💖มาลาริน/ผลงานรบ.ลุงตู่ค่ะ..นายกฯพอใจ ส่งออกมะม่วงอันดับ 2 ในอาเซียน และที่7ของโลก/ส่งออกมี.ค.มูลค่าพุ่งสูงสุดในรอบ30ปี

เพี้ยนปักหมุดนายกฯ พอใจ ส่งออกมะม่วงไทยอันดับ 2 ในอาเซียน และที่ 7 ของโลก


26 เม.ย.2565 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พอใจมูลค่าการส่งออกมะม่วงสดของไทย ซึ่งปัจจุบันขยายตัวเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 15 ในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 โดยไทยถือเป็นผู้ส่งออกมะม่วงเป็นอันดับที่ 2 ในอาเซียน และเป็นอันดับ 7 ของโลก
สะท้อนความนิยมของผลไม้ไทยซึ่งมีศักยภาพในตลาดโลก พร้อมสนับสนุนการขยายช่องทางทางการค้าเพิ่มเติมผ่านการเจรจาการค้าเสรี และข้อตกลงทางการค้าเสรี FTA ทั้งนี้ในปี 2564 ไทยส่งออกมะม่วงสดมูลค่ารวม 95 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งขยายตัวกว่า 52% จากปี 2563 ต่อเนื่องจนในช่วง 2 เดือนแรกของปี 2565 ไทยส่งออกมะม่วงสดมูลค่ารวม 11 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัวมากถึง 15% จากช่วงเดียวกันของปี 2564
 
โดยจากข้อมูลของกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า มะม่วงไทยได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในตลาดต่างประเทศ เนื่องจากเป็นผลไม้ที่ให้ผลผลิตตลอดทั้งปี สามารถเก็บเกี่ยวได้โดยไม่ต้องรอฤดูกาล อีกทั้งยังมีคุณภาพดี รสชาติอร่อย หอมหวาน มีพันธุ์มะม่วงที่หลากหลาย อาทิ มะม่วงน้ำดอกไม้ เขียวเสวย มหาชนก และโชคอนันต์ โดยเฉพาะตลาดคู่เจรจา FTA ของไทยทั้ง 15 ประเทศที่มีมูลค่าการส่งออกสัดส่วนสูงถึง 98% ของการส่งออกมะม่วงสดทั้งหมด ได้แก่ อาเซียน 7 ประเทศ (อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ บรูไน เวียดนาม เมียนมา และมาเลเซีย) จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี เปรู และฮ่องกง

นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำแนวทางในการทำงาน ให้การส่งออกมะม่วงมีความต่อเนื่องรองรับกับช่วงได้รับกระแสความนิยม และความต้องการทางตลาดในแต่ละประเทศ โดยได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการ มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาขยายช่องทางการค้าและส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มเติมในประเทศคู่เจรจา FTA รวมทั้งให้การสนับสนุน ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยพัฒนาเพิ่มเติมรูปแบบ ช่องทาง ของสินค้าในการส่งออก ทั้งในด้านการออกแบบ การแปรรูปสินค้าเพื่อให้สามารถเพิ่มมูลค่าและขยายกลุ่มเป้าหมายในตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น
 
ตลอดจนควบคุมมาตรฐานสินค้าและพัฒนาคุณภาพการผลิตให้อยู่ในเกณฑ์ที่กำหนด เช่น การรับรองตามมาตรฐาน GAP หรือการขึ้นทะเบียนตามมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและเป็นยกระดับราคาผลผลิตให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าด้วยคุณภาพที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของมะม่วงไทยจะเป็นอีกสินค้าเกษตรที่สามารถส่งออกได้ต่อเนื่องในระยะยาว รวมทั้งยังสามารถสร้างรายได้ให้แก่ภาคการเกษตรของไทยได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย.
 
https://www.thaipost.net/economy-news/130083/

เพี้ยนปักหมุดไทยขึ้นอันดับที่ 2 ในอาเซียน และอันดับ 7 ของโลก ส่งออกมะม่วงสด


กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยยอดการส่งออกมะม่วงสดของไทย ขึ้นเป็นอันดับที่ 2 ในอาเซียน และอันดับ 7 ของโลก รวมมูลค่ากว่า 95 ล้านเหรียญสหรัฐ
วันนี้ (24 เม.ย.65) นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า จากการติดตามการส่งออกมะม่วงของไทย พบว่าปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกมะม่วงอันดับที่ 2 ในอาเซียน และอันดับ 7 ของโลก 
โดยในปี 2564 ไทยส่งออกมะม่วงสดรวมมูลค่า 95 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 52 จากปี 2563 โดยในจำนวนนี้เป็นการส่งออกไปยังประเทศคู่ตกลงการค้าเสรี (เอเฟทีเอ) ของไทย 18 ประเทศ คือ อาเซียน จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี เปรู และฮ่องกง 
 
โดยมีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 98 เพียงช่วง 2 เดือน ของปีนี้ มีมูลค่าการส่งออกแล้ว 11 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากช่วงเดียวกันของปี 2564 โดยตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ มาเลเซีย เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เมียนมา และเวียดนาม

สำหรับประเทศคู่ตกลงการค้าเสรี เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฮ่องกง และจีน เป็นตลาดนำเข้ามะม่วงสดที่สำคัญ และนิยมมะม่วงพันธุ์ไทย ซึ่งมีศักยภาพ อย่างเช่น น้ำดอกไม้ มหาชนก เขียวเสวย และโชคอนันต์ จึงเป็นโอกาสที่จะขยายส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น 
 
ปัจจุบัน 15 ประเทศคู่ตกลงการค้าเสรี คือ อาเซียน 7 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อินเดีย ชิลี และเปรู ไม่เก็บภาษีนำเข้ามะม่วงสดจากไทยแล้ว ส่วนอีก 3 ประเทศ คือ ลาว และกัมพูชา ลดภาษีนำเข้าเหลือร้อยละ 5 ส่วนเกาหลีใต้ ลดภาษีนำเข้าเหลือร้อยละ 24 
นอกจากนี้ ผลไม้แปรรูปที่เป็นขนมขบเคี้ยวของไทย ยังมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นด้วย

https://www.tnnthailand.com/news/wealth/111824/


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือน มี.ค. ขยายตัว 19.5% มูลค่า 28,859 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นมูลค่าสูงสุดในรอบ 30 ปีนับ ส่วนการส่งออกไตรมาสแรก ขยายตัว 14.9% มูลค่า 73,601 ล้านดอลลาร์
 
ปัจจัยสำคัญมาจากการนโยบายการส่งเสริมการส่งออก ภาคการผลิตโลกขยายตัว อัตราค่าระวางเรือไปยุโรปลดลงและค่าเงินบาทอ่อนค่าลง

https://www.bangkokbiznews.com/business/1001135

....นี่แหละค่ะ แลนด์สไลด์ของจริง

ทำผลงานให้บ้านเมืองไม่หยุดหย่อนทำลายสถิติ

ไม่ใช่จะเอาส.ส.มาพาพ่อกลับบ้านแบบพรรคแลนด์ไถล

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
โอ้แม่เจ้า...ปรจกเก็บเห็ดจะเอามิลลิมาเป็นกรมเจรจาการค้าต่างประเทศส่งออกมาม่วง..

เอาไว้พรรคเพื่อพ่อได้เป็นรัฐบาลค่อยเชิญมาทำงานเป็นรมต.พาณิชย์เลยดีไหม....?

นี่ผลงานรัฐบาลลุงตู่ชัดๆ  พวกฉวยปลงานคนอื่น หน่าไม่อาย...ร้องเต้นอย่างเดียวจะเอาผลงานใหญ่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่