเลิกโรงงานผิด ตัวเทสดีนะคะ พอของส่งมาขนาดไม่เท่ากันสี สเปก ไม่ตรงกัน แบบแพ็คเกจไม่โอเคมากเราถามให้บีฟไหมคะเพราะต้องบีฟก่อนตามปกติ ไม่ตอบ ไม่อ่าน เราก็ไม่เป็นไรอดทน จนส่งมางานไม่ได้เลยค่ะ เราก็โอเคไม่อะไรเพราะยังไม่บีฟอาจจะไม่รู้ความต้องการ เราส่งเรฟ ส่งบีฟใหม่ วงแก้ตรงไหนอย่างระเอียด สุดทางส่งมาแก้แค่สี บอกเรฟที่ส่งไปไม่ขึ้น โอเคไม่เป็นไร ส่งเรฟใหม่ แก้มาคือเราไม่สามารถใช้เป็นแพ็คเกจได้ ไม่เป็นไรเราขอเงินคืน จ้างคนออกแบบนอก โรงงานนอก ขอให้ส่งแต่สบู่มาสุดท้ายส่งมาสีไม่ตรง ขนาด 70 g เหลือไม่ถึง 50 g เราไม่สามรถขายของที่มาตราฐานแบบนี้ออกไปได้ เราเคลียกับโรงงานจนจบ เราต้องยุติการสั่งผลิตเงินเราเข้าเนื้อไป 4000 เพราะค่าดำเนินการเลขจดแจ้ง ส่วนอื่นโรงงานคืนมาให้ ยังค่ะชีวิตเรายังไม่จบ เงินเราเหลือน้อยมากแล้วสี่พันสำหรับเราคือเยอะมากนะคะ ที่กว่าจะหามาได้ ต่อมานี่เราหมานถึงวันต่อมาเลยนะคะ วันต่อมาเลยค่ะเกิดอีกเรื่อง
ขอตั้งชื่อว่าเรื่อง เพื่อนรัก ที่รักผัวไม่ว่านำปัญหามาอีก
สองวันก่อนเราโทรหาเพื่อนค่ะคุยกัน 27 นาที มีเรื่องของเราที่ปรึกษาและเรื่องเพื่อนที่บ่นแฟนให้เราฟัง เราก็รับฟังไม่ออกความเห็นค่ะเพราะเรื่องคนสองคน เราก็คิดว่าไม่มีอะไร เพราะมันไม่น่ามีอะไรจริงๆค่ะคุยธรรมดาเลย แล้ววันต่อมาเพื่อนทักมาบอกว่าแฟนมันเอาโฟนมันไปบล็อคเราทุกช่องทาง เพื่อนบอกให้เราทักไปด่าผัวมัน เราก็บอกว่าไม่ด่า แต่เราต้องการรู้ว่ายังไง เราทักไปค่ะ ต่อว่าไปเหมือนกันค่ะเพราะเรางงมากเราเกี่ยวไรแล้วเราต้องจำเป็นในการติดต่อเพื่อนอยู่บอกให้พูดด้วยเหตุผลอย่าใช้อารมณ์ ผู้ชายค่อนข้างมีเงินค่ะ ต่อว่าเรากลับเราก็มองเป็นเรื่องแบบคนไม่โตพิมพ์มา มองเป็นคนระดับสติปัญญาไม่เท่ากัน เขาบอกว่าเท่าที่เขารู้มาบ้านเราไม่ได้มีธุรกิจใหญ่โตอะไร ความจริงค่ะบ้านเราไม่ได้รวย เขาทักไปอธิบายกับคนออกแบบแพ็คเกจว่าเจตนาเขาคือจะว่าไอเดียงานเราก็อป เจาะจงว่าเป็นแบรนด์ของเราแต่เราทำอะไรเขาไม่ได้เลยค่ะ เราเจ็บที่สุดคือบอกว่าเราขายของแบบก็อปค่ะ เรารับไม่ได้มาก เราตั้งใจทำสินค้าออกมาขายด้วยความใส่ใจเราคัดทุกขั้นตอน ดูถูกคนอื่นไม่ว่า เราเข้าใจค่ะเราไม่ได้รวย เขาฐานะรวย เราจะฟ้องร้องต้องมีค่าใช้จ่าย แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะเราจ้างคนออกแบบที่เราเล่าไปตอนต้น ผู้เสียหายเลยโดยตรงเลยเป็นคนออกแบบค่ะ เรื่องนี้เราทำอะไรไม่ได้เราเข้าใจคนออกแบบค่ะว่าไม่อยากวุ่นวายเราเคารพการตัดสินใจ เราอยากบอกทุกคนว่าเราทำแบรนด์มาเราเหนื่อยเราตั้งใจเราลงเงินไป แต่เพราะว่าเราไม่มีเงินจะสู้ฟ้องเขาไม่มีกำลังมากพอจะไปสู้คนที่เขารวยกว่าเรา เราเลยต้องทำใจนิ่งไปค่ะ
เราไม่เคยบ่นงานเหนื่อยหรือท้อนะคะแต่เราบางทีก็แอบน้อยใจโชคชะตาค่ะ เราอยากจะตั้งตัวเพราะเรามีค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบแต่ทุกอย่างไม่ง่ายเลยค่ะ เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ คำว่าชีวิตไม่มีคำว่าง่ายเลยค่ะ สุดท้ายเราไม่เคยก็อปงานใครไม่เคยก็อปแพ็คเกจใคร เราทำมาด้วยใจขายของด้วยความจริงใจมาเสมอ เราหวังว่าฟ้าจะเข้าข้างเราสักวันเหมือนกันค่ะ แบรนด์เราไม่ได้เด่นไม่ได้ดัง เราสร้างด้วยเงินและพลังใจของเราเวลาถูกกล่าวหาแบบนี้เรามักจะเจ็บเสมอค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ ขอบพระคุณมากๆเลยค่ะ
กระทู้ที่ไม่รู้จะใครเห็นหรือเปล่า...
เราอายุ 23 ปีค่ะ เราจะเกริ่นให้ฟังว่าชีวิตเราเป็นยังไง...
เราตั้งกระทู้ครั้งแรก เขียนผิดพลาดเขียนงงยังไงขออภัยด้วยนะคะ เรามีเจตนาอย่างแชร์เรื่องราวในชีวิต
ชีวิตวัยเด็ก
เราทำงานตั้งแต่ประถมค่ะ ทำงานในตลาดสด ทำงานค้าขายที่ต้องยกของหนักสิบโล สิบห้าโล ถึงยี่สิบโลด้วยแขนสองข้าง เราคิดเลขไม่เก่งค่ะมักจะโดนดุเสียงดังกลางตลาดเลยทำให้บางทีเรามีอาการผวาบ้างในการนอนเพราะเราจะโดนปลุกทุกๆตีสาม ของทุกวัน ชีวิตก็ปกติค่ะได้เรียนพิเศษเหมือนคนอื่นแต่ก็เข้าไปหลับทุกที เหมือนเปลี่ยนที่นอนมากกว่าไปเรียนเพราะต้องตื่นเช้ามืด (เราเคยโดนตีด้วยจานกิโลซึ่งสำหรับเด็กประถมก็คงยินร้องไห้และปาดน้ำตาทำงานต่อไปค่ะแต่เราไม่เคยโกรธคนทำนะคะเรารักเขามากค่ะเขาเคยดีกับเรามากแต่พอแม่เรากลับมาเขาก็ดูเปลี่ยนไปกับเรา)
ชีวิตวัยมัธยม
เรากับแม่ไม่ค่อยจะเข้ากันได้เลยค่ะ ยกตัวอย่างเช่น แม่คิดว่าเราชอบสามีใหม่เขา ก็เลยเลือกให้เราออกจากบ้าน แต่ก็ไม่เป็นไร เราไปอยู่กับยาย เราสอบติดที่มหาวิทยาลัยชื่อดังของภาคเหนือเพราะเราอยากไปไกลๆที่บ้านค่ะ แต่สุดท้าย ฝันดับ แม่ให้เราเรียนมหาลัยชื่อดังย่านบางนา แม่บอกอยากให้เราเรียนที่นี้เราก็ตามในแม่ค่ะ แม่คงหวังดีกับลูกเสมอทุกคนคิดว่าบ้านเรามีตังใช่ไหมคะ ทุกคนคงคิดว่าบ้านเรามีเงินใช่ไหมคะ ไม่เลยค่ะมีแต่หนี้ เราไม่เคยรู้จักมหาวิทยาลัยนี้มาก่อน เราเป็นเด็กธรรมดาค่ะ บ้านไม่ได้มีเงิน แต่แม่เราให้เราเข้าที่นี้เราเคยพูดแล้วว่าค่าเทอมมันแพง(มาก) แม่โอเคหรอ เราถามเขาบอกจะส่งเราปีเดียวให้เราซิ่วไปมอรัฐเราก็คิดว่าน่าจะโอเคเราบอกก่อนเลยนะคะเราไม่รู้ว่าที่นี้จะเรียนหนักและเข้มข้นมากเราเรียนไปอ่านหนังสือสอบซิ่วไปเราทำเต็มที่มาก คะแนนเราออกมาดีพอที่จะเข้าคณะแพทย์ได้แต่ฟ้าไม่เป็นใจกับคะแนนฟิสิกส์ที่ขาดไป 2 คะแนน ทำให้ไม่ผ่านเกณฑ์ เราเลยต้องเรียนต่อที่เดิมแต่ด้วยค่าเทอมที่แพงมากทำให้เรามีปัญหาค่าเทอมทุกเทอม ถ้าทุกคนสงสัยว่าทำไมไม่ขอทุนเราก็คงต้องเล่าย้อนว่าทุนต้องขอตั้งแต่แรกเข้าเลยค่ะ ซึ่งเราไม่สามารถขอย้อนไปได้ เราเลยทำงานค่ะเริ่มจาก ขายกล้วยบวชชี ขนมเปี๊ยะ บัวลอย นมสดสตอเบอร์รี่ ทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือภาระค่าใช้จ่ายของแม่ค่ะ จนปีสองเราได้ยืมเงินก้อนจากยายเพื่อมาจ่ายค่าเทอมที่ค่อนข้างแพงมากนี้แทนแม่ เพราะเรามีปัญหาค่าเทอมในทุกเทอมเรามีพี่น้องสามคนค่ะ เราพี่คนโตน้องเราก็เริ่มเข้ามหาวิทยาลัย เราเข้าใจค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นของแม่ จนเรามีหนี้ก้อนโตติดตัวอยู่ค่ะ จนเราตัดสินใจออกจากมหาลัยนั้นและเทียบโอนเครดิตออกมาในอีกมหาลัยนึงที่ค่าเทอมถูกกว่า
ช่วงชีวิตในตอนนี้
พอเราเริ่มมีเงินเก็บ เพราะทำงานหลายอย่างมาก ติวเตอร์ แม่ค้าออนไลน์ ขายอาหารในไลน์แมนเราทำมาตัวคนเดียว แม่ก็มีหยิบยืมเราบ้าง แต่แม่คืนเราทุกรอบนะคะ แต่สิ่งที่เราไม่เคยโอเคเลยคือการสาปแช่งของแม่เราค่ะ เราค่อนข้างถือมากเลย เช่น ขอให้ธุรกิจเจ๊ง นรกจะ-หัว อีคนชั้นสูง ทำสันดาร
เราจะยกตัวอย่างอีกเคสให้ฟังนะคะเกี่ยวกับแม่ ปีใหม่นี้เราอยากไปเที่ยวกับน้องค่ะเลยจองที่พักใช้เงินส่วนตัวเราออก แต่แม่โทรไปห้ามทุกคนไม่ให้ไปกับเราค่ะ เราจะไปเข้าค้อกัน เราไม่สามารถขอเงินคืนจากที่พักได้ ความบังเอิญคือแฟนเก่าแม่เราอยู่เพชรบูรณ์ พี่ ๆ ที่เราสนิทตอนอยู่กัน
เขารู้เรื่องเลยบอกเองมากับข้า มาเลย คนเดียวก็มีพวกข้า เราก็ไปค่ะขึ้นไปคนเดียว พอหลังจากเราลงมาสองสามวันแม่เราพึ่งรู้ข่าวว่าเราไปกับพวกแฟนเก่าเขา เขาก็ว้อยไปหาแฟนเก่าเขาว่าอย่าไปยุ่งกับเรา เรามันสันดาร
ต่อมาเรื่องล่าสุด
เราได้ทำแบรนด์สครับขึ้นมาและสบู่ด้วยเงินเก็บของเรา เราตั้งใจทำสบู่อย่างดีขึ้นสูตรเองลองเอง เทสเอง ศึกษาสารสกัดเองแต่เราพลาดมากค่ะเลิกโรงงานผิด ตัวเทสดีนะคะ พอของส่งมาขนาดไม่เท่ากันสี สเปก ไม่ตรงกัน แบบแพ็คเกจไม่โอเคมากเราถามให้บีฟไหมคะเพราะต้องบีฟก่อนตามปกติ ไม่ตอบ ไม่อ่าน เราก็ไม่เป็นไรอดทน จนส่งมางานไม่ได้เลยค่ะ เราก็โอเคไม่อะไรเพราะยังไม่บีฟอาจจะไม่รู้ความต้องการ เราส่งเรฟ ส่งบีฟใหม่ วงแก้ตรงไหนอย่างระเอียด สุดทางส่งมาแก้แค่สี บอกเรฟที่ส่งไปไม่ขึ้น โอเคไม่เป็นไร ส่งเรฟใหม่ แก้มาคือเราไม่สามารถใช้เป็นแพ็คเกจได้ ไม่เป็นไรเราขอเงินคืน จ้างคนออกแบบนอก โรงงานนอก ขอให้ส่งแต่สบู่มาสุดท้ายส่งมาสีไม่ตรง ขนาด 70 g เหลือไม่ถึง 50 g เราไม่สามรถขายของที่มาตราฐานแบบนี้ออกไปได้ เราเคลียกับโรงงานจนจบ เราต้องยุติการสั่งผลิตเงินเราเข้าเนื้อไป 4000 เพราะค่าดำเนินการเลขจดแจ้ง ส่วนอื่นโรงงานคืนมาให้ ยังค่ะชีวิตเรายังไม่จบ เงินเราเหลือน้อยมากแล้วสี่พันสำหรับเราคือเยอะมากนะคะ ที่กว่าจะหามาได้ ต่อมานี่เราหมานถึงวันต่อมาเลยนะคะ วันต่อมาเลยค่ะเกิดอีกเรื่อง
ขอตั้งชื่อว่าเรื่อง เพื่อนรัก ที่รักผัวไม่ว่านำปัญหามาอีก
สองวันก่อนเราโทรหาเพื่อนค่ะคุยกัน 27 นาที มีเรื่องของเราที่ปรึกษาและเรื่องเพื่อนที่บ่นแฟนให้เราฟัง เราก็รับฟังไม่ออกความเห็นค่ะเพราะเรื่องคนสองคน เราก็คิดว่าไม่มีอะไร เพราะมันไม่น่ามีอะไรจริงๆค่ะคุยธรรมดาเลย แล้ววันต่อมาเพื่อนทักมาบอกว่าแฟนมันเอาโฟนมันไปบล็อคเราทุกช่องทาง เพื่อนบอกให้เราทักไปด่าผัวมัน เราก็บอกว่าไม่ด่า แต่เราต้องการรู้ว่ายังไง เราทักไปค่ะ ต่อว่าไปเหมือนกันค่ะเพราะเรางงมากเราเกี่ยวไรแล้วเราต้องจำเป็นในการติดต่อเพื่อนอยู่บอกให้พูดด้วยเหตุผลอย่าใช้อารมณ์ ผู้ชายค่อนข้างมีเงินค่ะ ต่อว่าเรากลับเราก็มองเป็นเรื่องแบบคนไม่โตพิมพ์มา มองเป็นคนระดับสติปัญญาไม่เท่ากัน เขาบอกว่าเท่าที่เขารู้มาบ้านเราไม่ได้มีธุรกิจใหญ่โตอะไร ความจริงค่ะบ้านเราไม่ได้รวย เขาทักไปอธิบายกับคนออกแบบแพ็คเกจว่าเจตนาเขาคือจะว่าไอเดียงานเราก็อป เจาะจงว่าเป็นแบรนด์ของเราแต่เราทำอะไรเขาไม่ได้เลยค่ะ เราเจ็บที่สุดคือบอกว่าเราขายของแบบก็อปค่ะ เรารับไม่ได้มาก เราตั้งใจทำสินค้าออกมาขายด้วยความใส่ใจเราคัดทุกขั้นตอน ดูถูกคนอื่นไม่ว่า เราเข้าใจค่ะเราไม่ได้รวย เขาฐานะรวย เราจะฟ้องร้องต้องมีค่าใช้จ่าย แต่เรื่องมันไม่ง่ายขนาดนั้นเพราะเราจ้างคนออกแบบที่เราเล่าไปตอนต้น ผู้เสียหายเลยโดยตรงเลยเป็นคนออกแบบค่ะ เรื่องนี้เราทำอะไรไม่ได้เราเข้าใจคนออกแบบค่ะว่าไม่อยากวุ่นวายเราเคารพการตัดสินใจ เราอยากบอกทุกคนว่าเราทำแบรนด์มาเราเหนื่อยเราตั้งใจเราลงเงินไป แต่เพราะว่าเราไม่มีเงินจะสู้ฟ้องเขาไม่มีกำลังมากพอจะไปสู้คนที่เขารวยกว่าเรา เราเลยต้องทำใจนิ่งไปค่ะ
เราไม่เคยบ่นงานเหนื่อยหรือท้อนะคะแต่เราบางทีก็แอบน้อยใจโชคชะตาค่ะ เราอยากจะตั้งตัวเพราะเรามีค่าใช้จ่ายที่ต้องรับผิดชอบแต่ทุกอย่างไม่ง่ายเลยค่ะ เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ คำว่าชีวิตไม่มีคำว่าง่ายเลยค่ะ สุดท้ายเราไม่เคยก็อปงานใครไม่เคยก็อปแพ็คเกจใคร เราทำมาด้วยใจขายของด้วยความจริงใจมาเสมอ เราหวังว่าฟ้าจะเข้าข้างเราสักวันเหมือนกันค่ะ แบรนด์เราไม่ได้เด่นไม่ได้ดัง เราสร้างด้วยเงินและพลังใจของเราเวลาถูกกล่าวหาแบบนี้เรามักจะเจ็บเสมอค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงตรงนี้นะคะ ขอบพระคุณมากๆเลยค่ะ