ผมโพสต์ไว้ที่ราชดำเนินแห่งนี้ไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง
ว่าสลิ่ม เป็นประเภท ขาดความรู้ ไม่มีความเข้าใจ ไม่สืบค้นข้อเท็จจริงใด ๆ ไม่ศึกษาเรื่องราวให้รอบด้านเข้าใจถ่องแท้
อย่างมากที่สลิ่มทำ คือ ค้นหาข้อมูลมาโพสต์มั่วเถียง มั่วกล่าวหาตะบันไปเท่านั้น
ข้อมูลจะถูกต้องหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ สมเหตุสมผลหรือไม่ สลิ่มไม่สน เอามาเถียงอย่างเดียว
ครั้งแล้วครั้งเล่า เรื่องแล้วเรื่องเล่า เงิบแล้วเงิบเล่า ไม่หลาบไม่จำ ไม่ยอมพัฒนาความรู้และสติปัญญา
ก็ถึงขนาดไม่กล้าแสดงตัวว่าเป็นสลิ่มนั่นแหละ เพราะมั่วซะจนความเป็นสลิ่มเสียหายยับเยิน น่าอาย
.
สลิ่ม จะรับข้อมูลที่ถูกใจโดนจริตเท่านั้น ข้อเท็จจริง ความจริง เหตุผล ไม่สน
อะไรที่ไม่ถูกใจไม่โดนจริต สลิ่มจะ ignore ไม่รับฟัง ไม่พิจารณา
และสลิ่มจะมั่วเป็นหลัก มั่วเพื่อให้เรื่องนั้น ๆ เป็นไปอย่างที่สลิ่มอยากให้เป็นให้ได้
ต่อให้มีข้อมูลความจริงปรากฎแค่ไหน สลิ่มก็ไม่สน ไม่รับ จะหาตรรกะบวม ๆ มาอ้างเพื่อเถียงว่าเป็นอย่างที่สลิ่มอยากให้เป็นตะบี้ตะบันไป
อย่างเรื่องณัฐวุฒิปราศรัยว่า เผาไปเลยพี่น้อง ผมรับผิดชอบเอง
ที่ปรากฎข้อมูลความจริงว่า ไม่เกี่ยวกับเหตุการณ์ เม.ย. - พ.ค. 53 คนละเรื่อง คนละเหตุการณ์
แต่สลิ่มไม่ยอมรับ ยังมั่วกล่าวหาอยู่ไม่เลิก มั่วมาสิบกว่าปี สลิ่มไม่เคยอาย
มาจนถึงเรื่องธนาธรฉีดวัคซีน
ที่ขนาดแพทย์ของโรงพยาบาลออกมายืนยันว่า ไม่ใช่การแย่ง ลัดคิว และสิทธิพิเศษใด ๆ
และไม่ได้มีแค่ธนาธรคนเดียว ยังมีคนอื่น ๆ อีกหลายคนที่เข้ารับการฉีดวัคซีนตามขั้นตอนของโรงพยาบาล สลิ่มก็ไม่รับฟัง
พอชักจะจนมุมตามข้อเท็จจริงเรื่องการฉีด สลิ่มก็หันไปเล่นเรื่องด้อยค่าวัคซีนแล้วฉีดทำไม ได้แต่ขำสลิ่มที่มั่วเถียงเอาชนะให้ได้
และตอนนี้ ก็กำลังมั่วกล่าวหาชัช8าติ ผู้สมัครผู้ว่า กทม. หมายเลข 8 เรื่องธงแดงสายการบิน
กล่าวหาแบบมั่ว ไม่มีความรู้ ขาดความเข้าใจในเรื่องที่มั่วกล่าวหา แค่ว่าสื่อสลิ่มหลอกปั่นมาไง ก็เย้ว ๆ เอามามั่วกล่าวหาตามไปเท่านั้น
แบบนี้ทุกที คือสื่อสลิ่มปั่นอะไรมา สลิ่มจะหอบมามั่วกล่าวหาคนนั้นคนนี้ เรื่องนั้นเรื่องนี้
แล้วพอเงิบ ก็เงียบ หายหัวไปพักหนึ่ง ควานหาเรื่องใหม่มามั่วกล่าวหาต่อ วนลูปแบบนี้มาตลอด
อธิบายเหตุผลก็แล้ว ยกข้อมูลความจริงมาให้ดูก็แล้ว แนะนำก็แล้ว สอนสั่งก็แล้ว ด่าก็แล้ว สลิ่มไม่สน ไม่รู้สึกอาย
ก็ได้แต่รำพึงแผ่เมตตาว่า สลิ่มหนอ.... แหละครัช
.
ในระบบราชการนั้น แต่ละหน่วยงาน ตั้งแต่ระดับสำนักนายกฯ กระทรวง ลงไปจนถึงระดับหน่วยงาน สำนักงานพื้นที่
จะมีระเบียบ กฎเกณฑ์ กฎหมาย กำกับและมอบอำนาจหน้าที่ไว้ชัดเจน ทำได้แค่ไหนเพียงใด ใครมีอำนาจ ใครมีหน้าที่ ใครรับผิดชอบ
บางเรื่อง ข้าราชการการเมืองไม่มีอำนาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวแทรกแซง ทำได้แค่กำกับดูแลในภาพรวม
เพราะกฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานนั้น ๆ โดยเฉพาะ โดยตรง
ก็อย่างกรมป่าไม้ กรมที่ดิน กรมสรรพสามิต ฯลฯ เหล่านี้ อำนาจหน้าที่ขึ้นกับอธิบดีเต็ม ๆ การเมืองอย่าแหยม
ทำได้แค่มอบหมายนโยบาย ตรวจสอบเมื่อเกิดเหตุ แต่งตั้งโยกย้ายระดับอธิบดี แต่การบริหารไม่มีอำนาจ
.
การอนุมัติสายการบิน เป็นอำนาจรัฐมนตรี ชัช8าติก็ทำตามอำนาจหน้าที่
รัฐบาลเพื่อไทย มีนโยบายให้ไทยเป็นฮับทางการบิน ส่งเสริมการบิน (เอาเรื่องเหล้าเสรีมาเทียบนั่นแหละ ชัดดี)
ชัช8าติ ในฐานะ รมว.คมนาคมก็ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล เป็นเรื่องงานปกติ ไม่มีอะไรเสียหาย
ส่วนเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย เป็นอำนาจหน้าที่ของระดับกรม นั่นคือ กรมการบินพลเรือน
เมื่อ ICAO ติดธงแดงเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยทางการบินแก่ประเทศไทย ก็เป็นความรับผิดชอบของกรมการบินพลเรือน
ระดับนโยบาย ทำได้แค่ตรวจสอบ ปรับแก้ ให้นโยบาย ไม่ใช่โยนโทษว่า เพราะรัฐมนตรีอนุมัติสายการบินโน่นนี่มั่วกล่าวหาแบบไม่รู้ประสา
กรมที่ดินจะออกโฉนด กรมป่าไม้จะทำอะไร รัฐมนตรีไม่รู้หรอก จนกว่าจะเกิดเรื่อง หากไม่มีเรื่องก็ไม่รู้
กรมการบินพลเรือน มีอำนาจหน้าที่กำหนดมาตรฐาน กำกับ ดูแล และตรวจสอบการดำเนินการด้านการบิน
ก็ทำไป รัฐมนตรีไม่เกี่ยว ไม่รู้ด้วย
ดังนั้น เรื่องสาเหตุทำให้โดนธงแดงนี่ ชัช8าติไม่เกี่ยวครับ ไม่รู้ครับ ไม่ได้มีหน้าที่ไปตรวจกำกับดูแลด้านการบิน
เมื่อเกิดปัญหานั่นแหละ ระดับรัฐมนตรีจึงจะรู้
การอนุมัติ กับ การกำหนดมาตรฐาน กำกับ ดูแล และตรวจสอบการดำเนินการด้านการบิน
มันคนส่วน คนละระดับอำนาจหน้าที่
เข้าใจบ่หลิ่ม อย่าเอาแต่มั่วกล่าวหา อย่าเอาแต่เย้ว ๆ ตามที่สื่อสลิ่มปั่นมา
รู้จักคิด รู้จักฉลาดซะบ้าง สักนิดก็ยังดี
จำไว้
.
เออ... คนหน้าตาดีนี่ ยิ่งพิมพ์ยิ่งคล่องวุ้ย เกินสามบรรทัดมามากโข
สลิ่มก็คงไม่อ่านอย่างเคย เพราะขืนอ่านหลิ่มจะมั่วไม่ออก
จบดีกั่ว เมื่อยนิ้ว
สลิ่มหนอ...
ผมโพสต์ไว้ที่ราชดำเนินแห่งนี้ไม่ต่ำกว่าร้อยครั้ง
ว่าสลิ่ม เป็นประเภท ขาดความรู้ ไม่มีความเข้าใจ ไม่สืบค้นข้อเท็จจริงใด ๆ ไม่ศึกษาเรื่องราวให้รอบด้านเข้าใจถ่องแท้
อย่างมากที่สลิ่มทำ คือ ค้นหาข้อมูลมาโพสต์มั่วเถียง มั่วกล่าวหาตะบันไปเท่านั้น
ข้อมูลจะถูกต้องหรือไม่ เป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ สมเหตุสมผลหรือไม่ สลิ่มไม่สน เอามาเถียงอย่างเดียว
ครั้งแล้วครั้งเล่า เรื่องแล้วเรื่องเล่า เงิบแล้วเงิบเล่า ไม่หลาบไม่จำ ไม่ยอมพัฒนาความรู้และสติปัญญา
ก็ถึงขนาดไม่กล้าแสดงตัวว่าเป็นสลิ่มนั่นแหละ เพราะมั่วซะจนความเป็นสลิ่มเสียหายยับเยิน น่าอาย